จากข่าวที่ทาง True Vision เจ้าของลิขสิทธิ์ ฟุตบอลไทยลีก 2020 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของทรูวิชั่น เงินได้ยื่นหนังสือถึงสมาคมฟุตบอลเกี่ยวกับทางออกในการจัดการแข่งขัน ไทยลีก 2020 หลักๆคือ
ให้มีการแข่งขันให้จบ ภายในปีนี้ ทรูวิชั่นจะขอลด ค่าลิขสิทธิ์ จากการที่แมทการแข่งขันที่ลดลง จากแข่งขัน 18 ทีมเหลือ 16 ทีม และขอลดค่าลิขสิทธิ์ลงจากการที่ เป็นการแข่งขันแบบไม่เปิดให้ผู้ชมเข้าชมในสนามซึ่งทำให้มูลค่าของการแข่งขันลดลง
แต่ทางสมาคมฟุตบอลได้ทำหนังสือแย้งว่า ในการดำเนินการแข่งขันข้อกำหนดต่างๆเกิดจากการประชุมของสโมสรต่างๆในไทยลีก ซึ่งในการประชุมก็ได้เชิญ Truevision เข้าร่วมประชุมแต่ไม่ได้รับการตอบรับ และการจัดการแข่งขันแบบไม่มีผู้ชมทางสมาคมฟุตบอลไม่ใช่ผู้กำหนด แต่เป็นรัฐบาลและศบคเป็นผู้กำหนด
พอเรื่องเป็นแบบนี้เหมือนว่าทาง True Vision และสมาคมฟุตบอล จะ Converse เดินกันคนละทาง คุณฮั่นมิตติติยะไพรัช จากสโมสรสิงห์เชียงรายยูไนเต็ด แสดงความคิดเห็นว่า ถ้าทางทรูวิชั่นไม่จ่ายค่าลิขสิทธิ์จะเป็นปัญหากับทุกสโมสรอย่างแน่นอนและเห็นว่า พร้อมจะเตะทุกเงื่อนไข ขอแค่ได้ค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด
ส่วนตัวเข้าใจว่าหลักๆของทางออกของทางแก้ไขปัญหานี้มีอยู่ 2 ทาง
1 ยึดตามสัญญากับทรูวิชั่นให้มากที่สุด วิธีนี้ อาจจะใช้วิธีการเจรจา เพื่อถอยกันคนละก้าว ฟุตบอลอาจจะไม่ได้เริ่มเตะวันที่ 12 กันยายน แต่อาจจะเริ่มเตะให้เร็วที่สุด รวมถึงตัวต่างชาติ ก็อาจจะไม่ต้องรอ วิธีนี้จะจบค่อนข้างง่ายกว่า เพราะยึดการทำสัญญา และการเจรจาร่วมกัน เพื่อหาทางออกร่วมกัน จะไม่เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายและศาล ซึ่งยากกว่ามาก
2 ถ้าไม่ใช้วิธีที่ 1 ก็อาจจะต้องผ่านกระบวนการทางศาลและกฎหมาย เช่นสมาคมฟุตบอล ยึดตามกำหนดการเดิมที่ได้จากการประชุม ครั้งที่ผ่านๆมา ซึ่งการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก 2020 จะเริ่มวันที่ 12 กันยายน 2560 จนถึงเดือนพฤษภาคม 2021 ซึ่งเลยกำหนดสัญญาเดิมกับทรู ส่วนตัวเห็นว่า การจะยื่นสัญญาให้ ทั้งอาจจะผิดสัญญากับรายใหม่ หรือต่อให้รายใหม่ยินยอม ถูกก็อาจจะไม่ยอมเพราะดูแล้ว ที่ทรูตีรวนขึ้นมาก็เพราะตัวเองแพ้การประมูลในรอบใหม่ ดังนั้นการจะยึดการแข่งขันตามที่สมาคมหารือกันไว้ก่อนนั้นทางทรูน่าไม่ยอมเลย ไม่เช่นนั้นทางสมาคมอาจจะพิจารณา ยุติสัญญากับ True ลงทันทีแล้วหาผู้ถ่ายทอดสด และรับลิขสิทธิ์รายใหม่เฉพาะของปีนี้
ดูแล้วอย่างไรก็ตามการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก 2020 ค่อนข้างจะเจออุปสรรคเข้าอย่างจัง และน่าจะประนีประนอมกันได้ค่อนข้างยาก ประเด็นสำคัญ น่าจะคือการที่ True ไม่ได้ลิขสิทธิ์ การแข่งขันฟุตบอลไทยลีกใน 8 ปีข้างหน้า
กรณี True Vision กับสมาคมฟุตบอล เรื่องลิขสิทธิ์ การแข่งขันไทยลีก 2020 คุณคิดว่า ควรจะออกทางออกไหนดีที่สุด
ให้มีการแข่งขันให้จบ ภายในปีนี้ ทรูวิชั่นจะขอลด ค่าลิขสิทธิ์ จากการที่แมทการแข่งขันที่ลดลง จากแข่งขัน 18 ทีมเหลือ 16 ทีม และขอลดค่าลิขสิทธิ์ลงจากการที่ เป็นการแข่งขันแบบไม่เปิดให้ผู้ชมเข้าชมในสนามซึ่งทำให้มูลค่าของการแข่งขันลดลง
แต่ทางสมาคมฟุตบอลได้ทำหนังสือแย้งว่า ในการดำเนินการแข่งขันข้อกำหนดต่างๆเกิดจากการประชุมของสโมสรต่างๆในไทยลีก ซึ่งในการประชุมก็ได้เชิญ Truevision เข้าร่วมประชุมแต่ไม่ได้รับการตอบรับ และการจัดการแข่งขันแบบไม่มีผู้ชมทางสมาคมฟุตบอลไม่ใช่ผู้กำหนด แต่เป็นรัฐบาลและศบคเป็นผู้กำหนด
พอเรื่องเป็นแบบนี้เหมือนว่าทาง True Vision และสมาคมฟุตบอล จะ Converse เดินกันคนละทาง คุณฮั่นมิตติติยะไพรัช จากสโมสรสิงห์เชียงรายยูไนเต็ด แสดงความคิดเห็นว่า ถ้าทางทรูวิชั่นไม่จ่ายค่าลิขสิทธิ์จะเป็นปัญหากับทุกสโมสรอย่างแน่นอนและเห็นว่า พร้อมจะเตะทุกเงื่อนไข ขอแค่ได้ค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด
ส่วนตัวเข้าใจว่าหลักๆของทางออกของทางแก้ไขปัญหานี้มีอยู่ 2 ทาง
1 ยึดตามสัญญากับทรูวิชั่นให้มากที่สุด วิธีนี้ อาจจะใช้วิธีการเจรจา เพื่อถอยกันคนละก้าว ฟุตบอลอาจจะไม่ได้เริ่มเตะวันที่ 12 กันยายน แต่อาจจะเริ่มเตะให้เร็วที่สุด รวมถึงตัวต่างชาติ ก็อาจจะไม่ต้องรอ วิธีนี้จะจบค่อนข้างง่ายกว่า เพราะยึดการทำสัญญา และการเจรจาร่วมกัน เพื่อหาทางออกร่วมกัน จะไม่เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายและศาล ซึ่งยากกว่ามาก
2 ถ้าไม่ใช้วิธีที่ 1 ก็อาจจะต้องผ่านกระบวนการทางศาลและกฎหมาย เช่นสมาคมฟุตบอล ยึดตามกำหนดการเดิมที่ได้จากการประชุม ครั้งที่ผ่านๆมา ซึ่งการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก 2020 จะเริ่มวันที่ 12 กันยายน 2560 จนถึงเดือนพฤษภาคม 2021 ซึ่งเลยกำหนดสัญญาเดิมกับทรู ส่วนตัวเห็นว่า การจะยื่นสัญญาให้ ทั้งอาจจะผิดสัญญากับรายใหม่ หรือต่อให้รายใหม่ยินยอม ถูกก็อาจจะไม่ยอมเพราะดูแล้ว ที่ทรูตีรวนขึ้นมาก็เพราะตัวเองแพ้การประมูลในรอบใหม่ ดังนั้นการจะยึดการแข่งขันตามที่สมาคมหารือกันไว้ก่อนนั้นทางทรูน่าไม่ยอมเลย ไม่เช่นนั้นทางสมาคมอาจจะพิจารณา ยุติสัญญากับ True ลงทันทีแล้วหาผู้ถ่ายทอดสด และรับลิขสิทธิ์รายใหม่เฉพาะของปีนี้
ดูแล้วอย่างไรก็ตามการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก 2020 ค่อนข้างจะเจออุปสรรคเข้าอย่างจัง และน่าจะประนีประนอมกันได้ค่อนข้างยาก ประเด็นสำคัญ น่าจะคือการที่ True ไม่ได้ลิขสิทธิ์ การแข่งขันฟุตบอลไทยลีกใน 8 ปีข้างหน้า