คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
ตามมารยาทแล้ว คุณพูดจากับคอลเซ็นเตอร์ไม่ดีเลยครับ เขาทำงาน ไม่ใช่ที่ให้คุณมาระบายอารมณ์นะครับ ถ้าคุณต้องการร้องเรียนคุณเข้าไปที่ธนาคารหรือสำนักงานใหญ่เลยครับ ผมก็ลองฟังๆดู ผมว่าคำพูดคำจาของคุณใส่อารมณ์ น้ำเสียงไม่ดี ที่เขาต้องพูดจาดีกับคุณเนี่ย ผมล่ะเห็นใจคอลเซ็นเตอร์เขาจริงๆ
ในความเห็นแล้ว คุณน่ะฐานเงินเดือนไม่มากครับ วงเงินบัตรเครดิตที่เขาให้ เขาก็ต้องพิจารณาไปตามหลักเกณฑ์ของเขาครับ คุณส่งหลักฐานไปให้เขาพิจารณา เขาก็รับหลักฐานคุณเอาไว้แล้วส่งต่อให้ฝ่ายที่มีอำนาจพิจารณาตามหลักเกณฑ์ที่ผู้บริหารวางไว้อีกที ถ้าเขาเห็นควรแล้วว่าไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่จะเพิ่ม เขาก็ไม่เพิ่มครับ ซึ่งเขาก็ได้ตอบคุณมาแล้วครับ ส่วนเขาก็คงไม่มาถามอะไรคุณ หรือต่อรองอะไรเพิ่มเติมหรอกครับ เพราะหลักฐานที่คุณนำส่งไม่อยู่ในเกณฑ์ ถึงอย่างไรเขาก็เพิ่มวงเงินถาวรให้คุณไม่ได้อยู่ดี
คุณต้องเข้าใจนะครับว่า การมีบัตรเครดิต หมายถึง บุคคลนั้นมีเครดิต มีความน่าเชื่อถือทางการเงิน บัตรเครดิตช่วยเพิ่มความสะดวกสบายทางการเงินให้แก่ผู้มีเครดิต การถือบัตรคือการที่เขาให้อำนาจการใช้เงินล่วงหน้าแก่คุณ โดยเงินล่วงหน้าที่เขาให้คุณใช้ ก็คือเงินของเขา ฉะนั้นการไปขอเพิ่มวงเงินก็คือการขอยืมเงินเขาเพิ่มกรายๆแหละครับ ถึงผู้ถือบัตรเครดิตจะมองตนเองว่าเป็นลูกค้า แต่ความจริงแล้วในภาษาชาวบ้านคือลูกหนี้ครับ
ซึ่งผมเข้าใจคุณนะครับ ว่าคุณคงต้องการเอาเงินไปหมุน การเพิ่มวงเงินให้คุณก็สามารถทำให้คุณหมุนเงินได้มากขึ้น ซึ่งเป็นมุมมองที่คุณมองอยู่ฝั่งเดียว แต่ถ้าพิจารณาในมุมมองของเจ้าของเงินแล้ว เขาต้องการหลักประกันครับว่าเขาจะได้เงินต้นคืน ซึ่งหลักประกันคุณมันไม่พอครับ เพราะฐานรายได้ที่พอจะเชื่อถือได้ของคุณมันไม่เยอะมาก ส่วนรายได้อื่นของคุณนั้น เขามองไม่เห็นครับ เขาไม่รู้หรอกครับว่าคุณได้มาจากทางไหนอย่างไร และรายได้นั้นจะมั่นคงตลอดไปหรือเปล่า ซึ่งถ้าขอเพิ่มวงเงินชั่วคราวก็พอมีความเป็นไปได้ครับ แต่การขอเพิ่มวงเงินถาวรนั้น บางทีมันต้องมีหลักประกันที่ดีกว่านี้ครับ การที่คุณจ่ายตรงมันไม่ได้บอกว่าเรามีเครดิตดีครับ มันเป็นหน้าที่อยู่แล้วครับ เพราะถ้าคุณจ่ายไม่ครบ ไม่ตรง ก็จะมีดอกเบี้ยเรียกเก็บครับ คนที่จ่ายครบ จ่ายตรง ธนาคารไม่ได้ดอกเบี้ยส่วนนี้ครับ จะว่าไปแล้ว คนที่จ่ายขั้นต่ำดูจะสร้างรายได้ให้ธนาคารมากกว่าคนที่จ่ายตรงอีกนะครับ
คือผมเข้าใจคุณนะครับที่คุณมีอารมณ์โมโห แต่ผมไม่เห็นด้วยเลยที่ไปพูดจาให้เจ้าหน้าที่รับสายต้องลำบากใจกับการไปพูดใส่ๆๆเขา แม้จะไม่ได้หยาบคาย และถึงแม้คุณจะบอกว่าไม่ได้ว่าเขาก็ตาม น้ำเสียงของเขาฟังดูลำบากใจมากในการตอบแต่ละครั้ง
ปล ผมอยากให้เห็นใจเจ้าหน้าที่เขานะครับ เขาทำงานรับโทรศัพท์ทั้งวัน คนที่โทรไปหาเขาก็คือคนที่พบปัญหากันทั้งนั้นครับ หากใครก็ตามที่ไม่พอใจอะไรสักอย่างโทรไปพูดกับเขาแบบนี้บ่อยๆ สุขภาพจิตเขาจะเสียเอานะครับ เขาทำงาน เราก็ทำงาน ต่างคนต่างทำงานหารายได้กันทั้งนั้น ควรปฏิบัติต่อกันแบบให้เกียรติกันครับ
ในความเห็นแล้ว คุณน่ะฐานเงินเดือนไม่มากครับ วงเงินบัตรเครดิตที่เขาให้ เขาก็ต้องพิจารณาไปตามหลักเกณฑ์ของเขาครับ คุณส่งหลักฐานไปให้เขาพิจารณา เขาก็รับหลักฐานคุณเอาไว้แล้วส่งต่อให้ฝ่ายที่มีอำนาจพิจารณาตามหลักเกณฑ์ที่ผู้บริหารวางไว้อีกที ถ้าเขาเห็นควรแล้วว่าไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่จะเพิ่ม เขาก็ไม่เพิ่มครับ ซึ่งเขาก็ได้ตอบคุณมาแล้วครับ ส่วนเขาก็คงไม่มาถามอะไรคุณ หรือต่อรองอะไรเพิ่มเติมหรอกครับ เพราะหลักฐานที่คุณนำส่งไม่อยู่ในเกณฑ์ ถึงอย่างไรเขาก็เพิ่มวงเงินถาวรให้คุณไม่ได้อยู่ดี
คุณต้องเข้าใจนะครับว่า การมีบัตรเครดิต หมายถึง บุคคลนั้นมีเครดิต มีความน่าเชื่อถือทางการเงิน บัตรเครดิตช่วยเพิ่มความสะดวกสบายทางการเงินให้แก่ผู้มีเครดิต การถือบัตรคือการที่เขาให้อำนาจการใช้เงินล่วงหน้าแก่คุณ โดยเงินล่วงหน้าที่เขาให้คุณใช้ ก็คือเงินของเขา ฉะนั้นการไปขอเพิ่มวงเงินก็คือการขอยืมเงินเขาเพิ่มกรายๆแหละครับ ถึงผู้ถือบัตรเครดิตจะมองตนเองว่าเป็นลูกค้า แต่ความจริงแล้วในภาษาชาวบ้านคือลูกหนี้ครับ
ซึ่งผมเข้าใจคุณนะครับ ว่าคุณคงต้องการเอาเงินไปหมุน การเพิ่มวงเงินให้คุณก็สามารถทำให้คุณหมุนเงินได้มากขึ้น ซึ่งเป็นมุมมองที่คุณมองอยู่ฝั่งเดียว แต่ถ้าพิจารณาในมุมมองของเจ้าของเงินแล้ว เขาต้องการหลักประกันครับว่าเขาจะได้เงินต้นคืน ซึ่งหลักประกันคุณมันไม่พอครับ เพราะฐานรายได้ที่พอจะเชื่อถือได้ของคุณมันไม่เยอะมาก ส่วนรายได้อื่นของคุณนั้น เขามองไม่เห็นครับ เขาไม่รู้หรอกครับว่าคุณได้มาจากทางไหนอย่างไร และรายได้นั้นจะมั่นคงตลอดไปหรือเปล่า ซึ่งถ้าขอเพิ่มวงเงินชั่วคราวก็พอมีความเป็นไปได้ครับ แต่การขอเพิ่มวงเงินถาวรนั้น บางทีมันต้องมีหลักประกันที่ดีกว่านี้ครับ การที่คุณจ่ายตรงมันไม่ได้บอกว่าเรามีเครดิตดีครับ มันเป็นหน้าที่อยู่แล้วครับ เพราะถ้าคุณจ่ายไม่ครบ ไม่ตรง ก็จะมีดอกเบี้ยเรียกเก็บครับ คนที่จ่ายครบ จ่ายตรง ธนาคารไม่ได้ดอกเบี้ยส่วนนี้ครับ จะว่าไปแล้ว คนที่จ่ายขั้นต่ำดูจะสร้างรายได้ให้ธนาคารมากกว่าคนที่จ่ายตรงอีกนะครับ
คือผมเข้าใจคุณนะครับที่คุณมีอารมณ์โมโห แต่ผมไม่เห็นด้วยเลยที่ไปพูดจาให้เจ้าหน้าที่รับสายต้องลำบากใจกับการไปพูดใส่ๆๆเขา แม้จะไม่ได้หยาบคาย และถึงแม้คุณจะบอกว่าไม่ได้ว่าเขาก็ตาม น้ำเสียงของเขาฟังดูลำบากใจมากในการตอบแต่ละครั้ง
ปล ผมอยากให้เห็นใจเจ้าหน้าที่เขานะครับ เขาทำงานรับโทรศัพท์ทั้งวัน คนที่โทรไปหาเขาก็คือคนที่พบปัญหากันทั้งนั้นครับ หากใครก็ตามที่ไม่พอใจอะไรสักอย่างโทรไปพูดกับเขาแบบนี้บ่อยๆ สุขภาพจิตเขาจะเสียเอานะครับ เขาทำงาน เราก็ทำงาน ต่างคนต่างทำงานหารายได้กันทั้งนั้น ควรปฏิบัติต่อกันแบบให้เกียรติกันครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
คุณต้องเคารพกติกานะครับ การสมัครมันมีทั้งผ่านไม่ผ่าน ไม่ว่าจะใช้เวลา 10 นาทีหรือ 10 ปี ไม่ผ่านก็คือไม่ผ่าน ปฏิเสธเร็วคุณหาว่าเขาชุ่ย แต่คุณไม่ดูว่ารายได้คุณแทบจะเป็นขั้นต่ำที่จะทำบัตรเครดิตได้แต่วงเงินได้ถึง 4 เท่าแล้ว (ปัจจุบันแบ็งค์ชาติให้อนุมัติได้ 1.5 เท่าสำหรับคนเงินเดือนไม่ถึง 3 หมื่น) แม็กซ์สุด 5 เท่า(สำหรับคนเงินเดือน 5 หมื่นอัพ) จะไปขอคุยกับฝ่ายพิจารณาเขาไม่คุยหรอกครับ เขาก็เบื่อการโต้แย้งต่อรองอะไรพวกนี้แหละ วันๆ เขาต้องพิจารณากี่เคส ต้องมาเสียเวลากับคนไม่ยอมรับผลคนเดียว(หรือถ้าคุณทำได้ก็ต้องมีคนอื่นๆ ทำตาม)คนอื่นที่สมัครเข้ามาก็รอเหงือกแห้งพอดี
แสดงความคิดเห็น
ฝ่ายพิจารณาอนุมัติวงเงินถาวรของบัตร Firstchoice ปฏิเสธคำขอของลูกค้า ภายในเวลาไม่ถึง10นาที
วงเงินรวมปัจจุบัน 65,000 บาท ฐานเงินเดือนปัจจุบัน 15,435 บาท
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ยื่นหลักฐานการพิจารณาขอเพิ่มวงเงินไป
รวบรวมหลักฐานสลิปเงินเดือน สเตทเม้นท์6เดือน
เดินทางไปส่งเรื่องให้พนักงานที่ช้อปดำเนินการให้ฝ่ายอนุมัติพิจารณา
เรื่องถึงฝ่ายอนุมัติ 16.31น. ใช้เวลาตรวจสอบและปฏิเสธในเวลาไม่ถึง 10 นาที
ทั้งที่เครดิตไม่เคยเสีย ไม่เคยจ่ายล่าช้า และจ่ายเต็มยอดตลอดตั้งแต่สมัครใช้งาน
ขอรายงานการทำงานที่แย่มาก ของฝ่ายพิจารณาอนุมัติวงเงิน
ขอเสนอให้มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายพิจารณาเป็นตัวแทนอุธรณ์แทนลูกค้า
เพื่อถ่วงดุลกับคนที่มีอำนาจแต่ใช้การทำงานลวกๆโดยไม่สนใจใคร
และพิจารณาปรับวงเงินอัตโนมัติ ให้กับลูกค้าที่เครดิตดีมาโดยตลอด