สวัสดีค่ะ เรามาขอพื้นที่ตรงนี้ในการแชร์ประสบการณ์ที่เราเจอมาค่ะ ก่อนอื่นเลย เราขอออกตัวว่าเราเป็นเด็ก62 ที่ซิ่วไปเป็นเด็ก63 เราลาออกจากมหา’ลัยเก่าและติดที่ใหม่แล้วเรียบร้อย เราขอไม่เอ่ยชื่อสถาบันหรือบอกใบ้อื่นๆ เพื่อความปลอดภัยของเราและป้องกันการโดนฟ้องนะคะ
** ภาพที่นำมาประกอบกระทู้เป็นภาพจากเหตุการณ์จริงทั้งหมด และเราเซ็นเซอร์แล้วเรียบร้อย อาจมีคำหยาบบ้าง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ ** (หากเราเล่าสับสนต้องขออภัยด้วยนะคะ)
จุดประสงค์ที่เราโพสกระทู้นี้ หลักๆคือต้องการแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับระบบรับน้องที่เราเจอมา สภาพสังคม และสิ่งที่เรารู้สึกไม่โอเค(ความอิหยังของ)รุ่นพี่ในเหตุการณ์ค่ะ เวลาหรือเหตุการณ์บางอย่างอาจคลาดเคลื่อนบ้างเนื่องจากเรื่องนี้ผ่านมาปีกว่าแล้วค่ะ
เริ่มจากวันปฐมนิเทศช่วงปลายมิถุนายน เราจำได้ว่าเขาให้เข้าพบอาจารย์ที่ปรึกษากับอาจารย์ในสาขา หลังจากเข้าพบอาจารย์แล้ว รุ่นพี่ให้รุ่นน้องเข้าใหม่ เปลี่ยนชุดเป็นเสื้อดำกับกางเกงวอร์ม แล้วขึ้นไปบนโรงยิมชั้นบนสุดของตึก เรายืนรออยู่กับเพื่อนและพี่ปีสองพัหหนึ่งก็มีเสียงโวยวายเข้ามา
พี่ปีสองจับเรา(กับเพื่อน)ให้ย่อตัวลง แล้ว“พี่ระเบียบ”ก็เข้ามาล้อมไว้แล้วสั่งให้(พวกเรา)จัดแถว เราจำได้ว่าเราตกใจมากถึงขั้นแพนิคเลย น้ำตาอาบแก้มจนรุ่นพี่(ซึ่งมารู้ทีหลังว่าเป็นปีสี่)ดึง(ลาก)เราออกไปสงบสติอารมณ์ด้านนอก มีรุ่นพี่คนอื่นเข้ามาปลอบกับชวนเราคุย เราตอบพวกเขาไปตรงๆว่าเราแอนตี้และไม่ชอบ(กิจกรรมแบบนี้)มาก และยืนยันว่าจะไม่กลับเข้าไปร่วมกิจกรรม เรานั่งดมยาดมอยู่นานพอควร จนพี่ระเบียบออกไป เราถึงได้กลับเข้ามา(ในยิม)ที่เหลือแค่เพื่อนกับพี่ปีสองอีกครั้ง
จนถึงวันเปิดเทอม(ที่เป็นการ)เริ่มต้นเดือนแห่งการรับน้อง พี่ระเบียบสั่งให้ปีหนึ่งมาถึงมหาลัยก่อน 7 โมง (ตรงส่วนนี้เราไม่มีปัญหาเพราะเราติดรถพ่อมาที่มหา’ลัยตั้งแต่ตีห้าครึ่ง) แต่มีเพื่อนบางคนที่มาสายบ้าง(พี่ระเบียบมาถึงเร็วเพื่อจับผิดน้องที่มาสาย เท่าที่เราพยายามสังเกต พวกพี่เขาจะมองนาฬิกาตลอด ถ้ามาสายเกินเวลาแม้แต่วินาทีเดียวพี่เขาก็เอา)
มาถึงตรงนี้เราขอสรุปเป็นข้อ ๆ เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าใจว่าในเดือนรับน้อง เรากับเพื่อนต้องเจออะไรบ้าง ถ้าไม่ทำหรือทำได้ไม่ดี พี่ระเบียบจะลงมาว้ากใส่เรากับเพื่อนค่ะ แรก ๆ ว้ากถี่มาก จนถึงช่วงเฟรชชี่เดย์ถึงลดเหลือหนึ่งหรือสองครั้งต่อสัปดาห์
1. ต้องห้อยป้ายชื่อ(ห้อยตลอดเวลาที่อยู่ในม.)ห้ามขาด
2. ต้องไหว้คนที่ไม่ห้อยป้ายชื่อ
3. ต้องเข้าร่วมกิจกรรมสันทนาการ (ถ้าเต้นไม่ดีหรือไม่ถูกใจรุ่นพี่ พี่ว้ากจะลง)
4. พี่ระเบียบจะเรียกน้องปีหนึ่งไปคุยเป็นกลุ่ม คู่ หรือส่วนตัว (ช่วงแรกที่เรียกไปพูดคุย จะถามถึงความรู้สึกเราที่มีต่อระบบรับน้อง หลังๆจะเป็นเรื่องจิปาถะ)
5. กิจกรรมล่าลายเซ็น(รุ่นพี่)
6. ต้องจำชื่อเพื่อน รุ่นพี่ สิ่งศักดิ์ในม. กับที่ตั้งของม.ให้ได้
7. ดูแลหินรุ่น (รุ่นพี่บอกว่ามันคือหินบล็อกที่อยู่มาตั้งแต่รุ่นที่หนึ่งของสาขา(ไม่รู้ว่าจริงไหม))
8. ท่องกลอน/บูมสาขา ร้องเพลงประจำม.กับเพลงสันทนาการให้ได้ทุกเพลง
9. ห้ามเข้า-ออกประตูข้างม. (รุ่นพี่ให้เหตุผลว่าถ้าไม่เข้าประตูกลางจะไม่ได้ไหว้สิ่งศักดิ์ของม. ต่อให้นับถือศาสนาอื่นก็ต้องเดินผ่านเหมือนกันแค่ไม่ต้องยกมือไหว้)
10. ห้ามไปหลังม. (เพราะหลังม.มีร้านเหล้าอยู่เยอะ)
11. ห้ามขึ้นลิฟต์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สมุดลายเซ็น




สิ่งที่เราไม่เข้าใจ(อิหยัง)คือ ถ้าโดนเรียกไปคุย ไม่ว่าพี่ระเบียบจะพูดหรือทำอะไร คนที่ถูกเรียกไปห้ามยิ้ม ห้ามขำ (ซึ่งเราไม่ทำแบบนั้นอยู่แล้วเพราะเราไม่โอเค(แฮปปี้)กับเรื่องแบบนี้เลยดึงหน้าตลอดงานค่ะ(ฮา)) ส่วนตัวเราอยากไม่เข้าร่วมกิจกรรมมากแต่ทำไม่ได้ กลัวเพื่อนต้องมารับเคราะห์(ซวย)เพราะเราเหมือนกัน(ตอนนั้นที่บ้านเรายังไม่ให้เราซิ่วค่ะ เลยต้องพยายามทำดีไว้ก่อน สภาพสังคมที่นี่คือ คนคิดต่างอยู่ยากมาก แทบจะโดนบูลลี่เลย)
อีกอย่างที่เราอยากพูดถึงคือพี่เนียนค่ะ แต่ไม่ค่อยกระทบอะไรมาก จะกระทบตรงที่พี่เนียนมีชื่อ(ปลอม)ที่รวมอยู่ในรายชื่อที่เอาไว้เช็คปีหนึ่ง แต่เขาจะไม่มาเข้าเรียนหรือทำกิจจกรมกับเรา พี่ระเบียบสามารถเอาจุดนี้มาลงโทษได้เหมือนกัน บอกประมาณว่าทำไมไม่ดูแลเพื่อน (ซึ่งพวกเราพยายามติดต่อพี่เนียนจากช่องทางที่ได้มา ถ้าไม่เป็นของปลอมก็ไม่ติดต่อกลับมา)
เรื่องการเข้าห้องเย็น(เราเรียกแบบนั้นเพราะอากาศเย็นมาก)จะมีพี่ปีสองพาเข้าไป โดยให้น้องปีหนึ่งจับมือกันแล้วหลับตาเดิน เราจำได้ว่าเราได้เข้าห้องเย็นสามครั้ง ครั้งแรกเข้าไปให้รุ่นพี่ปีสามกับปีสี่เห็นหน้า ครั้งที่สองเข้าไปแนะนำตัวกับปีสาม ส่วนครั้งสุดท้ายเข้าไปซ้อมเฟรชชี่แก็ง
กิจกรรมสุดท้ายของการรับน้อง(ของมหา’ลัย)คือ เฟรชชี่เดย์ เป็นวันที่ทุกสาขาจะมารวมกันในช่วงเช้าเพื่อแสดงเฟรชชี่แก็งและทำกิจกรรมตามสาขา เราต้องมาตั้งแต่ตี5เพื่อแต่งหน้า แต่ต้องแต่งแบบเละๆ เรามีภาพประกอบด้วยแต่เราขอใส่รวมกับภาพตอนทำกิจกรรมนะคะ
ในส่วนของกิจกรรมสาขา รุ่นพี่ให้เรานอนกับเพื่อนแบบหนุนกันเหมือนโดมิโนแล้วฉีดน้ำใส่(เราเดาว่าน่าจะฉีดเพื่อให้ป้ายชื่อขาด เพราะเขาฉีดเน้นมาที่ป้ายชื่อ) จากนั้นทยอยให้น้องเข้าไปในซุ้มสาขา คนที่รออยู่ด้านนอก รุ่นพี่จะให้เต้นสันทนาการรอ เราเข้าไปเกือบคนสุดท้าย พอเข้าไปแล้วพี่ในซุ้มสั่งให้เรายืนก้มหน้าหลับตาแล้วให้กินอะไรบางอย่าง เราโดนไข่ต้มยัดบอระเพ็ด(รสชาติมันแย่มาก) เรายืนนิ่งไม่ยอมกินเข้าไปให้หมด เราพะอืดพะอมมากแต่รุ่นพี่สั่งไม่ให้คายแล้วพยายามยัดต่อ สุดท้ายเราก็โดนไล่ให้เดินไปมุดซุ้ม
สิ่งที่เราตกใจมากคือมันเป็นซุ้มที่มีโคลน(อารมณ์ลอดซุ้มแบบรด.) เราลังเลแต่ก็ต้องมุดเข้าไป กลิ่นข้างในแย่มาก เหมือนไม่ได้มีแค่กลิ่นดินโคลน มันมีกลิ่นเหม็นหืนด้วย พอออกจากซุ้ม เราก็รีบคายไข่ต้มในปากทิ้งเลย พี่อีกคนที่รออยู่ปากทางออกพยายามยัดแครกเกอร์อะไรไม่รู้เข้าปากเราแต่เราคายออกมาอีก แล้วเดินไปนั่งรวมกับเพื่อน
(ขอเสริมจากด้านบนนะคะ เราเป็นภูมิแพ้ผิวหนัง และได้แจ้งรุ่นพี่ไปแล้วว่าเราไม่สามารถทำกิจกรรมบางอย่างได้ (เอาใบรับรองแพทย์ให้รุ่นพี่ดูแล้วด้วย) วันนั้นโชคดีมากที่เรากินยาแก้แพ้อย่างแรงดักเอาไว้ เพราะไม่รู้ว่าจะต้องเจอกิจกรรมอะไรบ้าง)
เรามาทราบทีหลังจากเพื่อนที่ลอดไปก่อนหน้าเราว่า กลิ่นที่เหม็นหืนผสมกับเศษแปลกๆที่ปนมากับโคลน มันคืออ้วกของเพื่อนที่คายของกินแปลกๆที่รุ่นพี่ให้กินก่อนจะลอดลุยโคลนไป (ขอบคุณที่เรามารู้หลังกิจกรรมจบเป็นอาทิตย์แล้ว ไม่งั้นนะ...ฮา)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ภาพกิจกรรม

















ขออนุญาตต่อในคอมเม้นนะคะ
ประสบการณ์รับน้องในรั้วมหา'ลัยแห่งนึง
** ภาพที่นำมาประกอบกระทู้เป็นภาพจากเหตุการณ์จริงทั้งหมด และเราเซ็นเซอร์แล้วเรียบร้อย อาจมีคำหยาบบ้าง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ ** (หากเราเล่าสับสนต้องขออภัยด้วยนะคะ)
จุดประสงค์ที่เราโพสกระทู้นี้ หลักๆคือต้องการแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับระบบรับน้องที่เราเจอมา สภาพสังคม และสิ่งที่เรารู้สึกไม่โอเค(ความอิหยังของ)รุ่นพี่ในเหตุการณ์ค่ะ เวลาหรือเหตุการณ์บางอย่างอาจคลาดเคลื่อนบ้างเนื่องจากเรื่องนี้ผ่านมาปีกว่าแล้วค่ะ
เริ่มจากวันปฐมนิเทศช่วงปลายมิถุนายน เราจำได้ว่าเขาให้เข้าพบอาจารย์ที่ปรึกษากับอาจารย์ในสาขา หลังจากเข้าพบอาจารย์แล้ว รุ่นพี่ให้รุ่นน้องเข้าใหม่ เปลี่ยนชุดเป็นเสื้อดำกับกางเกงวอร์ม แล้วขึ้นไปบนโรงยิมชั้นบนสุดของตึก เรายืนรออยู่กับเพื่อนและพี่ปีสองพัหหนึ่งก็มีเสียงโวยวายเข้ามา
พี่ปีสองจับเรา(กับเพื่อน)ให้ย่อตัวลง แล้ว“พี่ระเบียบ”ก็เข้ามาล้อมไว้แล้วสั่งให้(พวกเรา)จัดแถว เราจำได้ว่าเราตกใจมากถึงขั้นแพนิคเลย น้ำตาอาบแก้มจนรุ่นพี่(ซึ่งมารู้ทีหลังว่าเป็นปีสี่)ดึง(ลาก)เราออกไปสงบสติอารมณ์ด้านนอก มีรุ่นพี่คนอื่นเข้ามาปลอบกับชวนเราคุย เราตอบพวกเขาไปตรงๆว่าเราแอนตี้และไม่ชอบ(กิจกรรมแบบนี้)มาก และยืนยันว่าจะไม่กลับเข้าไปร่วมกิจกรรม เรานั่งดมยาดมอยู่นานพอควร จนพี่ระเบียบออกไป เราถึงได้กลับเข้ามา(ในยิม)ที่เหลือแค่เพื่อนกับพี่ปีสองอีกครั้ง
จนถึงวันเปิดเทอม(ที่เป็นการ)เริ่มต้นเดือนแห่งการรับน้อง พี่ระเบียบสั่งให้ปีหนึ่งมาถึงมหาลัยก่อน 7 โมง (ตรงส่วนนี้เราไม่มีปัญหาเพราะเราติดรถพ่อมาที่มหา’ลัยตั้งแต่ตีห้าครึ่ง) แต่มีเพื่อนบางคนที่มาสายบ้าง(พี่ระเบียบมาถึงเร็วเพื่อจับผิดน้องที่มาสาย เท่าที่เราพยายามสังเกต พวกพี่เขาจะมองนาฬิกาตลอด ถ้ามาสายเกินเวลาแม้แต่วินาทีเดียวพี่เขาก็เอา)
มาถึงตรงนี้เราขอสรุปเป็นข้อ ๆ เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าใจว่าในเดือนรับน้อง เรากับเพื่อนต้องเจออะไรบ้าง ถ้าไม่ทำหรือทำได้ไม่ดี พี่ระเบียบจะลงมาว้ากใส่เรากับเพื่อนค่ะ แรก ๆ ว้ากถี่มาก จนถึงช่วงเฟรชชี่เดย์ถึงลดเหลือหนึ่งหรือสองครั้งต่อสัปดาห์
1. ต้องห้อยป้ายชื่อ(ห้อยตลอดเวลาที่อยู่ในม.)ห้ามขาด
2. ต้องไหว้คนที่ไม่ห้อยป้ายชื่อ
3. ต้องเข้าร่วมกิจกรรมสันทนาการ (ถ้าเต้นไม่ดีหรือไม่ถูกใจรุ่นพี่ พี่ว้ากจะลง)
4. พี่ระเบียบจะเรียกน้องปีหนึ่งไปคุยเป็นกลุ่ม คู่ หรือส่วนตัว (ช่วงแรกที่เรียกไปพูดคุย จะถามถึงความรู้สึกเราที่มีต่อระบบรับน้อง หลังๆจะเป็นเรื่องจิปาถะ)
5. กิจกรรมล่าลายเซ็น(รุ่นพี่)
6. ต้องจำชื่อเพื่อน รุ่นพี่ สิ่งศักดิ์ในม. กับที่ตั้งของม.ให้ได้
7. ดูแลหินรุ่น (รุ่นพี่บอกว่ามันคือหินบล็อกที่อยู่มาตั้งแต่รุ่นที่หนึ่งของสาขา(ไม่รู้ว่าจริงไหม))
8. ท่องกลอน/บูมสาขา ร้องเพลงประจำม.กับเพลงสันทนาการให้ได้ทุกเพลง
9. ห้ามเข้า-ออกประตูข้างม. (รุ่นพี่ให้เหตุผลว่าถ้าไม่เข้าประตูกลางจะไม่ได้ไหว้สิ่งศักดิ์ของม. ต่อให้นับถือศาสนาอื่นก็ต้องเดินผ่านเหมือนกันแค่ไม่ต้องยกมือไหว้)
10. ห้ามไปหลังม. (เพราะหลังม.มีร้านเหล้าอยู่เยอะ)
11. ห้ามขึ้นลิฟต์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สิ่งที่เราไม่เข้าใจ(อิหยัง)คือ ถ้าโดนเรียกไปคุย ไม่ว่าพี่ระเบียบจะพูดหรือทำอะไร คนที่ถูกเรียกไปห้ามยิ้ม ห้ามขำ (ซึ่งเราไม่ทำแบบนั้นอยู่แล้วเพราะเราไม่โอเค(แฮปปี้)กับเรื่องแบบนี้เลยดึงหน้าตลอดงานค่ะ(ฮา)) ส่วนตัวเราอยากไม่เข้าร่วมกิจกรรมมากแต่ทำไม่ได้ กลัวเพื่อนต้องมารับเคราะห์(ซวย)เพราะเราเหมือนกัน(ตอนนั้นที่บ้านเรายังไม่ให้เราซิ่วค่ะ เลยต้องพยายามทำดีไว้ก่อน สภาพสังคมที่นี่คือ คนคิดต่างอยู่ยากมาก แทบจะโดนบูลลี่เลย)
อีกอย่างที่เราอยากพูดถึงคือพี่เนียนค่ะ แต่ไม่ค่อยกระทบอะไรมาก จะกระทบตรงที่พี่เนียนมีชื่อ(ปลอม)ที่รวมอยู่ในรายชื่อที่เอาไว้เช็คปีหนึ่ง แต่เขาจะไม่มาเข้าเรียนหรือทำกิจจกรมกับเรา พี่ระเบียบสามารถเอาจุดนี้มาลงโทษได้เหมือนกัน บอกประมาณว่าทำไมไม่ดูแลเพื่อน (ซึ่งพวกเราพยายามติดต่อพี่เนียนจากช่องทางที่ได้มา ถ้าไม่เป็นของปลอมก็ไม่ติดต่อกลับมา)
เรื่องการเข้าห้องเย็น(เราเรียกแบบนั้นเพราะอากาศเย็นมาก)จะมีพี่ปีสองพาเข้าไป โดยให้น้องปีหนึ่งจับมือกันแล้วหลับตาเดิน เราจำได้ว่าเราได้เข้าห้องเย็นสามครั้ง ครั้งแรกเข้าไปให้รุ่นพี่ปีสามกับปีสี่เห็นหน้า ครั้งที่สองเข้าไปแนะนำตัวกับปีสาม ส่วนครั้งสุดท้ายเข้าไปซ้อมเฟรชชี่แก็ง
กิจกรรมสุดท้ายของการรับน้อง(ของมหา’ลัย)คือ เฟรชชี่เดย์ เป็นวันที่ทุกสาขาจะมารวมกันในช่วงเช้าเพื่อแสดงเฟรชชี่แก็งและทำกิจกรรมตามสาขา เราต้องมาตั้งแต่ตี5เพื่อแต่งหน้า แต่ต้องแต่งแบบเละๆ เรามีภาพประกอบด้วยแต่เราขอใส่รวมกับภาพตอนทำกิจกรรมนะคะ
ในส่วนของกิจกรรมสาขา รุ่นพี่ให้เรานอนกับเพื่อนแบบหนุนกันเหมือนโดมิโนแล้วฉีดน้ำใส่(เราเดาว่าน่าจะฉีดเพื่อให้ป้ายชื่อขาด เพราะเขาฉีดเน้นมาที่ป้ายชื่อ) จากนั้นทยอยให้น้องเข้าไปในซุ้มสาขา คนที่รออยู่ด้านนอก รุ่นพี่จะให้เต้นสันทนาการรอ เราเข้าไปเกือบคนสุดท้าย พอเข้าไปแล้วพี่ในซุ้มสั่งให้เรายืนก้มหน้าหลับตาแล้วให้กินอะไรบางอย่าง เราโดนไข่ต้มยัดบอระเพ็ด(รสชาติมันแย่มาก) เรายืนนิ่งไม่ยอมกินเข้าไปให้หมด เราพะอืดพะอมมากแต่รุ่นพี่สั่งไม่ให้คายแล้วพยายามยัดต่อ สุดท้ายเราก็โดนไล่ให้เดินไปมุดซุ้ม
สิ่งที่เราตกใจมากคือมันเป็นซุ้มที่มีโคลน(อารมณ์ลอดซุ้มแบบรด.) เราลังเลแต่ก็ต้องมุดเข้าไป กลิ่นข้างในแย่มาก เหมือนไม่ได้มีแค่กลิ่นดินโคลน มันมีกลิ่นเหม็นหืนด้วย พอออกจากซุ้ม เราก็รีบคายไข่ต้มในปากทิ้งเลย พี่อีกคนที่รออยู่ปากทางออกพยายามยัดแครกเกอร์อะไรไม่รู้เข้าปากเราแต่เราคายออกมาอีก แล้วเดินไปนั่งรวมกับเพื่อน
(ขอเสริมจากด้านบนนะคะ เราเป็นภูมิแพ้ผิวหนัง และได้แจ้งรุ่นพี่ไปแล้วว่าเราไม่สามารถทำกิจกรรมบางอย่างได้ (เอาใบรับรองแพทย์ให้รุ่นพี่ดูแล้วด้วย) วันนั้นโชคดีมากที่เรากินยาแก้แพ้อย่างแรงดักเอาไว้ เพราะไม่รู้ว่าจะต้องเจอกิจกรรมอะไรบ้าง)
เรามาทราบทีหลังจากเพื่อนที่ลอดไปก่อนหน้าเราว่า กลิ่นที่เหม็นหืนผสมกับเศษแปลกๆที่ปนมากับโคลน มันคืออ้วกของเพื่อนที่คายของกินแปลกๆที่รุ่นพี่ให้กินก่อนจะลอดลุยโคลนไป (ขอบคุณที่เรามารู้หลังกิจกรรมจบเป็นอาทิตย์แล้ว ไม่งั้นนะ...ฮา)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ขออนุญาตต่อในคอมเม้นนะคะ