พอดีทำงานในโรงแรมที่มีกักตัวผู้ที่เดินทางเข้าประเทศ 14 วัน state quarantine โดยมีคณะทหารที่ได้รับมอบอำนาจโดยพรก.ฉุกเฉินควบคุมดูแล
การกักตัวจะเป็นแบบ 1 คนต่อ 1 ห้อง(ดีกว่าตอนแรกๆ ที่ดราม่าว่านอน 3 คนต่อห้อง) ทางรร.จัดเตรียมอาหารให้ 3 มื้อต่อวัน แต่ผู้พักบางรายก็บอกไม่อิ่มต้องสั่งอาหารผ่านรูมเซอร์วิสซึ่งทางจนท อนุญาตให้เสิร์ฟถึงห้อง(วางไว้หน้าประตู) พนักงานต้องสวมชุดป้องกันเต็ม และมีรายการสิ่งของที่สั่งซื้อเพิ่มเติมผ่านการสแกนคิวอาร์โค๊ด เป็นพวกสบู่ ยาสีฟัน ของขบเคี้ยว บะหมี่สำเร็จรูป
ในห้องจะมีอุปกรณ์ซักล้างให้เช่นกะละมัง ผงซักฟอก มีน้ำให้หลายแพค คือผู้กักตัวต้องทำความสะอาดเสื้อผ้าเอง ทำความสะอาดห้อง ข้าวของเครื่องใช้เองตลอด 14 วัน พนง จะไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นไปบนฟลอร์โดยไม่จำเป็นและห้ามเข้าไปในห้องของผู้กักตัวโดยเด็ดขาด (แต่เห็นมีข่าวออสเตรเลีย พนง แอบไปมีสัมพันธ์ทางเพศกับผู้กักตัวจนเกิดการระบาด)
ของฝากของเยี่ยมจะนำส่งให้แค่วันละครั้ง ห้ามพวกเครื่องดื่มบรรจุขวด อาหารสด อาหารมีกลิ่น น้ำพริก
แล้วยังมีมาตรการปลีกย่อยต่างๆ อีกมากมาย
ตรงนี้สงสัยว่าการกักตัวของต่างประเทศทำแบบนี้ทุกที่รึเปล่าครับ
State Quarantine ประเทศอื่นเขาเหมือนประเทศเรามั้ยครับ?
การกักตัวจะเป็นแบบ 1 คนต่อ 1 ห้อง(ดีกว่าตอนแรกๆ ที่ดราม่าว่านอน 3 คนต่อห้อง) ทางรร.จัดเตรียมอาหารให้ 3 มื้อต่อวัน แต่ผู้พักบางรายก็บอกไม่อิ่มต้องสั่งอาหารผ่านรูมเซอร์วิสซึ่งทางจนท อนุญาตให้เสิร์ฟถึงห้อง(วางไว้หน้าประตู) พนักงานต้องสวมชุดป้องกันเต็ม และมีรายการสิ่งของที่สั่งซื้อเพิ่มเติมผ่านการสแกนคิวอาร์โค๊ด เป็นพวกสบู่ ยาสีฟัน ของขบเคี้ยว บะหมี่สำเร็จรูป
ในห้องจะมีอุปกรณ์ซักล้างให้เช่นกะละมัง ผงซักฟอก มีน้ำให้หลายแพค คือผู้กักตัวต้องทำความสะอาดเสื้อผ้าเอง ทำความสะอาดห้อง ข้าวของเครื่องใช้เองตลอด 14 วัน พนง จะไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นไปบนฟลอร์โดยไม่จำเป็นและห้ามเข้าไปในห้องของผู้กักตัวโดยเด็ดขาด (แต่เห็นมีข่าวออสเตรเลีย พนง แอบไปมีสัมพันธ์ทางเพศกับผู้กักตัวจนเกิดการระบาด)
ของฝากของเยี่ยมจะนำส่งให้แค่วันละครั้ง ห้ามพวกเครื่องดื่มบรรจุขวด อาหารสด อาหารมีกลิ่น น้ำพริก
แล้วยังมีมาตรการปลีกย่อยต่างๆ อีกมากมาย
ตรงนี้สงสัยว่าการกักตัวของต่างประเทศทำแบบนี้ทุกที่รึเปล่าครับ