ผมมีโอกาสได้ใช้น้ำมันเครื่องโมบิลโปรบีควิก ราคาตามตารางคือ 990 บาท รวมกรองน้ำมันเครื่องของบีควิก และรวมค่าแรงแล้วครับ ตัวน้ำมันเครื่อง พนักงานบอกเป็น Mobil รุ่น S3000 (แต่หาในเว็บโมบิล น่าจะเป็นรุ่น Super 3000 X2 นะ) ความหนืด 5w-40 สังเคราะห์แท้ ปั๊มจากถังใหญ่ 200 ลิตร ไม่ได้เป็นแกลลอน 4 ลิตรแยกนะครับ รีวิวครั้งนี้คงเป็นการบอกแค่เรื่อง "ความรู้สึก" ที่พอจะสัมผัสได้จากการทดลองใช้นะครับ ไม่มีการทดสอบวัดค่าอะไรออกมาเป็นตัวเลขใดๆ และเพราะเป็น "ความรู้สึก" จากการใช้งานในแบบของผม ในรถของผมเอง อาจจะแตกต่างจาก "ความรู้สึก" ของท่านอื่นๆที่ไปลองใช้กับรถของแต่ละท่านนะครับ
ref:
https://web.facebook.com/BQUIK/posts/1777112859007270/?_rdc=1&_rdr
รายละเอียดเกี่ยวกับรถ
ยี่ห้อ/รุ่น: Toyota Altis 1.6E AT 2004
เครื่องยนต์: 2ZZ-GE (เอาเครื่องจากโคโรลล่าตัวญี่ปุ่นมาวาง) ตามสเปค 190 แรงม้า วัดจริงลงที่ล้อ 170 แรงม้า
กรองอากาศ: กรองผ้า 2 ยี่ห้อสลับกันใช้ มี K&N กับ Fabrix
น้ำมันเครื่องที่ผมเคยใช้มาทั้งหมดกับรถคันนี้ ..
1. Mobil 1 (กระป๋องทอง)
2. Shell Helix Ultra (ลองมาทั้งสองตัว สูตรเก่า และสูตรใหม่ Pureplus)
3. Castrol Edge
4. Eneos (ลองมา 2 สูตร คือกึ่งสังเคราะห์ และตัว Sustina สังเคราะห์แท้)
5. GReddy F2
6. ปตท Super Synthetic
7. บางจาก GE Gold
8. Valvoline SYN Power
9. Luqui Moly (ลองใช้มา 2 สูตรคือ 5w-40 5L ราคา 2200 และ 0w-40 5L ราคา 2400)
10. Mobil Super 3000 X2 โปรบีควิก <------ ตัวที่กำลังเขียนรีวิว
** ทุกตัวที่ใช้ เบอร์ความหนืด 40 นะครับ ส่วนเลขหน้า 0 บ้าง 5 บ้าง 10 บ้าง ครับ **
โปร B-Quick
ชุดโปรของบีควิกจะมีน้ำมัน 2 แบบคือสังเคราะห์แท้และกึ่งสังเคราะห์ และมีให้เลือก 3 ยี่ห้อ คือ Mobil Shell และ Total ส่วนของผม มีส่วนที่เพิ่มจากชุดโปรปกติก็คือ ผมซื้อกรองแท้ศูนย์แยกต่างหาก ก็บวกราคาไปอีก 195 บาท (พนักงานน่าจะคีย์ราคาผิด ปกติน่าจะ 2 ร้อยกว่าๆ)
(รูปถ่ายเมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2020 นะครับ เป็นวันที่ผมถ่ายโมบิลออก แล้วใส่ Shell HX8 เข้าไปแทนนะครับ)
Mobil Super 3000 X2
ผลิตภัณฑ์ Mobil Super 3000 ได้รับการผสมสูตรเพื่อให้ความมั่นใจในการปกป้องที่เหนือกว่าน้ำมันเกรดทั่วไปหรือน้ำมันกึ่งสังเคราะห์เราขอแนะนำน้ำมัน Mobil Super 3000 โดยเฉพาะเมื่อคุณต้องพบกับเงื่อนไขการใช้งานที่ต้องการการหล่อลื่นอย่างสม่ำเสมอซึ่งน้ำมันชนิดนี้สามารถช่วยต้านทานความเสียหายที่เกิดจากความเค้นเครื่องยนต์สูงที่มักเกิดขึ้น
• เทคโนโลยีเครื่องยนต์เกือบทุกระบบ
• ระบบเบนซินและระบบดีเซล
• ยานยนต์โดยสารยานยนต์อเนกประสงค์รถบรรทุกเบาและรถตู้
• การควบคุมความเร็วบนทางหลวงและหยุดแล้วเข้าสู่การขับขี่ในเขตเมือง
• สภาวะการทำงานระดับปานกลางจนถึงบ่อยครั้งที่รุนแรง
• เครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จและไดเร็กอินเจ็คชัน
• เครื่องยนต์สมรรถนะสูง
มาตรฐาน: API SN
เกรด: SAE 5W-40
ดัชนีความหนืด: 174
ref:
https://www.mobil.co.th/th-th/our-products/oil-lubricants/mobil-super-3000-x2-5w40
รีวิวการใช้งาน
ขอบอกก่อนนิดนึงว่า เครื่องตัวที่ผมใช้เป็นเครื่องรอบสูงกว่ารถบ้านทั่วๆไป (redline 8200) ทำให้ใช้น้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพเร็วขึ้นนะครับ รวมถึงการขับใช้งานของผมไม่ได้ขับช้าๆเน้นประหยัด แต่ผมค่อนข้างเท้าหนัก กระทืบคันเร่งบ่อยอยู่ครับ ถึงจะใช้รอบสูงไม่ถึงกับแตะ redline เป็นประจำ แต่รอบกลางๆช่วง 3000 4000 5000 เป็นรอบที่ใช้งานบ่อยๆครับ พอใช้รอบสูง เครื่องก็ร้อน และก็ทำให้น้ำมันเครื่องเสื่อมเร็วขึ้นครับ
หลังจากเปลี่ยนถ่ายมา ช้วงแรกๆก็ลื่นดีครับ รู้สึกไม่ได้จะลื่นมากลื่นปื๊ด แต่จะออกแน่นๆหน่อย เครื่องเงียบดี เร่งสมูธครับ จนผมรู้วึกว่าน้ำมันเครื่อง ราคา 990 บาทมันดีขนาดนี้เลยเหรอ ช่วงนี้แทบไม่รู้สึกแตกต่างจาก Mobil 1 กระป๋องทองเลย
หลังจากใช้ครบ 3000 กม. ฟีลลิ่งเริ่มเปลี่ยนไปเล็กน้อยครับ การระบายความร้อนยังใช้ได้ (ดูจากเครื่องอ่านค่าจาก OBD2) ความลื่นลดลงหน่อยนึง แต่ยังคงเงียบดี เร่งสมูธเหมือนเดิม ใช้ต่อไปเรื่อยๆอีกหลายพัน กม. ยิ่งทำให้ผมรู้สึกว่าคุ้มค่าเงิน และไม่รู้จะเอาเหตุผลอะไรมาตอบตัวเองว่ามีความจำเป็นอะไรจะต้องใช้น้ำมันแพงๆ ถ้าน้ำมันถูกๆมันก็ใช้ได้ ใช้ดี เครื่องไม่พัง (ผมเคยคุยกับแทกซี่คันนึง แกใช้น้ำมันถูกๆ บอกยี่ห้อก็ได้ ปตท กึ่งสังเคราะห์เบอร์ 10w-20 แต่ด้วยระยะที่ใช้เยอะ เดือนละประมาณหมื่นโล แกก็ถ่ายประมาณเดือนละครั้ง ประมาณหมื่นถึงหมื่นสองพัน กม. ถ่ายที เครื่องแกใช้มา 4 แสนโลแล้ว ก็ยังไม่พัง ใช้งานได้ปกติ ขนาดว่าใช้น้ำมันเครื่องเบอร์ผิด แถมกึ่งสังเคราะห์ด้วย)
พอใช้ครบ 7000 กม. อาการก็เริ่มมาครับ เรื่องความอืดๆฝืดๆมันค่อยๆเพิ่มมาทีละนิด แต่ก็ใช้ไปด้วยความเคยชินเลยไม่ได้รู้สึกว่ามันถึงกับแย่ ต่อมาเริ่มสังเกตุว่าตอนกดคันเร่ง (แต่ไม่หนัก) ทำไมท่อรถผมมันดังกว่าปกติ สังเกตุไปสังเกตุมาเหมือนจะไม่ใช่ท่อละ มันเป็นเสียงเครื่องที่ดังอื้อๆขึ้นครับ ไม่ได้ดังขึ้นมาก แต่พอจับสังเกตุได้ เพราะปกติท่อรถผมจะดังกว่าเสียงเครื่องนิดหน่อย แต่ตอนนี้เสียงเครื่องมันดังเท่าเสียงท่อแล้วครับ (แต่มียี่ห้อนึงที่ผมเคยใช้ เสียงเครื่องดังประมาณนี้ตั้งแต่ถ่ายน้ำมันเครื่องวันแรกเลย แต่ผมก็ใช้ยันหมื่น ก็ไม่เห็นเครื่องพังนะ)
บวกกับอีกอาการคือระบายความร้อนดรอบลง ถ้าขยี้คันเร่งไม่ว่าน้ำมันไหนก็เอาไม่อยู่ครับ ความร้อนขึ้นแน่นอน แต่พอกลับมาขับปกติ น้ำมันที่ระบายความร้อนดีๆและสภาพยังสมบูรณ์ความร้อนละลดลงไว แต่ตอนนี้ความร้อนเริ่มลงช้าแล้วครับ บวกกับถ้าขับๆมาแล้วจอดข้างทางเช่นแวะเซเว่น 5 นาที 10 นาที ปกตอความร้อนจะลงแล้ว แต่หลังๆนี้พอกลับมาที่รถบิดกุญแจ on จะเห็นความร้อนจะขึ้นไป 100-102 อบู่บ่อยๆ ด้วยอาการดังกล่าว ถึงแม้ผมจะยังรู้สึกว่าน่าจะใช้ต่อได้อย่างปลอดภัย แต่เพื่อความสบายใจ สุดท้ายผมจึงตัดสินใจไปถ่ายน้ำมันเครื่องครับ ซึ่งเลือกใช้โปรบีควิกอีกเหมือนเคย แต่รอบนี้ลองใช้ Shell HX8 บ้างครับ ซึ่งก็อย่างที่เดาไว้ เปลี่ยนปุ๊บ ลื่นปั๊บ เครื่องเงียบปุ๊บเลยครับ เป็นอันว่าจบการรีวิวสำหรับ Mobil Super 3000 X2 สำหรับรถผมแต่เพียงเท่านี้นะครับ
สรุปผลการใช้งาน
น้ำมันเครื่อง Mobil S 3000 X2 โปรบีควิก ราคา 990 บาทสำหรับรถรุ่นผม (ซื้อกรองเพิ่มเอง บวกไปอีก 195 บาท) โดยส่วนตัวใช้ไป 7 พัน กม. จึงตัดสินใจเปลี่ยนถ่าย ด้วยเหตุผลของเรื่องเครื่องเริ่มตื้อ เริ่มมีเสียงเครื่องดัง และระบายความร้อนดรอบลงครับ ด้วยราคา 990 กับระยะทาง 7000 กม. สำหรับผม เทียบกับตัวที่ผมชอบใช้ที่สุด ราคาประมาณ 2200 ค่ากรองอีก 200 ค่าแรงถ่ายอีก 100 รวมเป็น 2500 จะใช้ได้ระยะประมาณ 10,000-12,000 กม. โดยส่วนตัวก็คิดว่าเทียบกับตัวที่ผมรีวิวอยู่นี้ ถ้าเทียบเรื่องราคาตัวที่รีวิวอยู่นี้ก็ก็คุ้มค่าอยู่ครับ (แต่ถ้าเทียบเรื่องฟีลลิ่งและสุนทรีย์ในการขับรถอาจจะสู้ไม่ได้ครับ) ส่วนท่านอื่นๆจะเห็นว่าคุ้มค่าหรือไม่ ลองคำนวนกันดูนะครับ เพราะแต่ละท่านมีน้ำมันที่รักที่ชอบไม่เหมือนกันครับ
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะครับ รีวิวนี้เป็นเพียงการแบ่งปันประสบการณ์ส่วนตัว อธิบายด้วย "ความรู้สึก" ที่สัมผัสได้จากการใช้งานของผมล้วนๆ อาจจะแตกต่างจากความรู้สึกของท่านอื่นที่ใช้น้ำมันตัวเดียวกันนี้กับรถของท่านนะครับ หากมีสิ่งใดผิดพลาด ผมต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
Mobil Super 3000 X2
ความลื่นสมูธ: 7/10
เครื่องแน่นเงียบ: 7/10
ระบายความร้อน: 6/10
คงสภาพได้นาน: 5/10
ความคุ้มค่า: 8/10
ฝากติดตามผลงานที่เพจ Need For Slow ด้วยครับ:
https://www.facebook.com/Needforslow247/
[CR] รีวิวสามัญชน: น้ำมันเครื่องโมบิล สังเคราะห์แท้ (โปรบีควิก 990 บาท)
ref: https://web.facebook.com/BQUIK/posts/1777112859007270/?_rdc=1&_rdr
รายละเอียดเกี่ยวกับรถ
ยี่ห้อ/รุ่น: Toyota Altis 1.6E AT 2004
เครื่องยนต์: 2ZZ-GE (เอาเครื่องจากโคโรลล่าตัวญี่ปุ่นมาวาง) ตามสเปค 190 แรงม้า วัดจริงลงที่ล้อ 170 แรงม้า
กรองอากาศ: กรองผ้า 2 ยี่ห้อสลับกันใช้ มี K&N กับ Fabrix
น้ำมันเครื่องที่ผมเคยใช้มาทั้งหมดกับรถคันนี้ ..
1. Mobil 1 (กระป๋องทอง)
2. Shell Helix Ultra (ลองมาทั้งสองตัว สูตรเก่า และสูตรใหม่ Pureplus)
3. Castrol Edge
4. Eneos (ลองมา 2 สูตร คือกึ่งสังเคราะห์ และตัว Sustina สังเคราะห์แท้)
5. GReddy F2
6. ปตท Super Synthetic
7. บางจาก GE Gold
8. Valvoline SYN Power
9. Luqui Moly (ลองใช้มา 2 สูตรคือ 5w-40 5L ราคา 2200 และ 0w-40 5L ราคา 2400)
10. Mobil Super 3000 X2 โปรบีควิก <------ ตัวที่กำลังเขียนรีวิว
** ทุกตัวที่ใช้ เบอร์ความหนืด 40 นะครับ ส่วนเลขหน้า 0 บ้าง 5 บ้าง 10 บ้าง ครับ **
โปร B-Quick
ชุดโปรของบีควิกจะมีน้ำมัน 2 แบบคือสังเคราะห์แท้และกึ่งสังเคราะห์ และมีให้เลือก 3 ยี่ห้อ คือ Mobil Shell และ Total ส่วนของผม มีส่วนที่เพิ่มจากชุดโปรปกติก็คือ ผมซื้อกรองแท้ศูนย์แยกต่างหาก ก็บวกราคาไปอีก 195 บาท (พนักงานน่าจะคีย์ราคาผิด ปกติน่าจะ 2 ร้อยกว่าๆ)
(รูปถ่ายเมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2020 นะครับ เป็นวันที่ผมถ่ายโมบิลออก แล้วใส่ Shell HX8 เข้าไปแทนนะครับ)
Mobil Super 3000 X2
ผลิตภัณฑ์ Mobil Super 3000 ได้รับการผสมสูตรเพื่อให้ความมั่นใจในการปกป้องที่เหนือกว่าน้ำมันเกรดทั่วไปหรือน้ำมันกึ่งสังเคราะห์เราขอแนะนำน้ำมัน Mobil Super 3000 โดยเฉพาะเมื่อคุณต้องพบกับเงื่อนไขการใช้งานที่ต้องการการหล่อลื่นอย่างสม่ำเสมอซึ่งน้ำมันชนิดนี้สามารถช่วยต้านทานความเสียหายที่เกิดจากความเค้นเครื่องยนต์สูงที่มักเกิดขึ้น
• เทคโนโลยีเครื่องยนต์เกือบทุกระบบ
• ระบบเบนซินและระบบดีเซล
• ยานยนต์โดยสารยานยนต์อเนกประสงค์รถบรรทุกเบาและรถตู้
• การควบคุมความเร็วบนทางหลวงและหยุดแล้วเข้าสู่การขับขี่ในเขตเมือง
• สภาวะการทำงานระดับปานกลางจนถึงบ่อยครั้งที่รุนแรง
• เครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จและไดเร็กอินเจ็คชัน
• เครื่องยนต์สมรรถนะสูง
มาตรฐาน: API SN
เกรด: SAE 5W-40
ดัชนีความหนืด: 174
ref: https://www.mobil.co.th/th-th/our-products/oil-lubricants/mobil-super-3000-x2-5w40
รีวิวการใช้งาน
ขอบอกก่อนนิดนึงว่า เครื่องตัวที่ผมใช้เป็นเครื่องรอบสูงกว่ารถบ้านทั่วๆไป (redline 8200) ทำให้ใช้น้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพเร็วขึ้นนะครับ รวมถึงการขับใช้งานของผมไม่ได้ขับช้าๆเน้นประหยัด แต่ผมค่อนข้างเท้าหนัก กระทืบคันเร่งบ่อยอยู่ครับ ถึงจะใช้รอบสูงไม่ถึงกับแตะ redline เป็นประจำ แต่รอบกลางๆช่วง 3000 4000 5000 เป็นรอบที่ใช้งานบ่อยๆครับ พอใช้รอบสูง เครื่องก็ร้อน และก็ทำให้น้ำมันเครื่องเสื่อมเร็วขึ้นครับ
หลังจากเปลี่ยนถ่ายมา ช้วงแรกๆก็ลื่นดีครับ รู้สึกไม่ได้จะลื่นมากลื่นปื๊ด แต่จะออกแน่นๆหน่อย เครื่องเงียบดี เร่งสมูธครับ จนผมรู้วึกว่าน้ำมันเครื่อง ราคา 990 บาทมันดีขนาดนี้เลยเหรอ ช่วงนี้แทบไม่รู้สึกแตกต่างจาก Mobil 1 กระป๋องทองเลย
หลังจากใช้ครบ 3000 กม. ฟีลลิ่งเริ่มเปลี่ยนไปเล็กน้อยครับ การระบายความร้อนยังใช้ได้ (ดูจากเครื่องอ่านค่าจาก OBD2) ความลื่นลดลงหน่อยนึง แต่ยังคงเงียบดี เร่งสมูธเหมือนเดิม ใช้ต่อไปเรื่อยๆอีกหลายพัน กม. ยิ่งทำให้ผมรู้สึกว่าคุ้มค่าเงิน และไม่รู้จะเอาเหตุผลอะไรมาตอบตัวเองว่ามีความจำเป็นอะไรจะต้องใช้น้ำมันแพงๆ ถ้าน้ำมันถูกๆมันก็ใช้ได้ ใช้ดี เครื่องไม่พัง (ผมเคยคุยกับแทกซี่คันนึง แกใช้น้ำมันถูกๆ บอกยี่ห้อก็ได้ ปตท กึ่งสังเคราะห์เบอร์ 10w-20 แต่ด้วยระยะที่ใช้เยอะ เดือนละประมาณหมื่นโล แกก็ถ่ายประมาณเดือนละครั้ง ประมาณหมื่นถึงหมื่นสองพัน กม. ถ่ายที เครื่องแกใช้มา 4 แสนโลแล้ว ก็ยังไม่พัง ใช้งานได้ปกติ ขนาดว่าใช้น้ำมันเครื่องเบอร์ผิด แถมกึ่งสังเคราะห์ด้วย)
พอใช้ครบ 7000 กม. อาการก็เริ่มมาครับ เรื่องความอืดๆฝืดๆมันค่อยๆเพิ่มมาทีละนิด แต่ก็ใช้ไปด้วยความเคยชินเลยไม่ได้รู้สึกว่ามันถึงกับแย่ ต่อมาเริ่มสังเกตุว่าตอนกดคันเร่ง (แต่ไม่หนัก) ทำไมท่อรถผมมันดังกว่าปกติ สังเกตุไปสังเกตุมาเหมือนจะไม่ใช่ท่อละ มันเป็นเสียงเครื่องที่ดังอื้อๆขึ้นครับ ไม่ได้ดังขึ้นมาก แต่พอจับสังเกตุได้ เพราะปกติท่อรถผมจะดังกว่าเสียงเครื่องนิดหน่อย แต่ตอนนี้เสียงเครื่องมันดังเท่าเสียงท่อแล้วครับ (แต่มียี่ห้อนึงที่ผมเคยใช้ เสียงเครื่องดังประมาณนี้ตั้งแต่ถ่ายน้ำมันเครื่องวันแรกเลย แต่ผมก็ใช้ยันหมื่น ก็ไม่เห็นเครื่องพังนะ)
บวกกับอีกอาการคือระบายความร้อนดรอบลง ถ้าขยี้คันเร่งไม่ว่าน้ำมันไหนก็เอาไม่อยู่ครับ ความร้อนขึ้นแน่นอน แต่พอกลับมาขับปกติ น้ำมันที่ระบายความร้อนดีๆและสภาพยังสมบูรณ์ความร้อนละลดลงไว แต่ตอนนี้ความร้อนเริ่มลงช้าแล้วครับ บวกกับถ้าขับๆมาแล้วจอดข้างทางเช่นแวะเซเว่น 5 นาที 10 นาที ปกตอความร้อนจะลงแล้ว แต่หลังๆนี้พอกลับมาที่รถบิดกุญแจ on จะเห็นความร้อนจะขึ้นไป 100-102 อบู่บ่อยๆ ด้วยอาการดังกล่าว ถึงแม้ผมจะยังรู้สึกว่าน่าจะใช้ต่อได้อย่างปลอดภัย แต่เพื่อความสบายใจ สุดท้ายผมจึงตัดสินใจไปถ่ายน้ำมันเครื่องครับ ซึ่งเลือกใช้โปรบีควิกอีกเหมือนเคย แต่รอบนี้ลองใช้ Shell HX8 บ้างครับ ซึ่งก็อย่างที่เดาไว้ เปลี่ยนปุ๊บ ลื่นปั๊บ เครื่องเงียบปุ๊บเลยครับ เป็นอันว่าจบการรีวิวสำหรับ Mobil Super 3000 X2 สำหรับรถผมแต่เพียงเท่านี้นะครับ
สรุปผลการใช้งาน
น้ำมันเครื่อง Mobil S 3000 X2 โปรบีควิก ราคา 990 บาทสำหรับรถรุ่นผม (ซื้อกรองเพิ่มเอง บวกไปอีก 195 บาท) โดยส่วนตัวใช้ไป 7 พัน กม. จึงตัดสินใจเปลี่ยนถ่าย ด้วยเหตุผลของเรื่องเครื่องเริ่มตื้อ เริ่มมีเสียงเครื่องดัง และระบายความร้อนดรอบลงครับ ด้วยราคา 990 กับระยะทาง 7000 กม. สำหรับผม เทียบกับตัวที่ผมชอบใช้ที่สุด ราคาประมาณ 2200 ค่ากรองอีก 200 ค่าแรงถ่ายอีก 100 รวมเป็น 2500 จะใช้ได้ระยะประมาณ 10,000-12,000 กม. โดยส่วนตัวก็คิดว่าเทียบกับตัวที่ผมรีวิวอยู่นี้ ถ้าเทียบเรื่องราคาตัวที่รีวิวอยู่นี้ก็ก็คุ้มค่าอยู่ครับ (แต่ถ้าเทียบเรื่องฟีลลิ่งและสุนทรีย์ในการขับรถอาจจะสู้ไม่ได้ครับ) ส่วนท่านอื่นๆจะเห็นว่าคุ้มค่าหรือไม่ ลองคำนวนกันดูนะครับ เพราะแต่ละท่านมีน้ำมันที่รักที่ชอบไม่เหมือนกันครับ
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะครับ รีวิวนี้เป็นเพียงการแบ่งปันประสบการณ์ส่วนตัว อธิบายด้วย "ความรู้สึก" ที่สัมผัสได้จากการใช้งานของผมล้วนๆ อาจจะแตกต่างจากความรู้สึกของท่านอื่นที่ใช้น้ำมันตัวเดียวกันนี้กับรถของท่านนะครับ หากมีสิ่งใดผิดพลาด ผมต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
Mobil Super 3000 X2
ความลื่นสมูธ: 7/10
เครื่องแน่นเงียบ: 7/10
ระบายความร้อน: 6/10
คงสภาพได้นาน: 5/10
ความคุ้มค่า: 8/10
ฝากติดตามผลงานที่เพจ Need For Slow ด้วยครับ:
https://www.facebook.com/Needforslow247/
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้