👒👒/มาลาริน/ติดเชื้อ‘โควิด’ใหม่ 2 ราย กลับมาจาก‘ซาอุฯ-เนเธอร์แลนด์ ตรวจสองหนกว่าจะพบเชื้อ คนไทยในอียิปต์ติดเชื้อ 38 คน

ศบค.แถลงพบติดเชื้อ‘โควิด’ใหม่ 2 ราย กลับมาจาก‘ซาอุฯ-เนเธอร์แลนด์’
วันอังคาร ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2563, 11.45 น.



9 มิถุนายน 2563 พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์รายวัน ว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทย มีผู้ป่วยรายใหม่ 2 ราย ทั้งหมดเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ โดย 1 รายมาจากประเทศซาอุดีอาระเบีย และอีก 1 รายมาจากประเทศเนเธอร์แลนด์ เข้าพักในสถานกักกันของรัฐ (State Quarantine) ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ทำให้ในประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อ 0 ราย เป็นวันที่ 15 ติดต่อกันแล้ว
 
ทั้งนี้ ผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่มาจากประเทศซาอุดีอาระเบีย เป็นเพศชาย อายุ 22 ปีเป็นนักศึกษา เดินทางกลับมาถึงประเทศไทย วันที่ 25 พฤษภาคม 2563 มีอาการไข้ ตรวจไม่พบเชื้อ ก่อนตรวจพบเชื้อเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2563 ส่วนอีก 1 รายที่มาจากประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นเพศหญิง อายุ 31 ปี อาชีพพนักงานบริษัท เดินทางกลับมาถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2563 ตรวจครั้งแรก ผลบวกไม่ชัดเจน มีการส่งตรวจซ้ำ และพบเชื้อเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2563

https://www.naewna.com/local/498040

เปิดไทม์ไลน์ 2ผู้ติดเชื้อโควิด19 กว่าจะตรวจเจอเชื้อขึ้นผลบวกไม่ชัดเจน


เปิดไทม์ไลน์ 2ผู้ติดเชื้อโควิด19 กว่าจะตรวจเจอเชื้อขึ้นผลบวกไม่ชัดเจน
 
พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ ศบค. แถลงข่าวสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ประจำวันที่ 9 มิถุนายน 2563 รายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิดวันนี้ติดเชื้อเพิ่ม 2 ราย ซึ่งกลับมาจากต่างประเทศ
 
พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ได้เปิดไทมไลน์ของ2ผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่
 
 
รายที่ 1 : เดินทางมาจาก ซาอุดิอาระเบีย เป็นนักศึกษาชายอายุ 25 ปี ตรวจไข้ครั้งที่ 1 ไม่พบเชื้อ และวันที่ 7 มิถุนายน ตรวจอีกรอบพบเชื้อโควิด-19 และได้เข้ารักษาใน รพ. ปัตตานี
 
รายที่ 2 : หญิง 31 ปี อาชีพพนักงานบริษัท ตรวจเชื้อพบติดเชื้อไม่ชัดเจน เลยถูกกักตัวเอาไว้จนตรวจพบเชื้อโควิด-19 ชัดเจน



https://www.komchadluek.net/news/regional/433286?utm_source=homepage&utm_medium=internal_referral&utm_campaign=section_ข่าวไฮไลท์

สถานทูตฯเผยพบคนไทยในอียิปต์ติดโควิด 38 ราย
วันอังคาร ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2563, 11.41 น.




9 มิ.ย.63 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโร ออกประกาศเรื่องสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่ (COVID-19) ระบุว่า พบคนไทยในสาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 38 คน โดยรักษาหายแล้ว 1 คน จึงขอให้ชุมชนไทยในสาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ ปฏิบัติตามนโยบายและมาตรการป้องกันเชื้อโรคอย่างเคร่งครัด
 
"ตามที่มีรายงาน พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19) สัญชาติไทย ในสาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ นั้น
 
ในการนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอเรียนข้อมูล ดังนี้

1. เมื่อวันเสาร์ที่ 6 มิถุนายน 2563 สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ดำเนินการตรวจหาเชื้อ COVID-19 จากผู้ที่จะเดินทางโดยเที่ยวบินพิเศษเส้นทางกรุงไคโร – กรุงเทพฯ ในวันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน 2563 จำนวน 220 คน และผู้ที่รายชื่อสำรอง 10 คนที่สถานเอกอัครราชทูตฯ พบว่า มีผู้ที่ไม่ผ่านการคัดกรอง จำนวน 19 ราย ในการนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ดำเนินการประสานกับบุคคลดังกล่าวและได้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ จะติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับสุขภาพของกลุ่มบุคคลดังกล่าวจากกระทรวงสาธารณสุขสาธารณรัฐอาหรับอียิปต์อย่างใกล้ชิดต่อไป

2. สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ดำเนินการฆ่าเชื้อโรคที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ภายหลังจากการตรวจหาเชื้อ COVID-19 เสร็จสิ้นแล้ว โดยสถานเอกอัครราชทูตฯ สามารถเปิดให้บริการประชาชนได้ตามปกติ
 
3. ณ วันที่ 8 มิถุนายน 2563 มีคนไทยในสาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ ติดเชื้อ COVID-19 จำนวน 38 ราย โดยรักษาหายแล้ว จำนวน 1 ราย
4. สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอให้ชุมชนไทยในสาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ ปฏิบัติตามนโยบายและมาตรการป้องกันเชื้อโรคอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ หากไม่จำเป็น กรุณาหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีคนพลุกพล่านให้มากที่สุด รวมทั้งควรสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกไปยังที่สาธารณะ และหมั่นล้างมือด้วยสบู่หรือเจลล้างมือ นอกจากนี้ การแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ได้ส่งผลต่อเศรษฐกิจทำให้มีการอาชญากรรมเพิ่มขึ้น ดังนั้น ขอให้คนไทยทุกคนเพิ่มความระมัดระวังในการใช้ชีวิตประจำวัน และหลีกเลี่ยงสถานที่อันตราย

อนึ่ง หากมีเหตุจำเป็น สามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์สายด่วน ของสถานเอกอัครราชทูตฯ +201 0194 01243 และ Facebook (@rtecairo) ของสถานเอกอัครราชทูตฯ

จึงเรียนมาเพื่อให้ทราบโดยทั่วกัน

ประกาศ ณ วันที่ 8 มิถุนายน 2563

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโร"

นอกจากนี้ เมื่อคืนที่ผ่านมา สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโร ยังรายงานเพิ่มเติมว่า ได้ดำเนินการส่งคนไทยในสาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 กลับประเทศไทยจำนวน 211 คน ด้วยเที่ยวบินพิเศษของสายการบิน Egypt Air ซึ่งถือเป็นเที่ยวบินพิเศษกรุงไคโร-กรุงเทพฯ เที่ยวที่ 2 โดยเที่ยวบินดังกล่าวจะเดินทางถึงกรุงเทพฯ ในวันที่ 9 มิถุนายน 2563 ทั้งนี้ ผู้โดยสารทุกคนจะถูกกักตัวเป็นเวลา 14 วัน เมื่อเดินทางถึงประเทศไทย
 
สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ดำเนินการภารกิจดังกล่าวอย่างเต็มที่ และรู้สึกยินดีที่ได้ช่วยเหลือคนไทยกลับประเทศไทย ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอขอบคุณผู้โดยสารทุกท่านที่ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ทำให้ภารกิจนี้ประสบความสำเร็จ
 
https://www.naewna.com/inter/498039

ไทยพบผู้ป่วยติดโควิดมาจากต่างประเทศอีกแล้วค่ะ

น่ากังวลคือการตรวจพบเชื้อในครั้งที่ 2

นี่แหละค่ะที่น่าห่วง

ส่วนคนไทยต่างแดนยิ่งน่าห่วง  เพราะยังมีการระบาดหนัก

ขอส่งกำลังใจให้นะคะ....💖

ส่วนคนไทยในประเทศคงมีความสุขขึ้นมากในเรื่องสุขภาพค่ะ

เรื่องเศรษฐกิจนั้นเป็นกันทั่วโลก  ต้องปรับตัวเอาไว้นะคะ

ขอให้กำลังใจเช่นกันค่ะ....💖

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 7
การแถลงข่าวของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19) วันที่ 9 มิ.ย. 2563
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
การแถลงข่าวของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19)
ณ​ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
วันที่ 9 มิถุนายน 2563




รายงานข้อมูลสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19  ณ วันอังคารที่ 9 มิถุนายน 2563

ไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่จากภายในประเทศ ติดต่อกันเป็นวันที่ 15🇹🇭🇹🇭
ประเทศไทย
ผู้ติดเชื้อสะสม 3,121 ราย ใน 68 จังหวัด (เพิ่มขึ้น 2 ราย)
   -ไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่จากภายในประเทศ (ติดต่อกันเป็นวันที่ 15)
   -มีผู้ติดเชื้อในกลุ่มผู้ที่กลับจากต่างประเทศใน State quarantine เพิ่มขึ้น 2 ราย
เสียชีวิตรวม 58 ราย (ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นในวันนี้)
รักษาหายป่วยแล้ว 2,973 ราย (95.26%) (ไม่มีผู้ป่วยกลับบ้านในวันนี้)

ผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นในวันนี้ 2 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้า State quarantine ดังนี้
- มาจากประเทศซาอุดิอาระเบีย 1 ราย อยู่ใน State quarantineโดยเข้ารับการรักษาที่จังหวัดปัตตานี
- มาจากประเทศเนเธอร์แลนด์ 1 ราย อยู่ใน State quarantineโดยเข้ารับการรักษาที่กรุงเทพมหานคร

ทั้งนี้ วช. ได้ปรับรูปแบบการรายงาน โดยจะรายงานรวมทั้งในส่วนประเทศไทย อาเซียน และต่างประะเทศ ในรอบรายงานเดียวกัน และยกเลิกการรายงานในรอบเย็น

ประมวลข้อมูลโดย กรมควบคุมโรค และศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์ และการวิจัยและพัฒนา สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษาฯ (อว.)
https://www.facebook.com/nrctofficial/posts/2841083192683901


คนไทย การ์ดไม่ตก ตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศวันนี้ยังคงเป็น 0 ติดต่อกันเป็นวันที่ 15
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/151201833164816


กรมวิทย์ฯ เผยขั้นตอนการตรวจหาระดับภูมิคุ้มกันในหนูที่ได้รับวัคซีนโควิด 19

อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เผยขั้นตอนการตรวจหาระดับภูมิคุ้มกันในหนูที่ได้รับวัคซีนต้นแบบโควิด 19 ด้วยวิธี plaque reduction neutralization test (PRNT) โดยเน้นย้ำถ้าเซรั่มในเลือดหนูทำให้มีการติดเชื้อลดลงอย่างน้อย 50 เปอร์เซ็นต์ แสดงว่าวัคซีนต้นแบบมีภูมิคุ้มกันในการป้องกันเชื้อโรคได้ ซึ่งวัคซีนต้นแบบนี้ จะนำไปทดลองในลิง และในคนต่อไป

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยสถาบันชีววัตถุ เป็นห้องปฏิบัติการในการควบคุมคุณภาพวัคซีนภาครัฐซึ่งองค์การอนามัยโลกให้การรับรองเป็นห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐานในระดับภูมิภาค สำหรับการวิจัยพัฒนาวัคซีนโควิด 19 ในประเทศ กรมวิทย์ฯ ได้ช่วยตรวจหาระดับภูมิคุ้มกันในหนูที่ได้รับวัคซีนต้นแบบ โดยวิธี plaque reduction neutralization test (PRNT) ซึ่งต้องทดสอบโดยใช้เชื้อไวรัสโควิด 19 ภายใต้ระดับความปลอดภัยทางชีวภาพระดับ 3 การทดลองโดยนำซีรั่มจากเลือดหนูที่ได้รับวัคซีนต้นแบบมาเจือจางที่ระดับต่างๆกัน จากนั้นนำมาผสมกับไวรัสโควิด 19 ก่อนนำไปใส่ลงในเซลล์แล้วนำไปบ่มในอุณหภูมิที่เหมาะสม นาน 6 วัน จากนั้นนำไปย้อมสีและตรวจนับจำนวนไวรัส ถ้าซีรั่มในเลือดไม่มีภูมิคุ้มกัน เซลล์ก็จะติดเชื้อ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าเซรั่มในเลือดมีภูมิคุ้มกันสามารถป้องกันเชื้อได้ ไวรัสที่อยู่ในเซลล์ที่มีการติดเชื้อจะลดลงอย่างน้อย 50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งภูมิคุ้มกันที่ได้ ไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่าสามารถป้องกันโรคได้ดีหรือไม่ เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนและยอมรับ

ในการดูภูมิคุ้มกันขึ้นดีหรือไม่ดีนั้น สามารถดูได้จากการเจือจางซีรั่ม ถ้าเจือจางมากและพบการทำลายเชื้อไวรัสโดยภูมิคุ้มกันในซีรั่มลดลง  50 เปอร์เซ็นต์ แสดงว่ามีภูมิคุ้มกันสูงในหนู ซึ่งวัคซีนต้นแบบของคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่ส่งมาให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจพบว่าสามารถเจือจางซีรั่มไปถึง 500 เท่า ยังสามารถทำลายเชื้อไวรัสได้ แสดงว่าในซีรั่มหนูมีภูมิคุ้มกันสูงต่อไวรัสโควิด 19 ขั้นตอนต่อไปวัคซีนต้นแบบนี้จะนำไปทดลองในลิงและในคนต่อไป

"ส่วนในประเด็นเรื่องของการจะได้ใช้วัคซีนเมื่อไหร่นั้น เป็นเรื่องของอนาคตยังไม่สามารถตอบได้ ซึ่งบางประเทศรายงานเร็วที่สุดต้นปี 2564 บางประเทศรายงานปลายปี 2564 ซึ่งการวิจัยพัฒนาวัคซีนไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ละขั้นตอนต้องทดสอบในสิ่งมีชีวิตทำให้ผลที่ได้มีความแปรปรวนของการทดสอบ จึงคาดการณ์ได้ยากว่าวัคซีนที่มีคุณภาพ มีความปลอดภัยและมีประสิทธิผลนั้น จะสำเร็จได้เมื่อใด  อย่างไรก็ตามเชื่อว่าประเทศไทยมีศักยภาพทั้งบุคลากรและเทคโนโลยีที่ไม่ได้เป็นรองนานาชาติมากนัก โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยหรือหน่วยงานภาคอุดมศึกษาต่างๆมีความพร้อม เพียงแต่เราไม่สามารถดำเนินการเพียงหน่วยงานเดียวได้อย่างครบวงจร จึงจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือกันในหลายภาคส่วน เพื่อให้ประเทศไทยสามารถพัฒนาและผลิตวัคซีนโควิด 19 จนประสบความสำเร็จได้"

ที่มา : กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/150400533244946


จำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสม จำแนกตามปัจจัยเสี่ยง 5 อันดับแรก
https://www.facebook.com/ThaiCovidCenter/posts/137531924579392


เข้าใจ #ไทยชนะ คืออะไร ?
ของจริงและของปลอม สังเกตยังไง ?
Cr. กองพันปฏิบัติการจิตวิทยา หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ
https://www.facebook.com/realnewsthailand/posts/699001787599221


จัดกิจกรรมกว่า 250 โครงการ...ผลักดันการส่งออกสินค้าไทย

#ไทยคู่ฟ้า สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ภายในประเทศ และทั่วโลกมีแนวโน้มดีขึ้น มีเพียงบางประเทศที่ยังคงล็อกดาวน์อยู่ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมของสินค้าไทยให้สามารถส่งออกได้ทันทีเมื่อสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลาย กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้จัดกิจกรรมกว่า 250 โครงการมีทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ร่วมมือกับแพลตฟอร์มพันธมิตรต่าง ๆ ในต่างประเทศ เช่น Tmall Alibaba (จีน) Bigbasket (อินเดีย) คลัง .com (อาเซียน) และ Amazon (สหรัฐฯ) ซึ่งเป็นอีกช่องทางที่สามารถช่วยกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้
.
สำหรับตลาดจีน และฮ่องกง ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมสินค้าไทยรวมกว่า 44 โครงการ มีกำหนดดำเนินการตั้งแต่เดือน เม.ย. - ก.ย. 2563 เช่น จัดงานประชาสัมพันธ์ผลไม้ไทย อาหาร และเครื่องดื่มร่วมกับห้างสรรพสินค้าทั่วประเทศจีน และฮ่องกง, จัดโปรโมตผลไม้ อาหาร และเครื่องดื่ม ร่วมกับ Tmall.com ในเครืออาลีบาบา เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีแผนนำผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในจีน เช่น งานแสดงสินค้า SME นานาชาติ งานมหกรรมแสดงสินค้าอาเซียน - จีน และงานมหกรรมสินค้านำเข้านานาชาติจีน
.
ส่วนตลาดสหรัฐฯ ยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ยังไม่คลี่คลายเท่ากับภูมิภาคเอเชีย กิจกรรมต่าง ๆ จะเน้นไปที่การเจรจาจับคู่ทางธุรกิจผ่านทางออนไลน์ไปก่อน อาทิ สหรัฐฯ ได้กำหนดแผนเจรจาจับคู่ทางธุรกิจระหว่างผู้ส่งออกไทย และผู้นำเข้าในสหรัฐฯ ผ่านทางออนไลน์ใน 20 กลุ่มสินค้า เช่น อาหาร ยางรถยนต์ แอนิเมชัน สินค้าอินทรีย์ เวชภัณฑ์ เป็นต้น ตั้งแต่เดือน พ.ค. - ก.ย. 63 และจะผลักดันการขายผ่าน amazon.com

Cr. กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ https://www.commercenewsagency.com/news/3297     
https://www.facebook.com/ThaigovSpokesman/posts/932669910532149     

  
สินเชื่อรวบรวมผลไม้ ปี 63 ช่วยเหลือเกษตรกรไทย

#ไทยคู่ฟ้า มาแล้วววว...สินเชื่อดี ๆ ช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรไทย กับโครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมผลไม้ ปี 2563 ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อสนับสนุนเงินทุนหมุนเวียนและสร้างความเข้มแข็งในการดำเนินธุรกิจรับซื้อรวบรวมผลไม้ของเกษตรกรและสถาบันเกษตรกร ช่วยพยุงราคาผลไม้ไม่ให้ตกต่ำ และเพิ่มทางเลือกในการกระจายผลไม้ไปยังแหล่งต่าง ๆ โดยเน้นผลไม้หลัก 7 ชนิด ได้แก่ เงาะ ทุเรียน มังคุด มะม่วง ลำไย ลิ้นจี่ และลองกอง วงเงินสินเชื่อรวม 1,000 ล้านบาท ระยะเวลาจ่ายเงินกู้ตั้งแต่บัดนี้ถึง 30 ก.ย. 63
.
คุณสมบัติผู้กู้ : สหกรณ์การเกษตร กลุ่มเกษตรกร หรือกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่มีประสบการณ์ในการรวบรวมผลไม้ โดยเกษตรกรสามารถกู้ได้สูงสุดไม่เกิน 5 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย MRR (ปัจจุบันเท่ากับร้อยละ 6.50 ต่อปี)
กลุ่มเกษตรกรกู้ได้สูงสุดไม่เกิน 30 ล้านบาท สหกรณ์การเกษตร สูงสุดไม่เกิน 50 ล้านบาท และกลุ่มวิสาหกิจชุมชน สูงสุดไม่เกิน 20 เท่าของเงินทุนตนเองและไม่เกิน 20 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย MLR (ปัจจุบันเท่ากับร้อยละ 4.875 ต่อปี)
.
นอกจากนี้ กองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรจะชดเชยดอกเบี้ยให้ร้อยละ 3.00 ต่อปี ในช่วง 6 เดือนแรกนับจากวันที่จัดทำสัญญาเงินกู้ และมีกำหนดชำระคืนเงินกู้ไม่เกิน 6 เดือนนับจากวันที่จัดทำสัญญาเงินกู้ โดยต้องไม่เกินวันที่ 28 ก.พ. 64

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขา หรือ Call Center 0-2555-0555
https://www.facebook.com/ThaigovSpokesman/posts/932741690524971

'ยิ้มง' ยันฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ไม่ช่วยป้องโควิด-19 เหตุไวรัสที่ก่อโรคเป็นคนละกลุ่มกัน
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
จากกรณีที่มีการส่งต่อข้อความว่าการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ จะช่วยป้องกันโรคโควิด 19 ได้นั้น

เรื่องนี้ นพ.ยง ภู่วรวรรณ ให้ข้อมูลว่า วัคซีนไข้หวัดใหญ่ป้องกันโควิด-19 ไม่ได้ เพราะไวรัส Influenza ที่ก่อโรคไข้หวัดใหญ่เป็นคนละกลุ่มกัน วัคซีนที่ใช้จึงเป็นคนละชนิดกัน และเป็นไปไม่ได้ที่ภูมิคุ้มกันไข้หวัดใหญ่จะไปป้องกันไวรัสโควิด-19 ด้วย  

การที่กรมควบคุมโรคแนะนำให้กลุ่มเสี่ยงรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ให้เร็วขึ้นกว่าช่วงเวลาปกตินั้น ก็เพื่อลดจำนวนผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ และป้องกันการสับสน เนื่องจากผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ จะมีอาการเบื้องต้นคล้ายกับโควิด-19  ทั้ง ไอ มีไข้ เจ็บคอ และอาการรุนแรงคือมีภาวะปอดอักเสบ

กลุ่มเสี่ยงมีทั้ง หญิงมีครรภ์, เด็กอ่อน , ผู้สูงอายุ , ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง, ผู้พิการทางสมอง, ผู้ติดเชื้อเอชไอวี และกลุ่มที่มีน้ำหนักเกิน 100 กก.

นอกจากกลุ่มเสี่ยงที่ควรได้รับวัคซีนแล้ว เหล่าบุคลากรทางการแพทย์ก็เป็นอีกกลุ่มเสี่ยงที่ควรได้รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ด้วย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่