สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ถูกต้องคับ
พนักงาน ห้ามบอกว่าใบนี้ปลอมหรือแท้
แต่จะหยิบใบเดียวกัน หรือใกล้เคียงกัน มาให้เปรียบเทียบเอง
เป็นคำสั่งของแบรนด์ เพราะคำพูดของเค้า เราอาจจะเอาไปฟ้องร้อง ดำเนินคดีกับคนขายกระเป๋าปลอมใบนั้น
ร้านกระเป๋าในเน็ต ร้านไหนบอกให้เอากระเป๋าที่ตนขาย เดินเข้าช็อปไปเช็คได้เลย พวกนี้จะขายของปลอม หรือ ไม่เคยเข้าช็อปด้วยซ้ำคับ
ปล.มีวิธีเช็คหลุยส์ ง่ายๆคือ เอาเข้าช็อปไปบอกให้คลีนอะไหล่ หรือซ่อมบางจุด หรือ HS ถ้า พนง. ไม่ทำให้ นั่นคือปลอมคับ
พนักงาน ห้ามบอกว่าใบนี้ปลอมหรือแท้
แต่จะหยิบใบเดียวกัน หรือใกล้เคียงกัน มาให้เปรียบเทียบเอง
เป็นคำสั่งของแบรนด์ เพราะคำพูดของเค้า เราอาจจะเอาไปฟ้องร้อง ดำเนินคดีกับคนขายกระเป๋าปลอมใบนั้น
ร้านกระเป๋าในเน็ต ร้านไหนบอกให้เอากระเป๋าที่ตนขาย เดินเข้าช็อปไปเช็คได้เลย พวกนี้จะขายของปลอม หรือ ไม่เคยเข้าช็อปด้วยซ้ำคับ
ปล.มีวิธีเช็คหลุยส์ ง่ายๆคือ เอาเข้าช็อปไปบอกให้คลีนอะไหล่ หรือซ่อมบางจุด หรือ HS ถ้า พนง. ไม่ทำให้ นั่นคือปลอมคับ
ความคิดเห็นที่ 2
เราคิดง่ายๆ ว่าเค้าไม่อยากเปลืองตัวกับเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องค่ะ
ถ้าบอกว่าปลอม คนเอามาตรวจเอาคำพูดพนักงานไปอ้างเพื่อเคลมกับร้าน
ร้านก็โวยวายบอกให้เอาพยานมาสิ กลายเป็นคุณพนักงานโดนลากไปเกี่ยวอีก
โดนละเมิดลิขสิทธิ์แล้วยังจะต้องมาเปลืองตัว เสียเวลา วุ่นวาย
แล้วเราว่ามันก็ไม่ยุติธรรมกับร้านด้วย เค้าขายของเค้าใน Shop ไม่ซื้อของเค้า
ไปซื้อข้างนอกแล้ววิ่งไปให้เค้าเช็ค ถ้าเค้าตอบให้ว่าแท้ไม่แท้ ก็จะมีแต่คนทำแบบนี้
กลายเป็นว่าทั้ง Shop คนแน่น แต่มีแต่พวกซื้อในเน็ตแห่ไปให้เค้าเช็คของแท้ของปลอม
ลูกค้าที่ไป Shop เพื่อจะซื้อจริงๆ เห็นคนแน่นก็ไม่อยากเข้า ขี้เกียจรอ เสียโอกาสขายไปอีก
เราเคยไปซื้อใน LV ช็อปที่เอ็มโพเรียมเมื่อนานละ เค้าจะรับลูกค้าจำกัด ต้องรอ
เพราะคนนึงเค้าจะคุยนานมาก คุยดีมาก เทคแคร์ดีมาก หยิบให้ดูให้เลือกจนกว่าจะพอใจ
เราซื้อในช็อปยอมจ่ายแพงแต่สบายใจว่าแท้แน่นอน มีใบเสร็จเรียบร้อย แถมบริการก็ดี
ถ้าบอกว่าปลอม คนเอามาตรวจเอาคำพูดพนักงานไปอ้างเพื่อเคลมกับร้าน
ร้านก็โวยวายบอกให้เอาพยานมาสิ กลายเป็นคุณพนักงานโดนลากไปเกี่ยวอีก
โดนละเมิดลิขสิทธิ์แล้วยังจะต้องมาเปลืองตัว เสียเวลา วุ่นวาย
แล้วเราว่ามันก็ไม่ยุติธรรมกับร้านด้วย เค้าขายของเค้าใน Shop ไม่ซื้อของเค้า
ไปซื้อข้างนอกแล้ววิ่งไปให้เค้าเช็ค ถ้าเค้าตอบให้ว่าแท้ไม่แท้ ก็จะมีแต่คนทำแบบนี้
กลายเป็นว่าทั้ง Shop คนแน่น แต่มีแต่พวกซื้อในเน็ตแห่ไปให้เค้าเช็คของแท้ของปลอม
ลูกค้าที่ไป Shop เพื่อจะซื้อจริงๆ เห็นคนแน่นก็ไม่อยากเข้า ขี้เกียจรอ เสียโอกาสขายไปอีก
เราเคยไปซื้อใน LV ช็อปที่เอ็มโพเรียมเมื่อนานละ เค้าจะรับลูกค้าจำกัด ต้องรอ
เพราะคนนึงเค้าจะคุยนานมาก คุยดีมาก เทคแคร์ดีมาก หยิบให้ดูให้เลือกจนกว่าจะพอใจ
เราซื้อในช็อปยอมจ่ายแพงแต่สบายใจว่าแท้แน่นอน มีใบเสร็จเรียบร้อย แถมบริการก็ดี
ความคิดเห็นที่ 15
สินค้าแบรนด์เนม ส่วนใหญ่ มี Brand Heritage ที่กินระยะเวลายาวนาน ตลอดจนรายละเอียดปลีกย่อยในแต่ละรุ่น แต่ละขนาดและแต่ละปีก็ต่างกันค่ะ
ทางแบรนด์ จึงไม่มีนโยบาย ให้ SA พนักงานขายคนใดคนหนึ่ง ทำหน้าที่ในการตรวจสอบดูของจริง ของปลอมให้ลูกค้า เพราะอาจจะไม่ได้ชำนาญในทุกจุด ทุกรุ่น ทุกปีค่ะ และหากเกิดการผิดพลาด ก็จะมีปัญหาเกิดขึ้นได้ค่ะ
การส่งเข้าซ่อม เป็นวิธีนึง แต่แบรนด์ก็จะขอนำสินค้าของคุณเข้าไปด้านหลัง เพื่อผ่านกระบวนการตรวจสอบ ไม่ใช่ให้พนักงานยืนดูของให้คุณหน้าร้านค่ะ
แบรนด์ที่ปลอมจนดูไม่ออกทุกจุด ไม่มีค่ะ มีแต่ดูไม่เป็น หรือไม่ชำนาญพอ และปัจจุบัน อาจมีการทำเปลี่ยน หรือ modify กระเป๋า หรือจุดต่างๆ กันมามาก จริงๆ มีหลายๆ สถาบัน ที่มีการตรวจสอบอย่างมีหลักฐานใช้สำหรับประกอบการดำเนินคดีตามกฏหมายได้ค่ะ หากเกิดการขายของปลอม แต่ก็ยังใช้ผู้เชี่ยวชาญหลายๆ ท่านดูเพื่อลงความเห็นค่ะ และแต่ละท่านอาจจะชำนาญแบรนด์แต่ละแบรนด์ไม่เหมือนกัน เพราะมีลักษณะเฉพาะ ของการสั่งสมการผลิต ส่วนใหญ่แบรนด์เนมมีอายุเป็นร้อยๆ ปี
ส่วนหนึ่ง ที่มิจฉาชีพ ใช้ในการหลอกขาย หรือแม่ค้าที่ดูไม่เป็น ไม่ชำนาญ ก็จะปล่อยผ่านๆ ไป ตัดราคากันถูก ๆ ลูกค้าชอบของถูก ต่อเท่าไรก็ให้ เพราะมิจฉาชีพไม่มีต้นทุน สุดท้าย ราคาเหยื่อล่อ ก็ตกสำเร็จทุกครั้งไป รุ่นเดียวกัน สภาพที่ต่างกัน ก็ทำให้ราคาต่างกันค่ะ แต่ถ้าจะหลงแต่ราคาที่คุณเห็นแค่ภาพเดียว แล้วคิดว่าจะต้องซื้อได้ในราคานั้นเสมอไป หรือถูกกวานั้นแล้วรู้สึกภูมิใจว่าต่อราคาได้ถูก บางทีคุณอาจจะกลายเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพค่ะ
จากใจคนรักแบรนด์เนมคนหนึ่งมา 20 ปี เท่าอายุล้อคอินนี้ล่ะ นานๆ จะมาพิมพ์ไรที ขอโทษนะคะที่ยาว
ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ
เจ้าของชื่อล็อคอิน เพิ่งไปเป็นนางฟ้าบนดาวหมา เมื่อวันลอยกระทงปลายปีที่แล้วนี่เองค่ะ
คิดถึงมาก
ทางแบรนด์ จึงไม่มีนโยบาย ให้ SA พนักงานขายคนใดคนหนึ่ง ทำหน้าที่ในการตรวจสอบดูของจริง ของปลอมให้ลูกค้า เพราะอาจจะไม่ได้ชำนาญในทุกจุด ทุกรุ่น ทุกปีค่ะ และหากเกิดการผิดพลาด ก็จะมีปัญหาเกิดขึ้นได้ค่ะ
การส่งเข้าซ่อม เป็นวิธีนึง แต่แบรนด์ก็จะขอนำสินค้าของคุณเข้าไปด้านหลัง เพื่อผ่านกระบวนการตรวจสอบ ไม่ใช่ให้พนักงานยืนดูของให้คุณหน้าร้านค่ะ
แบรนด์ที่ปลอมจนดูไม่ออกทุกจุด ไม่มีค่ะ มีแต่ดูไม่เป็น หรือไม่ชำนาญพอ และปัจจุบัน อาจมีการทำเปลี่ยน หรือ modify กระเป๋า หรือจุดต่างๆ กันมามาก จริงๆ มีหลายๆ สถาบัน ที่มีการตรวจสอบอย่างมีหลักฐานใช้สำหรับประกอบการดำเนินคดีตามกฏหมายได้ค่ะ หากเกิดการขายของปลอม แต่ก็ยังใช้ผู้เชี่ยวชาญหลายๆ ท่านดูเพื่อลงความเห็นค่ะ และแต่ละท่านอาจจะชำนาญแบรนด์แต่ละแบรนด์ไม่เหมือนกัน เพราะมีลักษณะเฉพาะ ของการสั่งสมการผลิต ส่วนใหญ่แบรนด์เนมมีอายุเป็นร้อยๆ ปี
ส่วนหนึ่ง ที่มิจฉาชีพ ใช้ในการหลอกขาย หรือแม่ค้าที่ดูไม่เป็น ไม่ชำนาญ ก็จะปล่อยผ่านๆ ไป ตัดราคากันถูก ๆ ลูกค้าชอบของถูก ต่อเท่าไรก็ให้ เพราะมิจฉาชีพไม่มีต้นทุน สุดท้าย ราคาเหยื่อล่อ ก็ตกสำเร็จทุกครั้งไป รุ่นเดียวกัน สภาพที่ต่างกัน ก็ทำให้ราคาต่างกันค่ะ แต่ถ้าจะหลงแต่ราคาที่คุณเห็นแค่ภาพเดียว แล้วคิดว่าจะต้องซื้อได้ในราคานั้นเสมอไป หรือถูกกวานั้นแล้วรู้สึกภูมิใจว่าต่อราคาได้ถูก บางทีคุณอาจจะกลายเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพค่ะ
จากใจคนรักแบรนด์เนมคนหนึ่งมา 20 ปี เท่าอายุล้อคอินนี้ล่ะ นานๆ จะมาพิมพ์ไรที ขอโทษนะคะที่ยาว
ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ
เจ้าของชื่อล็อคอิน เพิ่งไปเป็นนางฟ้าบนดาวหมา เมื่อวันลอยกระทงปลายปีที่แล้วนี่เองค่ะ
คิดถึงมาก
ความคิดเห็นที่ 7
เคยมีลูกค้าเอามาให้ดูเหมือนกันค่ะ (ขอไม่บอกนะว่าตัวเองทำอยู่แบรนด์ไหน) ลูกค้าบอกซื้อมาจากฮ่องกง ราคาถูกกว่าไทยแค่ 400-500 บาท ตอนลูกค้าเอาออกมาแว๊บแรกนี่ก็ดูออกเลยว่าปลอม แว๊บเดียวก็ดูออก และเราก็ทำแบบที่เมนต์บน ๆ บอก คือเอาสินค้าในช็อปมาเทียบให้ลูกค้าดูว่าของในช็อปกับของที่ลูกค้าซื้อมานั้นแตกต่างกันยังไงแต่ไม่ได้บอกว่าของลูกค้าปลอมไหม คิดแล้วก็เพลียใจว่าทำไมคนบางคนถึงอุตส่าห์ดั้นด้นไปหาของราคาถูก ๆ (หรือเปล่า) ถึงต่างประเทศแล้วก็มานั่งคิดเล็กคิดน้อยคิดมากว่าของที่ตัวเองซื้อมานั้นใช่ของแท้จริงไหม ไว้ใจได้หรือเปล่า ทั้ง ๆ ที่ราคาในช็อปก็ไม่ได้ต่างกันมากมายเลย
แสดงความคิดเห็น
ทำไมพนักงานร้านของแบรนด์เนมห้ามบอกลูกค้าว่าของปลอม
ขอถามผู้รู้ หรือคนที่เคยทำงาน shop แบรนด์ ว่านโยบายนี้มีไว้เพื่ออะไรหรอคะ แล้วเหตุผลที่มีเพราะอะไร?