คือเรื่องมันมีประเด็นคือแม่และพี่ของเรา เราไม่มั่นใจว่าอะไรทำให้2คนนี้เริ่มไม่ถูกกัน คือแม่ก็จะบ่นแต่พี่ ส่วนพี่เราก็ทำงานกลับมาเจอบ่น เจอด่า นางก็เริ่มทนไม่ไหว ส่วนตัวเราก็เป็นคนกลางอ่ะค่ะ คือพอแม่เริ่มที่บ่นพี่ เราก็จะอยู่ในสถานการณ์ตลอด ถึงจะอยากไปที่อื่นแต่ก็ไปไม่ได้ ง่ายๆคือ เราเริ่มไม่ความสุขกับบ้านของตัวเอง อยากหนีแต่ก็หนีไม่ได้ ในความคิดของเราที่แม่เรื่มบ่นพี่หนักขึ้นเพราะพี่เราเรื่องเปลี่ยนงานบ่อย พอเกิดโควิค เจ้านายก็เริ่มไม่จ่ายเงินเดือนขึ้นขั้นค้างเงินเดือนถึง2-3เดือนแต่ก็ยังสั่งมาอยู่ พี่เราเลยออกไปทำที่ใหม่ นางเป็นคนมีฝันค่ะ อยากไปเที่ยวนู้นนี้นั้น แต่นิดที่ตรงนี้ พอพี่เราเปลี่ยนงาน และไม่ได้ให้เงินเหมือนที่ลูกทุกบ้านควรจะให้(คือได้เงินเดือนเท่าไหร่ก็แบ่งพ่อแม่ส่วนหนึ่งแบบนั้นอ่ะค่ะ) แม่ก็เริ่มมีอารมณ์กับพี่มากขึ้น เผลอๆลามมาถึงเราเอง ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องความสะอาดของบ้าน เช่นไม่กวาด ไม่ถูก ไม่เก็บขี้แมว(น้องเราถ่ายแต่ในกะบะทรายเท่านั้น) ส่วนเราเองที่เริ่มรู้สึกไม่ไหวคงเป็นเพราะ ทำไมฉันต้องมาฟังมารู้สึกอะไรแบบนี้ด้วย? งานร้านขายของเราก็ช่วยทั้งที่โดนด่า จานเราเป็นคนล้างทุกวัน(บ้านเราเปิเเป็นร้านขายของชำ+อาหารตามสั่ง เราเป็นคนคิดเงิน เก็บเงินร้านขายของ จดออเดอร์ ส่งกับข้าวร้านตามสั่ง) ทำไมเราต้องมาทดด่าเหมารวมแบบนี้ ) แม่เราบอกว่า ขอให้พวกเจอที่กูเคยเจอ มีลูกมีเต้าก็ให้เจอแบบที่กูเจอ คือแบบ ทำไมอ่ะ? เราช่วยแทบทุกอย่าง แค่เรายังต้องเรียนมหาลัยอยู่แค่นั้น แม่เราอยากสห้เราทำความสะอาดเป็นแม่บ้านศรีเรื่อง ละเรื่องต่างๆที่เราช่วยแม่ละ ไม่ช่วยก็โดนด่าอีก ใจจริงเราอยากอยู่หอถึงเลือกเรียนที่ไกลๆ แต่ทางบ้านก็เด็ดขาดเรื่องนี้กับเรา หัดเด็ดตีนขาดยังไงก็ไม่ให้อยู่หอ แบบนี้เราควรทำยังไงดีคะ ;-; อารมในการด่าและบ่นของแม่เริ่มหนักขึ้นทุกวัน ถึงขั้นจะปลอยใล่มห้พี่ไปอยู่ที่อื่น
ทำไมเราต้องเป็นตัวกลางของอารมณ์ตลอดเลยละคะ?