รีวิวการกลับไทยกับไฟลท์สถานทูต และกักตัวที่โรงแรม 5 ดาวหลังกลับจากต่างประเทศช่วงโควิด // ดีงามมากแม่

=



สวัสดีค่ะ XD
วันนี้แมมจะมารีวิวการกักตัวในประเทศไทย หลังจากที่กลับมาจากสวีเดนนะคะ แมมจะมีข้อมูลเยอะนิดนึงเพราะต้องสอบถามไปเพื่อช่วยเพื่อนจากชาติที่จะกลับมาไทยด้วยค่ะ
ซึ่งในคลิปทั้งสามอัน จะพูดถึงตั้งแต่การโทรไปขอความช่วยเหลือจาก Embassy ได้ตั๋ว การดำเนินงาน การขอ Fit to fly อย่างง่าย แล้วก็ลักษณะที่พักที่เราจะได้ค่ะ

โรงแรมกักตัวของรัฐบาลจะมีอยู่ 24 ที่ค่ะ กระจายอยู่ 3 โซนด้วยกัน คือ แถวสุวรรณภูมิ / สุขุมวิท  / พัทยา 
โดยเราไม่สามารถรู้เลยว่าจะไปพักที่ไหน จนกว่าจะใกล้วันบิน แล้วโทรไปสอบถาม หรือนั่งรถตามๆ ไปแล้วถึงที่เลย
หรือถ้าเราต้องการจ่ายเองมีอยู่ 6 โรงแรม ราคาตั้งแต่ 30,000 - 60,000 บาท
แต่ถ้าเราเกิดป่วยเป็นโควิด เราต้องรักษาค่าใช้เองทั้งหมด รวมถึงที่พักและค่ารักษา

กรณีต่างชาติ
- ต้องออกค่าใช้จ่ายเอง ซึ่งยังคงต้องไปโรงแรมที่รัฐจัดให้ ถูกสุดอยู่ที่ 32,000 - 60,000 ค่ะ สำหรับข้าวปลาที่พัก 14 วัน
- การกลับมายังคงต้องใช้ Fit to fly เหมือนกับคนไทยอยู่
- ตอนแรกยังไม่มีการให้ต่างชาติเข้ามาเลย ยกเว้นว่ามีสินทรัพย์ 3 ล้านโชว์ว่ามาทำไม (เชิงธุรกิจ) ตอนหลังถึงได้มีอนุญาตให้นักศึกษาเข้า ช่วงปลายเดือนมิถุนายน

ข้อมูล ณ วันที่ 27 พฤษภา จากการโทรไปสอบถามเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน เบอร์ 02-132-9950

1. หาตั๋วกลับกับสถานทูต Rescue Flight  / เอกสารที่ต้องใช้ / การตรวจหลังลงเครื่องมาถึงสุวรรณภูมิ / จ้ะเอ๋โรงแรม

ก่อนอื่นเลยการกลับไทยระหว่างที่ประเทศปิดนั้นจะต้องนั่งเครื่องบินผ่านทางสถานทูตเท่านั้น ซึ่งการติดต่อของเราก็ง่ายนิดเดียวนั่นก็คือ ดูว่าประเทศเรามีสถานทูตหรือเปล่าถ้าไม่มีเราขึ้นตรงกับสถานทูตไหน ซึ่งถ้าไม่ทราบเราสามารถเข้าไปใน Facebook แล้วก็ถามสถานทูตสักที่นึงก็ได้ค่ะ
ของแมม มีสถานทูตที่สวีเดน ก็เลยแค่ Facebook ไปบอกความต้องการของแมมว่าจะมีความประสงค์จะกลับประเทศ เขาก็จะถามว่าเพราะอะไร มีวีซ่าเหลือเท่าไหร่
แมมเองตอนนั้นหรือวีซ่าแค่ 2 เดือนแล้วมันก็ไปในฐานะเด็กแลกเปลี่ยนด้วยเขาก็เลยเห็นว่ามันมีความจำเป็นต้องกลับสูง เพราะถ้าสิ้นสภาพการเป็นเด็กแลกเปลี่ยนแล้ว เราจะลำบากเอา เขาเลยจัดเราเป็น priority แรกค่ะ

ซึ่งทางสถานทูตได้ประสานงานกันแล้วมีไฟลท์ที่จะกลับไทย เขาก็จะโทรมาหาเรา ซึ่งจุดนี้เขาไม่สามารถบอกเราได้ว่าราคาของตั๋วเท่าไหร่ แต่จะสามารถประมาณการได้เท่านั้น แล้วก็รายละเอียดอย่างเช่นเวลาก็ยังไม่มี บอกได้แค่วันบินเท่านั้น

การจ่ายตังค์ก็ให้เลขบัตรเครดิตเค้าค่ะ ซึ่งกระบวนการนี้จะคุยผ่านอีเมล เราต้องแน่ใจก่อนว่าคนที่เราคุยอยู่ด้วยนั้น ใช่คนของสถานทูตจริงหรือเปล่า อาจจะแค่รีเช็คผ่านการโทรไปถามเพื่อคอนเฟิร์มว่าใช่เมลนี้ใช่ไหมคะ อะไรประมาณนี้จ้า
แมมขอย้ำนะคะว่าทุกกระบวนการจะต้องตรวจสอบหลักฐานและเอกสารให้ดีๆ อย่าพิมพ์ขาดตกบกพร่องเพราะไม่อย่างนั้นอาจจะส่งผลให้เราไม่ได้กลับได้ หรืออาจจะเสียตังค์ไปฟรีๆ เลย

เอกสารที่ต้องใช้
- กรอกประวัติส่วนตัว *สถานทูตให้ใบมา ไม่มีอะไรมากค่ะ
- ใบอนุญาตให้เข้าประเทศ *สถานทูตจะออกให้หลังจากที่เราได้ fit to fly มาแล้ว
- Fit to Fly เจ้าปัญหา 
- Health Certificate ใบนี้ได้ค่ะแค่ติ๊กว่าเราเป็นคนสุขภาพดีก็จบแล้ว
- เอกสารยอมรับการกักตัว

ซึ่งสายการบินที่แมมได้ ก็นั่งไปแค่ 50 เองค่ะ เป็นการรวมตัวของทั้ง 4-5 ประเทศเลยตอนนั้น มันก็เลยได้นอนยาวๆ สบายตลอดทางเลย กระเป๋าของทาง KLM เขาก็ใจดีอนุญาตให้แมมโหลดกระเป๋าเพิ่มได้อีก 2-3 ใบเลย ถึงแม้ว่าการกลับกับสถานทูตค่าเครื่องบินอาจจะแพงขึ้นกว่าปกตินิดหน่อย แต่ก็ถือว่าคุ้มค่ะเพราะว่าแลกมากับความชัวร์ว่าเครื่องบินจะไม่เทเราตอนท้าย แฮร่

หลังจากที่เรามาถึงสนามบินเขาก็ให้เราโชว์เอกสารทั้งหมดที่ทางสถานทูตบอกมา แล้วพอถึงไทยก็ต้องทำเช่นกัน แมมแนะนำให้เราปริ้นออกมานะคะ เพราะมันจะดูง่ายกว่า แล้วแมมมก็ไม่มั่นใจว่าถ้าเปิดทางโทรศัพท์เขาจะมีปัญหาอะไรไหมเพราะตอนนั้นก็มีกรณีนี้เกิดขึ้นเหมือนกัน แต่แมมต้องเดินไปก่อนเลยไม่ทราบ

สำหรับบรรยากาศการตรวจระหว่างเดินในสุวรรณภูมิสามารถดูคลิปได้ที่นาทีที่ 3 เลยค่ะ 
ส่วนลักษณะของโรงแรมก็เป็นนาทีที่ 4 นะคะ 💕
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

++++++

2. เล่าประสบการณ์การหา Fit to fly ในสวีเดน / วิธีการหาให้ง่ายขึ้น แบบฟรี!

เป็นเอกสารที่แม่เชื่อว่าหลายๆคนที่อยู่ต่างประเทศก็คงต้องการให้เขายกเลิกออกไป เพราะมันไม่ค่อยที่จะมีประสิทธิภาพเท่าไหร่ เพราะมันเป็นการแค่ตรวจเหมือนหาหมอขอใบรับรองแพทย์ 100 บาทบ้านเรา แต่การหารในต่างประเทศนั้นยากมากค่ะ โดยเฉพาะการที่เขาไม่รู้ว่า fit to fly มีไว้เพื่ออะไร บางคนก็ถึงขั้นตรวจ covid ให้เลยก็เลยชาร์จแพงถึง 6000 ก็มี 

ซึ่งส่วนใหญ่เอกสารรับรองแพทย์ก็มีราคาตั้งแต่ 1,000 บาทไปจนถึง 5,000 บาท นับว่าแพงเป็น 10 10 เท่าถ้าเทียบกับบ้านเราเลย

แมมก็เลยจะมาขอแนะนำเทคนิคการหา fit to fly ด้วยตัวเองภายใน 2 วัน
ในวันแรกมันจะเริ่มจากการหาว่ามีคลีนิคอะไรใกล้บ้านเราบ้าง แนะนำเป็นคลินิกนะคะเพราะทางโรงแรมในต่างประเทศเขาไม่เปิดให้บริการด้านนี้แล้วเนื่องจากเขาต้องการที่จะ set priority ไปที่คนที่เขาเป็นโควิค (ซึ่งเอาจริงๆ บางครั้งเขาก็ว่างไม่ได้มีอะไรทำหรอก แต่ว่ามันเป็นกฎของที่นี่เขา)

ซึ่งของบางประเทศนี่คลินิกก็หนักเอาการเลย อย่างของแหม่มเขาก็ปฏิเสธเพราะว่าเขาไม่รู้ว่าจะคิดตังค์ยังไง เอกสารเป็นแบบไหน บางทีเขาตรวจได้นะแต่เขาก็ไม่กล้าตรวจเพราะไม่รู้ว่ามันคืออะไร

ตอนนั้นบอกเลยว่าจนปัญญา จนกระทั่งเราเอาใจเขามาใส่ใจเรา โดยการไปหาแบบสอบถามไฟลท์ในเน็ตมาเลย ซึ่งพอเขาดูแบบฟอร์มเขาก็จะได้เข้าใจว่ามันก็ไม่ได้มีอะไรอย่างที่คิด โดยที่แบบฟอร์มนี้ แม้กระทั่งวิสัญญีก็ยังทำได้เลย



เอกสาร Fit-to-fly ใช้อันไหนก็ได้น้า 
ของกรมควบคุมโรค - https://www.mediafire.com/file/unvlqe... 
ของที่แมมใช้ - https://www.mediafire.com/file/3a5o0y... 

แต่มันก็ไม่เข้าใจว่าทำไมนางพยาบาลที่โรงเรียนแมมเขาก็ปฏิเสธที่จะช่วย เหมือนเค้ากลัวการไปรับรองมั่วซั่ว? 😂 อยากจะบอกจริงๆว่ามันไม่มีอะไรเลยอย่างที่เราก็เห็นในนี้นะคะ


จนกระทั่งแมม ก็ไปยื่นแล้วก็เจอที่เขายอมทำให้สักที ซึ่งแมมก็ไหว้เขา โค้งให้เขาบอกว่า ช่วยฉันเถอะไม่งั้นฉันกลับบ้านไม่ได้ พอเขาเห็นแบบฟอร์มเขาก็บอกว่า โอ้! นี่มันโคตรง่าย มันก็เลยใจชื้น แล้วเขาก็เลยไม่คิดตังค์เพราะเขาไม่ต้องทำอะไรเลย นอกจากเขียนอุณหภูมิ ติ้กๆ แล้วก็เซ็นให้แมม

บอกเลยค่ะสำหรับคนจะกลับมาไทย การหา facebook รายได้นี่ก็ถือว่ายกภูเขาออกจากอกแล้ว 70 เปอร์เซ็นต์55555555555555

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

++++++

3. โรงแรมกักตัว การดูแล / ข้าวปลา / การกลับบ้าน / การตรวจโควิด / PCR Test / ควรเตรียมอะไรมากักตัว

แมมกักตัวอยู่ที่โรงแรม Elegant Airport Hotel ค่ะ ตลอด 14 วันนี้ไม่มีอะไรบกพร่องเลย เขาดูแลเราดีมากๆ ระหว่างวันเราก็ต้องมีการตรวจอุณหภูมิ แล้วก็แจ้งเขาผ่านทาง LINE ตอน 9:00 น และ 17:00 น ทุกวัน แมมก็เลยจะแนะนำว่าให้เราตั้งปลุกเอาไว้เลยเพื่อที่ว่าเขาจะได้ไม่ต้องมานั่งโทรตาม

ซึ่งอาหารการกินก็คือเป็นแบบนี้เลย
มาเสิร์ฟทุกๆ 6 โมงเช้า / 11 โมง / 5 โมงเย็นค่ะ

บอกเลยว่าอิ่มอร่อยทุกเมนูค่ะ!
ให้บ่อยมากตรงกระทั่งบางครั้งต้องปฏิเสธ5555555555



ซึ่งการกลับบ้านเขาก็มีอาสาไปส่งตามจังหวัดต่างๆ ซึ่งเขาก็ขึ้นไปจนถึงเชียงใหม่ด้วยเหมือนกัน โดยบริการเหล่านี้ก็จะฟรีหมดเลยค่ะ หรือถ้าเราต้องการกลับเองก็มั่นใจว่ามีญาติมารับหรือเรากลับเองทางแท็กซี่ทำ เพราะว่าเขาไม่ต้องการที่จะให้เราขึ้นรถสาธารณะ อย่างไรฟ้าการกักตัว 14 วันก็ไม่ได้การันตีว่าเราจะไม่ใช่พาหะ หรือคนออกอาการช้าเนอะ

ในระหว่างนี้เราก็ต้องมีการตรวจ PCR test หรือการใช้ไม้แหย่จมูกเข้าไปนั่นแหละค่ะ5555555555 เขาจะฟันคว้านประมาณ 5 วิ แต่ลึกมากค่ะแม่เจ้า คือหลวงเสร็จนี่ต้องคัดจมูกไม่ก็จามเลย อมก. 55555555555 (สามารถดูกระบวนการที่แมมโดนในคลิปนะคะ นาทีที่ 7 โล้ด

โดยแมมอยากจะแนะนำทุกคนว่า ถ้าเกิดเรามากักตัว 14 วันเราควรเตรียมอะไรมาด้วยณเวลาที่เรายังมีโอกาสอยู่ที่ประเทศต้นทาง เราจะได้หาของมาได้

1. เสื้อผ้าหน้าร้อน บางคนอยู่ประเทศหน้าหนาวมา ก็ควรเตรียมพวกกางเกงขาสั้นหรือเสื้อกล้ามเผื่อไว้ เราจะได้ไม่ต้องเปิดแอร์ทั้งวันเนาะ
2. กระเป๋าเสริม สำหรับใส่เสื้อผ้าที่ใช้แล้ว พอเวลาเราลืมผ้าออกมาแต่ละที เราจะได้ไม่ต้องมานั่งอัดหรือพับเก็บใส่แบบเดิมเวลาเราจะกลับ
3. อุปกรณ์ทำความสะอาด เช่น ซันไลต์ น้ำยาซักผ้า เพราะที่นู่นเขาจะไม่มีบริการซักรีดให้เรานะคะ เสื้อผ้าถ้าไม่พอก็ควรที่จะซักหรือไม่ก็พยายามทำตัวให้สกปรกน้อยที่สุด55555555555555
4. ครีมนวดผมมีด โกนหนวด โฟมล้างหน้า ของใช้จำเป็นระหว่างอาบน้ำที่เราชอบก็อย่าลืมเอาไปนะคะ
5. เครื่องดื่มแบบซองหรือขนมขบเคี้ยว อะไรที่เราชอบก็อย่าลืมเตรียมไป เพราะบางครั้งทางโรงแรมเขาก็ไม่สามารถจัดหาให้เราได้ อีกอย่างที่สำคัญมาก คือเขาไม่ให้ Grab เข้าไปส่งด้วย หรือถ้าคุณพ่อคุณแม่มาฝากก็สามารถทำได้แค่รับอย่างเดียว เราไม่สามารถแลกเปลี่ยนของกันได้ หมายถึงว่าของที่อยู่ในห้องเราไม่สามารถเอาออกมาให้ใครได้เลย
6. สาย HDMI เอาไว้ช่วงที่เราดูหนังในระหว่างกักตัวก็จะได้เอาสายขึ้นทีวีได้เลย เป็นการเพิ่มอรรถรสของการชมไปอีกแบบ 
7. แบงค์ย่อยเงินไทย เอาไว้สำหรับทิปให้พนักงาน เช่นคนเอาถาดอาหารมาให้ หรือคนเก็บขยะหน้าห้องให้เรา
8. กล่องใส่อาหารที่สามารถทนความร้อนได้ เนื่องจากเราจะเอาข้าวใส่ลงไปในกล่องอาหาร แล้ววางบนปากกาที่กำลังเดือดอยู่ เพื่อให้มันเกิดการควบแน่นแล้วกลายเป็นไอร้อนขึ้นมาอุ่นอาหารให้เรา (นาทีที่ 5)

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

สำหรับวิดีโอทั้งหมดเป็นการทำขึ้นมาครั้งแรกของแมมเลย มีจุดประสงค์เพื่อที่จะโปรโมทให้เพื่อนๆ ชาวต่างชาติดูความเตรียมพร้อมของไทย และให้คนไทยกลับบ้านมาอย่างแฮปปี้ มีข้อมูลค่ะ เพราะตอนแมมกลับคือไม่มีอะไรเลย555555555555

ท้ายนี้ก็ขอให้ทุกคลิปมีประโยชน์นะคะ

[center
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่