ถ้าไม่นับเรื่องหน้าตา ซึ่งบางคนอาจจะชอบหรือไม่ชอบ
แต่พูดถึงเฉพาะเรื่องรูปร่าง ทำไมรู้สึกว่ามันดูไม่น่าตื่นเต้นเลย
จะมีคนที่รู้สึกตื่นเต้นรถรูปทรงแบบนี้ไหมนะ?
ถ้าเกิด e-power เฟลขึ้นมา Nissan จะเปลี่ยนแผนเป็นยังไงต่อนะ?
พูดถึงรถสักรุ่นที่เป็นเสาหลักให้กับแบรนด์ได้
อย่างเช่น Ranger ที่ทำให้ทุกคนโอ้โห อ้าหาตั้งแต่วันที่ทุกคนเห็นภาพครั้งแรกบนเน็ต
จนกระทั่งปัจจุบัน มันก็ยังเป็นเสาหลักให้กับ Ford ได้
แต่ในฝั่งของรถเก๋ง ถ้า Nissan จะมี Almera ขายดีอยู่รุ่นเดียว
มันไม่น่าจะรอดได้ ต้องขึ้นอยู่กับ Kicks ตัวนี้ด้วย "อย่างยิ่ง"
Kicks มันเป็นรถที่ต้องขายเรื่องสมรรถนะกับตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองให้ลูกค้าเกิดคำชมปากต่อปากให้ได้
"ไม่งั้นคงแย่แน่"
หน้าตาและรูปทรงยังคงห่างไกลกับคำว่า "ชวนฝัน"
Sylphy ใหม่ที่อาจจะไม่มาประกอบแล้ว 99% ยังดูน่าชวนฝันกว่ามาก
e-power ต้องทำให้คนรู้สึกถึงความ "วิเศษ" ขึ้นมาให้ได้
ไม่งั้นคงไปต่อยาก
ผมเชียร์รุ่นนี้นะ เพราะรู้สึกว่ามันเป็นความหวังสุดท้ายของ Nissan
ไม่อยากให้แบรนด์ใดๆก็แล้วแต่เจ๊ง ถ้าไม่ใช่ขนาดเลวร้ายตั้งใจคดโกงลูกค้า
ผมอยากลองมาก แต่ผมไม่ชอบรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้า
มันมีคลื่นที่ทำให้ส่วนตัวรู้สึกไม่สบาย นั่ง BTS ก็ไม่ได้รู้สึกสบาย
เคยใช้ไฮบริดแต่ก็เลิกใช้ไปแล้ว เพราะปวดหัว ถ้าอีกหน่อยรถรุ่นใหม่มีแต่ไฟฟ้า ผมคงขับรุ่นเก่าๆต่อไปเรื่อยๆ
ขออนุญาต นำข้อมูลของ name_m_m จากเว็บ H**
ครับ เป็นข้อมูลที่ดีมากครับ ละเอียดสุดยอด
รถให้ลองขับที่ 0 ได้วันที่ 19 นี้นะครับ
(--->) เป็นคอมเม้นต์ผมเองนะครับ ลองดูว่าคะแนน เต็ม 10 จะโดนหักกี่คะแนน
- การขับขี่ ผมให้ 8/10 คะแนนเลย อัตราเร่งไม่ต้องถามถึง มันคือนิสัยมอเตอร์โดยแท้ที่กดคันเร่งปุ๊ปดึงปั๊ป
ระยะทางแค่ไม่กี่เมตรก็ขึ้นไปถึง 80 ได้โดยไว
---> คนชอบฟีลการขับขี่แบบรถไฟฟ้า Kicks ตอบโจทย์ 100% แน่ครับ แต่จะมีข้ออื่นมาตัดคะแนนอีกบ้าง
- สิ่งที่ประทับใจในการขับขี่นี้คือ One Pedal ยืนยันว่ามันสามารถใช้งานได้ในชีวิตประจำวันได้จริง
รถจะหน่วงจากมอเตอร์โดยตรงแบบนุ่มๆ เลยจนหยุดสนิท และไม่จำเป็นต้องเปิด Auto Hold เลย
(แต่ยังจำเป็นต้องมีสำหรับการขับโหมดปกติ) ตรงนี้ถ้าขับยาวๆ คิดว่าปรับตัวบนถนนจริงได้ไม่ยาก
ลองดูระยะซัก 2-3 รอบ ในส่วนแป้นเบรกปกติความเร็วไม่เกิน 80 km/h ถือว่าน้ำหนักกลางๆ ไม่หนักไปเบาไป
ผช ขับได้ กดประมาณ 30% ก็อยู่ อยากได้เพิ่มก็กดลงก็หน่วงตามเท้าดี ผญ ขับแบบกดลึกเลยก็อยู่ตามต้องการ
ระยะกดตื้นกว่า Almera หน่อย และแอบตื้นกว่า CX-30 นิดเดียว
---> ผมโคต ร อยากใช้ one pedal เลยครับ มันน่าจะเจ๋ง เป็นประสบการณ์แปลกใหม่
- ช่วงล่าง ความนุ่มนวลอยู่ตรงกลางระหว่าง C-HR และ CX-30 มีการสะท้านช่วงรอยต่อถนนในเขตลองขับบ้าง
ส่วน handling ผมได้ลองแค่ตอนเลี้ยวและยูเทิร์นความเร็วต่ำ ท้ายคุมอาการได้ตามควาดหวัง
พวงมาลัยความเร็วต่ำน้ำหนักหนักกว่า Almera นิดนึง แต่ถือว่าเบาสุดในกลุ่ม
ความเร็ว 60 ขึ้นมีแรงตึงกำลังดีตามขนาดแต่ยังไม่คมกริบแบบ CX-30 และเหมือนจะไม่เท่า C-HR
ต้องลอง C-HR อีกทีจำไม่ได้ แต่รถโดยรวมคล่องตัว ขับง่าย
---> ถือว่าโอเค ไม่เลวร้าย ต้องดูตอนขับความเร็วสูงอีกที
- การเก็บเสียง เสียงลม เสียงถนน ความเร็วไม่เกิน 80 km/h ก็เงียบตามประสารถใหม่ ต้องลองมากกว่านี้
แต่ที่ขัดใจคือเสียงเครื่องยนต์ อยู่ในรถว่าเข้ามาเยอะแล้ว อยู่นอกรถก็ดังกระหึ่มมากจริง อันนี้ผมว่าดังไปจุดเดียวเลย
อาจะเป็นเพราะทำงานปั่นไฟในรอบสูงในช่วงกดคันเร่งเพิ่มหรือแบตเหลือน้อย
---> คนชอบฟีลรถไฟฟ้าไม่ปลื้มแน่ ผมว่าคะแนน -1 ไม่ก็ -2 เลยนะ
- เรื่องจิปาถะด้านเครื่องยนต์ นอกจากเรื่องเสียง ที่ตั้งข้อสังเกตคือความถี่การปั่นไฟ
ผมกดเพิ่มนิดเดียวเครื่องก็ติดเลย ไฟแบตลดไป 1 ขีดเองจากเกินครึ่งมาประมาณ 2 ขีด
อันนี้ต้องได้ลองยาวๆ ตอนที่น้ำมันและไฟเต็ม เพราะในลักษณะการขับผมเท่านี้ถือว่าติดค่อนข้างถี่
ส่วนรถคันที่ผมลอง โหมด Normal น้ำมันวัดจากขีดที่แสดงบนมาตรวัดโชว์ประมาณ 60% ของขีดทั้งหมด
Range โชว์แค่ 135 km เอง ส่วนโหมด S โชว์ 140 km ลองขับอยู่ระยะทาง 3 km
---> การปั่นไฟถี่ เสียงเครื่องดัง ทำให้ภาพรถดูไปทางรถ eco car มากกว่าไปทางรถไฟฟ้าราคาแพงอยู่นะ โดน -1
- ทัศนวิสัย ผมมาจาก Mazda อาจจะรู้สึกว่าอะไรๆ ก็ดีไปหมด 555555 เห็นกว้างขวาง
ผมว่าแอบดีกว่า CX-30 ด้วย ส่วนกระจกข้างตินิดเดียว พี่ไม่น่าเฉือนตัดมุมเลยจะได้ cover มุมมองได้อีก
ส่วนกล้อง iRVM มองหลังมีประโยชน์จริง เพราะลองเอาหมอนหลังขึ้นหมด
และมีเซลล์นั่งก็ใช้กล้องเลี่ยงแทนได้เลยแค่ดันขึ้น ภาพคมชัดและสว่างมาก
และกล้องรอบคันก็เหมือน Almera เลย ชัดระดับนึงมีขุ่นบ้างนิดหน่อย เส้นหันตามพวงมาลัย ถอยจอดง่ายกว่าที่คิด
---> มันก็เป็นข้อดีนะ แต่ถ้ารถมีจุดเด่นแค่นี้ มันเหมือนบุคลิกรถที่แม่ หรือ พี่สาวขับ หรือ แฟนขับมาก
- ภายใน เปิดประตูเข้ามา ก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะต่างจาก Almera มากมายอยู่แล้ว
แต่ก็ไม่คิดว่าแทบจะไม่ต่างกันเลยขนาดนี้ 555555 พลาสติกส่วนบนดูแน่นกว่าและเป็นจุดเดียวที่ดี
เพราะที่เหลือ Copy&Paste Almera มาทั้งดุ้น ทั้งคุณภาพหนังที่ใช้ คุณภาพพลาสติกส่วนล่างๆ
และส่วนที่ทำให้ผมหักคะแนนโหดก็เรื่องแผงประตูและพวงมาลัย
แผงประตูไม่คิดว่าจะใช้พลาสติกเกรด March เลยแค่มีหนังเสริมที่วงแขนและแผงข้างนิดหน่อย
และพวงมาลัยหนังที่ไม่เหมือนหนังแบบ Almera แข็งและสากแบบยูริเธนขึ้นรูปมากเลย 2 จุดนี้ผมไม่โอเค
เกินไปมากเทียบกับราคารถ
---> พูดแล้วจะหาว่าโม้ แต่จากที่มองภาพถ่าย และประสบการณ์ในวงการรถของผม ผมเดาว่าสเปควัสดุไม่เปลี่ยน
แล้วมันก็ใช่จริงๆ แผงประตู March นี่ มองจากตาคือใช่ hahaha นี่คือรถราคาเป็นล้านนะเพ่
เรื่องแผงประตูดู cheap นี่ คนส่วนน้อยจริงๆถึงจะรับได้นะ ไม่ใช่คนส่วนใหญ่ ข้อนี้อาจจะ -2, -3 เลยมั้ง
- เบาะหน้า พื้นที่คอนโซลวางขาต่างๆ เหมือน Almera เป๊ะ ตัวเบาะมีปีกที่ไม่โอบเท่า Almera
แต่มีฟองน้ำเสริมมาจนแข็งกว่ามากยกเว้นแค่ช่วงหัวไหล่และหมองรองหัว
ในส่วนที่แข็งก็แข็งจนรู้สึกว่าช่วงกลางหลังแอบแข็งไปนะ แต่เข้าใจว่าทางไกลน่าจะไม่เมื่อยมากถ้าตำแหน่งเบาะได้ที่
ส่วนเบาะรองนั่งสำหรับผมถือว่าดี ปีกไม่หนาเกินไปและนิ่ม ความยาวก็รองรับถึงต้นขาผมได้
ตำแหน่งวางแขนประตูคู่หน้ากำลังวางพอดี แต่คอนโซลกลางวางไม่ค่อยได้และเลื่อนมาไม่ได้
แถมเปิดมาที่เก็บของตื้นมาก ตอนแรกคิดว่าทำมา 2 ชั้นแต่เปิดลึกไปไม่ได้แล้ว
ตำแหน่งนั่งขับอาจจะรู้สึกว่าสูงถ้าปรับกลางๆ แต่ก็ถือว่าปรับได้ต่ำลงมาระดับนึง โดยรวมตำแหน่งถือว่าสอดคล้องตามความสูงรถ
---> ผมคิดว่า Nissan จะทำให้เบาะดีกว่านี้ เพราะเป็นจุดเดียวที่ไม่ได้ใช้ร่วมกับ Almera
ถ้า Nissan จะรอด เบาะต้องแบบว่านั่งแล้วรู้สึกสบายแตกต่างจาก Almera อย่างเห็นได้ชัด
แต่ข้อนี้ คงต้องไปลองด้วยตัวเองก่อน ยังไม่ตัดคะแนนก็แล้วกัน
- เบาะหลัง ปรับท่านั่งที่ผมนั่งสบายข้างหน้าแล้วย้ายมาหลังเลย Legroom เหลือน้อยกว่า Almera ,
C-HR จริงนะจากการประมาณ แต่ยังเยอะกว่า CX-3 , CX-30 ตัวเบาะกลางหลังแข็งอีกแล้ว
ตัวพนักพิงมีมุมเอนกว่า CX-30 นิดๆ แต่ support ช่วงสะโพกและบนหลังไม่ดีเท่า
และยังถือว่าชันอยู่นิดหน่อยและปรับเอนไม่ได้อีกแล้ว
headroom เหลือเยอะกว่า CX-3 , CX-30 , C-HR ชัดเจน มีระดับ 2 กำปั้นขึ้นไปถ้าคนเตี้ยนั่ง
เบาะรองนั่งแอบสั้นไปนิด ยาวกว่า Note ไม่เยอะและเหมือนจะพอๆ กับ Almera แค่ฟองน้ำแข็งกว่า
วางแขนประตู่คู่หลังได้ดี แต่ไม่มีวางแขนกลางเบาะหลัง จริงๆ ควรให้มาได้แล้วราคานี้
ทัศนวิสัยถือว่าดีใช้ได้ แต่แผงประตูรับไม่ได้จริง รวมๆ ผมยังให้ดีกว่า CX-3 ดีเสียกันไปกับ CX-30
และแพ้ MG ZS ในส่วนโดยสารหลังนี้ ส่วน C-HR ก็จะแพ้ราบคาบด้านทัศนวิสัยไป
---> อ่านมาจนถึงจุดนี้ ผมรู้สึกว่า Kicks ช่วยทำให้ ZS น่าซื้อมากขึ้นกว่าเดิมอีกนะ
CX-30 ผมก็ว่าแฟน Mazda ปลื้ม แต่คนส่วนใหญ่ก็เฉยๆนะ ผมไปจับๆมาก็รู้สึกไม่ตื่นเต้น
เพราะตื่นเต้นตอนเห็น 3 แล้ว โดยรวมทุกรุ่น Corolla Cross อาจจะกลายเป็นรุ่นที่มาหลัง แต่ดังกว่าอยู่เหมือนกันนะ
- ห้องสัมภาระท้าย กว้างกว่า CX-30 , C-HR นะ จุของได้เยอะกว่าที่คิด ส่วนด้านล่างก็มีแบตเตอรี่ 12V และชุดปะยาง
อื่นๆ ไม่มี Android Auto , แอร์ไม่มี Heater , ICC ไม่ได้ลองแต่ปรับได้ 3 ระยะ
และคนพาลองบอกว่ามี Stop&Go , ไฟในเก๋งทุกจุดหลอดสีเหลือง ,
มีไฟ Auto แต่ยังไม่มีปัดน้ำฝน Auto , เครื่องเสียงลองต่อ Bluetooth ฟังเพลงก็ไม่ได้ฟังรายละเอียดอะไรมากเพราะบรรยากาศดัง
แต่เปิดในโทรศัพท์เบาๆ ก็ออกลำโพงดังดีระดับนึงต้องมาผ่อนที่เครื่องเสียงเอง ,
สวิตช์ปิด VDC แยกออกมาใต้ช่องแอร์ ไม่ได้ปิดในจอแบบ Almera , มีสวิตช์ปรับระดับไฟหน้าเองไม่มี Auto ตามการกดท้าย ,
กระจกมองข้าง กดพับได้แม้ดับเครื่อง , รถเดิมๆ เหมือนยังไม่มี Auto Lock ตอนขับผมไม่ได้สังเกตว่าล็อคมั้ย
แต่พอตอนจอดเสร็จลองใส่ N ดูก่อน เห็นว่ารถไม่ได้ล็อคเลย เลยคิดว่ายังไม่มี
---> รถราคาล้านกว่า heater ถูกตัดออกจากระบบแอร์อัตโนมัติ ได้ใจคนยุคเก่าที่ชอบแอร์ออโต้ไม่มี heater
หัวโบราาาาาณมากกกกก Nissan รถเจ้าตลาดที่เคยตัดเกือบทุนรุ่นเพราะลดต้นทุน แต่เดี๋ยวนี้เขากลับมาใส่เกือบทุกรุ่น
ยกเว้นรถระดับ B segment ลงไปเท่านั้น เพราะเขารู้ว่าลูกค้าส่วนใหญ่เริ่มรู้แล้วว่าระบบ heater มีความสำคัญกับแอร์ออโต้
ตัดออก ก็มีแต่จะโดนลูกค้าด่า กลายเป็น Nissan กลับมาตัดทิ้งสวนกระแสซะอย่างงั้น! ตัดคะแนน -1, -2 แต่คนยุคเก่าอาจให้ +1 มั้ง
ส่วน ICC ถ้าให้ stop & go มาจริง ให้ +1 เพราะถือว่ายังเป็นรุ่นแรกๆที่ให้ในรถกลุ่มนี้
***เพิ่งดูคลิปทดลองขับ Kicks แรงกว่าคู่แข่งเห็นๆ ดู friendly กับการใช้งานแบบที่คู่แข่งอื่นไม่มี
hybrid ตัวนี้ อาจจะโอเคก็ได้ ***
ถ้าดูจากวัสดุอุปกรณ์ที่ให้มา ที่ดูเหมือน B segment มากไป คงต้องมาดู Kicks รุ่นเริ่มต้น 889,000 มากกว่า
ที่จะดูรุ่นท๊อป เพราะราคาล้านกว่าควรจะให้วัสดุอุปกรณ์ต่างๆที่ดูมีราคาได้แล้ว ไม่ใช่พอๆกับ Almera
889,000 กับขอของแถมหุ้มเบาะหนัง ถ้าจะเอาหนังจากโรงงานต้องไปตัว 999,000 ดูไม่คุ้มกับตัวรถเท่าไหร่
ระบบที่เพิ่มมาใน E, V, EL ต้องคนอยากได้ระบบพิเศษต่างๆ ซึ่งผมคิดว่ามันดูแพงเกินตัวรถมากไป
Update 16-Jun-20
อ่านที่คุณแพนเขียนใน H**
โคต ร ชอบบบบบบเลยค้าบ
แต่ตกใจที่ คอนโซลหน้าแบบนี้ มันใช้มาตั้งแต่ปี 2016 แล้วเรอะ!
แสดงว่า Almera 2020 นี่ใช้ของเก่าตั้งแต่ 4 ปีที่แล้วเหรอเนี่ย
น่าจะเป็นรถที่คนอยากลองขับมากที่สุดรุ่นหนึ่ง
แต่พูดถึงเฉพาะเรื่องรูปร่าง ทำไมรู้สึกว่ามันดูไม่น่าตื่นเต้นเลย
จะมีคนที่รู้สึกตื่นเต้นรถรูปทรงแบบนี้ไหมนะ?
ถ้าเกิด e-power เฟลขึ้นมา Nissan จะเปลี่ยนแผนเป็นยังไงต่อนะ?
พูดถึงรถสักรุ่นที่เป็นเสาหลักให้กับแบรนด์ได้
อย่างเช่น Ranger ที่ทำให้ทุกคนโอ้โห อ้าหาตั้งแต่วันที่ทุกคนเห็นภาพครั้งแรกบนเน็ต
จนกระทั่งปัจจุบัน มันก็ยังเป็นเสาหลักให้กับ Ford ได้
แต่ในฝั่งของรถเก๋ง ถ้า Nissan จะมี Almera ขายดีอยู่รุ่นเดียว
มันไม่น่าจะรอดได้ ต้องขึ้นอยู่กับ Kicks ตัวนี้ด้วย "อย่างยิ่ง"
Kicks มันเป็นรถที่ต้องขายเรื่องสมรรถนะกับตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองให้ลูกค้าเกิดคำชมปากต่อปากให้ได้
"ไม่งั้นคงแย่แน่"
หน้าตาและรูปทรงยังคงห่างไกลกับคำว่า "ชวนฝัน"
Sylphy ใหม่ที่อาจจะไม่มาประกอบแล้ว 99% ยังดูน่าชวนฝันกว่ามาก
e-power ต้องทำให้คนรู้สึกถึงความ "วิเศษ" ขึ้นมาให้ได้
ไม่งั้นคงไปต่อยาก
ผมเชียร์รุ่นนี้นะ เพราะรู้สึกว่ามันเป็นความหวังสุดท้ายของ Nissan
ไม่อยากให้แบรนด์ใดๆก็แล้วแต่เจ๊ง ถ้าไม่ใช่ขนาดเลวร้ายตั้งใจคดโกงลูกค้า
ผมอยากลองมาก แต่ผมไม่ชอบรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้า
มันมีคลื่นที่ทำให้ส่วนตัวรู้สึกไม่สบาย นั่ง BTS ก็ไม่ได้รู้สึกสบาย
เคยใช้ไฮบริดแต่ก็เลิกใช้ไปแล้ว เพราะปวดหัว ถ้าอีกหน่อยรถรุ่นใหม่มีแต่ไฟฟ้า ผมคงขับรุ่นเก่าๆต่อไปเรื่อยๆ
ขออนุญาต นำข้อมูลของ name_m_m จากเว็บ H**
ครับ เป็นข้อมูลที่ดีมากครับ ละเอียดสุดยอด
รถให้ลองขับที่ 0 ได้วันที่ 19 นี้นะครับ
(--->) เป็นคอมเม้นต์ผมเองนะครับ ลองดูว่าคะแนน เต็ม 10 จะโดนหักกี่คะแนน
- การขับขี่ ผมให้ 8/10 คะแนนเลย อัตราเร่งไม่ต้องถามถึง มันคือนิสัยมอเตอร์โดยแท้ที่กดคันเร่งปุ๊ปดึงปั๊ป
ระยะทางแค่ไม่กี่เมตรก็ขึ้นไปถึง 80 ได้โดยไว
---> คนชอบฟีลการขับขี่แบบรถไฟฟ้า Kicks ตอบโจทย์ 100% แน่ครับ แต่จะมีข้ออื่นมาตัดคะแนนอีกบ้าง
- สิ่งที่ประทับใจในการขับขี่นี้คือ One Pedal ยืนยันว่ามันสามารถใช้งานได้ในชีวิตประจำวันได้จริง
รถจะหน่วงจากมอเตอร์โดยตรงแบบนุ่มๆ เลยจนหยุดสนิท และไม่จำเป็นต้องเปิด Auto Hold เลย
(แต่ยังจำเป็นต้องมีสำหรับการขับโหมดปกติ) ตรงนี้ถ้าขับยาวๆ คิดว่าปรับตัวบนถนนจริงได้ไม่ยาก
ลองดูระยะซัก 2-3 รอบ ในส่วนแป้นเบรกปกติความเร็วไม่เกิน 80 km/h ถือว่าน้ำหนักกลางๆ ไม่หนักไปเบาไป
ผช ขับได้ กดประมาณ 30% ก็อยู่ อยากได้เพิ่มก็กดลงก็หน่วงตามเท้าดี ผญ ขับแบบกดลึกเลยก็อยู่ตามต้องการ
ระยะกดตื้นกว่า Almera หน่อย และแอบตื้นกว่า CX-30 นิดเดียว
---> ผมโคต ร อยากใช้ one pedal เลยครับ มันน่าจะเจ๋ง เป็นประสบการณ์แปลกใหม่
- ช่วงล่าง ความนุ่มนวลอยู่ตรงกลางระหว่าง C-HR และ CX-30 มีการสะท้านช่วงรอยต่อถนนในเขตลองขับบ้าง
ส่วน handling ผมได้ลองแค่ตอนเลี้ยวและยูเทิร์นความเร็วต่ำ ท้ายคุมอาการได้ตามควาดหวัง
พวงมาลัยความเร็วต่ำน้ำหนักหนักกว่า Almera นิดนึง แต่ถือว่าเบาสุดในกลุ่ม
ความเร็ว 60 ขึ้นมีแรงตึงกำลังดีตามขนาดแต่ยังไม่คมกริบแบบ CX-30 และเหมือนจะไม่เท่า C-HR
ต้องลอง C-HR อีกทีจำไม่ได้ แต่รถโดยรวมคล่องตัว ขับง่าย
---> ถือว่าโอเค ไม่เลวร้าย ต้องดูตอนขับความเร็วสูงอีกที
- การเก็บเสียง เสียงลม เสียงถนน ความเร็วไม่เกิน 80 km/h ก็เงียบตามประสารถใหม่ ต้องลองมากกว่านี้
แต่ที่ขัดใจคือเสียงเครื่องยนต์ อยู่ในรถว่าเข้ามาเยอะแล้ว อยู่นอกรถก็ดังกระหึ่มมากจริง อันนี้ผมว่าดังไปจุดเดียวเลย
อาจะเป็นเพราะทำงานปั่นไฟในรอบสูงในช่วงกดคันเร่งเพิ่มหรือแบตเหลือน้อย
---> คนชอบฟีลรถไฟฟ้าไม่ปลื้มแน่ ผมว่าคะแนน -1 ไม่ก็ -2 เลยนะ
- เรื่องจิปาถะด้านเครื่องยนต์ นอกจากเรื่องเสียง ที่ตั้งข้อสังเกตคือความถี่การปั่นไฟ
ผมกดเพิ่มนิดเดียวเครื่องก็ติดเลย ไฟแบตลดไป 1 ขีดเองจากเกินครึ่งมาประมาณ 2 ขีด
อันนี้ต้องได้ลองยาวๆ ตอนที่น้ำมันและไฟเต็ม เพราะในลักษณะการขับผมเท่านี้ถือว่าติดค่อนข้างถี่
ส่วนรถคันที่ผมลอง โหมด Normal น้ำมันวัดจากขีดที่แสดงบนมาตรวัดโชว์ประมาณ 60% ของขีดทั้งหมด
Range โชว์แค่ 135 km เอง ส่วนโหมด S โชว์ 140 km ลองขับอยู่ระยะทาง 3 km
---> การปั่นไฟถี่ เสียงเครื่องดัง ทำให้ภาพรถดูไปทางรถ eco car มากกว่าไปทางรถไฟฟ้าราคาแพงอยู่นะ โดน -1
- ทัศนวิสัย ผมมาจาก Mazda อาจจะรู้สึกว่าอะไรๆ ก็ดีไปหมด 555555 เห็นกว้างขวาง
ผมว่าแอบดีกว่า CX-30 ด้วย ส่วนกระจกข้างตินิดเดียว พี่ไม่น่าเฉือนตัดมุมเลยจะได้ cover มุมมองได้อีก
ส่วนกล้อง iRVM มองหลังมีประโยชน์จริง เพราะลองเอาหมอนหลังขึ้นหมด
และมีเซลล์นั่งก็ใช้กล้องเลี่ยงแทนได้เลยแค่ดันขึ้น ภาพคมชัดและสว่างมาก
และกล้องรอบคันก็เหมือน Almera เลย ชัดระดับนึงมีขุ่นบ้างนิดหน่อย เส้นหันตามพวงมาลัย ถอยจอดง่ายกว่าที่คิด
---> มันก็เป็นข้อดีนะ แต่ถ้ารถมีจุดเด่นแค่นี้ มันเหมือนบุคลิกรถที่แม่ หรือ พี่สาวขับ หรือ แฟนขับมาก
- ภายใน เปิดประตูเข้ามา ก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะต่างจาก Almera มากมายอยู่แล้ว
แต่ก็ไม่คิดว่าแทบจะไม่ต่างกันเลยขนาดนี้ 555555 พลาสติกส่วนบนดูแน่นกว่าและเป็นจุดเดียวที่ดี
เพราะที่เหลือ Copy&Paste Almera มาทั้งดุ้น ทั้งคุณภาพหนังที่ใช้ คุณภาพพลาสติกส่วนล่างๆ
และส่วนที่ทำให้ผมหักคะแนนโหดก็เรื่องแผงประตูและพวงมาลัย
แผงประตูไม่คิดว่าจะใช้พลาสติกเกรด March เลยแค่มีหนังเสริมที่วงแขนและแผงข้างนิดหน่อย
และพวงมาลัยหนังที่ไม่เหมือนหนังแบบ Almera แข็งและสากแบบยูริเธนขึ้นรูปมากเลย 2 จุดนี้ผมไม่โอเค
เกินไปมากเทียบกับราคารถ
---> พูดแล้วจะหาว่าโม้ แต่จากที่มองภาพถ่าย และประสบการณ์ในวงการรถของผม ผมเดาว่าสเปควัสดุไม่เปลี่ยน
แล้วมันก็ใช่จริงๆ แผงประตู March นี่ มองจากตาคือใช่ hahaha นี่คือรถราคาเป็นล้านนะเพ่
เรื่องแผงประตูดู cheap นี่ คนส่วนน้อยจริงๆถึงจะรับได้นะ ไม่ใช่คนส่วนใหญ่ ข้อนี้อาจจะ -2, -3 เลยมั้ง
- เบาะหน้า พื้นที่คอนโซลวางขาต่างๆ เหมือน Almera เป๊ะ ตัวเบาะมีปีกที่ไม่โอบเท่า Almera
แต่มีฟองน้ำเสริมมาจนแข็งกว่ามากยกเว้นแค่ช่วงหัวไหล่และหมองรองหัว
ในส่วนที่แข็งก็แข็งจนรู้สึกว่าช่วงกลางหลังแอบแข็งไปนะ แต่เข้าใจว่าทางไกลน่าจะไม่เมื่อยมากถ้าตำแหน่งเบาะได้ที่
ส่วนเบาะรองนั่งสำหรับผมถือว่าดี ปีกไม่หนาเกินไปและนิ่ม ความยาวก็รองรับถึงต้นขาผมได้
ตำแหน่งวางแขนประตูคู่หน้ากำลังวางพอดี แต่คอนโซลกลางวางไม่ค่อยได้และเลื่อนมาไม่ได้
แถมเปิดมาที่เก็บของตื้นมาก ตอนแรกคิดว่าทำมา 2 ชั้นแต่เปิดลึกไปไม่ได้แล้ว
ตำแหน่งนั่งขับอาจจะรู้สึกว่าสูงถ้าปรับกลางๆ แต่ก็ถือว่าปรับได้ต่ำลงมาระดับนึง โดยรวมตำแหน่งถือว่าสอดคล้องตามความสูงรถ
---> ผมคิดว่า Nissan จะทำให้เบาะดีกว่านี้ เพราะเป็นจุดเดียวที่ไม่ได้ใช้ร่วมกับ Almera
ถ้า Nissan จะรอด เบาะต้องแบบว่านั่งแล้วรู้สึกสบายแตกต่างจาก Almera อย่างเห็นได้ชัด
แต่ข้อนี้ คงต้องไปลองด้วยตัวเองก่อน ยังไม่ตัดคะแนนก็แล้วกัน
- เบาะหลัง ปรับท่านั่งที่ผมนั่งสบายข้างหน้าแล้วย้ายมาหลังเลย Legroom เหลือน้อยกว่า Almera ,
C-HR จริงนะจากการประมาณ แต่ยังเยอะกว่า CX-3 , CX-30 ตัวเบาะกลางหลังแข็งอีกแล้ว
ตัวพนักพิงมีมุมเอนกว่า CX-30 นิดๆ แต่ support ช่วงสะโพกและบนหลังไม่ดีเท่า
และยังถือว่าชันอยู่นิดหน่อยและปรับเอนไม่ได้อีกแล้ว
headroom เหลือเยอะกว่า CX-3 , CX-30 , C-HR ชัดเจน มีระดับ 2 กำปั้นขึ้นไปถ้าคนเตี้ยนั่ง
เบาะรองนั่งแอบสั้นไปนิด ยาวกว่า Note ไม่เยอะและเหมือนจะพอๆ กับ Almera แค่ฟองน้ำแข็งกว่า
วางแขนประตู่คู่หลังได้ดี แต่ไม่มีวางแขนกลางเบาะหลัง จริงๆ ควรให้มาได้แล้วราคานี้
ทัศนวิสัยถือว่าดีใช้ได้ แต่แผงประตูรับไม่ได้จริง รวมๆ ผมยังให้ดีกว่า CX-3 ดีเสียกันไปกับ CX-30
และแพ้ MG ZS ในส่วนโดยสารหลังนี้ ส่วน C-HR ก็จะแพ้ราบคาบด้านทัศนวิสัยไป
---> อ่านมาจนถึงจุดนี้ ผมรู้สึกว่า Kicks ช่วยทำให้ ZS น่าซื้อมากขึ้นกว่าเดิมอีกนะ
CX-30 ผมก็ว่าแฟน Mazda ปลื้ม แต่คนส่วนใหญ่ก็เฉยๆนะ ผมไปจับๆมาก็รู้สึกไม่ตื่นเต้น
เพราะตื่นเต้นตอนเห็น 3 แล้ว โดยรวมทุกรุ่น Corolla Cross อาจจะกลายเป็นรุ่นที่มาหลัง แต่ดังกว่าอยู่เหมือนกันนะ
- ห้องสัมภาระท้าย กว้างกว่า CX-30 , C-HR นะ จุของได้เยอะกว่าที่คิด ส่วนด้านล่างก็มีแบตเตอรี่ 12V และชุดปะยาง
อื่นๆ ไม่มี Android Auto , แอร์ไม่มี Heater , ICC ไม่ได้ลองแต่ปรับได้ 3 ระยะ
และคนพาลองบอกว่ามี Stop&Go , ไฟในเก๋งทุกจุดหลอดสีเหลือง ,
มีไฟ Auto แต่ยังไม่มีปัดน้ำฝน Auto , เครื่องเสียงลองต่อ Bluetooth ฟังเพลงก็ไม่ได้ฟังรายละเอียดอะไรมากเพราะบรรยากาศดัง
แต่เปิดในโทรศัพท์เบาๆ ก็ออกลำโพงดังดีระดับนึงต้องมาผ่อนที่เครื่องเสียงเอง ,
สวิตช์ปิด VDC แยกออกมาใต้ช่องแอร์ ไม่ได้ปิดในจอแบบ Almera , มีสวิตช์ปรับระดับไฟหน้าเองไม่มี Auto ตามการกดท้าย ,
กระจกมองข้าง กดพับได้แม้ดับเครื่อง , รถเดิมๆ เหมือนยังไม่มี Auto Lock ตอนขับผมไม่ได้สังเกตว่าล็อคมั้ย
แต่พอตอนจอดเสร็จลองใส่ N ดูก่อน เห็นว่ารถไม่ได้ล็อคเลย เลยคิดว่ายังไม่มี
---> รถราคาล้านกว่า heater ถูกตัดออกจากระบบแอร์อัตโนมัติ ได้ใจคนยุคเก่าที่ชอบแอร์ออโต้ไม่มี heater
หัวโบราาาาาณมากกกกก Nissan รถเจ้าตลาดที่เคยตัดเกือบทุนรุ่นเพราะลดต้นทุน แต่เดี๋ยวนี้เขากลับมาใส่เกือบทุกรุ่น
ยกเว้นรถระดับ B segment ลงไปเท่านั้น เพราะเขารู้ว่าลูกค้าส่วนใหญ่เริ่มรู้แล้วว่าระบบ heater มีความสำคัญกับแอร์ออโต้
ตัดออก ก็มีแต่จะโดนลูกค้าด่า กลายเป็น Nissan กลับมาตัดทิ้งสวนกระแสซะอย่างงั้น! ตัดคะแนน -1, -2 แต่คนยุคเก่าอาจให้ +1 มั้ง
ส่วน ICC ถ้าให้ stop & go มาจริง ให้ +1 เพราะถือว่ายังเป็นรุ่นแรกๆที่ให้ในรถกลุ่มนี้
***เพิ่งดูคลิปทดลองขับ Kicks แรงกว่าคู่แข่งเห็นๆ ดู friendly กับการใช้งานแบบที่คู่แข่งอื่นไม่มี
hybrid ตัวนี้ อาจจะโอเคก็ได้ ***
ถ้าดูจากวัสดุอุปกรณ์ที่ให้มา ที่ดูเหมือน B segment มากไป คงต้องมาดู Kicks รุ่นเริ่มต้น 889,000 มากกว่า
ที่จะดูรุ่นท๊อป เพราะราคาล้านกว่าควรจะให้วัสดุอุปกรณ์ต่างๆที่ดูมีราคาได้แล้ว ไม่ใช่พอๆกับ Almera
889,000 กับขอของแถมหุ้มเบาะหนัง ถ้าจะเอาหนังจากโรงงานต้องไปตัว 999,000 ดูไม่คุ้มกับตัวรถเท่าไหร่
ระบบที่เพิ่มมาใน E, V, EL ต้องคนอยากได้ระบบพิเศษต่างๆ ซึ่งผมคิดว่ามันดูแพงเกินตัวรถมากไป
Update 16-Jun-20
อ่านที่คุณแพนเขียนใน H**
โคต ร ชอบบบบบบเลยค้าบ
แต่ตกใจที่ คอนโซลหน้าแบบนี้ มันใช้มาตั้งแต่ปี 2016 แล้วเรอะ!
แสดงว่า Almera 2020 นี่ใช้ของเก่าตั้งแต่ 4 ปีที่แล้วเหรอเนี่ย