จะเล่าให้เข้าใจง่ายที่สุดนะคะแต่อาจจะยาวไปหน่อย
เรื่องที่เล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องตอนที่เราคบกับสามี ยังเป็นแฟนกันเฉยๆค่ะ
อาของสามีคนที่ว่าเป็นญาติห่างๆค่ะ คืออาคนนี้นามสกุลเดียวกับย่าของสามีเราค่ะ
นับๆแล้วก็มีศักดิ์เป็นน้องของพ่อสามีเรา
แต่บังเอิญว่าอยู่ในหมู่บ้านเดียวกับเราค่ะ
อาของสามีคนนี้อายุ40 อยู่กับลูก1คนอายุ16ปีและอาสะใภ้อายุ36 ที่บ้านของนายจ้าง คือครอบครัวทำอาชีพรับจ้างกรีดยางค่ะ และพอรู้ว่าเป็นญาติกับสามีเรา ก็เลย ขอทำงานเสริมที่บ้านสามีเราด้วย ที่บ้านสามีเราทำธุรกิจส่วนตัวค่ะ รับคนงานเยอะค่ะ
มากันที่ครอบครัวเราบ้างนะคะ
พ่อเรามีสวนยางพารา50ไร่ ก็มีคนมารับจ้างกรีดอยู่ค่ะ พ่อเราไม่ได้ทำงานอะไรนอกเหนือจากนี้ค่ะ ก็อยู่กับน้องสาวอีกหนึ่งคน อายุ 16 ปีก็กำลังเรียนหนังสืออยู่ แล้วยังเรียนห้องเดียวกับลูกของอาคนที่มีปัญหากับเราด้วยค่ะ
พ่อเราก็มีบ้านหลังกลางๆ มีรถ คือไม่ได้ลำบากค่ะ แต่ก็ไม่ได้ร่ำรวย คือพอกินพอใช้
ส่วนแม่ของเรา เลิกกับพ่อประมาณ 10 ปีแล้วค่ะ แม่เราแต่งงานใหม่กับนายตำรวจนายหนึ่งซึ่งดีกับเรามากๆ ส่งเสียให้เราและพี่สาวเรียนจนจบค่ะ
แม่เราเป็นพนักงานบัญชี บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ในกรุงเทพฯ
** มาเข้าเรื่องกันค่ะ สาเหตุที่เราเกลียดอาสะใภ้มากๆ เพราะตอนที่เราก็เป็นแฟนกับสามี ชอบยุแยงสามีให้เลิกกับเรา เพื่อไปคบกับลูกของนายจ้างตัวเอง พูดว่ามีเงินเยอะกว่าสมบัติเยอะกว่าเรา เอาเราไปพูดเสียหายมากมาย แล้วที่พูดด้วยไม่ใช่ใครนะคะก็สามีเรา พ่อแม่สามีเรา**
พูดถึงพ่อเราว่า พ่อเราติดยา ขี้เหล้า รับจ้างกรีดยาง อยู่กระท่อม
ว่าแม่เราว่า

หนีไปกับผู้ชาย เราเองก็คงนิสัยเหมือนแม่เรา บอกสามีว่ารู้จักเรามาตั้งแต่เล็กแต่น้อย เรานอนกับผู้ชายไม่ซ้ำหน้า เราเที่ยวเตร่ เหลวแหลก
บอกให้สามีไปคบกับลูกนายจ้างเขาดีกว่า ดีพร้อมทุกอย่าง เรียบร้อย สมบัติเยอะ
สามีเราก็ไม่พูดอะไรค่ะก็คบกับเรามาเรื่อยๆ จนถึงวันที่ไปขอ แล้วเราก็ได้แต่งงานกัน
วันนั้นเราอยู่ที่บ้านสามี ซึ่งอาสะใภ้สามีไปเบิกเงินค่าจ้างของสามีเขาค่ะ แล้วก็อาจจะไม่เห็นเรา เลยพูดกับพ่อสามีว่า ให้สามีเอาเราทำไม ทำไมไม่ไปเอาลูกนายจ้างของเขา แล้วก็ได้ยาวพูดถึงเรื่องครอบครัวเราค่ะ พ่อแม่สามีเราได้แต่หัวเราะแล้วบอกให้กลับไป
บอกก่อนนะคะ ว่าพ่อเรามีโรคประจำตัวแล้วก็เป็นโรคซึมเศร้าค่ะ เป็นมานานตั้งแต่แม่อยู่แล้ว พ่อไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ไม่เคยกินเหล้า ตั้งแต่เราเกิดมา เราก็ไม่เคยเห็นพ่อยุ่งเกี่ยวกับของพวกนี้ค่ะ เพราะพ่อเราเป็นคนที่ขี้คิดมาก อะไรกระทบกระเทือนใจสักนิดหน่อย พ่อก็ร้องไห้ จะฆ่าตัวตายตลอด
ตัดมาที่แม่เรา แม่เราหย่ากับพ่อค่ะ และอยู่ถึง 5 ปี ถึงจะมีแฟนใหม่
ส่วนเรา ไหนๆก็ไม่มีใครทราบว่าเราเป็นใครมาจากไหน มันก็ไม่จำเป็นที่เราต้องโกหกถูกไหมคะ เราขอบอกว่าเราคบใครต้องผ่านหูผ่านตาพ่อแม่ตลอด เราเคยมีแฟนมาบ้างแล้วก็จริงค่ะแต่เราไม่เคยไปเที่ยวสองต่อสองไปไหนก็ไปกับกลุ่มเพื่อน และไม่เคยมีอะไรกับใครเลยนอกจากสามี
**เราบอกตรงๆว่าเราเกลียดอาสะใภ้คนนี้มากๆ เจอที่ไหนเราจะมองค้อน เราจะเบะปากใส่ คือเราอยากให้มันถามเราค่ะ ว่าทำไมถึงทำแบบนั้นใส่มัน แต่มันดันไม่ถาม เพราะคงรู้ตัว ก็จะทำหน้าหาเรื่องใส่เราประมาณนั้น**
เราไม่รู้จะจัดการกับความรู้สึกเรายังไง เพราะเราเจอหน้ามันทีไรเราแทบจะพุ่งเข้าไปใส่มันตลอดเลย แต่บางทีเราก็อยู่ในที่คนพลุกพล่านเราก็อายคนนะคะ เลยได้แต่เก็บความรู้สึกไว้ ส่งสายตาพิฆาตให้มันบ้าง ประมาณว่าอย่าให้กูเจอตรงที่ไม่มีคนนะ
สิ่งหนึ่งที่เราเสียใจกับเรื่องนี้ก็คือ เราเห็นอาสามีและอาสะใภ้สามี ผ่านหูผ่านตา เราตลอด แต่ไม่เคยคุยกันเพราะอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน เจอกันมันเป็นเรื่องปกติถูกไหมคะ
เราไม่คิดว่าคนที่ไม่รู้จักกัน จะพูดจาใส่ร้ายป้ายสี พูดในสิ่งที่ไม่จริง แต่งเรื่องได้เก่งขนาดนี้
เรายังต้องเจออีกแน่ๆ คิดทีนึงเราก็อยากปล่อยวางค่ะ แต่พอดูในมุมความเป็นจริงแล้ว เรารู้สึกว่ามันเกินเหตุมากๆ กับสิ่งที่นางแต่งเรื่อง ปั้นเรื่องให้ทุกคนเข้าใจเราผิด
เกลียดอาสะใภ้ของสามีควรทำยังไงดีคะ?
เรื่องที่เล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องตอนที่เราคบกับสามี ยังเป็นแฟนกันเฉยๆค่ะ
อาของสามีคนที่ว่าเป็นญาติห่างๆค่ะ คืออาคนนี้นามสกุลเดียวกับย่าของสามีเราค่ะ
นับๆแล้วก็มีศักดิ์เป็นน้องของพ่อสามีเรา
แต่บังเอิญว่าอยู่ในหมู่บ้านเดียวกับเราค่ะ
อาของสามีคนนี้อายุ40 อยู่กับลูก1คนอายุ16ปีและอาสะใภ้อายุ36 ที่บ้านของนายจ้าง คือครอบครัวทำอาชีพรับจ้างกรีดยางค่ะ และพอรู้ว่าเป็นญาติกับสามีเรา ก็เลย ขอทำงานเสริมที่บ้านสามีเราด้วย ที่บ้านสามีเราทำธุรกิจส่วนตัวค่ะ รับคนงานเยอะค่ะ
มากันที่ครอบครัวเราบ้างนะคะ
พ่อเรามีสวนยางพารา50ไร่ ก็มีคนมารับจ้างกรีดอยู่ค่ะ พ่อเราไม่ได้ทำงานอะไรนอกเหนือจากนี้ค่ะ ก็อยู่กับน้องสาวอีกหนึ่งคน อายุ 16 ปีก็กำลังเรียนหนังสืออยู่ แล้วยังเรียนห้องเดียวกับลูกของอาคนที่มีปัญหากับเราด้วยค่ะ
พ่อเราก็มีบ้านหลังกลางๆ มีรถ คือไม่ได้ลำบากค่ะ แต่ก็ไม่ได้ร่ำรวย คือพอกินพอใช้
ส่วนแม่ของเรา เลิกกับพ่อประมาณ 10 ปีแล้วค่ะ แม่เราแต่งงานใหม่กับนายตำรวจนายหนึ่งซึ่งดีกับเรามากๆ ส่งเสียให้เราและพี่สาวเรียนจนจบค่ะ
แม่เราเป็นพนักงานบัญชี บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ในกรุงเทพฯ
** มาเข้าเรื่องกันค่ะ สาเหตุที่เราเกลียดอาสะใภ้มากๆ เพราะตอนที่เราก็เป็นแฟนกับสามี ชอบยุแยงสามีให้เลิกกับเรา เพื่อไปคบกับลูกของนายจ้างตัวเอง พูดว่ามีเงินเยอะกว่าสมบัติเยอะกว่าเรา เอาเราไปพูดเสียหายมากมาย แล้วที่พูดด้วยไม่ใช่ใครนะคะก็สามีเรา พ่อแม่สามีเรา**
พูดถึงพ่อเราว่า พ่อเราติดยา ขี้เหล้า รับจ้างกรีดยาง อยู่กระท่อม
ว่าแม่เราว่า
บอกให้สามีไปคบกับลูกนายจ้างเขาดีกว่า ดีพร้อมทุกอย่าง เรียบร้อย สมบัติเยอะ
สามีเราก็ไม่พูดอะไรค่ะก็คบกับเรามาเรื่อยๆ จนถึงวันที่ไปขอ แล้วเราก็ได้แต่งงานกัน
วันนั้นเราอยู่ที่บ้านสามี ซึ่งอาสะใภ้สามีไปเบิกเงินค่าจ้างของสามีเขาค่ะ แล้วก็อาจจะไม่เห็นเรา เลยพูดกับพ่อสามีว่า ให้สามีเอาเราทำไม ทำไมไม่ไปเอาลูกนายจ้างของเขา แล้วก็ได้ยาวพูดถึงเรื่องครอบครัวเราค่ะ พ่อแม่สามีเราได้แต่หัวเราะแล้วบอกให้กลับไป
บอกก่อนนะคะ ว่าพ่อเรามีโรคประจำตัวแล้วก็เป็นโรคซึมเศร้าค่ะ เป็นมานานตั้งแต่แม่อยู่แล้ว พ่อไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ไม่เคยกินเหล้า ตั้งแต่เราเกิดมา เราก็ไม่เคยเห็นพ่อยุ่งเกี่ยวกับของพวกนี้ค่ะ เพราะพ่อเราเป็นคนที่ขี้คิดมาก อะไรกระทบกระเทือนใจสักนิดหน่อย พ่อก็ร้องไห้ จะฆ่าตัวตายตลอด
ตัดมาที่แม่เรา แม่เราหย่ากับพ่อค่ะ และอยู่ถึง 5 ปี ถึงจะมีแฟนใหม่
ส่วนเรา ไหนๆก็ไม่มีใครทราบว่าเราเป็นใครมาจากไหน มันก็ไม่จำเป็นที่เราต้องโกหกถูกไหมคะ เราขอบอกว่าเราคบใครต้องผ่านหูผ่านตาพ่อแม่ตลอด เราเคยมีแฟนมาบ้างแล้วก็จริงค่ะแต่เราไม่เคยไปเที่ยวสองต่อสองไปไหนก็ไปกับกลุ่มเพื่อน และไม่เคยมีอะไรกับใครเลยนอกจากสามี
**เราบอกตรงๆว่าเราเกลียดอาสะใภ้คนนี้มากๆ เจอที่ไหนเราจะมองค้อน เราจะเบะปากใส่ คือเราอยากให้มันถามเราค่ะ ว่าทำไมถึงทำแบบนั้นใส่มัน แต่มันดันไม่ถาม เพราะคงรู้ตัว ก็จะทำหน้าหาเรื่องใส่เราประมาณนั้น**
เราไม่รู้จะจัดการกับความรู้สึกเรายังไง เพราะเราเจอหน้ามันทีไรเราแทบจะพุ่งเข้าไปใส่มันตลอดเลย แต่บางทีเราก็อยู่ในที่คนพลุกพล่านเราก็อายคนนะคะ เลยได้แต่เก็บความรู้สึกไว้ ส่งสายตาพิฆาตให้มันบ้าง ประมาณว่าอย่าให้กูเจอตรงที่ไม่มีคนนะ
สิ่งหนึ่งที่เราเสียใจกับเรื่องนี้ก็คือ เราเห็นอาสามีและอาสะใภ้สามี ผ่านหูผ่านตา เราตลอด แต่ไม่เคยคุยกันเพราะอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน เจอกันมันเป็นเรื่องปกติถูกไหมคะ
เราไม่คิดว่าคนที่ไม่รู้จักกัน จะพูดจาใส่ร้ายป้ายสี พูดในสิ่งที่ไม่จริง แต่งเรื่องได้เก่งขนาดนี้
เรายังต้องเจออีกแน่ๆ คิดทีนึงเราก็อยากปล่อยวางค่ะ แต่พอดูในมุมความเป็นจริงแล้ว เรารู้สึกว่ามันเกินเหตุมากๆ กับสิ่งที่นางแต่งเรื่อง ปั้นเรื่องให้ทุกคนเข้าใจเราผิด