ก่อนอื่นต้องขอเกริ่นก่อนว่าเป็นครั้งแรกที่เขียน การเรียบเรียงอาจจะสับสนไปบ้างต้องขออภัย
นาย ก. ได้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินแปลงนึง ซึ่งไม่มีเจ้าของและเอกสารสิทธิ์ใดๆ ซึ่งอยู่ใกล้ๆ(ตรงกันข้าม)กับบ้านของ นาย ข. ซึ่งก็เคยได้มีการพูดคุยกันเรียบร้อยแล้วว่าจะเข้าทำประโยชน์ในที่แปลงนั้นซึ่งเป็นป่ารกร้าง นาย ก. ได้เริ่มหักล้างถางพง กลายเป็นที่ดินสวยงามเพื่อพืชเศรษฐกิจชนิดหนึ่ง แต่แล้วมิวายต้องเจอปัญหาตามมามากมาย อยู่มาวันหนึ่ง เหมือน นาย ข. เริ่มมีอาการไม่พอใจและนึกเสียดายที่แปลงนั้นขึ้น จึงเริ่มแอบเข้าไปก่อกวนสร้างความเดือดร้อนรำคาญต่างๆนาๆ ทั้งนำปลอกกระสุนปืนลูกซองไปเสียบไว้บริเวณทางเข้าสวน ใช่ยาฆ่าหญ้าฉีดพ่นต้นพืชที่นำมาปลูก บ้างก็ถอนทิ้ง ขุดทำลายเสารั้วลวดหนาม ซึ่งมีพยานบุคคลเห็นว่า นาย ข.เข้าไปในที่แปลงนั้น นอกจากพยานบุคคลก็ไม่มีหลักฐานอย่างอื่นเลยที่จะมัดตัวผู้กระทำได้เลย หากจะแจ้งความความหรือฟ้องร้องไป หลักฐานไม่เพียงพอจะเสี่ยงต่อการโดนฟ้องกลับหรือไม่ ( ซึ่งก่อนหน้านี้ระหว่าง นาย ก. กับ ข. ก็ได้มีการพูดคุยตามปกติ ไม่เคยขัดแย้งด้วยวาจาใดๆอะไรเลย ) จึงอยากขอความรู้ คำแนะนำในการรับมือและจัดการกับปัญหาครั้งนี้หน่อยครับ
ปัญหาเรื่องที่ดินจากคนใกล้ตัว
นาย ก. ได้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินแปลงนึง ซึ่งไม่มีเจ้าของและเอกสารสิทธิ์ใดๆ ซึ่งอยู่ใกล้ๆ(ตรงกันข้าม)กับบ้านของ นาย ข. ซึ่งก็เคยได้มีการพูดคุยกันเรียบร้อยแล้วว่าจะเข้าทำประโยชน์ในที่แปลงนั้นซึ่งเป็นป่ารกร้าง นาย ก. ได้เริ่มหักล้างถางพง กลายเป็นที่ดินสวยงามเพื่อพืชเศรษฐกิจชนิดหนึ่ง แต่แล้วมิวายต้องเจอปัญหาตามมามากมาย อยู่มาวันหนึ่ง เหมือน นาย ข. เริ่มมีอาการไม่พอใจและนึกเสียดายที่แปลงนั้นขึ้น จึงเริ่มแอบเข้าไปก่อกวนสร้างความเดือดร้อนรำคาญต่างๆนาๆ ทั้งนำปลอกกระสุนปืนลูกซองไปเสียบไว้บริเวณทางเข้าสวน ใช่ยาฆ่าหญ้าฉีดพ่นต้นพืชที่นำมาปลูก บ้างก็ถอนทิ้ง ขุดทำลายเสารั้วลวดหนาม ซึ่งมีพยานบุคคลเห็นว่า นาย ข.เข้าไปในที่แปลงนั้น นอกจากพยานบุคคลก็ไม่มีหลักฐานอย่างอื่นเลยที่จะมัดตัวผู้กระทำได้เลย หากจะแจ้งความความหรือฟ้องร้องไป หลักฐานไม่เพียงพอจะเสี่ยงต่อการโดนฟ้องกลับหรือไม่ ( ซึ่งก่อนหน้านี้ระหว่าง นาย ก. กับ ข. ก็ได้มีการพูดคุยตามปกติ ไม่เคยขัดแย้งด้วยวาจาใดๆอะไรเลย ) จึงอยากขอความรู้ คำแนะนำในการรับมือและจัดการกับปัญหาครั้งนี้หน่อยครับ