ซีรีย์วิถีเด็กฝึกงาน ตอน นักศึกษาฝึกงานศูนย์การเรียนไร่ส้มวิทยา อ.ฝาง จ.เชียงใหม่

24 กุมภาพันธ์ - 30 เมษายน 2562
ผ่านมา 1 ปีกว่าๆ กับการฝึกงานที่
"ศูนย์การเรียนไร่ส้มวิทยา อ.ฝาง จ.เชียงใหม่" 
วันนี้ฤกษ์งามยามดีอยากมาแบ่งปันประสบการณ์ของการฝึกงานที่นี่ให้ทุกๆ คนได้อ่านกัน
1.เป็นไปเป็นมายังไง ทำไมถึงได้มาฝึกงานที่นี่? 
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนตุลาคม 2561 เราได้ไปออกค่ายครูบ้านนอก หนึ่งโครงการของมูลนิธิกระจกเงา ส่วนตัวเรารู้สึกอินกับงานอาสาอยู่แล้ว เรารู้สึกชอบมาก พอรู้ว่าที่มูลนิธิกระจกเงา ศูนย์เชียงรายรับนักศึกษาฝึกงานด้วย เราก็ยิ่งสนใจอยากไปที่สุดของที่สุด (ความตั้งใจคือ ก่อนไปฝึกสอนต้องได้ไปฝึกงานที่นี่ให้ได้) จนต้องหาข้อมูลไปให้พี่ฝ่ายฝึก เพื่อนำไปปรึกษากับอาจารย์ว่าจะอนุญาตให้ไปฝึกหรือไม่

ตอนนั้นเราตื่นเต้นมากๆ ติดต่อพี่ที่มูลนิธิกระจกเงาไว้เป็นเดือนๆ เมื่อใกล้ถึงเวลาปรากฏว่า เต็ม !! ตอนนั้นหัวใจแตกสลาย เสียใจมากค่ะคุณแม่ แต่ในความโชคร้ายยังมีความโชคดีอยู่ พี่สายลม พี่เจ้าหน้าที่ที่ไปออกค่ายครูบ้านนอกด้วยกันในครั้งนั้น ทำให้เราเจอแสงสว่างอีกครั้ง ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้ไปฝึกที่มูลนิธิกระจกเงาเชียงราย แต่ เราได้มาฝึกที่ศูนย์การเรียนไร่ส้ม(มูลนิธิกระจกเงาเชียงใหม่) และเป็นนักศึกษารุ่นแรกของที่นี่แทน
2.แล้วไปฝึกที่นี่ ทำอะไรบ้าง? 
ที่นี่จะมีงานหลายฝ่าย เช่น
1.ฝ่ายงานสิทธิและสถานะ
2.ฝ่ายสื่อสารองค์กรและระดมทุน
3.ฝ่ายงานธุรกิจเพื่อชุมชนและฟาร์มสเตย์
4.ฝ่ายงานอาสาสมัครและสัมพันธ์ชุมชน
แน่นอนค่ะว่าเราอยู่ฝ่าย4 แต่จริงๆ เราก็ช่วยๆกัน ทำงานนะคะ

และนอกจากงานตามฝ่ายที่ตัวเองได้รับ ก็จะมีงานสอนค่ะ เราต้องเป็นครู(ตรงสายที่เราเรียนมาเลย) ไปสอนเด็กๆจันทร์-ศุกร์ และพีคตรงเด็กหลายคนพูดภาษาไทใหญ่ และจะฟังภาษาไทยไม่ค่อยออก แต่ยังดีที่มีนักเรียนบางคนพูดไทยได้ บันเทิงทุกวัน สนุกมาก เด็กๆจะรักคุณครูของพวกเขามาก สัมผัสได้เลย
เป็นครูที่ไม่ใช่แค่ครู เพราะนอกจากงานสอนจะมีเวรรับ-ส่งนักเรียน ซึ่งบ้านของเด็กๆ จะอยู่ในสวนส้ม(บ้านพักคนงาน) มองแค่ตาจะรู้สึกว่าสวนส้มสวยมาก ดีงาม แต่ภายใต้ภาพสวยงามก็จะมีภัยร้ายซ่อนอยู่ เพราะมีการฉีดยา เราเข้าไปรับ-ส่งเด็กแป๊บเดียวยังเหม็นมาก แต่เด็กๆนี่อยู่ตลอดคิดดูว่าจะขนาดไหน
และมีเวรทำกับข้าว ต้องไปจ่ายตลาดเอง รังสรรค์เมนูด้วยตัวเอง(ทำเป็นคู่) ใครจุดไฟไม่เป็นก็จะได้ฝึกที่นี่ หุงข้าวหม้อไม่เป็นก็มาฝึกที่นี่ ทำกับข้าวไม่เป็นก็มาฝึกที่นี่ อร่อยไม่อร่อย สุกไม่สุกทุกคนก็จะมากินด้วยกัน5555 
และที่สุดของที่สุดคือเวรไปสอนเด็กปฐมวัย บันเทิงสุดๆ เราสามารถเก็บความดุร้ายแบบฉบับแม่เสือไว้ หลงเหลือแต่ความเมตตากรุณา เป็นนางฟ้าแม่ทูนหัว  และจะมีงานอื่นๆ บ้างตามโอกาส เช่น งานอาสาลงแรงก่อสร้างบ้านพัก ไปช่วยงานกิจกรรมที่กรุงเทพ ฯลฯ บอกเลยว่ามาที่นี่ไม่เสียเที่ยว ได้ทำทุกอย่างแน่นอน
ที่นี่เรามีพี่เลี้ยง 3 คน นั่นคือพี่สายลม พี่เอ๋ และพี่ท๊อฟ ดูแลเราเหมือนน้องของตัวเอง และที่สำคัญจะลืมไม่ได้เลย นั่นก็คือพ่อครูน้อย ครูดาว ครูแอร์ ครูมีหล้า ครูผอง ครูชมพู่ ครูบอย ป้าจิง เหล่าคุณครูประจำโรงเรียนที่เป็นกัลยาณมิตรที่ดีมากๆ เอาเป็นว่าที่นี่ไม่มีคำว่าเจ้านายลูกน้อง เพราะที่นี่มีแต่พี่กับน้อง เรารู้สึกแบบนั้นจริงๆ เรารู้สึกว่าที่นี่คือบ้านไปแล้ว ลืมเล่าถึงพ่อแม่ที่มาทำงานสร้างโรงเรียน เราสนิทกันมาก ไปร้องคาราโอเกะแทบทุกวัน แต่ตอนนี้โรงเรียนเสร็จแล้ว พ่อๆแม่ๆคงกลับบ้านกันหมดแล้ว พูดมาก็อดคิดถึงไม่ได้

3.อยู่ที่นี่ลำบากมั้ย? 
จะว่าลำบากก็ไม่ใช่ จะว่าสบายก็ไม่เชิงจะว่ายังไงดี
ที่นี่ติดแผงโซลาร์เซลล์ ใช่แล้วค่ะ เราใช้ไฟจากพลังงานแสงอาทิตย์เราต้องช่วยกันประหยัด แน่นอนว่าการหุงข้าวจากหม้อไฟฟ้า เครื่องซักผ้า ทีวี ตู้เย็นตัดไปได้เลย ไม่มีค่ะ ดังนั้นทุกๆ อย่างเราก็ต้องทำเอง หุงข้าวเตาถ่านงี้ แต่มีแก๊สให้นะ เครื่องปรุงครบ แต่ตอนนี้โรงอาหารสร้างเสร็จแล้ว ก็คงไม่ได้สัมผัสบรรยากาศเก่าๆแบบรุ่นแรกแล้วแหละ (เสียใจด้วยนะ55555)
ที่นี่มีบ้านกระต๊อบน้อยหลังคามุงหญ้า ฝาบ้านคือไม้ไผสาน มีฟูก มุ้ง หมอนและผ้าห่มให้ เอาจริงว่าพึ่งเคยนอนแบบนี้ก็รู้สึกสนุกดีเหมือนกัน ที่สำคัญอย่าปวดฉี่ตอนดึกนะ ห้องน้ำไม่ไกลเท่าไหร่หรอกแต่กลัวผี บรู๊ว ๆ บรู๋ววว55555 ลืมบอกไปว่าการใช้น้ำเราก็ต้องช่วยกันประหยัดด้วยนะตอนนั้น เพราะใช้น้ำจากเทศบาล (รถดับเพลิงมาส่งให้) เพราะถ้าใช้ไม่ประหยัดน้ำจะหมดอีกหลายวันกว่าเขาจะมาส่งใหม่ เราต้องใช้น้ำบาดาลที่บ้านเจาะไว้ ขุ่นพระ! เหลืองมาก ดีที่พี่เอ๋ทำเครื่องกรองไว้พอจะใสขึ้นมาหน่อย
ที่นี่มีรถ ขับไปไหนมาไหนได้สะดวกสบาย เซเว่นอยู่ใกล้ๆ ตลาดอยู่ใกล้ๆ อยู่ใกล้ชุมชนอินเทอร์เน็ตเข้าถึงทุกเครือข่าย ไม่ต้องกลัวว่าจะตัดขาดจากโลกภายนอกจ้าา

แต่ตอนนี้โรงเรียนด้านล่างสร้างเสร็จแล้ว ทุกอย่างพัฒนาขึ้นดีหมดแล้ว สะดวกสบายกว่าตอนเราไปฝึกแน่นอนไม่ต้องเป็นห่วง แต่จริงๆ เราก็ไม่ได้อยากให้โฟกัสว่ามันลำบากหรือสบาย เพราะเราควรโฟกัสประสบการณ์ที่เราจะได้รับจากที่นี่มากกว่า บอกเลยว่าฝึกงานที่นี่จบไปคุณแข็งแกร่งแน่นอน ได้รู้จักหลายๆคน (เช่นพี่หน่อย พี่ศร พี่คิม ฯลฯ) จนนับถือกันเป็นพี่เป็นน้องไปแล้ว
ฝึกงานที่นี่มีเรื่องเล่าร้อยพันไว้ไปเล่าให้คนอื่นฟัง เอาเป็นว่าเล่ายันลูกบวชก็คงไม่จบ ไม่เคยนึกเสียใจเลยที่เลือกมาฝึกงานที่นี่ ถ้ามีโอกาสเราก็อยากจะกลับไปที่นี่อีกหลายๆครั้งไปเล๊ยยย "คิดถึงบ้าน" 

อยากให้ทุกคนลองไปสัมผัส ❤️
#นักศึกษาฝึกงานรุ่น1 
#ฝึกงานศูนย์การเรียนไร่ส้มวิทยา
#มูลนิธิกระจกเงาเชียงใหม่
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่