วิเคราะห์จัดหนัก ซีรีย์นี้ไม่มีใครปกติเลย It’s ok to not be ok. (ปมตัวละคร+Easter Egg)

วิเคราะห์ซีรีย์  It's Okay to Not Be Okay




ซีรีย์เกาหลีที่ไม่มีใครปกติเลย
หรือเราเองที่เป็นคนดูก็อาจจะไม่ปกติ😂(ฮ่า)

หลังดูจบไม่คิดว่าซีรีย์เกาหลีจะกล้าสร้าง
คาแรคเตอร์นางเอกและพระเอกที่จิตและเศร้าขนาดนี้  

มีเรื่องราวที่ซ้อนไว้มากมาย
ตัวละครแกำลังเผชิญกับโรคอะไรกันอยู่บ้าง
ติดตามกันได้เลยย❤️

ก่อนอื่นเรามาวิเคราะห์คาแร็คเตอร์ของนางเอก
โดยจากการสังเกต จะเห็นได้เลยว่านางเอก
มีอาการทางจิตเวชบ่งบอก ถึง 3 โรค




1.Alexithymia  โรคนี้ คือการที่ไม่สามารถรู้ว่าอะไรคือความสุขความเศร้าและไม่รู้จักความรัก พวกเขาดูเย็นชาไม่กระพริบตาทั้งที่เจอความประหลาดใจ ภายในคือความรู้สึกที่ไม่รู้จักและไม่สามารถแปลอารมณ์ใดใดได้ ดังนั้นเราจะเห็นว่าอารมณ์ต่างๆของนางเอก อาจมาจากประสบการณ์และการเลียนแบบจากผู้คนในสังคม




โดยฉากนี้เห็นได้ชัด ที่แม่ของนางเสียชีวิตอยู่ในห้องสีหน้าของนางเอกดูเรียบเฉย แทบไม่มีความกลัวหรือความเศร้าโศกใดใดเลย



และในฉากนี้ พระเอกก็ได้ค้นพบว่านางเอกนั้น อาจจะอยู่ในภาวะไร้ความรู้สึก+อาการต่อต้านสังคม

ดังนั้น คำว่ารักของนางเอกที่ตะโกนออกมา จึงเป็นเพียงการอยากเอาชนะ เพื่อให้ได้พระเอกมาครอบครองเท่านั้นเอง พระเอกจึงเลือกเดินหันหลังทั้งๆที่นางเอกกำลังตะโกนสารภาพรักอย่างบ้าคลั่ง



ตอกย้ำอาการด้วยฉากที่พระเอกถามนางเอก ว่ารู้จักไหมความโกรธคืออะไร เธอรู้สึกยังไง เพราะต่อให้ตายไป นางเอกก็ไม่มีทางรับรู้ได้ (แรงส์มาก😭)


และการเป็นที่โรคนี้ จึงอาจเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้พ่อของนางเอก ตัดสินว่านางเอกเป็นตัวประหลาด และลงมือฆ่าเธอในตอนเด็กนั้นเอง



อีกทั้งใน ตอนที่ 4 ซีรีย์ได้ใช้เรื่องของราว ซอมบี้ คนที่เกิดมาไร้ความรู้สึก มีแค่อยากกินอาหารเพื่อดำรงชีวิตเท่านั้น

แม่ของซอมบี้จึงจับซอมบี้ขังไว้ในห้องใต้ดินและป้อนเนื้อสดๆให้  วันนึงเกิดสงคราม แม่ของซอมบี้ไม่สามารถหาอาหารได้ จึงตัดสินใจ สละร่างกายตัวเองทีละส่วน เพื่อเป็นอาหารให้ซอมบี้ บุตรที่รักของเธอ

ดังนั้นในนิทานนี้ นางเอก คือ ซอมบี้ไร้ความรู้สึก แม่ของนางเอก& พระเอก คือแม่ของซอมบี้ผู้ที่สละชีพตัวเองเพื่อให้ลูกอิ่ม  ฉากสุดท้ายเล่นทำน้ำตาไหลพราก เพราะซอมบี้น้อยกำลังสัมผัสได้ว่า ความรัก ความเสียสละของแม่ที่มอบให้ตนนั้น ว่ามันช่างอบอุ่นเสียเหลือเกิน

จากพระเอกที่ตัดสินใจทิ้งความสัมพันธ์เพราะรู้ว่านางเอกอาจมีอาการนี้ จึงเข้าใจความทรมานของการไร้ความรู้สึก บวกกับเพื่อนพระเอกเล่าเรื่องที่นางเอกถูกพ่อทำร้ายให้ฟัง

จึงรีบขี่รถมอเตอร์ไซด์ฝ่าฝนออกไปหานางเอก เพราะต่อให้นางเอกไร้ความรู้สึก แต่ลึกๆมนุษย์ทุกคน ย่อมโหยหาอ้อมกอดของใครสักคน เหมือนที่ซอมบี้น้อยได้รับจากแม่ก่อนแม่ตายนั้นเอง

*แต่จริงๆแล้วตัวซอมบี้เองก็อาจหมายถึงความสัมพันธ์ของพระเอกกับแม่ได้นะคะ เดี๋ยวนำมาเขียนอีกทีครั้งหน้านะคะ ❤️



2. Antisocial Personality Disorder (โรคต่อต้านสังคม)  ผู้ป่วยโรคต่อต้านสังคมจะแสดงอาการเพิกเฉยต่อบุคคลอื่นและต่อกฎหมาย ด้วยการทำลายทรัพย์สิน ลักขโมย ข่มขู่ คุกคามผู้อื่น หรืออาจจะหลอกลวง หลอกใช้ ต้มตุ๋นเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตนต้องการ ไม่ว่าจะเพื่อเงิน อำนาจ เซ็กส์ หรือแม้แต่เพื่อความสุขส่วนตัวเล็กน้อย โมโห หยาบคาย ชอบความรุนแรง ชอบทำร้ายคนอื่น ชอบรังแกสัตว์ ชอบละเมิดสิทธิผู้อื่น เวลาที่โกรธจะชอบใช้กำลังและไม่สามารถระงับอารมณ์ของตัวเองได้

จะเห็นว่านางเอกละเมิดกฏการสูบบุหรี่
ฆ่าสัตว์ต่างๆ เช่นผีเสื้อ ปลา อีกทั้งยัง
ชอบขโมยของมีคม ขโมยเครื่องรางของผอ รพ.

และเมื่อเวลานางเอกโกรธจัด จะไม่สามารถจัดการอารมณ์ของตัวเองได้ จนต้องระบายออกด้วยการลงมือทำร้ายคนที่ยั่วยุนั้นเองค่ะ



3.Sleep Paralysis (ภาษาไทยเรียกผีอำ) มันคืออาการที่ขยับตัวไม่ได้ตอนที่นอนหลับ (จาก EP4)

เป็นภาวะที่ร่างกายรู้สึกตัวแต่ไม่สามารถขยับร่างกายได้ จะเกิดขึ้นในช่วงกึ่งหลับกึ่งตื่น ผู้ที่ประสบภาวะนี้จะไม่สามารถเคลื่อนไหวหรือพูดได้ชั่วขณะ รวมทั้งอาจเกิดอาการเหมือนถูกกดหรือสำลักบางอย่าง เกิดหารเห็นภาพหลอนของสิ่งลี้ลับ ตกอยู่ในความหวาดกลัว และอาจะเป็นอาการร่วมกับโรคทางจิตเวชอื่นๆ ได้อีกด้วย

Cr. Sandbox @twitter.com



มาถึงพระเอกเอง ที่ก็ไม่ใช่คนปกติ
เพราสิ่งที่มุนนัมแทเผชิญอยู่คือ
กลไกป้องกันทางจิตที่เรียกว่า

“ภาวะการเก็บกด(Repression)”

โดยการเก็บกดนั้นเป็นความเก็บกดความต้องการหรือความคิดบางอย่างเพื่อให้ลืมเนื่องจากความรู้สึกสำนึกผิด (guilt) แม้จะรู้อยู่ในใจตนเองคนเดียวก็ยังมีความสำนึกผิดอยู่ จึงต้องพยายามทำให้ตนเองลืมความต้องการนั้นเสีย



จากฉากนี้จะเห็นว่าพระเอกถูกคนไข้อ้วกใส่ หากเป็นคนปกติอาจจะมีอาการโวยวาย แสดงความขยะแขยง  พระเอกนั้นกลับเลือกที่จะเก็บความรู้สึกทั้งหมดลงไป  ตัวหนังแสดงออกผ่านซีนที่พระเอกเปรียบตัวเองกำลังทิ้งตัวนอนไปในดงกลีบกุหลาบ แสดงความขัดแย้ง(irony) กับสิ่งสกปรกที่พระเอกกำลังเจอ



อีกหลักฐานคือ พระเอกไม่ยอมรับเรื่องแย่ๆในชีวิตที่เจอ แต่เลือกจะแสดงออก โดยใช้รอยยิ้มที่ดูแล้วแทบไม่มีความจริงใจเลย เพื่อหลีกหนีความรู้สึก จนพระเอกถูกคนไข้ตบหน้า และแม้แต่เพื่อนของพระเอกก็ได้กล่าวว่า หยุดยิ้มสักทีเถอะ เพราะมันดูเหมือนโจ้กเกอร์ที่กำลังยิ้มอยู่

(มีอีกหลายซีนที่วิเคราะห์ทฤษฎีและซัพพอตได้ดี ติดตามได้ในเพจ https://www.facebook.com/literature001/)



โดยความสนุกของซีรีย์เรื่องนี้คือ  การใช้นิทานดำเนินการคลายปมต่างๆ โดยในนี้เรื่อง เด็กน้อยผู้เติบโตจากฝันร้ายเพื่อคนให้ที่เจอเรื่องโหดร้ายในชีวิต(trauma) ยอมรับความเจ็บปวด และวิ่งเข้าหามัน  เพื่อให้เราเติบโตกลายมาเป็น “มนุษย์ที่แท้จริง”

จะเห็นได้ว่า พี่ชายของพระเอกได้ยึดเหนี่ยวนิทานของนางเอก เพื่อให้ตัวเองผ่านโลกอันโหดร้ายนี้ได้ ต่างกับพระเอกที่เลือกที่จะหนี และเก็บกดทุกอย่างไว้ผ่านในใจ. แท้จริงแล้วคนที่อ่อนแอคือพระเอก และนางเอก โกมุนยอง คือผู้ที่จะมากะเทาะความเจ็บปวดในชีวิตพระเอกออกมานั้นเอง


เพื่อนๆพี่ๆพันทิปชอบฉากไหน ซีนไหนกันบ้างคะ
*****นี้เป็นซีนโปรดของจขกท****


ชอบตรงที่ใช้สัญลักษณ์ เป็นประภาคาร เพราะสิ่งนี้ทำหน้าที่ ส่องแสงให้คนเดินเรือในทะเลที่มืดสนิท เหมือนกับนางเอกที่กำลังอยู่ในความมืดดำดิ่งลงไปในความว่างเปล่า

จนพระเอกลุยฝนมาหา และเข้ามาโอบกอด
การดีไซน์ฉากแบบนี้ ประทับหัวใจ
อิชั้นมาก โห ร้องไห้ออกมาหนักสุดๆ😭


จริงๆยังมีสัญลักษณ์และตัวประกอบอื่นๆ
ที่ดูยังไงก็ไม่ปกติอีกมาก ใครมีไอเดียอะไร มาคุยแลกเปลี่ยนกันในเพจได้นะคะ  ☺️

https://www.facebook.com/literature001/


สุดท้ายนี้ หากข้อมูลตรงไหน
ผิดพลาดประการใด สามารถชี้แจ้งได้เลยค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่