คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
เป็นระบบการซื้อขายตอนตลาดเปิดและตลาดปิดครับเรียกว่า pre-open กับ pre-close
- pre-open มีสองรอบ คือ ตอนตลาดเปิดรอบเช้า กับ รอบบ่าย
- pre-closed มีรอบเดียว คือ ตอนตลาดปิดช่วงหลังสี่โมงครึ่ง
- อธิบายง่ายๆว่าทำไม ณ ขณะนั้นจขกท.ถึงได้ซื้อที่ราคา 10.90 บาท ทั้งๆที่ตั้งซื้อ 11.00 บาท
ระบบการซื้อขายช่วงพิเศษนี้มีลักษณะคล้ายๆ การแข่งขันกันให้ราคาครับ ใครที่ให้ราคาดีที่สุด ย่อมที่จะได้ transaction นั้นก่อน
เช่น ณ ขณะนั้น จขกท. ได้ตั้งซื้อไว้โดยให้ราคาสูงสุด คือ 11.00 บาท หมายความว่า จขกท.ให้ราคารับซื้อมากที่สุดที่เป็นไปได้คือ 11.00 บาท
และในขณะเดียวกันนั้น ได้มีผู้ถือหุ้นอีกฝั่งหนึ่งที่ต้องการขายโดยตั้งราคาขายไว้ต่ำที่สุดที่เป็นไปได้ที่ตนยอมที่จะขาย คือ 10.90 บาท
ดังนั้น จขกท. และ ผู้ถือหุ้นอีกฝ่ายจึงกลายเป็นคนที่ให้ราคาที่ดีที่สุดในฝั่งซื้อ และฝั่งขาย ตามลำดับครับ เพราะฉะนั้น ระบบของตลาดจึงได้
ทำการ Matching คำสั่งซื้อขายระหว่างกัน จขกท.จึงได้หุ้นในราคา 10.90 บาท ไปครับ และระบบจะจัดลำดับการ Matching ไปเรื่อยๆตามคำสั่งซื้อ
ที่ได้ตั้งราคาไว้ในระดับราคารองๆลงมาครับ
- ส่วน total fee รวมกันแล้ว 1.84 นั้นถือว่าเป็นราคาปกติครับ รายย่อยอย่างเราได้ประมาณนี้แหละครับ ถ้ายิ่งพอร์ตใหญ่มากเท่าไร
สามารถต่อรองค่าคอมได้ในอนาคตครับ
Total Fee คือค่าธรรมเนียมการซื้อขาย
VAT คือ ภาษีมูลค่าเพิ่มที่คิดจากค่าธรรมเนียมครับ
ถามว่าค่าบริการทั้งสองเป็นอันเดียวกันไหม ไม่ใช่ครับ Total Fee เราจ่ายโบรกเกอร์ Vat เราจ่ายรัฐครับ
แต่ทั้งสองอย่างจะนำไปรวมเป็นต้นทุนในการซื้อหุ้นของเราครับ
- pre-open มีสองรอบ คือ ตอนตลาดเปิดรอบเช้า กับ รอบบ่าย
- pre-closed มีรอบเดียว คือ ตอนตลาดปิดช่วงหลังสี่โมงครึ่ง
- อธิบายง่ายๆว่าทำไม ณ ขณะนั้นจขกท.ถึงได้ซื้อที่ราคา 10.90 บาท ทั้งๆที่ตั้งซื้อ 11.00 บาท
ระบบการซื้อขายช่วงพิเศษนี้มีลักษณะคล้ายๆ การแข่งขันกันให้ราคาครับ ใครที่ให้ราคาดีที่สุด ย่อมที่จะได้ transaction นั้นก่อน
เช่น ณ ขณะนั้น จขกท. ได้ตั้งซื้อไว้โดยให้ราคาสูงสุด คือ 11.00 บาท หมายความว่า จขกท.ให้ราคารับซื้อมากที่สุดที่เป็นไปได้คือ 11.00 บาท
และในขณะเดียวกันนั้น ได้มีผู้ถือหุ้นอีกฝั่งหนึ่งที่ต้องการขายโดยตั้งราคาขายไว้ต่ำที่สุดที่เป็นไปได้ที่ตนยอมที่จะขาย คือ 10.90 บาท
ดังนั้น จขกท. และ ผู้ถือหุ้นอีกฝ่ายจึงกลายเป็นคนที่ให้ราคาที่ดีที่สุดในฝั่งซื้อ และฝั่งขาย ตามลำดับครับ เพราะฉะนั้น ระบบของตลาดจึงได้
ทำการ Matching คำสั่งซื้อขายระหว่างกัน จขกท.จึงได้หุ้นในราคา 10.90 บาท ไปครับ และระบบจะจัดลำดับการ Matching ไปเรื่อยๆตามคำสั่งซื้อ
ที่ได้ตั้งราคาไว้ในระดับราคารองๆลงมาครับ
- ส่วน total fee รวมกันแล้ว 1.84 นั้นถือว่าเป็นราคาปกติครับ รายย่อยอย่างเราได้ประมาณนี้แหละครับ ถ้ายิ่งพอร์ตใหญ่มากเท่าไร
สามารถต่อรองค่าคอมได้ในอนาคตครับ
Total Fee คือค่าธรรมเนียมการซื้อขาย
VAT คือ ภาษีมูลค่าเพิ่มที่คิดจากค่าธรรมเนียมครับ
ถามว่าค่าบริการทั้งสองเป็นอันเดียวกันไหม ไม่ใช่ครับ Total Fee เราจ่ายโบรกเกอร์ Vat เราจ่ายรัฐครับ
แต่ทั้งสองอย่างจะนำไปรวมเป็นต้นทุนในการซื้อหุ้นของเราครับ
แสดงความคิดเห็น
เพิ่งซื้อหุ้นครั้งแรก แต่ทำไม…
วันนี้เพิ่งซื้อหุ้นไปค่ะ ครั้งแรกเลย ซื้อตอนบ่าย2 21นาที เกือบๆ ตอนตลาดเปิดค่ะ
(ตอนนั้น SET: open ก็คิดว่าซื้อได้แล้ว เลยกดซื้อ แต่ยังไม่ได้ แต่พอ 2.30 pm มันก็ match ได้เลยค่ะ)
คำถามคือ
1) เรากดที่ราคา 11บาท แต่ทำไม match ได้ราคา 10.90บาท หรอคะ
2) total fee = 1.72 VAT 0.12 = 1.84
2.1) ค่าบริการสองอันนี้ อันเดียวกันไหมคะ
2.2) แล้ว 1.84 นี้ ถือว่าแพงไปไหมคะ หรือว่ามันปกติอยู่แล้ว
ขอบคุณค่ะ