นางสิริวิภา สุพรรณธเนศ รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต.อยู่ระหว่างตรวจสอบแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวน (ไฟลิ่ง) ของบมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบมจ.ปตท. (PTT) ซึ่งได้ยื่นคำขออนุญาตเพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) และไฟลิ่งเข้ามาเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2563
ทั้งนี้ ก.ล.ต.ว่าจะพิจารณาอนุญาตให้ OR เสนอขาย IPO และเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ภายในไตรมาส 3/63 ซึ่งเป็นไปตามกระบวนการพิจารณาคำขออนุญาตภายใน 165 วัน นับแต่วันที่สำนักงาน ก.ล.ต. ได้ รับคำขอ IPO แบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ ร่างหนังสือชี้ชวน และเอกสาร อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องครบถ้วนสมบูรณ์
สำหรับภาพรวมของการยื่นคำขออนุญาตเพื่อเสนอขายหุ้น IPO ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา ยังคงมีบริษัทเอกชนเข้ามายื่นขออนุญาตอย่างต่อเนื่อง เป็นการสะท้อนว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการยื่นคำขออนุญาต แต่อาจจะส่งผลต่อระยะเวลาการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ของบริษัทเอกชน ที่ต้องดูภาวะตลาดและสถานการณ์ให้เหมาะสม
ด้านนางสาวจอมขวัญ คงสกุล ผู้ช่วยเลขาธิการ สำนักงาน ก.ล.ต. กล่าวว่า การปรับเกณฑ์ใหม่ในการกำกับดูแลการเสนอขาย IPO นั้น คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 3/63 และสามารถเริ่มใช้ได้ทันที
โดยก.ล.ต.ได้รวบรวมคำแนะนำ และแนวทางปฎิบัติสำหรับที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) เพื่อให้มีความชัดเจนมากขึ้น เช่น โครงสร้างธุรกิจไม่มีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ ระบบควบคุมภายในที่ดี คุณสมบัติของกรรมการและผู้บริหารไม่มีลักษณะต้องห้าม และจัดทำงบการเงินที่น่าเชื่อถือ ซึ่งการปรับเกณฑ์ดังกล่าวจะส่งผลดีต่อกระบวนการพิจารณาการเสนอขาย IPO รวดเร็วยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ก.ล.ต. มีการกำหนดแนวทางในการกำกับดูแลการเสนอขายหลักทรัพย์ต่อประชาชน (IPO) โดยใช้วิธีการพิจารณาอนุญาตตามความเหมาะสม (merit-based) และวิธีการเปิดเผยข้อมูลที่ให้ผู้ลงทุนตัดสินใจด้วยตนเอง (disclosure-based) เพื่อยกระดับคุณภาพของบริษัทที่เสนอขาย IPO ให้มีระบบการกำกับดูแลกิจการที่ดีและมีความโปร่งใส รวมถึงการคุ้มครองผู้ลงทุนให้ได้รับข้อมูลที่เพียงพอต่อการตัดสินใจลงทุน
ทั้งนี้ OR จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน 2,700 ล้านหุ้น (ไม่รวมจำนวนหุ้นส่วนเกินสำหรับการให้สิทธิซื้อหุ้นส่วนเกิน) โดย จะจัดสรรหุ้น 300 ล้านหุ้น เพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของ ปตท. เฉพาะกลุ่มที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนตามสัดส่วนการถือหุ้นใน ปตท. เพื่อรักษาสิทธิ (Pre-emptive Rights)
ขณะที่หากมีความต้องการซื้อหุ้นเพิ่มทุนมากกว่าจำนวนหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ OR เสนอขายทั้งหมดข้างต้น อาจมีการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพิ่มเติมในจำนวนไม่เกิน 300 ล้านหุ้น ให้แก่ผู้จัดหาหุ้นส่วนเกิน (Over-Allotment Agent) เพื่อการส่งคืนหุ้นที่ยืมจาก ปตท. ในการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน (หากมี) ซึ่งภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ OR นั้น ปตท. จะยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ OR โดยจะถือหุ้นของ OR ในสัดส่วนไม่น้อยกว่า 75 % ของจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดที่ออกและจำหน่ายได้แล้วของ OR
ก.ล.ต.คาดไตรมาส 3 อนุญาต OR ขายหุ้นไอพีโอ 2,700 ล้านหุ้น
ทั้งนี้ ก.ล.ต.ว่าจะพิจารณาอนุญาตให้ OR เสนอขาย IPO และเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ภายในไตรมาส 3/63 ซึ่งเป็นไปตามกระบวนการพิจารณาคำขออนุญาตภายใน 165 วัน นับแต่วันที่สำนักงาน ก.ล.ต. ได้ รับคำขอ IPO แบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ ร่างหนังสือชี้ชวน และเอกสาร อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องครบถ้วนสมบูรณ์
สำหรับภาพรวมของการยื่นคำขออนุญาตเพื่อเสนอขายหุ้น IPO ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา ยังคงมีบริษัทเอกชนเข้ามายื่นขออนุญาตอย่างต่อเนื่อง เป็นการสะท้อนว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการยื่นคำขออนุญาต แต่อาจจะส่งผลต่อระยะเวลาการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ของบริษัทเอกชน ที่ต้องดูภาวะตลาดและสถานการณ์ให้เหมาะสม
ด้านนางสาวจอมขวัญ คงสกุล ผู้ช่วยเลขาธิการ สำนักงาน ก.ล.ต. กล่าวว่า การปรับเกณฑ์ใหม่ในการกำกับดูแลการเสนอขาย IPO นั้น คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 3/63 และสามารถเริ่มใช้ได้ทันที
โดยก.ล.ต.ได้รวบรวมคำแนะนำ และแนวทางปฎิบัติสำหรับที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) เพื่อให้มีความชัดเจนมากขึ้น เช่น โครงสร้างธุรกิจไม่มีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ ระบบควบคุมภายในที่ดี คุณสมบัติของกรรมการและผู้บริหารไม่มีลักษณะต้องห้าม และจัดทำงบการเงินที่น่าเชื่อถือ ซึ่งการปรับเกณฑ์ดังกล่าวจะส่งผลดีต่อกระบวนการพิจารณาการเสนอขาย IPO รวดเร็วยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ก.ล.ต. มีการกำหนดแนวทางในการกำกับดูแลการเสนอขายหลักทรัพย์ต่อประชาชน (IPO) โดยใช้วิธีการพิจารณาอนุญาตตามความเหมาะสม (merit-based) และวิธีการเปิดเผยข้อมูลที่ให้ผู้ลงทุนตัดสินใจด้วยตนเอง (disclosure-based) เพื่อยกระดับคุณภาพของบริษัทที่เสนอขาย IPO ให้มีระบบการกำกับดูแลกิจการที่ดีและมีความโปร่งใส รวมถึงการคุ้มครองผู้ลงทุนให้ได้รับข้อมูลที่เพียงพอต่อการตัดสินใจลงทุน
ทั้งนี้ OR จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน 2,700 ล้านหุ้น (ไม่รวมจำนวนหุ้นส่วนเกินสำหรับการให้สิทธิซื้อหุ้นส่วนเกิน) โดย จะจัดสรรหุ้น 300 ล้านหุ้น เพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของ ปตท. เฉพาะกลุ่มที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนตามสัดส่วนการถือหุ้นใน ปตท. เพื่อรักษาสิทธิ (Pre-emptive Rights)
ขณะที่หากมีความต้องการซื้อหุ้นเพิ่มทุนมากกว่าจำนวนหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ OR เสนอขายทั้งหมดข้างต้น อาจมีการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพิ่มเติมในจำนวนไม่เกิน 300 ล้านหุ้น ให้แก่ผู้จัดหาหุ้นส่วนเกิน (Over-Allotment Agent) เพื่อการส่งคืนหุ้นที่ยืมจาก ปตท. ในการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน (หากมี) ซึ่งภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ OR นั้น ปตท. จะยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ OR โดยจะถือหุ้นของ OR ในสัดส่วนไม่น้อยกว่า 75 % ของจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดที่ออกและจำหน่ายได้แล้วของ OR