ภาษีที่ดินใครที่ต้องเป็นผู้เสียภาษี ภาษีตัวนี้จัดเก็บโดยหน่วยงานไหน ทำไมต้องเก็บภาษีตัวนี้ และ เสียในอัตราภาษี วันนี้เราจะมาคุยกันถึงทุกประเด็นที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่มีผลเริ่มบังคับใช้ใน ปี 2563 นี้ครับ สามารถกดดูรายละเอียดใต้รูปภาพแต่ละรูปได้เลยนะครับ
.
.
.
.
ก่อนอื่นเลยคำถามว่าภาษีที่ดินใครเป็นคนเสีย แน่นอนครับว่าคนที่เสียภาษีต้องเป็นคนที่มีที่ดินครอบครองอยู่ครับไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลก็ตามครับ พูดง่ายๆว่าถ้าคุณไม่ได้ครอบครองที่ดิน บ้าน หรือ คอนโด คุณก็ไม่ต้องกังวลไปครับเพราะว่าคุณไม่ต้องภาษีตัวนี้แน่นอนครับ
ถ้าอยากรับชมเป็นคลิปสอน ผมได้ทำคลิปไว้ใน Youtube แล้วนะครับ

ถ้าชอบใจฝากกด Subscribe เพื่อรับชม Content ดีๆทุกสัปดาห์นะคับ
.
.
.
คำถามคือภาษีตัวนี้ใครเป็นผู้จัดเก็บ ภาษีตัวนี้จะถูกจัดเก็บองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเช่น เทศบาลหรืออบต เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาท้องถิ่น ทั้งหมด โดยไม่ต้องนำส่งเป็นรายได้ของรัฐบาลครับ
.
.
.
หลายคนอาจจะยังสงสัยนะครับว่าทำไมต้องเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ภาษีตัวนี้ ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเป็นภาษีประเภทใหม่ที่จะนำมาใช้ ทดแทนการจัดเก็บภาษีโรงเรือนและที่ดิน และภาษีบำรุงท้องที่ ที่มีการจัดเก็บมาในช่วงก่อนหน้านี้ครับซึ่งวันนี้เราจะมาคุยถึงรายละเอียดทุกเรื่องที่คุณควรรู้เกี่ยวกับภาษีที่ดินครับ
ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในตอนแรกมีผลบังคับใช้เริ่มเก็บตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 แต่ได้มีการเลื่อนระยะเวลาการเก็บไปเป็นเดือนสิงหาคม 2563 ทำให้เรามีเวลาในการเตรียมความพร้อมและศึกษาทำความเข้าใจภาษีตัวนี้มากขึ้นครับ
.
.
.
ก่อนอื่นเลยภาษีที่ดินคิดคำนวนจากอะไร การจัดเก็บภาษีจะคำนวณจาก
มูลค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และ การใช้ประโยชน์ของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนั้น
การใช้งานของที่ดินนั้นแบ่งเป็น 4 ประเภทหลักและมีการคิดอัตราภาษีที่แตกต่างกันดังนี้ครับ
1. เกษตรกรรม เพดานภาษีสูงสุด 0.15%
2. ที่พักอาศัย เพดานภาษีสูงสุด 0.3%
3 กลุ่มพาณิชยกรรมและอุตสาหกรรม เพดานภาษีสูงสุด 1.2%
4. ที่ดินรกร้างว่างเปล่า พดานภาษีสูงสุด 3%
เดี๋ยวเราจะมาลงรายละเอียดแต่ละตัวกันอีกทีครับ
1.ที่ดินเพื่อใช้ในการเกษตรกรรม
ความหมายก็ตรงตัวครับคือที่ดินที่มีไว้สำหรับทำการเกษตรไม่ว่าคุณจะปลูกผัก ผลไม้ เลี้ยงสัตว์ ทำฟาร์ม ทำนา ทำไร่ ที่ดินของคุณจะอยู่ในประเภทเกษตรกรรมครับ
.
.
.
อัตราที่เราจะต้องเสียภาษีที่ดินเพื่อการเกษตรคือ
มูลค่า 0-75 ล้านบาท อัตราภาษี 0.01% (เท่ากับต้องเสียภาษี ล้านละ 100 บาท
มูลค่าเกิน 75-100 ล้านบาท อัตราภาษี 0.03% (เท่ากับต้องเสียภาษี ล้านละ 300 บาท
มูลค่าเกิน 100-500 ล้านบาท อัตราภาษี 0.05% (เท่ากับต้องเสียภาษี ล้านละ 500 บาท
มูลค่า เกิน 500-1,000 ล้านบาท อัตราภาษี 0.07% (เท่ากับต้องเสียภาษี ล้านละ 700 บาท)
มูลค่า 1,000 ล้านบาทขึ้นไป อัตราภาษี 0.10% (เท่ากับต้องเสียภาษี ล้านละ 1,000 บาท)
.
.
.
กรณีเป็นบุคคลธรรมดา
ไม่ต้องเสียภาษีใน 3 ปีแรกที่กฎหมายบังคับใช้
ปีที่ 4 เป็นต้นไป ได้รับยกเว้น 50 ล้านบาทแรก/เขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในส่วนที่เกินคิดตามอัตราภาษีจริง
แล้วพิจารณาอย่างไรหละว่าที่ดินตรงนี้เป็นที่ดินเพื่อการเกษตร
.
.
.
ตรงนี้เป็นอีกหนึ่งหหัวข้อที่น่าสนใจมากเลยครับว่าจะดูยังไงว่าที่ดินตรงนี้เป็นที่ดินเพื่อการเกษตร เรามีที่ว่างเปล่าแล้วเอากล้วยมาปักสักต้นนึงเราเรียกที่ดินผืนนี้ว่าที่ดินเกษตรได้ไหม ตรงนี้ผมขอตอบในส่วนที่กฎหมายเขาบอกมานะครับว่าการพิจารณานั้นจะดูตาม
สภาพข้อเท็จจริง
พื้นที่ที่ใช้ในการทำการเกษตร
ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างต่อเนื่องสำหรับทำการเกษตร
.
.
.
และผมคิดว่าคงพิจารณาจากหน่วยงานที่จัดเก็บภาษีตัวนี้คือองกรส่วนท้องถิ่น เทศบาล หรือ อบต ครับ ดังนั้นผมคิดว่าการที่เรามีที่ดินเปล่าแล้วเอากล้วยไปปลูกสัก 1 ต้นทางเทศบาลคงไม่ยอมเรียกที่ผืนนี้ว่า ที่ดินเพื่อการเกษตรหรอกจริงไหมครับ ในส่วนความชัดเจนและเกณในการพิจารณาเราต้องดูประกาศกันอีกทีครับ
.
.
.
สรุปสำหรับคนที่มีที่ดินที่อยู่ในเกณการเกษตร ถ้าคุณเป็นบุคคลธรรมดาหรือคนทั่วไปและที่ดินของคุณมีมูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท คุณไม่เสียภาษีที่ดินนะครับ เน้นอีกทีครับ คุณไม่เสียภาษีที่ดินครับ
.
.
.
หรือถ้ามูลค่าที่ดินเกษตรของคุณเกิน 50 ล้าน ใน 3 ปีแรก (2563 - 2566 )คุณยังไม่เสียภาษีครับคุณจะไปเริ่มเสียภาษีในปีที่ 4 และเสียจากมูลค่าที่เกิน 50 ล้านแรกไปแล้วครับ
.
.
.
ดังนั้นจริงๆาภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเนี่ย สำหรับที่ดินเพื่อการเกษตรถือว่าเสียไม่เยอะเลยนะครับ ยิ่งถ้าเราไม่ได่ถือครองที่ดินที่มูลค่ารวมไม่เกิน 50 ล้านด้วยแล้วเรายิ่งไม่ต้องเสียภาษีตัวนี้เลยด้วยซ้ำ ทำใจสบายๆและไปกันต่อนะครับ
2.ที่ดินเพื่ออยู่อาศัย
ตรงตัวอีกเช่นเคยครับ ที่ดินประเภทนี้คือ ที่อยู่อาศัย นั่นคือพวกบ้านหรือคอนโดของเรานั่นแหละครับโดยถ้าอาศัยคำตามกฎหมาย
.
.
.
.
1. เจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่มีลักษณะให้บุคคลใช้เพื่อการอยู่อาศัย เช่น ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่เจ้าของใช้อยู่อาศัยเอง ให้ญาติพี่น้องอยู่อาศัย หรือให้เช่าเพื่ออยู่อาศัย ให้เสียภาษีในอัตราที่อยู่อาศัย
2. ให้ครอบคลุมถึงช่วงเวลาระหว่างการก่อสร้าง หรือปรับปรุงต่อเติมสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินที่ใช้เพื่อการอยู่อาศัยด้วย เช่น บ้านที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง หรือคอนโดมิเนียมที่อยู่ระหว่างการตกแต่ง เป็นต้น
3. ไม่รวมถึงโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม และที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างของผู้ประกอบการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา หรือสร้างเสร็จแล้วแต่ยังไม่ได้ขายตามกฎหมายว่าด้วยการจัดสรรที่ดิน หรือกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด
.
.
.
.
โดยที่ที่อยู่อาศัยเนี่ยเขาจะคิดจาก “บ้านหลังหลัก” และ “บ้านหลังอื่น” ก่อนครับโดยนิยามของคำว่า
.
.
.
.
บ้านหลังหลักคือ : บ้านที่ถือครองโดยบุคคลธรรมดาทั้งที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน (บ้าน + ที่ดิน)
สรุปง่ายๆคือเป็นเจ้าของโฉนด และ มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านครับถึงจะเรียกว่าบ้านหลังหลัก
.
.
.
.
ถ้าไม่ตรงตามเกณฑ์นี้เราจะเรียกว่า “บ้านหลังอื่น” ครับ
.
.
.
.
เราจะแยกอัตราภาษีนี้เป็น 3 แบบย่อยๆครับคือ
1.บ้านหลังหลัก เป็นเจ้าของเฉพาะบ้าน
2.บ้านหลังหลัก เป็นเจ้าของบ้านและที่ดิน
3.บ้านหลังอื่น
.
.
.
.
อัตราการคิดภาษีสำหรับบ้านหลังแรก เป็นเจ้าของเฉพาะบ้าน
- มูลค่าไม่ถึง 10 ล้านบาท ไม่ต้องเสียภาษี
- มูลค่า 10-50 ล้านบาท อัตราภาษี 0.02% (ล้านละ 200 บาท)
- มูลค่า 50-75 ล้านบาท อัตราภาษี 0.03% (ล้านละ 300 บาท)
- มูลค่า 75-100 ล้านบาท อัตราภาษี 0.05% (ล้านละ 500 บาท)
- มูลค่า 100 ล้านบาทขึ้นไป อัตราภาษี 0.10% (ล้านละ 1,000 บาท)
.
.
.
.
อัตราการคิดภาษีสำหรับบ้านหลังแรก เป็นเจ้าบ้านและที่ดิน
- มูลค่าไม่ถึง 50 ล้านบาท ไม่ต้องเสียภาษี
- มูลค่า 50-75 ล้านบาท อัตราภาษี 0.03% (ล้านละ 300 บาท)
- มูลค่า 75-100 ล้านบาท อัตราภาษี 0.05% (ล้านละ 500 บาท)
- มูลค่า 100 ล้านบาทขึ้นไป อัตราภาษี 0.10% (ล้านละ 1,000 บาท)
.
.
.
.
อัตราภาษีบ้านหลังอื่น
- มูลค่าไม่ถึง 50 ล้านบาท อัตราภาษี 0.02% (ล้านละ 200 บาท)
- มูลค่า 50-75 ล้านบาท อัตราภาษี 0.03% (ล้านละ 300 บาท)
- มูลค่า 75-100 ล้านบาท อัตราภาษี 0.05% (ล้านละ 500 บาท)
- มูลค่า 100 ล้านบาทขึ้นไป อัตราภาษี 0.10% (ล้านละ 1,000 บาท)
.
.
.
.
ในกรณีบ้านหลังหลักที่เป็นเจ้าของบ้านและเจ้าของที่ดิน (เจ้าของบ้านอาศัยอยู่เอง) และมีชื่อในทะเบียนบ้านในวันที่ 1 มกราคมของปีภาษีนั้น จะได้รับการยกเว้นภาษี 50 ล้านบาทแรก เท่ากับว่า หากเราเป็นมีบ้านพร้อมที่ดินที่มีมูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาทก็ไม่ต้องเสียภาษีในปี 2563 - 2566 ครับ
.
.
.
.
สรุปคล่าวๆของภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในหมวดที่อยู่อาศัย ที่เป็นตัวยอดนิยมที่ใครหลายต่อหลายคนให้ความสำคัญนะครับ ถ้าเราเป็นคนที่มีบ้านหรือคอนโด และมีชื่ออยู่ในทั้งทะเบียนบ้านและโฉนดที่ดิน และราคาประเมิณทรัพย์ของเราไม่ถึง 50 ล้านบาท เราไม่เสียภาษีที่ดินนะครับ ย้ำอีกครั้งถ้าบ้านคุณไม่ถึง 50 ล้านคุณไม่เสียภาษีที่ดินครับ
.
.
.
.ภาษีที่ดินเนี่ยจะมีผลกระทบก็ต่อเมื่อเรามีบ้านมากกว่า 1 หลังครับคือหลังที่สองเป็นต้นไปแต่ในอัตราภาษีที่เราต้องจ่ายมันก็ไม่ได้มากมายอะไรนะครับอยู่ในอัตราเริ่มต้นที่ ล้านละ 200 บาทแค่นั้นเองดังนั้นอย่าเพิ่งตื่นเต้นและตกใจเกี่ยวกับภาษีที่ดินกันไปนะลองศึกษารายละเอียดต่างๆให้รอบคอบก่อน จริงๆเราอาจจะไม่ต้องเสียภาษีที่ดินเลยก็ได้นะคับ
3.ที่ดินประเภทพาณิชยกรรมและอุตสาหรรม
ประเภทนี้ถ้าเราไม่ได้เป็นเจ้าของโรงงาน โกดัง โรงแรม อพาทเมนท์เราก็จะไม่โดนภาษีในหมวดนี้นะครับ ภาษีในหมดภาณิชยกรรมนี้ส่วนมากจะโดนกระทบกับพวกเจ้าของธุรกิจ SME หรือผู้ประกอบการต่างๆมากกว่าครับ
.
.
.
คำว่าที่ดินเชิงพาณิชย์กรรมนั้นรวมถึงที่ดินที่เราใช้ทำประโยชน์อื่นๆทั้งหมดที่ไม่ได้อยู่อาศัยเช่น
ค้าขาย ออฟฟิต โกดัง โรงงาน หอพัก ร้านค้า โรงแรม เป็นตันครับ
.
.
.
อัตราภาษีที่ดินพาณิชยกรรม
- มูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท อัตราภาษี 0.3% (ล้านละ 3,000 บาท)
- มูลค่า 50-200 ล้านบาท อัตราภาษี 0.4% (ล้านละ 4,000 บาท)
- มูลค่า 200-1,000 ล้านบาท อัตราภาษี 0.5% (ล้านละ 5,000 บาท)
- มูลค่า 1,000-5,000 ล้านบาท อัตราภาษี 0.6% (ล้านละ 6,000 บาท)
- มูลค่า 5,000 ล้านบาท อัตราภาษี 0.7% (ล้านละ 7,000 บาท)
.
.
.
แต่ทีนี้มีคำถามที่หลายๆคนสงสัยไหมครับว่า ถ้าเราเป็นเจ้าของบ้านหรือคอนโดและเราปล่อยเช่า เราจะเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในหมวดใด
.
.
.
ข่าวดีคือมีประกาศจากกระทรวงการคลังประกาศว่า
บ้านรวมทั้งคอนโดมิเนียมปล่อยเช่า จะเก็บภาษีในอัตราแบบที่อยู่อาศัย ถึงแม้จะมีการปล่อยให้ผู้อื่นเช่า หรือให้เช่ากี่หลังก็ตาม เพราะถือว่าการเช่านั้นเพื่ออยู่อาศัย
ชัดเจนนะครับว่า ณ ขณะนี้หากเรามีบ้านหรือคอนโดปล่อยเช่าเราจะเสียภาษีในอัตราที่อยู่อาศัยตามหัวข้อก่อนหน้านี้ที่พูดมาแล้วครับ (ถ้ายังไม่มีประกาศอะไรออกมาเพิ่มเติมนะครับ)
4.ที่ดินรกร้างว่างเปล่า
คือที่ดินที่ปล่อยทิ้งล้างไม่ได้ทำประโยชน์ใดๆ ที่ดินในส่วนนี้จะคิดอัตราภาษีในเพดานและฐานที่สูงกว่าประเภทอื่นๆครับ
.
.
.
อัตราภาษีที่ดินรกร้างว่างเปล่า
- มูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท อัตราภาษี 0.3% (ล้านละ 3,000 บาท)
- มูลค่า 50-200 ล้านบาท อัตราภาษี 0.4% (ล้านละ 4,000 บาท)
- มูลค่า 200-1,000 ล้านบาท อัตราภาษี 0.5% (ล้านละ 5,000 บาท)
- มูลค่า 1,000-5,000 ล้านบาท อัตราภาษี 0.6% (ล้านละ 6,000 บาท)
- มูลค่า 5,000 ล้านบาทขึ้นไป อัตราภาษี 0.7% (ล้านละ 7,000 บาท)
.
.
.
นอกจากนี้ หากปล่อยรกร้าง เป็นเวลา 3 ปีติดต่อกัน จะถูกเก็บภาษีเพิ่มอีก 0.3% ในปีที่ 4 และถูกเก็บเพิ่มขึ้น 0.3% ทุก ๆ 3 ปี หากยังไม่ได้มีการนำมาทำประโยชน์ แต่สูงสุดไม่เกิน 3%
ถ้าอยากรับชมเป็นคลิปสอน ผมได้ทำคลิปไว้ใน Youtube แล้วนะครับ
ถ้าชอบใจฝากกด Subscribe เพื่อรับชม Content ดีๆทุกสัปดาห์นะคับ
เตรียมความพร้อมภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 2563 จ่ายให้ใคร จ่ายยังไง เตรียมตัวยังไง
.
.
.
.
ถ้าชอบใจฝากกด Subscribe เพื่อรับชม Content ดีๆทุกสัปดาห์นะคับ
.
.
คำถามคือภาษีตัวนี้ใครเป็นผู้จัดเก็บ ภาษีตัวนี้จะถูกจัดเก็บองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเช่น เทศบาลหรืออบต เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาท้องถิ่น ทั้งหมด โดยไม่ต้องนำส่งเป็นรายได้ของรัฐบาลครับ
.
.
.
หลายคนอาจจะยังสงสัยนะครับว่าทำไมต้องเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ภาษีตัวนี้ ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเป็นภาษีประเภทใหม่ที่จะนำมาใช้ ทดแทนการจัดเก็บภาษีโรงเรือนและที่ดิน และภาษีบำรุงท้องที่ ที่มีการจัดเก็บมาในช่วงก่อนหน้านี้ครับซึ่งวันนี้เราจะมาคุยถึงรายละเอียดทุกเรื่องที่คุณควรรู้เกี่ยวกับภาษีที่ดินครับ
ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในตอนแรกมีผลบังคับใช้เริ่มเก็บตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 แต่ได้มีการเลื่อนระยะเวลาการเก็บไปเป็นเดือนสิงหาคม 2563 ทำให้เรามีเวลาในการเตรียมความพร้อมและศึกษาทำความเข้าใจภาษีตัวนี้มากขึ้นครับ
.
.
.
ก่อนอื่นเลยภาษีที่ดินคิดคำนวนจากอะไร การจัดเก็บภาษีจะคำนวณจาก
มูลค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และ การใช้ประโยชน์ของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนั้น
การใช้งานของที่ดินนั้นแบ่งเป็น 4 ประเภทหลักและมีการคิดอัตราภาษีที่แตกต่างกันดังนี้ครับ
1. เกษตรกรรม เพดานภาษีสูงสุด 0.15%
2. ที่พักอาศัย เพดานภาษีสูงสุด 0.3%
3 กลุ่มพาณิชยกรรมและอุตสาหกรรม เพดานภาษีสูงสุด 1.2%
4. ที่ดินรกร้างว่างเปล่า พดานภาษีสูงสุด 3%
เดี๋ยวเราจะมาลงรายละเอียดแต่ละตัวกันอีกทีครับ
ความหมายก็ตรงตัวครับคือที่ดินที่มีไว้สำหรับทำการเกษตรไม่ว่าคุณจะปลูกผัก ผลไม้ เลี้ยงสัตว์ ทำฟาร์ม ทำนา ทำไร่ ที่ดินของคุณจะอยู่ในประเภทเกษตรกรรมครับ
.
.
.
อัตราที่เราจะต้องเสียภาษีที่ดินเพื่อการเกษตรคือ
มูลค่า 0-75 ล้านบาท อัตราภาษี 0.01% (เท่ากับต้องเสียภาษี ล้านละ 100 บาท
มูลค่าเกิน 75-100 ล้านบาท อัตราภาษี 0.03% (เท่ากับต้องเสียภาษี ล้านละ 300 บาท
มูลค่าเกิน 100-500 ล้านบาท อัตราภาษี 0.05% (เท่ากับต้องเสียภาษี ล้านละ 500 บาท
มูลค่า เกิน 500-1,000 ล้านบาท อัตราภาษี 0.07% (เท่ากับต้องเสียภาษี ล้านละ 700 บาท)
มูลค่า 1,000 ล้านบาทขึ้นไป อัตราภาษี 0.10% (เท่ากับต้องเสียภาษี ล้านละ 1,000 บาท)
.
.
.
กรณีเป็นบุคคลธรรมดา
ไม่ต้องเสียภาษีใน 3 ปีแรกที่กฎหมายบังคับใช้
ปีที่ 4 เป็นต้นไป ได้รับยกเว้น 50 ล้านบาทแรก/เขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในส่วนที่เกินคิดตามอัตราภาษีจริง
แล้วพิจารณาอย่างไรหละว่าที่ดินตรงนี้เป็นที่ดินเพื่อการเกษตร
.
.
.
ตรงนี้เป็นอีกหนึ่งหหัวข้อที่น่าสนใจมากเลยครับว่าจะดูยังไงว่าที่ดินตรงนี้เป็นที่ดินเพื่อการเกษตร เรามีที่ว่างเปล่าแล้วเอากล้วยมาปักสักต้นนึงเราเรียกที่ดินผืนนี้ว่าที่ดินเกษตรได้ไหม ตรงนี้ผมขอตอบในส่วนที่กฎหมายเขาบอกมานะครับว่าการพิจารณานั้นจะดูตาม
สภาพข้อเท็จจริง
พื้นที่ที่ใช้ในการทำการเกษตร
ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างต่อเนื่องสำหรับทำการเกษตร
.
.
.
และผมคิดว่าคงพิจารณาจากหน่วยงานที่จัดเก็บภาษีตัวนี้คือองกรส่วนท้องถิ่น เทศบาล หรือ อบต ครับ ดังนั้นผมคิดว่าการที่เรามีที่ดินเปล่าแล้วเอากล้วยไปปลูกสัก 1 ต้นทางเทศบาลคงไม่ยอมเรียกที่ผืนนี้ว่า ที่ดินเพื่อการเกษตรหรอกจริงไหมครับ ในส่วนความชัดเจนและเกณในการพิจารณาเราต้องดูประกาศกันอีกทีครับ
.
.
.
สรุปสำหรับคนที่มีที่ดินที่อยู่ในเกณการเกษตร ถ้าคุณเป็นบุคคลธรรมดาหรือคนทั่วไปและที่ดินของคุณมีมูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท คุณไม่เสียภาษีที่ดินนะครับ เน้นอีกทีครับ คุณไม่เสียภาษีที่ดินครับ
.
.
.
หรือถ้ามูลค่าที่ดินเกษตรของคุณเกิน 50 ล้าน ใน 3 ปีแรก (2563 - 2566 )คุณยังไม่เสียภาษีครับคุณจะไปเริ่มเสียภาษีในปีที่ 4 และเสียจากมูลค่าที่เกิน 50 ล้านแรกไปแล้วครับ
.
.
.
ดังนั้นจริงๆาภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเนี่ย สำหรับที่ดินเพื่อการเกษตรถือว่าเสียไม่เยอะเลยนะครับ ยิ่งถ้าเราไม่ได่ถือครองที่ดินที่มูลค่ารวมไม่เกิน 50 ล้านด้วยแล้วเรายิ่งไม่ต้องเสียภาษีตัวนี้เลยด้วยซ้ำ ทำใจสบายๆและไปกันต่อนะครับ
ตรงตัวอีกเช่นเคยครับ ที่ดินประเภทนี้คือ ที่อยู่อาศัย นั่นคือพวกบ้านหรือคอนโดของเรานั่นแหละครับโดยถ้าอาศัยคำตามกฎหมาย
.
.
.
.
1. เจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่มีลักษณะให้บุคคลใช้เพื่อการอยู่อาศัย เช่น ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่เจ้าของใช้อยู่อาศัยเอง ให้ญาติพี่น้องอยู่อาศัย หรือให้เช่าเพื่ออยู่อาศัย ให้เสียภาษีในอัตราที่อยู่อาศัย
2. ให้ครอบคลุมถึงช่วงเวลาระหว่างการก่อสร้าง หรือปรับปรุงต่อเติมสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินที่ใช้เพื่อการอยู่อาศัยด้วย เช่น บ้านที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง หรือคอนโดมิเนียมที่อยู่ระหว่างการตกแต่ง เป็นต้น
3. ไม่รวมถึงโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม และที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างของผู้ประกอบการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา หรือสร้างเสร็จแล้วแต่ยังไม่ได้ขายตามกฎหมายว่าด้วยการจัดสรรที่ดิน หรือกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด
.
.
.
.
โดยที่ที่อยู่อาศัยเนี่ยเขาจะคิดจาก “บ้านหลังหลัก” และ “บ้านหลังอื่น” ก่อนครับโดยนิยามของคำว่า
.
.
.
.
บ้านหลังหลักคือ : บ้านที่ถือครองโดยบุคคลธรรมดาทั้งที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน (บ้าน + ที่ดิน)
สรุปง่ายๆคือเป็นเจ้าของโฉนด และ มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านครับถึงจะเรียกว่าบ้านหลังหลัก
.
.
.
.
ถ้าไม่ตรงตามเกณฑ์นี้เราจะเรียกว่า “บ้านหลังอื่น” ครับ
.
.
.
.
เราจะแยกอัตราภาษีนี้เป็น 3 แบบย่อยๆครับคือ
1.บ้านหลังหลัก เป็นเจ้าของเฉพาะบ้าน
2.บ้านหลังหลัก เป็นเจ้าของบ้านและที่ดิน
3.บ้านหลังอื่น
.
.
.
.
อัตราการคิดภาษีสำหรับบ้านหลังแรก เป็นเจ้าของเฉพาะบ้าน
- มูลค่าไม่ถึง 10 ล้านบาท ไม่ต้องเสียภาษี
- มูลค่า 10-50 ล้านบาท อัตราภาษี 0.02% (ล้านละ 200 บาท)
- มูลค่า 50-75 ล้านบาท อัตราภาษี 0.03% (ล้านละ 300 บาท)
- มูลค่า 75-100 ล้านบาท อัตราภาษี 0.05% (ล้านละ 500 บาท)
- มูลค่า 100 ล้านบาทขึ้นไป อัตราภาษี 0.10% (ล้านละ 1,000 บาท)
.
.
.
.
อัตราการคิดภาษีสำหรับบ้านหลังแรก เป็นเจ้าบ้านและที่ดิน
- มูลค่าไม่ถึง 50 ล้านบาท ไม่ต้องเสียภาษี
- มูลค่า 50-75 ล้านบาท อัตราภาษี 0.03% (ล้านละ 300 บาท)
- มูลค่า 75-100 ล้านบาท อัตราภาษี 0.05% (ล้านละ 500 บาท)
- มูลค่า 100 ล้านบาทขึ้นไป อัตราภาษี 0.10% (ล้านละ 1,000 บาท)
.
.
.
.
อัตราภาษีบ้านหลังอื่น
- มูลค่าไม่ถึง 50 ล้านบาท อัตราภาษี 0.02% (ล้านละ 200 บาท)
- มูลค่า 50-75 ล้านบาท อัตราภาษี 0.03% (ล้านละ 300 บาท)
- มูลค่า 75-100 ล้านบาท อัตราภาษี 0.05% (ล้านละ 500 บาท)
- มูลค่า 100 ล้านบาทขึ้นไป อัตราภาษี 0.10% (ล้านละ 1,000 บาท)
.
.
.
.
ในกรณีบ้านหลังหลักที่เป็นเจ้าของบ้านและเจ้าของที่ดิน (เจ้าของบ้านอาศัยอยู่เอง) และมีชื่อในทะเบียนบ้านในวันที่ 1 มกราคมของปีภาษีนั้น จะได้รับการยกเว้นภาษี 50 ล้านบาทแรก เท่ากับว่า หากเราเป็นมีบ้านพร้อมที่ดินที่มีมูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาทก็ไม่ต้องเสียภาษีในปี 2563 - 2566 ครับ
.
.
.
.
สรุปคล่าวๆของภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในหมวดที่อยู่อาศัย ที่เป็นตัวยอดนิยมที่ใครหลายต่อหลายคนให้ความสำคัญนะครับ ถ้าเราเป็นคนที่มีบ้านหรือคอนโด และมีชื่ออยู่ในทั้งทะเบียนบ้านและโฉนดที่ดิน และราคาประเมิณทรัพย์ของเราไม่ถึง 50 ล้านบาท เราไม่เสียภาษีที่ดินนะครับ ย้ำอีกครั้งถ้าบ้านคุณไม่ถึง 50 ล้านคุณไม่เสียภาษีที่ดินครับ
.
.
.
.ภาษีที่ดินเนี่ยจะมีผลกระทบก็ต่อเมื่อเรามีบ้านมากกว่า 1 หลังครับคือหลังที่สองเป็นต้นไปแต่ในอัตราภาษีที่เราต้องจ่ายมันก็ไม่ได้มากมายอะไรนะครับอยู่ในอัตราเริ่มต้นที่ ล้านละ 200 บาทแค่นั้นเองดังนั้นอย่าเพิ่งตื่นเต้นและตกใจเกี่ยวกับภาษีที่ดินกันไปนะลองศึกษารายละเอียดต่างๆให้รอบคอบก่อน จริงๆเราอาจจะไม่ต้องเสียภาษีที่ดินเลยก็ได้นะคับ
ประเภทนี้ถ้าเราไม่ได้เป็นเจ้าของโรงงาน โกดัง โรงแรม อพาทเมนท์เราก็จะไม่โดนภาษีในหมวดนี้นะครับ ภาษีในหมดภาณิชยกรรมนี้ส่วนมากจะโดนกระทบกับพวกเจ้าของธุรกิจ SME หรือผู้ประกอบการต่างๆมากกว่าครับ
.
.
.
คำว่าที่ดินเชิงพาณิชย์กรรมนั้นรวมถึงที่ดินที่เราใช้ทำประโยชน์อื่นๆทั้งหมดที่ไม่ได้อยู่อาศัยเช่น
ค้าขาย ออฟฟิต โกดัง โรงงาน หอพัก ร้านค้า โรงแรม เป็นตันครับ
.
.
.
อัตราภาษีที่ดินพาณิชยกรรม
- มูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท อัตราภาษี 0.3% (ล้านละ 3,000 บาท)
- มูลค่า 50-200 ล้านบาท อัตราภาษี 0.4% (ล้านละ 4,000 บาท)
- มูลค่า 200-1,000 ล้านบาท อัตราภาษี 0.5% (ล้านละ 5,000 บาท)
- มูลค่า 1,000-5,000 ล้านบาท อัตราภาษี 0.6% (ล้านละ 6,000 บาท)
- มูลค่า 5,000 ล้านบาท อัตราภาษี 0.7% (ล้านละ 7,000 บาท)
.
.
.
แต่ทีนี้มีคำถามที่หลายๆคนสงสัยไหมครับว่า ถ้าเราเป็นเจ้าของบ้านหรือคอนโดและเราปล่อยเช่า เราจะเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในหมวดใด
.
.
.
ข่าวดีคือมีประกาศจากกระทรวงการคลังประกาศว่า
บ้านรวมทั้งคอนโดมิเนียมปล่อยเช่า จะเก็บภาษีในอัตราแบบที่อยู่อาศัย ถึงแม้จะมีการปล่อยให้ผู้อื่นเช่า หรือให้เช่ากี่หลังก็ตาม เพราะถือว่าการเช่านั้นเพื่ออยู่อาศัย
ชัดเจนนะครับว่า ณ ขณะนี้หากเรามีบ้านหรือคอนโดปล่อยเช่าเราจะเสียภาษีในอัตราที่อยู่อาศัยตามหัวข้อก่อนหน้านี้ที่พูดมาแล้วครับ (ถ้ายังไม่มีประกาศอะไรออกมาเพิ่มเติมนะครับ)
คือที่ดินที่ปล่อยทิ้งล้างไม่ได้ทำประโยชน์ใดๆ ที่ดินในส่วนนี้จะคิดอัตราภาษีในเพดานและฐานที่สูงกว่าประเภทอื่นๆครับ
.
.
.
อัตราภาษีที่ดินรกร้างว่างเปล่า
- มูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท อัตราภาษี 0.3% (ล้านละ 3,000 บาท)
- มูลค่า 50-200 ล้านบาท อัตราภาษี 0.4% (ล้านละ 4,000 บาท)
- มูลค่า 200-1,000 ล้านบาท อัตราภาษี 0.5% (ล้านละ 5,000 บาท)
- มูลค่า 1,000-5,000 ล้านบาท อัตราภาษี 0.6% (ล้านละ 6,000 บาท)
- มูลค่า 5,000 ล้านบาทขึ้นไป อัตราภาษี 0.7% (ล้านละ 7,000 บาท)
.
.
.
นอกจากนี้ หากปล่อยรกร้าง เป็นเวลา 3 ปีติดต่อกัน จะถูกเก็บภาษีเพิ่มอีก 0.3% ในปีที่ 4 และถูกเก็บเพิ่มขึ้น 0.3% ทุก ๆ 3 ปี หากยังไม่ได้มีการนำมาทำประโยชน์ แต่สูงสุดไม่เกิน 3%