สำหรับผมคดีน้องชมพู่นั้น ข้อมูลเกือบทั้งหมดมาจากสื่อที่ดูทุกวัน สื่อที่ช่างหาประเด็นใหม่ๆมาจนถึง 68 วัน ขยะนมกล่องหมาเห่าของเล่นบลาๆและรวมไสยศาสตร์ สงสัยคนนั้นคนนั้นสงสัยคนนี้และอะไรอีกมากมายที่ ขยันเปลี่ยนประเด็น แต่ข้อมูลจริงจากทาง ตำรวจน้อยมาก เพราะตำรวจบอกแล้วว่าข่าวไม่มีผลต่อแนวทางการสืบ(อาจเพราะแนวทางการสืบก็ตันๆ ข่าวเลยไม่ค่อยมีผล) ที่นี้เท่าที่เรารู้ คือน้องหายเเน่วันที่ 11 09.00 น.นิดๆ เพราะก่อนนั้นร้านค้ายืนยันเดินมาซื้อน้ำส้มกับพี่(ชื้อจริงไหนขวดน้ำส้ม) เกือบๆ 10 โมง คนก็แห่กันหาละเพราะรู้กันเยอะละว่าน้องหาย ช่วงไม่ถึง 1 ชม ที่น้องหาย ถ้าน้องเดินไปเองผมว่าไม่น่าหาไม่เจอ ทั้งคนตะโกน ทั้งขี่รถ มันต้องมีคนเห็นบ้างละไปทางไหน คงไปไม่ไกลถึงตีนเขา ทำไมไม่มีคนเจอเลย ผมว่าทางเดียวที่จะหาไม่เจอคือมันต้องมีคนซ่อนไว้มิดชิดสุดๆก็คือที่บ้านของผู้ร้ายเอง คงไม่มีคนมาค้นบ้านเราถ้าเราก็ออกค้นหาด้วย เพราะช่วงวันเเรกน่าจะคิดว่าน้องหลงหรือโดนคนนอกจับไป คงไม่สงสัยคนบ้านเดียวกันจะทำ เมื่อพบศพน้อง เย็นวันที่ 14 เท่าที่ฟังมาคือน้องเริ่มเน่ามากคือหนอนแมลงวันเป็นตัวละมีกลิ่นเยอะละ แต่ทำไมไม่มีคนออกมายืนยันเวลาตายซะที มีแต่ประมาณ 18 ชม ผมว่ามันน่าจะเกินกว่านั้นพอสมควร ถ้าเด็กถูกซ่อนดี จะทำไงให้เด็กไม่ร้องถ้ามัดมือมัดปาก ก็ต้องเห็นที่ศพ การจะเอาเด็กไป ขังไว้ 11-12-13 แล้วคนหาไม่เจอต้องทำยังไงเด็กต้องร้องต้องอึฉี่ นอกจากจับไปไว้ไกลมากขนาดร้องก็ต้องมั่นใจว่าคนไม่ได้ยิน ถ้าผมเป็นโจร ผมคงไม่เสี่ยง เพราะถ้าไม่ปิดปากไม่มัดก็เสี่ยงร้อง ถ้าเอาเด็กไปแล้วตายเลยวันที่ 11 ง่ายกว่า เพราะถ้าใช้ยาสลบหรือปิดปาก ก็เสี่ยงชันสูตรเจอ ซ่อนศพดีๆ (แช่ไว้หนือปิดมิดชิดมากๆศพก็จะยังไม่เน่านะ 11-12 (คือถ้าแช่น้ำหรือน้ำเย็นหรือล้างละห่อดีๆมันจะไม่เน่าหรือเน่าช้าลง)เเล้วคืน 12 หรือคืน 13 ค่อยเอาขึ้นเขาไปวางง่ายกว่า เพราะจับเป็นไปก็ไม่เห้นจะมีเรียกค่าไถ่หรืออะไร ประเด็นมันเลยน่าจะเหลือแค่ มีคนเอาไปแล้วเจตนาทำตายเลยละซ่อนกับไม่ได้ตั้งใจให้ตายพอตายเลยต้องจัดฉาก เพราะการที่น้องขึ้นไปเองเป็นไปไม่ได้ ใครยังคิดประเด็นนี้ลบออกไปเลย เราอาจเชื่อใครไม่ได้ดลยก็จริง แต่ประเด็นเขามันชันมากเกินเด็กจะไปไหว ไหนจะถอดเสื้อผ้าไม่ได้ ไหนจะตัดผม ไหนจะรองเท้า ชึ่งน่าจะหลุดตั้งเเต่เริ่มขึ้นเขาไม่ใช่ห่างศพ4เมตร ไหนจะระยะทางแล้วก็คนเริ่มตามหาไม่นานจากที่หาย ไหนจะสภาพไม่ถลอกปอกเปิก ไม่มีขึ้เยียวเปรอะ ที่นี้เรามาที่ประเด็นคนจับไป เป้าคือ ลุงพล น้าแต พวกนี้ก้มีโอกาศทำได้เพราะจับละซ่อนที่บ้านหรืออาจเป็นคนข้างบ้านก็ซ่อนง่าย แต่หากน้องเดินตามหมา ก็อาจไปเจอคนร้ายต้องดูบ้านที่อยู่ทิศที่คิดว่าน้องเดินไป. ส่วนถ้าแบบไม่ตั้งใจความเป็นไปได้ก็คือพ่อแม่พี่ แล้วพยายามอำพรางกลัวความผิด ที่ซ่อนจะยากหน่อยเพราะคนพลุกพล่านนอกจากมั่นใจว่ามีที่ เช่นรถของน้าที่ออกไปก่อนรวมหัวใส่รถไปคนก็ไม่มีทางหาเจอ ช่วงเเรกกลับมาก็แวะซ่อน ส่วนบ้านข้างๆก็เป็นได้ เช่นไปที่ก่อสร้างละไฟซ๊อตตาย กลุ่มทางช่างเลยอำพรางช่อนก่อนละวัน12-13ค่อยเอาไปอำพราง หรือเด็กอาจตามหมาไปไกลและถูกทำตายด้วยไม่ตั้งใจเลยต้องซ่อน ทั้ง 2 ประเด็กก็พอจะมี ผู้ต้องสงสัยจำกัดวงแคบ หรืออาจแหกไปที่ ขัดแย้งพ่อค้ายาหรือเจ้าหนี้สั่งสอนเอาลูกไป ปล ทั้งหมดทั้งมวลก็ไม่พ้นกลุ่มคนบ้านใกล้หรืออริ แต่ทำไมตามคนร้ายไม่ได้ชักที่ โดยส่วนตัวผมก็สงสัยคนในครอบครัวและบ้านติดกันนี่ละ แต่ เมื่อวานป้าคนนึงพาลมาทำสงสัย เจอรองเท้าน้องตอนเที่ยง. ลื่นจากหินเลยเจอลื่นจากหินก้อนไหนตรงนั้นก้มีแต่ก้อนที่บังน้องถ้าลื่นก้อนนั้นก็น่าจะเห้นศพหรือได้กลิ่นมากๆ. แต่บอกไม่เห้นแถมยังช่อนรองเท้าไม่บอกใครตั้งนานบอกจะช่อนเอาให้หลานไม่รู้เรื่องเด็กหาย ที่จริงหมูบ้านไม่ได้ใหญ่ หายมา 11-12-13 -14 คุณจะไม่รู้ข่าวได้ไงตำรวจนักข่าวพระชาวบ้านต้องพูดต่อๆกัน ไม่รู้เรื่องนี่แปลกมากมายในชนบท แล้วถ้าไม่รู้จริงเเค่รองเท้าคู่เดียวเจอบนยอดเขาไกลมากเป็นทางที่ไม่ได้มาประจำ ทำไมไม่เอาใส่ยามถือลงมาเลยรองเท้าคู่นิดเดียวหาผักต้องมีที่ใส่อยู่แล้วซ่อนซะยอด อาจไม่เดินไปทางนั้นอีกหรือไปก็อาจจำที่ไม่ได้ เอาติดตัวลงมาง่ายกว่ามั้ย
68 วันคดีน้องชมพู่