ชายชราที่ขังตัวเองไว้ในห้อง 30 ปี ( ข่าวญี่ปุ่น )

เหมือนที่หลายๆคนรู้กัน ปัญหา ฮิคิโคโมริ ( ต่อไปนี้จะเรียกฮิคกี้ ) ที่ประเทศญี่ปุ่นมีเยอะมาก 
จริง ๆ ก็มีทุกประเทศแหละมั้ง แต่ในญี่ปุ่นจะค่อนข้างสูงมากๆ

คนที่เป็นฮิคกี้ ก็คือคนที่หันหลังให้โลกแล้วขลุกอยู่แต่ในบ้าน หรือห้องตัวเอง โดยไม่ก้าวขาออกมาอีกเลย จริงๆอาจจะเป็นเพราะได้รับผลกระทบอะไรสักอย่างที่รุนแรงต่อจิตใจ จนเกลียด กลัว หรือรังเกียจสังคมไปเลย เช่นถูกบูลลี่ ถูกกลั่นแกล้ง ฯลฯ ( สาเหตุอื่นๆ ก็มี )

หลายคนเป็นมายาวนาน ตั้งแต่เด็ก วัยรุ่น จนวัยชรา แบบนี้ญี่ปุ่นเรียกปัญหา 8050 ก็คือพ่อแม่แก่ๆ 80 แล้ว ยังต้องคอยดูแลลูกที่อายุ 50 ที่ว่างงาน ที่อยู่แต่ในห้องจนไปทำมาหากินไม่ได้ ก็คือดูมาตั้งแต่เด็กจนแก่นะแหละ ( #แต่ฮิคกี้บางคนมีงานทำอยู่นะ )

แล้วถ้าพ่อแม่ตายไปหมดหล่ะ คนที่เป็นฮิคกี้จะทำยังไง ?





ชินอิจิ ชายอายุ 56 ปี ที่เป็นฮิคกี้คนหนึ่ง เล่าว่า ในตอนวัยรุ่น สมัยเขาการเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยเป็นอะไรที่ยากมาก มีการแข่งขันกันสูง ทุกๆปี มีคนผิดหวังและสอบเข้าไม่ได้เป็นพันๆคนก็ว่าได้

และเขาก็คือหนึ่งในนั้น หลังเรียนจบมัธยมเขาเองก็พยายามที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยอยู่หลายรอบ แต่ก็ไม่ได้ จนสุดท้ายเขาก็ล้มเลิก
พ่อแม่มักเปรียบเทียบถึงน้องชายของเขาที่สอบเข้าได้ให้ฟังอยู่บ่อยๆ เขาเองก็ก้มหน้ารับความอดสูไว้ในอก

เขารู้สึกเหมือนตัวเองล้มเหลว และไม่มีความสามารถขนาดแค่สอบเข้าแค่นี้ยังทำไม่ได้ เขารู้สึกละอายใจแต่ก็เก็บกดไว้


ภาพประกอบ From :: https://unseenjapan.com/japan-hikikomori/

เมื่อสอบเข้าไม่ได้  #เขาจึงต้องเริ่มหางานทำ
ญี่ปุ่นช่วงนั้นมีปัญหาเศรษฐกิจทำให้คนตกงานมากมาย ชินอิจิหางานไม่ได้เลย เขาก็เลยทำงานพาร์ทไทม์ไปเรื่อยๆ แต่ไปทำที่ไหนก็มีปัญหาทุกที เขาทำๆออกๆ หลายที่ภายในเวลาไม่กี่เดือน

ครั้งล่าสุดเขาทำงานที่ร้านสะดวกซื้อและมีปัญหาถูกผู้จัดการร้านตำหนิเพราะลูกค้าร้องเรียนมา เขาเลยทะเลาะกับผู้จัดการค่อนข้างรุนแรง ชินอิจิคิดว่าตนเองไม่ได้เป็นฝ่ายที่ผิด ทำให้เกิดเหตุการชกต่อยทำร้ายร่างกายกับผู้จัดการร้าน จนถูกแจ้งตำรวจ
#เรื่องราวบานปลายไปใหญ่โต

สุดท้ายเขาก็เลยเลิกทำงาน และขังตัวเองอยู่แต่ในห้อง
 


พ่อแม่ และชินอิจิสมัยที่เขายังไม่เป็นฮิคิโคโมริ

ตลอด 30 ปี เขาไม่ทำอะไร ไม่ออกไปไหน ไม่ทุกอย่าง #คนที่รับภาระดูแลเขาคือ พ่อ แม่ และน้องชาย สมัยก่อนการเป็นฮิคกี้ไม่เหมือนสมัยนี้ มันไม่มีอินเตอร์เน็ตให้เล่นแบบเดี๋ยวนี้ วันๆไม่มีอะไรให้ทำมาก เขาก็แค่เพียงอยู่ในห้องไปเรื่อยๆ ถึงเวลาก็กิน ถึงเวลาก็นอน

ในตอนนั้นน้องชายที่เพิ่งเรียนจบก็อาศัยอยู่ในบ้านด้วย อยู่ๆไป น้องชายก็เริ่มไม่พอใจและคิดว่า ทำไมเขาต้องมารับผิดชอบดูแลพี่ชายด้วย สบายเกินไปแล้วนะ !!

หลังจากแต่งงานน้องชายของเขาก็เลยย้ายออกไป

ภาระทุกอย่างจึงตกอยู่ที่พ่อและแม่ที่เริ่มแก่ชรา จากนั้นพ่อก็ป่วยเป็นมะเร็ง ทำให้แม่เครียดมากจนมีอาการทางสมอง
#แต่ทั้งพ่อและแม่ก็ยังต้องรับภาระดูแลชินอิจิเหมือนเดิม


ตัวอย่างห้องของคนที่เป็นฮิคิโคโมริ ( ไม่ใช่ห้องของชินอิจินะ ) 
From :: https://prtimes.jp/main/html/rd/p/000000428.000014302.html

เป็นแบบนั้นมาตั้งแต่ชินอิจิเป็นวัยรุ่น #จนตอนนี้เขาอายุ 56 ปี

ไม่นานพ่อที่ป่วยเป็นมะเร็งก็เสียชีวิต แม่ตายตามพ่อไปไม่นาน หลังจากนั้น สังคมสงเคราะห์ก็เลยเข้ามารับหน้าที่ดูแลเขา
เพื่อนบ้าน น้องชาย และทุกคนต่างเป็นห่วงเขาว่าเขาจะอยู่ยังไง เพราะถึงมีเจ้าหน้าที่สังคมฯ คอยดูแลแต่ทางเจ้าหน้าที่เองก็ไม่สามารถจะมาเยี่ยมเข้าได้ทุกวัน

เมื่อถามเขาว่าคุณจะเป็นยังไงที่ต้องอยู่คนเดียว ชินอิจิก็บอกว่า " ไม่สำคัญหรอก "

เมื่อสังคมสงเคราะห์มาเยี่ยมเขาอีกทีใน 10 วันต่อมา ก็พบว่า เขาเสียชีวิตแล้ว " เขาตายเพราะอดอาหารจนตาย "

เขากินอาหารที่มีจนหมดบ้าน และไม่ยอมที่จะออกไปหาซื้อมาเพิ่ม ถึงแม้จะมีเงินที่ได้รับจากการช่วยเหลืออยู่ก็ตาม เรียกว่า " #เขายอมที่จะอดตายดีกว่าออกไปข้างนอก "


ภาพประกอบจาก :: https://slate.com/news


คนที่เป็นฮิคกี้ หลายคนถ้าคนดูแลตาย ก็จะออกไปทำงานหรือใช้ชีวิตนอกบ้านเท่าที่จำเป็นแล้วรีบกลับ แต่หลายคนก็พลิกชีวิตกลับมาปกติได้เมื่อไม่มีคนดูแลแล้ว

แต่ก็ยังมีอีกหลายคน ที่เลือก " #ตายตามคนที่ดูแล หรือไม่ก็ยอมอดตายแบบชินอิจิ"

เอาจริงๆก็พูดยากนะ คือไม่ใช่ว่าไม่ยอมออกไป แต่มันคือ " #เขาออกไปไม่ได้ " คือการเป็นฮิคกี้ จริงๆมันเป็นภาวะทางจิตใจด้วย พูดแบบเห็นภาพคือ เขาป่วยเป็นฮิคกี้ ก็เลยทำให้ไม่สามารถก้าวขาออกมาจากบ้านได้ จุดนั้นคงทรมารนะ หิวก็หิวแต่ไม่รู้จะทำยังไง

ถ้าจะเปรียบเทียบแบบเห็นภาพง่ายๆ คือ นึกถึงว่าเป็นเรา เรากลัวหนอนมากๆ แล้วอาหารมันอยู่ในกล่องที่มีหนอน ถึงจะหิวเราก็กลัวเกินกว่าจะทำใจล้วงมือลงไปหยิบออกมาได้ คนที่ทำใจแข็งจนหยิบออกมาได้ก็มี แต่คนที่ทำใจไม่ได้มันก็มี มันอยู่ที่สภาพจิตใจจริงๆ

ที่มา :: https://www.blockdit.com/articles/5ef973ee9c347e0c89f1abbb/#
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่