สวัสดีค่ะ คือวันนี้ได้ดูคลิปของคุณปั๋น Riety (ที่จริงเคยดูตั้งแต่ตอนลงแล้ว แต่คือวันนี้มันเด้งขึ้นมาพอดีเลยดูซ้ำอีก) พอได้ดูแล้วรู้สึกว่า มันคือสิ่งที่ไม่ถูก สิ่งลบหรอ เพราะเราถูกปลูกฝังมาว่ามันคือเรื่องที่ปกติ จะขอเริ่มเรื่องเลยนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.youtube.com/watch?v=sZCNB9KNYGE
เราเป็นครอบครัวลูกคนจีน ทั้งฝั่งพ่อและแม่ สมัยเด็กเราอยู่กับครอบครัวฝ่ายพ่อ ไม่ได้ร่ำรวยมากฐานะปานกลางพ่อแม่ค้าขาย มีพี่สาว1คน ป้าเรามักจะสปอยพี่คนโต แม่เราก็สปอยเรา และมักพูดกับพี่ว่าเราเก่งอย่างสอบได้สอบติดโรงเรียนดัง คือเราก็มองเป็นเรื่องปกติตอนเด็ก พอโตมาเราเคยคุยกับพี่ พี่บอกว่ามันเป็นปมในใจและทำให้เราเกลียดกันด้วยตอนเด็กๆ ป้าเราก็มักพูดกับเราเวลาเราอยากได้อะไรก้บอกให้แม่เธอซื้อให้สิ แต่คือซื้อให้พี่ มันไม่ได้แรงเท่าไหร่หรอกสำหรับผู้ใหญ่ แต่คามเป็นเด็กบอกเลยว่ามันฝังใจจนถึงปัจจุบัน พอโตขึ้นประมาณขึ้นมัธยมแม่เรากับพ่อเราทะเลาะกัน มีเรื่องกับย่า ย่าก็จะมาคุยกับแม่บ่อยและเราก็อยู่ตรงนั้น ไม่ว่าเราจะพูดะไรก็มักจะบอกว่าชอบเถียง กลายเป็นว่าเราเก็บกดด้วยแต่ก็ก้าวร้าวด้วย แม่ชอบบอกว่าให้พูดเลย เพราะเราเป็นเด็ก? เป็นเด็กทำอะไรก็ไม่ผิดจริงหรอ ไม่ขายขี้หน้าเพราะไม่มีความรู้สึกท่าผู้ใหญ่ หรือว่าเพราะไม่ต้องรับผิดชอบอะไรกับผลที่ตามมาแค่หงายไพ่ว่า 'ก็เด็ก' ไม่รู้ประสีประสาแบบนี้หรอ ถามจริง? เลยทำให้เราพูดอะไรบางครั้งก็ไม่คิดเอาอารมณ์มาก่อนเราผิด เรารรู้ตัว มันควบคุมไม่ได้เลยตอนนั้น ตอนเด็กเราชอบคิดแต่ว่าจะหนีออกจากบ้าน อยากออกไปไกลๆให้ไลที่สุด แต่แม่ก็รักเราทุกคนก็บอกรักเรา เราเป็นเด็กดีเรียนเก่ง อืม มันก็ยังอยู่ได้เราแค่ต้องเงียบไว้เดี๋ยวมันก็ปกติ พอเราโตขึ้นม่แยกออกมาแม่เลิกกกับพ่อ แม่พูดกับเราเอาไว้ว่าแม่รักเราถ้าแม่มีใครแล้วถ้าเราเจอแล้วเราไม่โอเคแม่จะเลิก เราเข้ามัธยม แม่มีแฟนใหม่แม่บอกว่าจะย้ายไปปตจว. เราไปเจอแล้วเราไม่ชอบ(ยอมรับว่าเราอคติด้วยส่วนหนึ่ง)เราบอกแม่ไป แต่แม่ไม่ฟัง เราทวงคำสัญญา แม่ไม่พูดอะไร.. สรุปเราก้ต้องย้ายไปตจว. เราไม่เก็บมาคิดเราเริ่มไม่ใส่ใจในทุกๆคำแม่เราโมโหบ้าง แต่เราก้รักแม่นะ เรียกว่าเป็นความผูกพันเพราะเราอยู่กับแม่ตลอดตั้งแต่เด็ก แม่ก็คือแม่ เอาจริงสำหรับแม่เราผิดหวังและรู้สึกผิดอยู่ตลอดที่คิดอะไรแบบนี้ มันย้อนแย้งไปหมด ...พอเราเข้ามหาลัยเราย้ายกลับมาอยู่บ้านญาติฝั่งพ่อ ป้าเรา ย่าเรา มักพูดอยู่เสมอว่าแม่เราเคยทำไม่ดีอย่างโน้นอย่างนี้ไว้ซึ่งมันคือเรื่องรเจริง แต่เราก้ไม่รู้เราเกิดไม่ทัน ว่ามันจริงขนาดไหน แต่คือทั้งแม่เราก็บอกฝั่งพ่อเราไม่ดีแม่โดนกดขี่ต่างๆนานา ป้าเราก็บอกว่าแม่เราจับพ่อ เราซึ่งทำได้แค่ฟัง.. เราเคยไปกินข้าวกับป้าพอเข้ามหาลัยผ้าเราเริ่มซื้อของให้ และพูดเสมอเป็นนัยๆไม่ได้พูดตรงๆประมาณว่าเราต้องทำงาน เลี้ยงครอบครัวเพราะญาติฝั่งพ่อเรามีพ่อเราคนเดียวที่มีลูก เรากับพี่เป็นทายาทแค่2คน ป้าเราเป็นโสดประมาณวัยทองเป็นคนที่เก็บกดจากย่าเราอีกทีเพราะย่าเราเมื่อก่อนก็คือมีเรื่องกับป้าบ่อย ป้าเราเป็นคนที่พูดก่อนคิด ทำไมเราถีงพูดคำนี้นะหรอ เพราะไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ป้าชอบพูดโพล่งออกมาก่อนที่จะได้มีใครพูด แล้วป้ากับย่าเราก็พูดเสมอว่าตั้วใจเรียนพ่อรักเราป้ารักเราดูสิซื้อของให้เต็มเลยเต็มที่กับการเรียน รักให้มากๆนะ เราต้องกตัญญู โตไปเราต้องเลี้ยงครอบครัว(มี พ่อ ป้า อา น้า ย่า = ฝั่งพ่อ และบอกเสมอว่าทุกคนแก่ไปก็มีแค่เราที่เป็นหลาน) และแม่เราคือเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวเงินก้ไม่พอค่าเทอมพี่เราและเรา พ่อก็ช่วยออกแบบไม่ให้รู้ ป้าเราก็ช่วยออกของพี่ แล้วพูดเสมอว่าอย่าไปบอกแม่นะเพระาเดี๋ยวม่ไม่ทำงาน เพราะตอนออกไปแม่เป็นคนเอาเราสองคนออกไปด้วยซึ่งคือถือว่าตัดขาดไปแล้ว ป้าบอกกับเราว่าแม่เราไม่ทำอะไรเลยดูในทีวีสิเขาขายของเป็นแม่ค้ายังส่งลูกเรียนจบปริญญากันได้เลย แล้วแม่เราไปมีแฟนใหม่ก็ถือว่าไม่ยุ่งแล้ว แต่ติดที่ว่าแฟนใหม่ของแม่เราเสียก่อนเราเข้ามหาลัยทำให้แม่ต้องส่งเสียเรากับพี่เอง เรารู้สึกกดดันมากก และเราก็ใช้คำ่าช่างแม่*จนรู้สึกว่าใช้คำนี้แม่*ก็สบายดีนะ ก็ไม่ได้เสียหายหนิ เราเรียนได้กลางๆ พ่อมักพูดเสมอว่าเราต้องเก่งภาษาให้ได้ให้เราไปค้นคว้าหาตามในเน็ต บางครั้งถ้าพ่อถามแล้วเราไม่ร็ เช่น พ่อถามว่าดูสเปคคอมเป็นมั้ย เราบอกดูไม่เป็น เราไม่ได้ชอบด้านคอม พ่อก็จะบอกเนี่ยวันวันเอาแต่ทำเรื่องไร้สาระเล่นเกมถ้าเอาเวลามาศึกษาเรื่องนี้ก็เป็นประโยชน์ ในใจเราบอกเลยเราคิดลบเราคิดว่าแบบคนเป็นพ่อถ้ามีประสบการณ์มาสอนลูกคือมันก็ถ่ายทอดได้ดีกว่ามั้ยถ้าอยากให้รู้เรื่องนี้ด็มาสอนสิไม่ใช่บอกแต่ให้ทำให้ทำ ทุกอย่างอะมันไม่ใช่แค่เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ ตอนนี้เรากลายเป็นแบบกดดันอยากจะหนีไให้ไกลไกลแต่ในใจมันติดคำว่าอกตัญญู แต่เราก้ยอมรับเรื่องพวกนี้แล้วเราก้พยายามไม่ไปใส่ใจ บางคนบอกเราแย่เออมันจริง ที่เรามาเขียนกระทู้อันนี้คือรู้สึกว่าอยากจะมาเล่าเรื่อวของเราใครไม่ชอบหรือคิดต่างก็บอกได้แต่ขออย่างเดียวช่วยอ่านให้จบแล้วคุณจะว่ายังไงก็ว่ามา เราโดนหล่อหลอมมาแบบนี้โดนบอกว่าพูดอะไรที่ต่าง=เถียง และเราต้องรักทกคนให้มากๆ ซื้อของให้=เป็นบุญคุณ ต้องเลี้ยงดู รักเขาให้มากๆ เราโดนพูดทุกวัน เราเคยคิดนะว่าถ้าคนไม่พร้อมไม่ควรมีลูกและเราก็ไม่คิดทีจะมี พร้อมในที่นี้ไม่ใช้แค่เงินทอง แต่เป็นทั้งสภาพแวดล้อม บริบท ความรู้ การถ่ายทอด การเลี้ยงดู อย่ามีเลยยังดีกว่า ถ้าไม่พร้อม..
เพราะเป็นเด็ก จึงต้องเงียบ ?
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เราเป็นครอบครัวลูกคนจีน ทั้งฝั่งพ่อและแม่ สมัยเด็กเราอยู่กับครอบครัวฝ่ายพ่อ ไม่ได้ร่ำรวยมากฐานะปานกลางพ่อแม่ค้าขาย มีพี่สาว1คน ป้าเรามักจะสปอยพี่คนโต แม่เราก็สปอยเรา และมักพูดกับพี่ว่าเราเก่งอย่างสอบได้สอบติดโรงเรียนดัง คือเราก็มองเป็นเรื่องปกติตอนเด็ก พอโตมาเราเคยคุยกับพี่ พี่บอกว่ามันเป็นปมในใจและทำให้เราเกลียดกันด้วยตอนเด็กๆ ป้าเราก็มักพูดกับเราเวลาเราอยากได้อะไรก้บอกให้แม่เธอซื้อให้สิ แต่คือซื้อให้พี่ มันไม่ได้แรงเท่าไหร่หรอกสำหรับผู้ใหญ่ แต่คามเป็นเด็กบอกเลยว่ามันฝังใจจนถึงปัจจุบัน พอโตขึ้นประมาณขึ้นมัธยมแม่เรากับพ่อเราทะเลาะกัน มีเรื่องกับย่า ย่าก็จะมาคุยกับแม่บ่อยและเราก็อยู่ตรงนั้น ไม่ว่าเราจะพูดะไรก็มักจะบอกว่าชอบเถียง กลายเป็นว่าเราเก็บกดด้วยแต่ก็ก้าวร้าวด้วย แม่ชอบบอกว่าให้พูดเลย เพราะเราเป็นเด็ก? เป็นเด็กทำอะไรก็ไม่ผิดจริงหรอ ไม่ขายขี้หน้าเพราะไม่มีความรู้สึกท่าผู้ใหญ่ หรือว่าเพราะไม่ต้องรับผิดชอบอะไรกับผลที่ตามมาแค่หงายไพ่ว่า 'ก็เด็ก' ไม่รู้ประสีประสาแบบนี้หรอ ถามจริง? เลยทำให้เราพูดอะไรบางครั้งก็ไม่คิดเอาอารมณ์มาก่อนเราผิด เรารรู้ตัว มันควบคุมไม่ได้เลยตอนนั้น ตอนเด็กเราชอบคิดแต่ว่าจะหนีออกจากบ้าน อยากออกไปไกลๆให้ไลที่สุด แต่แม่ก็รักเราทุกคนก็บอกรักเรา เราเป็นเด็กดีเรียนเก่ง อืม มันก็ยังอยู่ได้เราแค่ต้องเงียบไว้เดี๋ยวมันก็ปกติ พอเราโตขึ้นม่แยกออกมาแม่เลิกกกับพ่อ แม่พูดกับเราเอาไว้ว่าแม่รักเราถ้าแม่มีใครแล้วถ้าเราเจอแล้วเราไม่โอเคแม่จะเลิก เราเข้ามัธยม แม่มีแฟนใหม่แม่บอกว่าจะย้ายไปปตจว. เราไปเจอแล้วเราไม่ชอบ(ยอมรับว่าเราอคติด้วยส่วนหนึ่ง)เราบอกแม่ไป แต่แม่ไม่ฟัง เราทวงคำสัญญา แม่ไม่พูดอะไร.. สรุปเราก้ต้องย้ายไปตจว. เราไม่เก็บมาคิดเราเริ่มไม่ใส่ใจในทุกๆคำแม่เราโมโหบ้าง แต่เราก้รักแม่นะ เรียกว่าเป็นความผูกพันเพราะเราอยู่กับแม่ตลอดตั้งแต่เด็ก แม่ก็คือแม่ เอาจริงสำหรับแม่เราผิดหวังและรู้สึกผิดอยู่ตลอดที่คิดอะไรแบบนี้ มันย้อนแย้งไปหมด ...พอเราเข้ามหาลัยเราย้ายกลับมาอยู่บ้านญาติฝั่งพ่อ ป้าเรา ย่าเรา มักพูดอยู่เสมอว่าแม่เราเคยทำไม่ดีอย่างโน้นอย่างนี้ไว้ซึ่งมันคือเรื่องรเจริง แต่เราก้ไม่รู้เราเกิดไม่ทัน ว่ามันจริงขนาดไหน แต่คือทั้งแม่เราก็บอกฝั่งพ่อเราไม่ดีแม่โดนกดขี่ต่างๆนานา ป้าเราก็บอกว่าแม่เราจับพ่อ เราซึ่งทำได้แค่ฟัง.. เราเคยไปกินข้าวกับป้าพอเข้ามหาลัยผ้าเราเริ่มซื้อของให้ และพูดเสมอเป็นนัยๆไม่ได้พูดตรงๆประมาณว่าเราต้องทำงาน เลี้ยงครอบครัวเพราะญาติฝั่งพ่อเรามีพ่อเราคนเดียวที่มีลูก เรากับพี่เป็นทายาทแค่2คน ป้าเราเป็นโสดประมาณวัยทองเป็นคนที่เก็บกดจากย่าเราอีกทีเพราะย่าเราเมื่อก่อนก็คือมีเรื่องกับป้าบ่อย ป้าเราเป็นคนที่พูดก่อนคิด ทำไมเราถีงพูดคำนี้นะหรอ เพราะไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ป้าชอบพูดโพล่งออกมาก่อนที่จะได้มีใครพูด แล้วป้ากับย่าเราก็พูดเสมอว่าตั้วใจเรียนพ่อรักเราป้ารักเราดูสิซื้อของให้เต็มเลยเต็มที่กับการเรียน รักให้มากๆนะ เราต้องกตัญญู โตไปเราต้องเลี้ยงครอบครัว(มี พ่อ ป้า อา น้า ย่า = ฝั่งพ่อ และบอกเสมอว่าทุกคนแก่ไปก็มีแค่เราที่เป็นหลาน) และแม่เราคือเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวเงินก้ไม่พอค่าเทอมพี่เราและเรา พ่อก็ช่วยออกแบบไม่ให้รู้ ป้าเราก็ช่วยออกของพี่ แล้วพูดเสมอว่าอย่าไปบอกแม่นะเพระาเดี๋ยวม่ไม่ทำงาน เพราะตอนออกไปแม่เป็นคนเอาเราสองคนออกไปด้วยซึ่งคือถือว่าตัดขาดไปแล้ว ป้าบอกกับเราว่าแม่เราไม่ทำอะไรเลยดูในทีวีสิเขาขายของเป็นแม่ค้ายังส่งลูกเรียนจบปริญญากันได้เลย แล้วแม่เราไปมีแฟนใหม่ก็ถือว่าไม่ยุ่งแล้ว แต่ติดที่ว่าแฟนใหม่ของแม่เราเสียก่อนเราเข้ามหาลัยทำให้แม่ต้องส่งเสียเรากับพี่เอง เรารู้สึกกดดันมากก และเราก็ใช้คำ่าช่างแม่*จนรู้สึกว่าใช้คำนี้แม่*ก็สบายดีนะ ก็ไม่ได้เสียหายหนิ เราเรียนได้กลางๆ พ่อมักพูดเสมอว่าเราต้องเก่งภาษาให้ได้ให้เราไปค้นคว้าหาตามในเน็ต บางครั้งถ้าพ่อถามแล้วเราไม่ร็ เช่น พ่อถามว่าดูสเปคคอมเป็นมั้ย เราบอกดูไม่เป็น เราไม่ได้ชอบด้านคอม พ่อก็จะบอกเนี่ยวันวันเอาแต่ทำเรื่องไร้สาระเล่นเกมถ้าเอาเวลามาศึกษาเรื่องนี้ก็เป็นประโยชน์ ในใจเราบอกเลยเราคิดลบเราคิดว่าแบบคนเป็นพ่อถ้ามีประสบการณ์มาสอนลูกคือมันก็ถ่ายทอดได้ดีกว่ามั้ยถ้าอยากให้รู้เรื่องนี้ด็มาสอนสิไม่ใช่บอกแต่ให้ทำให้ทำ ทุกอย่างอะมันไม่ใช่แค่เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ ตอนนี้เรากลายเป็นแบบกดดันอยากจะหนีไให้ไกลไกลแต่ในใจมันติดคำว่าอกตัญญู แต่เราก้ยอมรับเรื่องพวกนี้แล้วเราก้พยายามไม่ไปใส่ใจ บางคนบอกเราแย่เออมันจริง ที่เรามาเขียนกระทู้อันนี้คือรู้สึกว่าอยากจะมาเล่าเรื่อวของเราใครไม่ชอบหรือคิดต่างก็บอกได้แต่ขออย่างเดียวช่วยอ่านให้จบแล้วคุณจะว่ายังไงก็ว่ามา เราโดนหล่อหลอมมาแบบนี้โดนบอกว่าพูดอะไรที่ต่าง=เถียง และเราต้องรักทกคนให้มากๆ ซื้อของให้=เป็นบุญคุณ ต้องเลี้ยงดู รักเขาให้มากๆ เราโดนพูดทุกวัน เราเคยคิดนะว่าถ้าคนไม่พร้อมไม่ควรมีลูกและเราก็ไม่คิดทีจะมี พร้อมในที่นี้ไม่ใช้แค่เงินทอง แต่เป็นทั้งสภาพแวดล้อม บริบท ความรู้ การถ่ายทอด การเลี้ยงดู อย่ามีเลยยังดีกว่า ถ้าไม่พร้อม..