วิปัสสนาญาณ......เป็นอย่างไร ตอนที่ 2

ดับสังขาร ก็จะเป็นสภาวะนิโรธ ฌาน1-8 เป็นเจตสิก เป็นสังขารตัวที่ประกอบกับจิต สติปัฐฐาน ในปรมัตถธรรม จึงต้องเห็นการดำเนินไปของฌาน 1-8 อันเป็นการดำเนินไปของเจตสิก จึงจะรู้ชัดในเจตสิก เมื่อรู้ชัดในเจตส

การจะเห็นว่าจิตประเภทใดให้ความตั้งมั่น เราต้องเห็นจิตได้ก่อน ยกตัวอย่าง ในการตัดสินว่ารถแข่งชนิดใดวิ่งได้เร็วจนถูกใจกรรมการ ไม่ว่าจะวิ่งเร็วเพียงใด เร็วยังกับหายตัวได้ กรรมการก็ต้องเห็นว่ามีรถชนิดใดว

1.สติที่เป็นโลกุตรสติ จะไม่มีตัวตน ให้ผลคนละอย่าง(จิตใจ) กับมิจฉาสติ ในอากาสจะหาความเป็นเราได้ยาก ดังนั้นเมื่อสติไปรู้ที่กาย(สมาธิ) จะเห็นว่าจิตที่ไปรู้กายนั้น เบา ว่าง โล่ง เป็นลักษณะของ อรูปฌานจิต

1. วิรตีเจตนา (เจตนาเป็นเครื่องงดเว้น) ความหมายและบริบท ความหมาย: "วิรตีเจตนา" (Virati-cetanā) คือ เจตนา (ความตั้งใจ) ที่งดเว้น หรือหลีกเลี่ยงจากการทำทุจริตทางกายและทางวาจา บริบท: วิรตีเจตน

การดับ หมายถึง ขันธ์5ดับ จิตที่รู้ หรือตัวรู้ดับ แต่ละขณะที่ดับไปทั้งคู่ จิตใหม่ตัวรู้ใหม่ จะมีกำลังหนักแน่นขึ้น มั่นคงขึ้น เป็นดั่งการลอกคราบ ขัดชำระ สิ่งห่อหุ้มจิต ไปทีละขณะ

ผู้ที่จะเจริญสติปัฏฐาน4 ได้ต้องมีกรรมฐาน เป็นเบื้องต้น คือเริ่มด้วยสมถะกรรมฐาน และวิปัสสนากรรมฐาน คนที่บอกว่าทำสติคือสติปัฏฐาน4 พูดหลอกลวงไม่จริง พูดเพราะความไม่รู้จริง สติพิ้นฐานไม่มี จะไปเอาสติปัฏฐา

นิยาม 1.ปาฏิหาริย์-คือความไม่ธรรมดา อันไม่อาจพบได้จากวิถีปกติ 2.ไม่มีตัวตนในรูป - การสติปัฐฐานด้วยแยกจิตออกมาจากรูป (หนึ่งในขันธ์5) ออกมาเป็นผู้ดู มีอะไรบ้าง เช่น 1.จิตว่าง โล่ง เบา สบาย (ทุกข์ดับ)