หลวงปู่จันทร์ กุสโล รำลึก ๑๒ ปี อาจาริยบูชาคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดเจดีย์หลวงวรวิหาร

หลวงปู่จันทร์ กุสโล ท่านได้ทำคุณประโยชน์ให้กับพระพุทธศาสนาไว้มาก ทั้งด้านการเผยแผ่ การศึกษาของพระเณร สร้างสาธารณประโยชน์ให้กับวัดวาศาสนา และทางฝ่ายบ้านเมืองเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังร่วมถวายปัจจัย และทองคำเข้าโครงการช่วยชาติร่วมกับองค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน 
วัดป่าบ้านตาด อยู่หลายครั้งหลายหนด้วยกัน

หลวงตามหาบัว และหลวงปู่จันทร์ ท่านทั้งสองมีความสนิทสนมกันมาก อย่างคำกล่าวที่หลวงตามหาบัว เคยพูดไว้
"ท่านเจ้าคุณวัดเจดีย์หลวงท่านสบายดีไหม (ท่านสบายดีครับ) ท่านสบายเหรอ เราฝากความคิดถึงไปถึงท่านได้เล่าถวายท่านหรือเปล่าล่ะ(ถวายครับ) เล่าถวายเหรอ เออ อย่างงั้นซี คือแต่ก่อนว่าเป็นเพื่อนกันก็ได้ ท่านเป็นรุ่นน้องแต่ถือว่าเป็นเพื่อนกัน ตั้งแต่เรียนหนังสืออะไร ๆ นู้นนะ ท่านเป็นมหา เราก็เป็นมหา สนิทสนมเป็นเพื่อนๆ กัน ครั้นหลังจากนั้นมาแล้ว เดี๋ยวนี้เราถือท่านเป็นเพื่อนเหมือนแต่ก่อน ท่านไม่รับเลยนะ ท่านยกให้เป็นอาจารย์ ว่ายังไงท่านไม่ยอมรับ กิริยาท่าทางวางตัวเป็นเพื่อนเป็นฝูงท่านไม่รับเลย ท่านจะยอมตัวกราบ ท่านยกเราเป็นอาจารย์ตลอด ทีนี้เราก็เลยเป็นอาจารย์ท่าน แต่ก่อนเป็นเพื่อน เดี๋ยวนี้กลายเป็นอาจารย์ท่านแล้ว เพราะท่านไม่ยอมรับความเป็นเพื่อน ท่านไม่ยอมรับจริงๆ ไม่รับเลย มีแต่หมอบเลยๆ เราก็เลยถือเป็นลูกศิษย์เสีย ว่ารุ่นน้องๆ ก็เลยลบไปเลย เลยกลายเป็นลูกศิษย์กับอาจารย์ไปเลยเดี๋ยวนี้.."



หลวงปู่จันทร์ นามเดิมของท่านชื่อ “จันทร์” สกุล “แสงทอง” เป็นบุตรของ นายจารินต๊ะ และ นางแสง แสงทอง ท่านถือกำเนิดตรงกับวันจันทร์ ๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๖๐ ขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๑ ปีมะเส็ง ณ เรือนไม้อันร่มรื่นริมน้ำปิง บ้านท่ากองิ้ว ต.ปากบ่อง อ.ปากซาง จ.ลำพูน เมื่ออายุได้ ๑๕ ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เมื่ออายุครบ ๒๐ ปี ได้เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ ๖ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๘๐ ณ วัดเจดีย์หลวง โดยมีพระพุทธิโสภณ (พระอาจารย์แหวว ธัมมทินฺโน) เป็นพระอุปัชฌาย์ มีสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (พระอาจารย์พิมพ์ ธมฺมธโร) ครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่ พระญาณดิลก วัดพระศรีมหาธาตุ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระครูพุทธิโสภณ (พระอาจารย์บุญปั๋น) วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร เป็นพระอนุสานาจารย์ ได้รับนามฉายาว่า “กุสโล” ซึ่งแปลว่า “ผู้ฉลาด”
“ภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ ไม่มีการสูญเสียใดๆที่น่าเสียใจเท่ากับการเสียเวลา เสียเวลาเพียงหนึ่งวินาที ก็เท่ากับสูญเสียส่วนหนึ่งของชีวิต อายุที่เราได้นั้นคือชีวิตที่เราสูญเสียไป..” โอวาทธรรมคำสอนหลวงปู่จันทร์ กุสโล

พระพุทธพจนวราภรณ์ (จันทร์ กุสโล) ได้มรณภาพลงอย่างสงบด้วยโรคถุงลมโป่งพอง และโรคปอด เมื่อวันที่ ๑๑ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๑ เวลาประมาณ ๑๘.๓๕ นาฬิกา หลังจากรักษาอาการอาพาธมาเป็นเวลานาน โดยคณะแพทย์จากโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ได้ย้ายการรักษาจากโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ มาถวายการรักษาอยู่ ณ กุฏิจันทร์ กุสโล ภายในวัดเจดีย์หลวงวรวิหาร ตั้งแต่วันที่ ๒๗ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๕๑ เป็นต้นมาจวบจนวาระสุดท้ายของชีวิต สิริอายุรวม ๙๑ ปี พรรษา ๗๑
 
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่