คือมีเรื่องจะปรึกษาค่ะ..
เป็นปัญหาเรื่องเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงค่ะ
คืองี้ ที่บ้านตอนนี้มีกระต่ายสองตัวซึ่งเป็นของพี่ชายแต่คนที่ต้องเลี้ยงกลับเป็นบรรดาน้องๆและเรา ซึ่งเราไม่โอเคกับสัตว์เลี้ยงเพราะเราไม่ชอบการเลี้ยงสัตว์ใดๆ แต่ไม่ได้เกลียดสัตว์นะคะ แค่ไม่ชอบที่เราต้องมาเลี้ยงพวกเขา
เรื่องมันมาเริ่มก็เมื่อราวๆ6ปีก่อน
พี่ชายได้เอากระต่ายคู่ผัวเมียมาเลี้ยง(เลี้ยงในห้อง) ซึ่งตอนนั้นเขายังเลี้ยงด้วยตัวเองอยู่ จนต่อมาพวกมันคลอดลูกเป็นคอกเลย พี่ชายเริ่มให้เราเข้ามาช่วยเลี้ยงซึ่งเราก็พอช่วยได้เล็กๆน้อย แต่สุดท้ายพอพวกมันโตมากๆก็ได้ย้ายเอาไปเลี้ยงในกรงใหญ่กลางสนานหญ้าในบ้าน ช่วงนี้ภาระในการดูแลตกไปที่พ่อแม่ซะส่วนใหญ่ (ต้องบอกก่อนว่าพี่ชายยังคงดูแลแต่เป็นส่วนในเรื่องของเงินที่นำไปซื้ออาหารและยาหรืออุปกรณ์ในการเลี้ยงดูต่างๆแทน ส่วนเรื่องการลงแรงในการทำความสะอาดป้อนอาหารจะตกมาที่คนในบ้าน)
ซึ่งต่อมาพวกมันก็ทยอยตายไปจนหมด จนผ่านมาหลายเดือน พี่ชายก็ไปเอากระต่ายมาเลี้ยงใหม่อีก2ตัวซึ่งปัญหามาเกิดในรุ่นนี้ ตอนแรกๆพี่ชายก็เลี้ยงคนเดียวในบ้าน แต่หลังๆพี่ชายทำงานเพิ่มออกไปขายของตั้งแต่ตี2 จะกลับบ้านก็เที่ยง พี่ชายเริ่มบอกให้เราช่วยในบ้างครั้ง เราก็ok แต่ต่อมาพี่ชายมีแฟนและย้ายไปอยู่กับแฟนที่บ้านของแฟน ทิ้งกระต่ายให้อยู่กับเราและน้องๆที่บ้าน พี่ชายยังคงเป็นคนที่ซื้ออาหารมาให้โดยจะแวะเอามาให้ แต่การเลี้ยงดูทำความสะอาดเริ่มตกมาที่เรา ซึ่งเราไม่โอเคแล้ว เขาบอกให้เราต้องล้างกรงทุกๆ2วัน พอเราไม่ทำเขาจะโทรมาด่าเลย เออ..ลืมบอก เราทำงานฟรีแลนซ์เลยอยู่บ้านซะส่วนใหญ่ ทำให้เขาที่บ้านคิดว่าเราไม่ค่อยทำอะไร อยู่บ้านว่างๆ แต่ที่จริงเรามักมาทำงานตอนกลางคืนตอนเช้าเราหลับ ซึ่งพวกเขาไม่เข้าใจและไม่เชื่อว่างานของเราก็หนักไม่น้อยกว่าเขา แค่เราไม่ได้เหนื่อยกายเท่าเขาแต่เราก็เหนื่อยสมองมากนะคะ.. บวกกับเรามีปัญหาปวดหลังแถวๆก้นกบ ซึ่งเป็นมาตั้งแต่อายุ16 เราเคยล้มเงยหลังอย่างแรงจนปวดมาตลอด ยืนนานๆก็ขาสั่นไร้แรงจะยืนเลยค่ะ แต่เราไม่เคยไปหาหมอหรอกนะคะ ซึ่งทุกคนในบ้านไม่มีใครเชื่อว่าเราเป็นและมันก็หนักขึ้นทุกวัน
เขาจะบอกว่าเราสำออย อ้างเพราะไม่อยากทำงานหนัก ซึ่งไม่จริง งานบ้านเราทำตลอดต่อให้ปวดหลังปวดก้นใจจะขาด แต่เราไม่เคยทำให้ใครเห็นเราทำเงียบๆทำกลางดึกไรงี้... นี้เป็นอีกปัญหาด้านร่างกายที่ไม่อำนวยในการเลี้ยงสัตว์
ซึ่งเราต้องมาดูแลกระต่ายได้ราวๆจะ2ปีกว่าๆแล้ว ภาระของเรามันหนักกว่าแต่ก่อนไปโดยปริยาย พี่ชายสั่งว่าต้องให้ข้าวเช้าเย็น ต้องล้างถาดของเสีย&อุปกรณ์ต่างๆทุกๆ2วัน ซึ่งแต่ละกรงหนักเกือบ2-3โล ซึ่งจะมีบ้างครั้งที่เราทำอะไรไม่ได้ดั่งใจเขา พี่ชายก็จะว่าเราพอเราทนไม่ไหวก็พูดกับพี่ชายตรงๆ ว่าที่จริงเราไม่เคยอยากจะเลี้ยงสัตว์เลย(ซึ่งเราบอกมาตั้งแต่แรกๆแล้วว่าไม่โอเคกับการเลี้ยงสัตว์) เราทำให้ได้เท่านี้แหละ ซึ่งเขาหาว่าเราเป็นอีใจดำ ทั้งๆที่เราก็พยายามช่วยเท่าที่เราทำได้มาตลอด และคนในบ้านก็มองเราว่าเราผิดที่ไม่มีน้ำใจ ในใจเรามีแต่คำถามว่ากูผิดหรอวะ?? แล้วที่ผ่านมา6ปีกูยังไม่ดีพออีกหรอ?? ทั้งๆที่เราต้องกลั้นใจฝืนทนเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวไปถางหญ้ามาให้กระต่ายกิน เราทนเก็บไม่ชอบไม่พอใจมาตลอดนี่มันยังไม่ดีพออีกหรอ?? แล้วทุกคนคิดว่าเราไม่ดีอย่างที่พี่ชายว่ามั้ย? เราควรทำอย่างไรต่อไปดี...😓😓
เราผิดหรอ?? ที่ไม่ชอบเลี้ยงสัตว์
เป็นปัญหาเรื่องเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงค่ะ
คืองี้ ที่บ้านตอนนี้มีกระต่ายสองตัวซึ่งเป็นของพี่ชายแต่คนที่ต้องเลี้ยงกลับเป็นบรรดาน้องๆและเรา ซึ่งเราไม่โอเคกับสัตว์เลี้ยงเพราะเราไม่ชอบการเลี้ยงสัตว์ใดๆ แต่ไม่ได้เกลียดสัตว์นะคะ แค่ไม่ชอบที่เราต้องมาเลี้ยงพวกเขา
เรื่องมันมาเริ่มก็เมื่อราวๆ6ปีก่อน
พี่ชายได้เอากระต่ายคู่ผัวเมียมาเลี้ยง(เลี้ยงในห้อง) ซึ่งตอนนั้นเขายังเลี้ยงด้วยตัวเองอยู่ จนต่อมาพวกมันคลอดลูกเป็นคอกเลย พี่ชายเริ่มให้เราเข้ามาช่วยเลี้ยงซึ่งเราก็พอช่วยได้เล็กๆน้อย แต่สุดท้ายพอพวกมันโตมากๆก็ได้ย้ายเอาไปเลี้ยงในกรงใหญ่กลางสนานหญ้าในบ้าน ช่วงนี้ภาระในการดูแลตกไปที่พ่อแม่ซะส่วนใหญ่ (ต้องบอกก่อนว่าพี่ชายยังคงดูแลแต่เป็นส่วนในเรื่องของเงินที่นำไปซื้ออาหารและยาหรืออุปกรณ์ในการเลี้ยงดูต่างๆแทน ส่วนเรื่องการลงแรงในการทำความสะอาดป้อนอาหารจะตกมาที่คนในบ้าน)
ซึ่งต่อมาพวกมันก็ทยอยตายไปจนหมด จนผ่านมาหลายเดือน พี่ชายก็ไปเอากระต่ายมาเลี้ยงใหม่อีก2ตัวซึ่งปัญหามาเกิดในรุ่นนี้ ตอนแรกๆพี่ชายก็เลี้ยงคนเดียวในบ้าน แต่หลังๆพี่ชายทำงานเพิ่มออกไปขายของตั้งแต่ตี2 จะกลับบ้านก็เที่ยง พี่ชายเริ่มบอกให้เราช่วยในบ้างครั้ง เราก็ok แต่ต่อมาพี่ชายมีแฟนและย้ายไปอยู่กับแฟนที่บ้านของแฟน ทิ้งกระต่ายให้อยู่กับเราและน้องๆที่บ้าน พี่ชายยังคงเป็นคนที่ซื้ออาหารมาให้โดยจะแวะเอามาให้ แต่การเลี้ยงดูทำความสะอาดเริ่มตกมาที่เรา ซึ่งเราไม่โอเคแล้ว เขาบอกให้เราต้องล้างกรงทุกๆ2วัน พอเราไม่ทำเขาจะโทรมาด่าเลย เออ..ลืมบอก เราทำงานฟรีแลนซ์เลยอยู่บ้านซะส่วนใหญ่ ทำให้เขาที่บ้านคิดว่าเราไม่ค่อยทำอะไร อยู่บ้านว่างๆ แต่ที่จริงเรามักมาทำงานตอนกลางคืนตอนเช้าเราหลับ ซึ่งพวกเขาไม่เข้าใจและไม่เชื่อว่างานของเราก็หนักไม่น้อยกว่าเขา แค่เราไม่ได้เหนื่อยกายเท่าเขาแต่เราก็เหนื่อยสมองมากนะคะ.. บวกกับเรามีปัญหาปวดหลังแถวๆก้นกบ ซึ่งเป็นมาตั้งแต่อายุ16 เราเคยล้มเงยหลังอย่างแรงจนปวดมาตลอด ยืนนานๆก็ขาสั่นไร้แรงจะยืนเลยค่ะ แต่เราไม่เคยไปหาหมอหรอกนะคะ ซึ่งทุกคนในบ้านไม่มีใครเชื่อว่าเราเป็นและมันก็หนักขึ้นทุกวัน
เขาจะบอกว่าเราสำออย อ้างเพราะไม่อยากทำงานหนัก ซึ่งไม่จริง งานบ้านเราทำตลอดต่อให้ปวดหลังปวดก้นใจจะขาด แต่เราไม่เคยทำให้ใครเห็นเราทำเงียบๆทำกลางดึกไรงี้... นี้เป็นอีกปัญหาด้านร่างกายที่ไม่อำนวยในการเลี้ยงสัตว์
ซึ่งเราต้องมาดูแลกระต่ายได้ราวๆจะ2ปีกว่าๆแล้ว ภาระของเรามันหนักกว่าแต่ก่อนไปโดยปริยาย พี่ชายสั่งว่าต้องให้ข้าวเช้าเย็น ต้องล้างถาดของเสีย&อุปกรณ์ต่างๆทุกๆ2วัน ซึ่งแต่ละกรงหนักเกือบ2-3โล ซึ่งจะมีบ้างครั้งที่เราทำอะไรไม่ได้ดั่งใจเขา พี่ชายก็จะว่าเราพอเราทนไม่ไหวก็พูดกับพี่ชายตรงๆ ว่าที่จริงเราไม่เคยอยากจะเลี้ยงสัตว์เลย(ซึ่งเราบอกมาตั้งแต่แรกๆแล้วว่าไม่โอเคกับการเลี้ยงสัตว์) เราทำให้ได้เท่านี้แหละ ซึ่งเขาหาว่าเราเป็นอีใจดำ ทั้งๆที่เราก็พยายามช่วยเท่าที่เราทำได้มาตลอด และคนในบ้านก็มองเราว่าเราผิดที่ไม่มีน้ำใจ ในใจเรามีแต่คำถามว่ากูผิดหรอวะ?? แล้วที่ผ่านมา6ปีกูยังไม่ดีพออีกหรอ?? ทั้งๆที่เราต้องกลั้นใจฝืนทนเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวไปถางหญ้ามาให้กระต่ายกิน เราทนเก็บไม่ชอบไม่พอใจมาตลอดนี่มันยังไม่ดีพออีกหรอ?? แล้วทุกคนคิดว่าเราไม่ดีอย่างที่พี่ชายว่ามั้ย? เราควรทำอย่างไรต่อไปดี...😓😓