สวัสดีครับ. ผมอายุ27 ปีครับจบม.6 สายคอมพิวเตอร์และจบป.ตรีคณะนิติ รามคำแหงใช้เวลาเรียน2ปีครึ่งครับ ผมผ่านงานมา2 ที่ครับเป็นงานด้านทรัพยากรบุคคลทั้งหมดระยะเวลารวม 3 ปี2เดือนครับ ตอนนี้ผมกำลังอยู่ในช่วงหางานครับ ซึ่งออกจากงานที่เก่าที่เป็นสัญญาจ้าง มาตั้งแต่เดือนสิงหาคมแล้วครับ ผมหางานผ่านเว็บไซต์ออนไลน์และวิ่งส่งใบสมัครตามที้ต่างๆครับ ก่อนหน้านี้นานๆทีถึงมีนัดสัมภาษณ์สักที่นึงครับ บางที่ก็บอกว่า โอ้ว!!โปรไฟล์ดีเลยนิ บางที่ก็บอกว่า จบนิติทำไมไม่ไปทำสายกฎหมาย ทนาย อัยการ ผู้พิพากษา คืองี้ครับ ผมตัดสินใจ เรียนนิติเพราะผมชอบเนื้อหาอยากศึกษาให้มันรู้มากกว่าที่เป็นอยู่ครับเผื่อเจอเหตุการณ์ในชีวิตประจำวันได้ปรับใช้ได้ง่ายๆก็คือผมเรียนเพื่อรู้ครับ ไม่ได้มุ่งจะทำงานสายกฎหมายโดยตรงครับ
แล้วก็มาเจองานที่ตัวเองชอบจริงๆคืองานด้านบุคคลนี่แหละครับ ชอบในเนื้อหา วิธีการ รายละเอียดในแต่ละฟังก์ชันของงานด้านนี้ครับ และก็ได้ทำมาตลอด3ปีที่ผ่านมา ส่วนที่ผ่านมาสดๆร้อนๆเลยครับก็บอกว่า ผ่านการสัมภาษณ์ "พี่ไม่ถามรายละเอียดงานอะไรเรา เพราะรุ้ว่างานที่จะให้ทำเราเคยทำมาหมดแล้ว"
แต่สุดท้ายเงียบครับ หลายที่มองวนทำนองว่าผมเก่ง แต้ผมกลับไม่ได้งานนั้น แต่ผมไม่คิดแบบนั้นครับ มีหลายสิ่งที่ผมต้องปรับปรุงแก้ไขอีกเหมือนกัน หรือจะเป็นเรื่องบุคลิกภาพซึ่งปกติผมเป็นคนยิ้มเก่งเข้ากับคนง่ายอยู่แล้วครับ ไม่น่าจะใช่เรื่องนี้ เงินเดือนที่เรียกไปก็น้อยครับไม่ได้เยอะเลย เพราะผมรุ้ว่าหลายที่ในช่วงนี้เจอปัญหาเพราะโรคระบาด ต้องลดพนักงาน ตัดเงินเดือนกันหลายที่ ประสบการณ์ผมก็มีมาโดยตรงครับ
มันทำให้ผมเจอทางตันครับ ถ้าถามว่าช่วงนี้ผมทำอะไรระหว่างที่ไม่มีงานประจำ ผมไปรับเขาพิมพ์เอกสารครับ ซึ่งจะเงินให้ตามปริมาณที่เขามีให้ทำครับ ซึ่งวันนึงก็ได้ 100 150 หรือ 200 บาทครับ ซึ่งผมใช้คนเดียวยังจะไม่พอเลยครับ ค่าห้อง ค่าสาธารณูปโภคต่างๆ เงินที่ต้องส่งให้ที่บ้านซึ่งคนที่บ้านไม่มีรายได้ครับ ต้องรับจากผมคนเดียวอีกทั้งคุณพ่อ คุณแม่ คุณยายต่างมีโรคประจำตัวกันทั้งหมดมีค่ารักษา ค่ายา ค่ากิน จิปาถะครับ โดยผมต้องยืมเงินคนอื่นมาใช้ในกรณีที่บอกแก้ขัดไปก่อนครับ เพราะผมมีแค่ค่ากินประจำวันของผมซึ่งจะไม่พอด้วยซ้ำครับ ส่วนห้องพักตอนแรกอยู่ห้องเดือนละ4000ครับ ตอนนี้ต้องย้ายออกมาอยู่ห้อง2500แล้วครับ
ถามว่าผมจะทำอะไรต่อจากนี้ผมก็คงหางานที่ผมชอบและเคยทำและมีประสบการณ์มาตลอดอย่างงานบุคคลต่อไปครับ ส่วนตัวไม่เข้าใจครับว่าทำไมผมถึงไม่ได้งานสักที อยากมีเงินที่ส่งให้ทางบ้านได้คนทางบ้านผมลำบากมากครับไม่มีรายได้ อายุมาก เป็นโรคอีก บางทีผมก็ร้องไห้คนเดียวออกมาโดยไม่มีใครปลอบ ไม่อยากออกไปพบหน้าผู้คนช่วงที่เป็นวันทำงานเลยครับถ้าวันนั้นไม่มีสัมภาษณ์ งานที่ต่อยอดจากงานที่เคยทำมา ทำไมถึงได้หายาก และถูกแต่ละที่เมินใส่ บางที่ก็ไม่ให้เกียรติเราเลยครับทำเหมือนเราเป็นพวกคนไร้ค่า ดูถูกว่าทำงานนี้ไม่ได้หรอกก็มีครับ บางทีก็คิดว่าเราถูกแกล้ง ถูกเอาเปรียบ ไม่ยุติธรรมกับเราเลยครับ
ขอบคุณทุกคนนะครับที่อ่านจนจบ ผมเองก็อยากได้กำลังใจ คำแนะนำดีๆจากทุกๆคนในนี้ครับ
ไม่คิดเลยว่าตัวเองจะหางานยากขนาดนี้
แล้วก็มาเจองานที่ตัวเองชอบจริงๆคืองานด้านบุคคลนี่แหละครับ ชอบในเนื้อหา วิธีการ รายละเอียดในแต่ละฟังก์ชันของงานด้านนี้ครับ และก็ได้ทำมาตลอด3ปีที่ผ่านมา ส่วนที่ผ่านมาสดๆร้อนๆเลยครับก็บอกว่า ผ่านการสัมภาษณ์ "พี่ไม่ถามรายละเอียดงานอะไรเรา เพราะรุ้ว่างานที่จะให้ทำเราเคยทำมาหมดแล้ว"
แต่สุดท้ายเงียบครับ หลายที่มองวนทำนองว่าผมเก่ง แต้ผมกลับไม่ได้งานนั้น แต่ผมไม่คิดแบบนั้นครับ มีหลายสิ่งที่ผมต้องปรับปรุงแก้ไขอีกเหมือนกัน หรือจะเป็นเรื่องบุคลิกภาพซึ่งปกติผมเป็นคนยิ้มเก่งเข้ากับคนง่ายอยู่แล้วครับ ไม่น่าจะใช่เรื่องนี้ เงินเดือนที่เรียกไปก็น้อยครับไม่ได้เยอะเลย เพราะผมรุ้ว่าหลายที่ในช่วงนี้เจอปัญหาเพราะโรคระบาด ต้องลดพนักงาน ตัดเงินเดือนกันหลายที่ ประสบการณ์ผมก็มีมาโดยตรงครับ
มันทำให้ผมเจอทางตันครับ ถ้าถามว่าช่วงนี้ผมทำอะไรระหว่างที่ไม่มีงานประจำ ผมไปรับเขาพิมพ์เอกสารครับ ซึ่งจะเงินให้ตามปริมาณที่เขามีให้ทำครับ ซึ่งวันนึงก็ได้ 100 150 หรือ 200 บาทครับ ซึ่งผมใช้คนเดียวยังจะไม่พอเลยครับ ค่าห้อง ค่าสาธารณูปโภคต่างๆ เงินที่ต้องส่งให้ที่บ้านซึ่งคนที่บ้านไม่มีรายได้ครับ ต้องรับจากผมคนเดียวอีกทั้งคุณพ่อ คุณแม่ คุณยายต่างมีโรคประจำตัวกันทั้งหมดมีค่ารักษา ค่ายา ค่ากิน จิปาถะครับ โดยผมต้องยืมเงินคนอื่นมาใช้ในกรณีที่บอกแก้ขัดไปก่อนครับ เพราะผมมีแค่ค่ากินประจำวันของผมซึ่งจะไม่พอด้วยซ้ำครับ ส่วนห้องพักตอนแรกอยู่ห้องเดือนละ4000ครับ ตอนนี้ต้องย้ายออกมาอยู่ห้อง2500แล้วครับ
ถามว่าผมจะทำอะไรต่อจากนี้ผมก็คงหางานที่ผมชอบและเคยทำและมีประสบการณ์มาตลอดอย่างงานบุคคลต่อไปครับ ส่วนตัวไม่เข้าใจครับว่าทำไมผมถึงไม่ได้งานสักที อยากมีเงินที่ส่งให้ทางบ้านได้คนทางบ้านผมลำบากมากครับไม่มีรายได้ อายุมาก เป็นโรคอีก บางทีผมก็ร้องไห้คนเดียวออกมาโดยไม่มีใครปลอบ ไม่อยากออกไปพบหน้าผู้คนช่วงที่เป็นวันทำงานเลยครับถ้าวันนั้นไม่มีสัมภาษณ์ งานที่ต่อยอดจากงานที่เคยทำมา ทำไมถึงได้หายาก และถูกแต่ละที่เมินใส่ บางที่ก็ไม่ให้เกียรติเราเลยครับทำเหมือนเราเป็นพวกคนไร้ค่า ดูถูกว่าทำงานนี้ไม่ได้หรอกก็มีครับ บางทีก็คิดว่าเราถูกแกล้ง ถูกเอาเปรียบ ไม่ยุติธรรมกับเราเลยครับ
ขอบคุณทุกคนนะครับที่อ่านจนจบ ผมเองก็อยากได้กำลังใจ คำแนะนำดีๆจากทุกๆคนในนี้ครับ