JJNY : 5in1 พท.เล็งประชุมหลังก.ค./ตร.ขอนแก่นเฝ้ารับมือชุมนุม/ACTค้านตั้งสุพจน์/อนุสรณ์แนะลดดอกเบี้ย/ใบด่างมันสูญหมื่นล.

'พท.'เล็งประชุมใหญ่หลังก.ค. ยันไม่มีขั้วอำนาจในพรรค
https://www.dailynews.co.th/politics/781094
 
“พท.”เล็งประชุมใหญ่หลังก.ค. ยันไม่มีขั้วอำนาจในพรรค เย้ย ส.ส.รัฐบาลอาจย้ายขั้วกลับก่อนเลือกตั้ง
 

 
เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดประชุมสามัญประจำปีของพรรคว่า ขณะนี้ทางพรรคเพื่อไทยกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการกำหนดวาระการประชุมโดยคาดว่าจะจัดให้มีการประชุมสามัญประจำปีหลังการอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณ 64 ซึ่งคาดว่าน่าจะมีขึ้นประมาณกลางเดือน ก.ค.เป็นต้นไป โดยวาระการประชุมจะกำหนดให้เป็นไปตามที่กฎหมายพรรคการเมืองกำหนด
 
เมื่อถามว่าขณะนี้ตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยว่างอยู่ 3 ตำแหน่ง จำเป็นต้องปรับคณะกรรมการบริหารพรรคใหม่ทั้งหมดหรือไม่ น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า สำหรับโครงสร้างและจำนวนของกรรมการบริหารพรรคคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงส่วนตัวบุคคล ก็คงมีการดำเนินการปรับปรุงให้เป็นไปตามโครงสร้างและข้อบังคับของพรรค
 
เมื่อถามว่าจะมีการเปลี่ยนขั้วอำนาจในพรรคหรือไม่ น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า ขอยืนยันว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยไม่เคยมีขั้วอำนาจ ผู้บริหารและสมาชิกพรรคต่างร่วมมือกันทำงานด้วยความสามัคคี ในการทำงานที่ผ่านมาอาจมีความเห็นที่แตกต่างกันบ้างแต่ไม่ใช่การแตกแยกและการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายทุกคนต่างทำงานโดยยึดอุดมการณ์และเป้าหมายในการเป็นพรรคแกนนำของฝ่ายประชาธิปไตยร่วมกัน แม้จะมีการปรับเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรคบางตำแหน่งก็มั่นใจพรรคจะเป็นปึกแผ่นเช่นเดิม
 
        เมื่อถามถึงการเลือกตั้งซ่อมส.ส.ลำปาง ที่ผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐ ชนะผู้สมัครของพรรคเสรีรวมไทย ซึ่งเป็นตัวแทนของฝ่ายค้านถึง 2 หมื่นกว่าคะแนน มีนัยอะไรหรือไม่ น.อ.อนุดิษฐ์ ตอบว่า เรื่องนี้ตนเคารพในการตัดสินใจของประชาชนชาวลำปางเขต 4 ซึ่งการเลือกตั้งย่อมมีผู้แพ้ผู้ชนะการที่ตัวแทนของพรรคฝ่ายค้านได้รับความไว้วางใจจากผู้มีสิทธิเป็นจำนวนเกือบ 4 หมื่นคะแนนก็ถือเป็นความภูมิใจของผู้สมัครรับเลือกตั้ง และพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นการเลือกตั้งซ่อมที่ไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของรัฐบาล ดังนั้นเป้าหมายในการลงคะแนนของผู้มีสิทธิก็จะแตกต่างกับการเลือกตั้งใหญ่อย่างไรก็ตามพรรคฝ่ายค้านก็จะทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลอย่างเข้มแข็งต่อไป
 
เมื่อถามว่าความพร้อมของส.ส.ในการลงพื้นที่ช่วยประชาชนของฝ่ายค้านและรัฐบาลแตกต่างกัน ในระยะยาวหวั่นว่าจะมีส.ส.ฝ่ายค้านย้ายขั้วอีกหรือไม่ น.อ.อนุดิษฐ์ ตอบว่า เรื่องนี้ตนไม่เคยมีความกังวลเพราะพรรคการเมืองที่เป็นรัฐบาลอยู่ซึ่งมีความพร้อมทุกอย่าง ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นพึ่งที่หวังให้ประชาชนได้ ดังนั้นเรื่องที่คิดว่าจะมีแรงดูดส.ส.เพิ่มเติมนั้นคงเกิดขึ้นได้ยาก กลับกันตนเชื่อว่าเมื่อถึงการเลือกตั้งใหญ่ประชาชนจะเห็นปรากฏการของนักการเมืองที่ย้ายฝั่งกลับมาฝั่งประชาธิปไตยเพราะกลัวสอบตก.
 

 
ตร.ขอนแก่นเฝ้าจุดสำคัญทั่วเมือง 24 ชม. รับมือชุมนุมวันครบรอบปฏิวัติสยาม
https://prachatai.com/journal/2020/06/88252
 
ผู้สื่อข่าววรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 20 มิ.ย.2563 บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จังหวัดขอนแก่น มีเจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบ 2 นาย นั่งเฝ้าสังเกตการณ์อยู่บริเวณใต้ต้นไม้ใกล้อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก่อนจะมีการเรียกแถวรวมพลกันกว่า 10 นายในเวลา 18.00 น. 
 
ต่อมาในวันที่ 21 มิ.ย.2563 เวลาประมาณ 12.00 น. ผู้สื่อข่าวได้สอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เฝ้าสังเกตการณ์อยู่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยจังหวัดขอนแก่นถึงเหตุผลในการเฝ้าระวัง แต่เจ้าหน้าที่ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลและระบุให้สอบถามไปยังผู้กำกับการ สภ.เมืองขอนแก่น
 
ขณะที่บริเวณอนุสาวรีย์จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดขอนแก่นเช่นเดียวกัน ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองขอนแก่น จำนวน 1 นาย เฝ้าสังเกตการณ์อยู่ในบริเวณต้นไม้ใกล้ๆ อนุสาวรีย์ดังกล่าว
 
จากการสอบถามเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวได้ความว่า เนื่องจากช่วงนี้ใกล้วันเปลี่ยนแปลงการปกครอง 24 มิถุนายน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงมีการเฝ้าระวังตามจุดต่างๆ ทั่วเมืองขอนแก่น ส่วนใหญ่จะเฝ้าสังเกตการณ์ตามจุดสำคัญที่เป็นสัญลักษณ์ทางการเมือง เพราะกังวลว่าอาจจะมีการเคลื่อนไหวทางการเมืองของผู้ชุมนุมที่อาจจะฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ได้ เนื่องจากช่วงนี้ยังอยู่ในช่วงควบคุมโรคระบาดอยู่ โดยคำสั่งให้เฝ้าอนุสาวรีย์เริ่มมีมาตั้งแต่หลังการปลดล็อกการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ระยะที่ 2 แล้ว ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเฝ้าระวังตามจุดต่างๆ ตลอด 24 ชม. ผลัดเปลี่ยนเวรกันประมาณคนละ 1-2 ชั่วโมงต่อวัน
 
  “ตราบใดที่ผู้ชุมนุมทำตามกรอบกฎหมาย เช่น มีการแจ้งชุมนุมก่อน มีเวลาระบุที่แน่นอน เราก็ไม่ได้ทำอะไร เพียงแต่มาอำนวยความสะดวกให้ แล้วก็ถ่ายรูปให้ผู้บังคับบัญชาว่า เขามาชุมนุมตามกฎหมาย นอกจากนั้นก็เป็นการดูแลคอยมาระงับเหตุหากมีฝ่ายตรงข้ามมาก่อกวน หรือมายกพวกตีกัน อะไรประมาณนั้น” เจ้าหน้าที่กล่าว
 


ACT ร่อนจม.เปิดผนึกค้านรมว.ยธ. ตั้ง 'สุพจน์' นั่งที่ปรึกษาโครงการเรือนจำอุตสาหกรรม ยกเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ-บิ๊กตู่ ประกาศเป็นรบ.ที่ยึดมั่นความถูกต้อง
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_2237108
 
เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT ออกจดหมายเปิดผนึกถึง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เรื่องธรรมาภิบาลของกระทรวงยุติธรรม กรณีมีคำสั่งแต่งตั้งให้นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม ซึ่งพ้นโทษจากคดีจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จออกจากเรือนจำเมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา เป็นที่ปรึกษาของโครงการออกแบบโครงสร้างและบริหารจัดการเรือนจำอุตสาหกรรม หรือเกษตรกรรมเพื่อการแก้ไขและพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขัง
 
โดยในจดหมายเปิดผนึก ระบุว่า ตามที่ ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่าจะมีการแต่งตั้งอดีตปลัดกระทรวงคมนาคม ที่เพิ่งพ้นโทษจากเรือนจำในคดีคอร์รัปชัน และยังมีคดีอื่นที่ค้างอยู่ในกระบวนการยุติธรรมให้มีตำแหน่งในอนุกรรมการคณะหนึ่งของกระทรวงฯ
 
องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ เห็นว่า รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มีเจตนารมณ์ชัดเจนที่จะปกป้องสังคม มิให้ผู้ที่ปราศจากคุณธรรม จริยธรรมและธรรมาภิบาลเข้ามามีอำนาจในการปกครองบ้านเมืองฯ อีกทั้งท่านนายกรัฐมนตรี เพิ่งประกาศการเป็นรัฐบาลโฉมใหม่ที่จริงจัง และยึดมั่นความถูกต้อง ซึ่งความตั้งใจเช่นนี้จะเป็นที่ยอมรับของประชาชนได้ จำต้องพิสูจน์โดยการกระทำของรัฐบาลทั้งคณะ มิใช่เพียงผู้นำรัฐบาลหรือกระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง
 
การที่กระทรวงยุติธรรม เป็นองค์กรหน่วยงานที่สังคมคาดหวังว่าต้องเป็นแบบอย่างของความถูกต้อง เที่ยงธรรม ดังนั้นทุกการกระทำจึงควรยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาล ด้วยความรับผิดชอบต่อบ้านเมืองอย่างเคร่งครัด การเชื้อเชิญให้บุคคลผู้มีประสบการณ์มางานช่วยราชการ จึงควรสรรหาคนดี คนเก่งที่ไม่มีมลทินในเรื่องคอร์รัปชัน ซึ่งเชื่อได้ว่าประเทศไทยยังมีบุคคลเช่นนี้อยู่มาก
 
องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ เชื่อว่าการต่อสู้เอาชนะคอร์รัปชัน หลักสำคัญคือต้องทำให้ทุกคนตระหนักว่า การโกงเป็นเรื่องน่ารังเกียจ คนโกงต้องไม่มีที่ยืนในสังคม ดังนั้น การเปิดโอกาสให้ข้าราชการและนักการเมืองที่ถูกศาลตัดสินแล้วว่าทุจริต ได้โอกาสกลับเข้ามามีบทบาทในวงราชการและการเมืองอีก จึงเป็นเรื่องที่สังคมรับไม่ได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่