[SR] “จบทุกปัญหาจุดด่างพร้อย รอยด่างดำและรูขุมขนที่ซ่อนเร้น ไม่ว่ารอยแบบใด...ก็เอาอยู่!”


กระแสส้มหยุดกำลังมาแรงง ! ใครใครก็ต้องรู้จักส้มหยุดดดดดด และวันนี้โบก็มาพร้อมกับส้มเลยจ้า แต่น้องส้มสองตัวนี้ไม่ได้หยุดปาฎิหาริย์ธรรมดาเด้อ เพราะน้องเค้าหยุดได้ทุกรอยมลทิน แถมกระจ่างใสยิ่งขึ้นแบบปังๆ ปัญหารอยจุดด่างดำ ความหมองคล้ำบนใบหน้าเชื่อว่าสาวๆหลายคนคงเจอปัญหานี้เยอะมากยิ่งกว่า 90% เป็นแน่เพราะแสงแดดบ้านเรามันร้อนเกินจะทนการจะหลบแดด หลังรังสี UV คงเป็นเรื่องยากที่จะหลีกเลี่ยง แต่ถ้าได้น้องสองตัวนี้ไปลองบอกเลยว่าจบทุกปัญหามลทินผิว ถ้าอยากรู้ว่าตัวอะไรนั้นอย่าพึ่งกดปิดจอไปไหน มาอ่านข้างล่างก่อน !


ซึ่งนั้นก็คือ innisfree Brightening Pore Serum & Spot Treatment เป็นสองตัวที่เกิดมาคู่กันมากที่สุด ตัวนี้เหมาะสำหรับสาวๆที่มีปัญหาเรื่องรอย จุดด่างดำ หรือจุดบกพร่องต่างๆ และช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับใบหน้า เพิ่มความฉ่ำน้ำ เคลือบผิวหน้า เหมือนสร้างเกราะป้องกันผิวเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งชั้น ซึ่งสารสกัดหลักที่สำคัญได้มาจากส้มฮัลลาบง (ส้มสายพันธุ์เชจู) ผลไม้ที่จะปลูกได้แค่ฤดูหนาวบนเกาะเชจูเท่านั้น ถูกตั้งชื่อตามรูปร่างของมันที่หัวต่อก้าน มีลักษณะปลายแหลมคล้ายยอดเขาของภูเขาฮัลลา หรือเรียกสั้นๆ ว่า “ส้มเคลือบน้ำผึ้ง” เพราะส้มชนิดนี้มีรสที่ค่อนข้างหวาน และคนส่วนใหญ่มักมอบส้มนี้ให้เป็นของขวัญแก่คนรัก มากกว่าจะเอามาทานเล่นๆ อีกทั้งระยะเวลาในการเก็บรักษายาวนาน เนื่องจากเป็นผลไม้เปลือกหนา น้ำเยอะและผลมีขนาดใหญ่กว่าส้มปกติ


ส้มฮัลลาบง ผลไม้ที่ขึ้นชื่อว่ามี วิตามิน ซี สูง เปลือกของมันเต็มไปด้วยสารไบโอฟลาโวนอยด์จำนวนมาก รวมไปถึง เฮสเพอริดิน-สารต้านอนุมูลอิสระให้ผิว ผลิตภัณฑ์ Brightening Pore ของ อินนิสฟรี เป็นกลุ่มที่ช่วยเรื่องความสว่าง กระจ่างใส โดยใช้สารสกัดจากเปลือกส้มฮัลลาบงจากเกาะเชจู ซึ่งประกอบด้วยวิตามินถึง 3 ชนิดทั้ง B3, C และ B5 ตัวช่วยจัดการเรื่องรอยต่างๆ ทั้งที่เห็นได้ชัด อีกทั้งจุดด่างดำและพวกรูขุมขนที่ซ่อนเร้นอยู่ พวกเราโดนแสงแดดทำร้ายมาตลอดทั้งปี เราควรดูแลรักษาผิวให้กระจ่างใสตลอดปี ด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์ Brightening Pore ซึ่งเต็มไปด้วยสารสกัดจากเปลือกส้มฮัลลาบงเชจูและวิตามินต่างๆ นานาชนิด เอาหละค่ะพร่ามมาพอสมควรเดี๋ยวโบจะพาไปรู้จักทีละตัวเลยดีกว่า


ขอเริ่มตัวแรกที่ Brightening Pore Serum น้องมาในรูปแบบขวดแพ็คเก็จสวยงาม ขอชื่นชม innisfreeเค้าออกแบบผลิตภัณฑ์แต่ละตัวออกมามีสไตล์เป็นของตัวเองมาก จะผสมความ minimal แต่ก็จะมีกลิ่นเอกลักษณ์ความเป็นเรียบๆของอินนิสฟรีอยู่เสมอ ซึ่ง Brightening Pore Serum ตัวนี้จะช่วยเรื่อง รอย จุดด่างดำ และจุดบกพร่องต่างๆ บนใบหน้า สูตรน้ำ ไม่เหนียวเหนอะหนะ ประกอบด้วย 10.1%   ของวิตามินทั้ง 3 ชนิด และสารสกัดต่างๆ จากเปลือกส้มฮัลลาบง ได้แก่
 
Niacinamide (B3): ดูแลรักษาเรื่องการทำงานของเม็ดสีผิวได้อย่างดีเยี่ยม
Ethyl ascorbyl ether (C): ตัวช่วยให้ผิวแลดูเนียนใส
Panthenol (B5): ปลอบประโลมและปกป้องผิวจากมลภาวะ 


ส่วนผสมจากกรดไฮยาลูรอนิค ช่วยมอบความชุ่มชื้นสู่ผิวได้อย่างสมบูรณ์แบบ อีกทั้งซึมซาบสู่ผิวได้เป็นอย่างดี 
โดยไม่ทิ้งความเหนียวเหนอะหนะ เนื้อเซรั่มจะเป็นเนื้อเข้มข้นสีขาวกลิ่นแบบมีกลิ่นส้มแบบอ่อน ไม่ฉุนจมูก ทาลงบนหน้าแล้วให้ความสดชื่นมาก ประหนึ่งอยู่ท่ามกลางสวนส้มในเกาะเจจูเลย และความเก๋ของตัวนี้อีกหนึ่งก็คือเค้าเป็นหัวดรอปเปอร์แบบอัตโนมัติดีไซน์พิเศษ ช่วยแบ่งปริมาณเซรั่มในปริมาณที่พอเหมาะ ในทุกครั้งที่เปิดใช้ และพอเพียงต่อการดูแลรักษาปัญหาจุดบกพร่องต่างๆ บนใบหน้า 


มาต่อที่ตัวที่สองตัวนี้มีชื่อว่า Spot Treatment สูตรชุ่มชื้นพิเศษ ซึมซาบและเคลือบผิวอีกหนึ่งชั้น เสมือนเกราะป้องกันผิวเพื่อล็อคสารสกัดต่างๆ อันทรงคุณค่าให้อยู่อย่างยาวนาน ทรีทเม้นท์ตัวนี้จะสามารถช่วยดูแลเรื่องรอยและจุดบกพร่องต่างๆ บนใบหน้าที่มองเห็นได้ชัด   ได้อย่างทรงประสิทธิภาพ ด้วยวิตามินซีทั้ง 3 ชนิดเช่นเดียวกับตัวเซรั่มข้างบนเลย และสารสกัดของเปลือกส้มฮัลลาบงจากเกาะเชจู ด้วยกรรมวิธีคลื่นเสียงความถี่สูง(Ultrasonic) ตัวช่วยทำให้ผิวตึงกระชับ เนียนใส ในขณะเดียวกันก็ช่วยดูแลเรื่องรอยและจุดบกพร่องต่างๆ ทั่วใบหน้า เผยผิวสว่างกระจ่างใส แลดูสุขภาพดี ปริมาณในหนึ่งหลอด บรรจุตั้ง 30 ml
 


 
เนื้อสัมผัสจะเป็นเนื้อครีมที่ซึมซาบเข้าผิวหน้าได้อย่างรวดเร็วมาก กลิ่นส้มแบบไม่ฉุนใครที่ชอบเนื้อแบบนี้บอกเลยว่าต้องชอบมากเพราะสัมผัสเค้าบางเบามากจริงๆ
 


เอาหละค่ะมาถึงวิธีการใช้งานก็แสนง่ายดายและรวดเร็วอย่างที่บอกไปในตอนแรกว่าตัว Brightening Pore Serum นั้นเค้าเป็นหัวดรอปเปอร์แบบอัตโนมัติซึ่งเค้าจะดูดเนื้อเซรั่มออกมาในขนาดปริมาณที่ควรใช้ในแต่ละครั้ง ซึ่งมันประหยัดเวลา และก็ประหยัดเนื้อเซรั่มมากเลยค่ะ แบบเราไม่ต้องกะเองว่าจะใช้มากหรือน้อย เนื้อเซรั่มคือใช้นิดเดียวก็สามารถทาได้ทั่วหน้ามาก และตัว Spot Treatment ก็คือหัวบีบเป็นหัวเล็กมากทำให้เราไม่เปลืองเนื้อครีมเยอะเวลาที่เราจะใช้ในแต่ละครั้ง บีบมาแค่นิดเดียวก็ทั่วหน้าแล้ว เราสามารถใช้ทั้งสองตัวนี้ได้ทั้งเช้าและเย็น ใครที่มีเวลาเหลือ ก็อาจจะลงทีตัวทีละขั้นตอนก็ได้นะคะ แต่คนที่รีบๆออกจากบ้านตอนเช้าๆเนี่ย น้องเค้าก็สามารถใช้แบบสองตัวผสมกันได้ด้วย จะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีมากยิ่งกว่าด้วย ประหยัดเวลาสุดๆ ใช้ได้ทั้งเช้าและก่อนนอนเลยค่ะ


ผลลัพธ์ของการทดลองใช้งานมาสองอาทิตย์ คือหน้ามีความใสขึ้นเยอะมากและที่สำคัญคือเนียนสุดๆ ภาพบีฟอร์คือโบเป็นคนที่มีรอยสิวเยอะจุดด่างดำเยอะ แบบเล็กๆน้อยๆและเป็นอะไรที่หาครีมที่ทาแล้วหายยากมากเพราะว่าไม่ว่าจะลองมากี่ตัวก็คือไม่ถูกใจ แต่ตัวนี้เห็นผลได้ภายในสองอาทิตย์ เรื่องความกระจ่างใสก็สว่างมากขึ้นมาก 1 ระดับ แต่เรื่องรอยคือโบรู้สึกว่าเค้าช่วยได้มาก เป็นสกินแคร์ที่เกิดมาคู่กันทั้งสองตัวจริงๆค่ะ
 


เป็นยังไงกันบ้างคะอ่านกันมาถึงขนาดนี้คิดว่าถึงคนอาจจะโดนตกเป็นที่เรียบร้อย และได้ข้อมูลผลิตภัณฑ์เยอะมากยิ่งขึ้น โบพยายามใส่ข้อมูลมาให้เยอะๆเพราะอยากให้ทุกคนได้รู้ว่าน้องเค้ามีส่วนผสมที่ดีมากจริงๆ วิตามินซีแบบจุกๆเลยก็ว่าได้ ตอนนี้ทั้งสองตัวกลายเป็นสกินแคร์ลูกรักไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แบบว่า innisfree เป็นแบรนด์ในใจโบมากจริงๆไม่ว่าจะใช้ตัวไหนก็รู้สึกว่าดี ส่วนผสมเค้าธรรมชาติมากๆ 
 
พูดมาเยอะขนาดนี้ไม่ซื้อก็คงไม่ได้แล้วแหละ ใครที่กำลังมีปัญหาผิวเรื่องรอยบกพร่อง จุดด่างดำบอกเลยว่าควรมีเพราะโบขอรับประกันว่าไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน สำหรับวันนี้ก็หมดเวลาแล้ว ขอเตรียมบอกลาอีกรอบ ถ้าเกิดว่ามีสินค้าตัวไหนน่าสนใจจะกลับมาทักทายทุกคนอีกน้า ไปก่อนนะค้าทุกคนนนนน
ชื่อสินค้า:   innisfree Brightening Pore Serum & Spot Treatment
คะแนน:     

SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - ได้รับสินค้าหรือบริการมาใช้รีวิวฟรี โดยไม่ต้องคืนสินค้าหรือบริการนั้น
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างแต่ได้รับผลประโยชน์อย่างอื่น เช่น บัตรกำนัล ค่าเดินทางตามจริง

    ข้อมูลเพิ่มเติม

  • ได้รับสินค้าขนาดจริงมาทดลองใช้ฟรีทั้งสองตัว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่