[CR] ยั ง ค ง มี ค ว า ม สุ ข อ ยู่ ที่ ไ ห น ซั ก ที่ (ดอยตาปัง) ชุมพร

2017// 3 ปี ที่ แล้ว กับทริป ดอยหลวงตากครั้งสุดท้าย หลังจากนั้นก็ไมได้ เข้าป่าอีกแลย . . . .2020 ขณะที่นอนกลิ้งอยู่ ก็เหลือบไปเห็นฟีดเฟสบุค ชวนขึ้นดอย ชื่อแปลก ๆ ที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน “ ดอยตาปัง” ที่สำคัญว่างแค่ 1 ที่ และเดินทางคืนพรุ่งนี้ // ใครมันจะไปเตรียมตัวทันอ่ะเนอะ คิดแล้วก็เลื่อนผ่านไป โดยไม่ได้ใส่ใจมากมายนัก // แต่เฟสบุคเจ้ากรรม ดัน ขึ้นฟีดเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ครั้งที่ได้ขึ้นภูสอยดาว กับชาวแกงค์ แว๊ปแรกที่ได้เห็น เหมือนหัวใจดวงน้อยพองโต แต่ก็เป็นแค่หัวใจที่ข้างในกลวง โบ๋ นั่นแหละ ทำให้ตัดสินใจเลื่อนขึ้นไปทักหาเจ้าของโพทย์ ไม่รู้ที่มา (ที่ไหนหละ) ไม่ได้เตรียมตัว (อันนี้จริง) ไม่แม่กระทั้งรู้จักกับใคร (เกือบจริง) “ดอยตาปัง” 17/07/2020

คืนวันศุกร์ หลังจากที่ฝ่าฟันการจรารบนนท้องถนนไทย จนในที่สุดก็มาถึง ลานจอดรถหมอชิตที่สุดจะแออัดจดได้ ก่อนที่จะพบกับสมาชิกแปลกหน้าที่จะร่วมผจญภัยกับเราในทริปนี้ แนะนำตัวพอสมควร ก่อนที่บทสนทนาจะค่อย ๆ เงียบลง เหลือไว้แต่เสียงกรนของใครบางคน กับแสงไฟส่องทางข้างถนน ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับคืนแรกของพวกเรา

ฉันลืมตาตื่นด้วยแรงกระแทกของล้อรถกับเนินดิน ที่โยนตัวฉันที่ไมได้เบาจนลอยขึ้น รอบตัวตอนนี้ล้อมรอบไปด้วย ต้นไม้สองข้างทาง ไม่ทันจะตั้งสติดี รถก็หยุดนิ่ง ใช่แล้ว ถึงที่หมายแรก โดยไม่ทันตั้งตัว ///น้ำตกคลองเพรา// เรียกได้ว่ามาปลุกเจ้าหนาที่อุทยานเลยก็ว่าได้ และที่นี่เอง ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นการทำความรู้จักกันอย่างจริงจังของเหล่าสมาชิกที่หลับนอน ด้วยกันมาแล้ว 1 คืนอย่างแท้จริง ที่นี่ทำให้ฉันรู้ว่า ตอนนี้ เราเป็นพี่ใหญ่ ที่สุดในกลุ่ม หรือเรียกสั้นๆว่าแก่สุดนั้นแหละ ฮาฮา ( น้ำตาไหล )
พวกเรากินข้าวเหนียว หมูใบบัว ที่ทีมเตรียมมาให้ เม้ามอยนิดหน่อย ก็เริ่มออกเดินทางเข้าสู่น้ำตก โดยมีเจ้าหน้าที่นำทางไปด้วย // เดินไปและถ่ายรูปไป ประเดี๋ยวเดียวก็ถึง น้ำตกคลองเพรา เป็นน้ำตกเล็กๆ มีทั้งหมด 5 ชั้น เจ้าหน้าที่อนุญาตให้เราอยู่ที่ชั้น ที่ 4 ชั้นนี้เขาไม่อนุญาตให้เล่นน้ำ แต่ก็มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะแยะ เสียงน้ำ สลับกับเสียงโหวกเวกของพวกเรา ทำให้บรรยากาศยามเช้าดูสนุกสนานขึ้นมาก รวมถึงมิตรภาพเล็ก ๆ ที่กำลังก่อตัวขึ้นตามความสนุกอย่างไม่รู้ตัว เลยทีเดียวเชียว ^^
ถ่ายรูปจนหนำใจก็ได้เวลา เตรียมตัวไปจุดหมายหลัก แต่ก่อนไป ขออาบน้ำ แต่งตัวให้แมทกับการขึ้นดอยซักหน่อย โดยก็อาบกันที่อุทยานนั่นแหละ ระหว่างรอ คิวอาบน้ำ ก็มีกิจกรรมขั้นเวลาอย่างการเล่นบอร์ดเกม หรือ ปลอกทุเรียนที่ชาวบ้านใจดีให้มา ฆ่าเวลา กระชับมิตรไมตรี ขึ้นมาอีกนิด ตอนนี้ ฉันเริ่มมีแกงค์เล็ก ๆ แล้ว ได้เพื่อนใหม่ (ต่างวัยสุด ๆ แล้ว 55 )
หลังจากนั้นก็ได้เวลาออกเดินทางไปยังจุดขึ้นดอย ลุยกันเลยยย
ระหว่างทางไปจุดนัดหมาย ฉันเห็นคนกลุ่มใหญ่กวักมือเรียก จึงบอกทุกคนในรถว่า เขาเรียกเราหรือเปล่านะ /// ใช่แล้วเขาเรียกเรานั่นแหละ เพราะเราขับรถเลยไงเล่า โถะ โถะ // ที่นี่เป็นลานสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะขึ้นดอยต้องมาต่อรถ พวกเรากินข้าวกันที่นี่ และต่อด้วยจิบกาแฟชิก ๆ ก่อน จะไปโยกกันแบบสุดเหวี่ยงหลังรถกระบะ ที่แบกพวกเราขึ้นไปยังจุดกางเต้นท์ ระหว่างทางวิวสวยมาก แดดไม่ร้อนอย่างที่คิดเพราะ มีต้นไม้ (ต้นทุเรียน) บังแดดเป็นระยะ ไม่นานพวกเราก็ถึงลานกางเต้นท์
เป็นบุญของพวกเรา ที่ทีมนำทางที่มาก่อนหน้า ได้ เตรียมที่ส่วนกลางไว้ให้เรียบร้อยงานเนี๊ยบ พวกเราจัดแจงหาที่กางเต้นท์ ซึ่งตอนนั้น บอกเลยชิลมาก เพราะ เราไม่มีเต้นท์มา ฮาฮา ก็บอกแล้วไง ว่าไมได้เตรียมตัวมา แต่ไม่ต้องห่วงเรามีแก๊งค์เล็ก ๆ ที่พึ่งเกิดขึ้นใหม่แล้วไงหละ หันไปถามเดอะแก๊งค์ ทั้งสอง . .. ปรากฏว่า ไม่มีใครเอาเต้นท์มาเหมือนกัน ฮาฮา แต่ไม่ต้องห่วง หัวหน้าทริปได้เตรียมเต้นท์มาให้เพื่อนทั้ง 2 เพราะเขาลงชื่อไว้เรียบร้อยแล้ว เป็นเต้น ที่บอกว่าสำหรับ 2 คน แต่ไม่รวมของ เรียกสั่น ๆ ว่า เต้นท์ 2คนห้ามขยับ ฮาฮา แต่ถึงจุดนี้ ก็ต้องนอนอ่ะเนอะ 
เมื่อเตรียมที่นอนกันเรียบร้อยก็ได้เวลา พักผ่อน ใต้ร่มไม้ ใครอยากถ่ายรูป จิบเบียร์ หรือช่วยทีม หันหมู หั่นผัก ก็ตามแต่ส่วนฉันหนะเหรอ นั่งกิน เฟร้นฟราย ไก่ ป๊อป เล่นกับหมาอยู่ ข้าง ๆ วง เตรียมเสบียง กับ เดอะแก๊งค์ ถือเป็นการให้กำลังใจ ทีมเตรียมอาหารแบบ ไม่แสดงออก อยู่แบบใกล้ชิดในแบบของ Knot และพ้องเพื่อน
5.00 น. ท้องฟ้าปลอดโปร่ง (เฉพาะตรงจุดที่เราอยู่ ) เย็นนี้เรามีโปรแกรมไปดูพระอาทิตย์ตก โดนการเดินขึ้นเข้าไป 300 แม้ว (100แม้ว = 300 เมตร) จากประสบการณ์การขึ้นดอยกว่า 8ปี ทำให้ฉันมีลางสังหรณ์ว่า ฝนมันต้องตก ตอนเราอยู่บนจุดชมวิวแน่นอน แต่ จะ ไม่ไปก็คงไม่เหมาะเพราะทุกคนไปหมด แน่นอน คนที่เตรียมพร้อม คือผู้ชนะ เสื้อกันฝน ร่ม พกไปทั้ง 2 อย่าง ก่อนจะเดินตาม เพื่อนๆ ออกไปอย่างไม่ลังเล ฮาฮา
ทางขึ้นเขาชันพอสมควร บอกเลยถ้าเป็นสมัย 2 ปีที่แล้ว หลับตาวิ่งก็ยังไหว ทำไมต้องบอกแบบนั้นหละเหรอ เพราตอนนี้ หอบ แฮ่ก แฮ่ก กว่าจะแบกเจ้าก้อนพุงขึ้นมาได้
จุดชมวิวดอยตาปัง จะเป็นจุดชมวิวเล็ก ๆ ที่ความสวยไม่เล็ก ตามสถานที่ แสงอาทิตย์สีส้มตัดกับสีฟ้าของท้องฟ้า แซมด้วย เมฆสีขาว เป็นวิวที่คุ้นเคย ที่แม้จะไม่ได้เห็นมานานแต่ก็รับรู้ได้ ลมเย็นๆ ที่พัดผ่านกลิ่นของต้นไม้ มอบความรู้สึกแสนวิเศษ ให้ลุงแก่ ๆ อย่างฉัน (ทำไมคำว่าลุงเยอะจัง เฮ้อ ) แต่ แต่ แต่ มีความสุขได้ไม่นาน ฝนก็ตกลงมา แย่แล้ว ขึ้นมาว่าลำบากแล้ว ดินที่เคยแข็งกลับกลายเป็นโคลนเหลว เดินไปลื่นไป แล้วยังต้องแบกกล้อง ที่เพื่อนฝากไว้ไปอีก ฮาฮา แต่แล้วก็ผ่านมันมาได้เหมือนทุกครั้ง โดยเนื้อตัวสะอาดดี ไม่มีลอยขีดข่วนหรือเลอะโคลนใดใด
ลงมาถึงเจอข่าวร้าย!!!! ส่วนกลางที่ทำไว้ โดนฝนถล่มเละไปหมด ทำให้คราวนี้ พวกเราต้องร่วมแรงร่วมใจ ทำให้ ถือเป็นความสนุกของทริปนี้อีกอย่าง กว่าจะเรียบร้อยก็เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน 
มื้อเย็นที่เตรียมไว้ เป็นหมูกระทะ กับ หมาล่า 1000ไม้ ที่ทำมากินทั้งหมู่บ้าน 555 (เยอะสุด ๆ ) กินไปเม้าไป สนุก สนาน ตอนนี้เราสนิทกันมากแล้ว เรียกได้ว่า เหมือนรู้จักกันมา 10 ปี พออิ่มจากมูกระทะก็ไป จัดการกับหมาล่า 1000 ไม้ต่อ จุก จุก ไปเลย จ้า... 
ณ เวลา กลางคืน ช่วงนี้ขอเรียกว่าช่วงเวลาที่รอคอย มีทั้งวงดนตรี ดูดวง ถ่ายรูปดาว และ วงเหล้า ฉันไปทุกที่ ยกเว้นดูดวง เพราะคิวยาวเหลือเกิน เป็นครั้งแรกที่ลองเอามือถือถ่ายดาว แล้วติด เพราะแก๊งค์ถ่ายดาวแก๊งค์นี้เขาข้อมูลแน่น ใครหนะเหรอ แกงค์เล็ก ๆ ของเราเอง ถึงขนาดจะขึ้นเขารอบดึกไปถ่ายดาว แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวหลับไปซะก่อน
( รูปดาว by เดฟเดฟ )
เต้นท์เราเป็นเต้นท์แรกที่ตื่น เพราะร้อน เอ้ยไม่ใช่ เพราะ เขานัดไปดูพระอาทิตย์ ขึ้นตอนตี 5 ออกมา ทุกอย่างคือเงียบสงบ กว่าจะปลุก กันเสร็จ เกือบ 6.00 น. แต่เช้านี้ดีมีรถมารับ แต่เพื่อนบางคน รอไมไหวใจร้อนเดินขึ้นไปก่อน สรุปถึงพร้อมกัน ฮาฮา
หลังจากลงมา ก็ได้เวลาเตรียมอาหารเช้า มื้อนี้เรากินเป็น ขนมปังไข่ดาว ไส้กรอก ปล.ท่ามกลาง แดด จัด ๆ แต่ด้วยความหิว ก็ซัดไปเต็มเหนี่ยว ก่อนจะเวียนกันไปอาบน้ำ แล้ว กลับมาเก็บเต้นท์ กลางแดด จัด ๆ เก็บเสร็จอยากไปอาบน้ำใหม่เลยทีเดียวเชียว
ระหว่างรอเพื่อนอาบน้ำ เก็บเต้นท์ ก็ได้เวลา พักนั่งชิงช้า ถ่ายรูป อำลายอดดอยตาปัง นั่งแซวคนนู้นคนนี้ เล่นกับหมาดอย ปล่อยเวลาให้ผ่านไปอย่างช้า ๆ แบบมีความสุขท่ามกลางเสียงหัวเราะและรอยยิ้ม ของเพื่อนใหม่ ทุก คน ได้เห็นการช่วยเหลือกัน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน . . . มันดีย์กว่าที่คิด

ตัดภาพมาที่ ตอนลงดอย เมื่อลงมาถึงสมาชิกทีมรถคันที่เรานั่งซึ่งตอนนี้สนิทกันมากแล้วก็มารวมตัวกันที่ร้านกาแฟโดนไม่ได้นัดหมาย ทั้งคัน และ แล้ว คนแก่ก็ได้แผล ขาอ่อนแรง ล้มหน้าร้าน ดีที่ได้พยาบาลใจดีทำแผลให้ ปล.ขอบคุณครัช
พอขึ้นรถได้ ด้วยความเพลียที่สะสมมา ทุกคนก็หลับแบบ จริงจังแบบสะกิดไม่รู้ตัว จนรถมาจอดที่ร้านกล้วยทอดทุก คนก็ตื่น มาชิมกล้วย แล้วก็คึกคัก เหมือนได้ชาร์ตแบต กลับมาเจื้อยแจ้ว นี่แหละความสนุกของการเดินทาง ระหว่างทาง ก็ถือเป็นส่วนสำคัญที่จะเป็นตัวตัดสินว่าทริปนั้นๆ น่าจดจำหรือไม่

ยังไม่จบ ก่อนจะถึง กทม. พวกเราก็แวะทะเล ไปกินข้าวมือสุดท้ายก่อนจากลา กันที่ปราณบุรี ร้านนี้ มีชาดหาดส่วนตัวให้พวกเราวิ่งเล่นถ่ายรูปกันจนหนำใจ ถ้าใครไม่รู้คงนึกว่าตั้งใจมาทะเลกันแน่ ๆ หลังจากนั้นก็มุ่งตรงกลับกทม.แทนที่พวกเราจะหลับแต่ป่าวเลย ยิ่งอิ่มยิ่งคึก ร้องเพลงตั้งแต่ปรานบุรีจนถึง กทม.เลยจ้า เรียกว่าสู้ตายจนหยดสุดท้าย เสียงแหบที่ไมได้หมายถึงเป็นหวัด แต่เพราะแหกปากร้องเพลงทั้งทางตะหาก
สุดท้าย . . .อยากขอบคุณทุกคน ทริปนี้เป็นทิปที่เติมเต็มหัวใจดวงน้อยๆ ที่ว่างเปล่าให้กลับมาอีกครั้ง+++++!!!!!!!
ชื่อสินค้า:   ดอยตาปัง ทะเลหมอก จ.ชุมพร
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่