อกเกือบหัก มาลองวิเคราะห์ความเป็นเมยกัน

เป็นละครที่มี impact กับตัวเองจังเลย ไม่เคยต้องคิดลึกซึ้งอย่างนี้มาก่อน ทำให้เราได้คิดในหลายๆ เรื่องและหลายๆ มุมมอง
(ทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัวล้วน ปะติดปะต่อจากเรื่องราวในนวนิยายบ้าง ละครบ้าง)
มาวิเคราะห์ความเป็นเมยและเธียรกัน (บอกไว้ก่อนกระทู้ยาวมาก เกือบเต็ม limit)
 
เมย เป็นลูกแม่ค้า หาเช้ากินค่ำ ได้รับการอุปการะ เอ็นดูจากแม่เธียรมาก มาอยู่บ้านเธียรก็ทำทุกอย่างเพื่อตอบแทน คล้ายๆ จะเป็นเด็กในบ้าน มีปมว่าตัวเองต่ำต้อย คิดว่าตนเองด้อยกว่า ไม่เก่ง ไม่คู่ควร ทั้งเธียร คนอื่นเช่นพลเดช ก็ตอกย้ำ รักพระเอกมากทำให้ได้ทุกอย่าง ความรักนี้อาจเกิดมาจากกรรมชักนำครั้งเก่าก่อน และกรรมชักนำในครานี้ด้วย 
 
“อะไรนะที่จองจำเธอไว้ ให้หัวใจไม่อาจรักใครได้ นอกจากพี่เธียร ความรักสำคัญเสมอ แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นก็ย่อมมี และหากว่าชาตินี้ เรากับพี่เธียรไม่ใช่เนื้อคู่กัน ก็ขอให้เราลืมพี่เธียรได้ในไม่ช้า และขอให้เราไม่ต้องเจ็บปวดกับความรักอีกต่อไป”
 
เมยรักเธียรในแบบที่ ปรารถนาดี อยากให้เธียรมีแต่ความสุข ยินดีทำทุกอย่าง ปกป้อง ป้องภัย เป็นรักที่บริสุทธิ์จากใจ ไม่คาดหวังที่จะคิดมาครอบครอง เป็นรักที่ไม่มีเงื่อนไข และมันลึกซึ้งมาก เหมือนกับว่าโลกใบนี้ของเมยมีแต่เธียร
 
สิ่งที่เมยรับรู้มาตลอด คือเธียรยังคงเฝ้ารอใครสักคน และคนคนนั้นก็ไม่ใช่เธอ เธอคงไม่ใช่คนในแบบที่เธียรเฝ้ารอ รู้ว่าตนอยู่นอกสายตามาตลอด ไม่ได้รับความใส่ใจ แต่ก็ไม่ได้เรียกร้องใดๆ ยังคอย Support ดูแล เพราะตนเองก็อยากที่จะทำ และมันก็เป็นความสุขของเมยเอง ที่ได้ทำสิ่งดีๆ ให้เธียร แต่หลังจากอุบัติเหตุคราวนั้น เธอจึงอาจคิดว่า ชีวิตมันก็ไม่ได้ยืนยาว ความตายเกิดขึ้นได้เสมอ และมันก็ใกล้ตัวมาก ความไม่กล้าแสดงความรู้สึกในคราก่อน ก็เลยได้ถูกแสดงออกมามากขึ้น ดังที่ตอบคำถามในห้องสัมภาษณ์งาน 
 
เมยรักเธียร แต่ก็ปรารนนาให้เธียรเจอกันที่เขาเฝ้ารอ ถึงแม้คนเองจะเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเขาตอนจมน้ำ แต่ก็ไม่ยอมที่จะบอกให้เขารู้ ซึ่งมันอาจจะเป็นเหตุผลที่จะผูกมัด ให้เขารู้สึกผิด รู้สึกไม่ดี และอาจมาซึ่งเหตุแห่งการรับผิดชอบบางอย่าง แต่เนื่องจากผู้ใหญ่เห็นถึงความรักที่เมยมีให้เธียร จึงอยากให้แต่งงานกัน ทั้งยังอ้างเรื่องความปลอดภัยของพี่เขา เธอจึงไม่ได้ปฏิเสธ เธอจะได้มีโอกาสช่วยดูแลปกป้องเขาได้ง่ายขึ้น ได้ใกล้ชิด ทำเรื่องต่างๆ ให้เขาได้มากขึ้น และก็รู้มาตลอดในใจว่า เมื่อเรื่องความไม่ปลอดภัยของเธียรได้จบจงเมื่อใด เวลาของเธอกับเธียรก็จะหมดลง เธอจึงไม่ปฏิเสธโอกาสที่จะอยู่ใกล้ดูแลเขา ใช้เวลา และเก็บความทรงจำดีๆเกี่ยวกับเขาเอาไว้ จะเห็นได้ว่าจริงๆ แล้วเธอก็ไม่เคยคิดจะครอบครองหรือยึดเธียรมาเป็นของตนเลย (ยกเว้นตอนไม่มีสติ จิตใต้สำนึกอาจแสดงออกมาบ้าง)
 
ทุกอย่างที่เธอทำนั้น ก็คิดแต่จะเป็นประโยชน์ต่อเธียร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแฮกข้อมูล บริษัทพ่อญาดาเข้ามาถือหุ้นด้วยเหตุผลที่ไม่ดี มาล้วงข้อมูล และญาดาจะได้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับพระเอกได้ จึงไม่ปฎิเสธการเป็นสายลับ รวมถึงได้ยื่นข้อเสนอต่อพ่อญาดา ไม่ให้ญาดามายุ่งเกี่ยวกับเธียรอีก เพื่อที่พลเดชจะได้ไม่มารังควาญ แต่เธียรก็มารู้จึงทำให้แผนที่วางไว้ถูกเร่งปฏิกิริยาไปบ้าง เมยก็ยังยอมที่จะเสี่ยงชีวิตทำตามแผนเธียร ที่เข้าไปล้วงข้อมูลในวันนั้น เพราะก็ยังคงเป็นความตั้งใจเดิมของเธอ การมาทวาย ก็เป็นหนึ่งในความปลอดภัยที่เธอคาดหวัง หากเธียรมาที่ทวาย อยู่ในsite งานที่มีการดูแลแน่นหนา และไกลออกมาจากความเสี่ยง เธอจึงขอคุณบารมี ให้ส่งเธียรมา 
 
การแต่งกลอนจีบต่างๆ นั้น คิดว่าเมยเองก็อาจหมั่นใส้เธียร ที่ไม่เคยที่จะมองหญิงใด และมีทัศนคติความรักที่ไม่ตรงกัน และคงทำไปเพื่อจะแกล้งเขาคืนบ้าง และเก็บความรู้สึกดีๆ หรือบอกว่ารู้สึกดีๆ ให้เขารู้บ้าง (ชีวิตคนเรามันสั้นนะ)
 
เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก และทราบจากคุณนายศจีว่าน่าจะไม่มีอะไรแล้ว เธอก็เริ่มที่จะคิดการหย่า (ทำไมต้องหย่าหรอ จริงๆ ก็เพื่อเธียรนั่นแหละ) และใช้เวลาที่มีอยู่ช่วงสุดท้ายที่ทวายกับเธียรให้มีค่า และมีความทรงจำที่ดี มันคงเป็นสิ่งสุดท้าย หรือโอกาสสุดท้ายที่เธอจะมอบให้เธียรได้ เธอจึงพาเขาไปท่องเที่ยวในพม่า และไหว้พระต่างๆ ขอพรให้เขามีความสุขตลอดไป 
 
เมื่อเธอไม่จำเป็นต่อเขาแล้ว เขาก็ปลอดภัยดีแล้ว เธอจึงคิดจะให้อิสรภาพแก่เขา เพื่อที่เขาจะได้ค้นหาคนที่เฝ้ารอมาทั้งชีวิต ซึ่งคนคนนั้นก็ไม่ใช่เธอ เมื่อเธอตัดสินใจดังนั้น ก็มอบทะเบียนสมรสและใบขอหย่าให้แก่เขา ส่วนตัวเองถึงรักเขามากเพียงใด แต่ก็ยอมเสียสละความสุขของตนเพื่อให้เขาได้เจอกับความสุขที่เขาคาดหวัง และพร้อมจะหลบหลีก ลี้ภัย ไปทำใจเพื่อให้ลืมหรือตัดใจจากเขา การตัดสินใจไปเรียนต่อจริงๆ ก็ไม่ได้เพิ่งจะเกิดขึ้นกะทันหัน เมยน่าจะคิดมานานแล้ว เรื่องอยากไปเรียนต่อ เนื่องจากปมในใจที่มีมานาน เรื่องความต่ำต้อย ความไม่เก่ง ความไม่คู่ควร และเมื่อเรียนจบกลับมาก็น่าจะช่วยจุนเจือแม่ของตนได้ดีมากขึ้น สร้างคุณค่าให้ตัวเองมากขึ้น และอาจเก่งขึ้นมาบ้างในสายตาเขา
 
แต่เหตุการณ์ช่วงเวลาดีๆ ที่เธอได้สร้างขึ้นมา ในช่วงเวลาสุดท้ายที่เธอจะใช้ร่วมกับเธียร อาจเริ่มทำให้เธียรได้เริ่มเห็นเธอขึ้นมาในสายตา ประทับใจในความเป็นเมย แต่เมยเองอาจไม่ได้รับรู้เรื่องราวดังกล่าว เธอไม่รู้ว่าเหตุผลกลใดที่อยู่ๆ พี่ชายขี้แกล้งและเกรียนของเธอจะเริ่มมารักเธอได้ ทั้งที่ไม่เคยจะรักมาก่อน ใช้เธอเป็นเพียงไม้กันหมา แกล้งเธอสารพัด ไม่เคยจะเข้าใจหรือสนใจเธอ และไม่มีวี่แววว่าจะมารักเธอได้ จนสุดท้ายมีความสัมพันธ์ทางกายเกิดขึ้น จริงๆ เธอเองก็ไม่แน่ใจว่าเธียรรักเธอในแบบไหน หรือไม่อยากจ่ายเงิน 10 ล้านเป็นเหตุ หรือจะแกล้งให้รักอย่างเช่นเคยมา
 
แต่เหตุการณ์ความเสี่ยงต่อเธียรก็มาอีก เมื่อพลเดชมาที่ทวาย เธอจึงต้องออกโรงปกป้อง ทำทุกวิถีทางเพื่อจัดการพลเดช ให้ออกจากชีวิตเธียรอีกครา ด้วยความสารารถที่เธอมี และเท่าที่เธอจะทำได้ 
 
“เวลาที่คนเรามีความรัก ทุกสิ่งทุกอย่างที่เรามีอยู่ มันก็จะมีค่าน้อยกว่าความรักของเราเสมอ” แม้แต่ชีวิต ก็ยอมเสียสละให้กับคนที่เรารักได้
 
“เมยอะ เป็นคนไม่มีอะไรเลยนะคะ สมบัติอย่างเดียวที่มีค่ามากที่สุดในชีวิตของเมยที่มีคนให้มา ก็คือพี่เธียร” โลกทั้งใบเป็นจริงๆ นะยายเมย
 
เมื่อเหตุการณ์สงบลงเธอจึงยื่นคำขาดเรื่องการหย่าและเรียนต่อ ทั้งเปิดโอกาสให้เธียรได้เจอกันที่เฝ้าคอย และไม่คิดจะใช้เรื่องราวความสัมพันธ์ทางกายที่เกิดขึ้น มาเป็นข้อผูกมัดในความรักของเธียร อย่างที่เราจะเห็นว่าเมยก็คิดและทำเช่นนี้มาตั้งแต่คราช่วยชีวิตเธียร และเมื่อคุณนายศจีได้บอกเล่าสิ่งที่เมยช่วยชีวิตเธียรในครั้งก่อน
 
เธียรผู้เคยดูแคลนความรักของเมย ว่าเป็นความรักที่ฉาบฉวย อ่อนด้อย ก็รู้ซึ้งถึงความจริง และเข้าใจในตัวเองว่า ความรักของตนที่มีนั้น เทียบไม่ได้สักนิดกับสิ่งที่เมยทำให้เขามาตลอด เธียรหมดสงสัยในความรักของเมย ความรักที่มีแต่ความเสียสละและปรารถนาดี ความคิดของตนเองคงเปลี่ยนไป รู้สึกคลาดเขลาที่ไปดูแคลนน้อง สิ่งเดียวที่จะทดแทนได้ ณ ตอนนั้นก็คือการให้อิสระน้องไป ได้ทำในสิ่งที่เมยอยากทำ คือการไปเรียนต่อ มุมมองความรักของเธียรก็เริ่มเปลี่ยนไป จากการยึดครอง ครอบครอง เป็นการเสียสละให้คนที่เขารักได้มีความสุข ในสิ่งที่เธอเลือกบ้าง มันคงเป็นสิ่งที่เขาทำให้ได้ในตอนนี้ ในมุมมองที่เขารับรู้ว่ามันคงจะดีต่อเธอ และดีที่สุดแล้ว เขาจึงยอมหย่า ทั้งทีใจไม่อยากจะหย่า (มุมของเธียรเองก็ต้องต้องมาวิเคราะห์กันต่อไป ว่าเค้าคิดอย่างไร ทั้งแต่ต้นเช่นกัน)
 
เมื่อเธียรยอมปล่อยเมย ให้ได้ทำในสิ่งที่เธออย่าทำ เมยเองก็เสียใจที่ต้องหย่า และเสียใจที่สุดท้ายก็ไม่ได้ลาจากกัน แต่คงคิดว่าเป็นเช่นนี้ก็ดีแล้ว พี่เธียรของเธอคงได้ไปเจอกับคนดีๆ ที่เฝ้ารอ และเธอก็จะได้ไปหลบเลียแผลใจ และพยายามลืมเขาให้ได้เช่นกัน แต่เหตุการณ์ไม่เป็นอย่างที่คิด เมยท้องกับเธียร มาถึงจุดนี้ เธอก็ยังคงเป็นเธอเมยเหมือนเดิม ไม่อยากจะเอาเรื่องลูกมาเป็นข้อผูกมัดในความรักของเขาอีกเช่นที่เคย ดั่งเช่นการตัดสินใจทำมาในหลายๆ ครั้งของเมย และคงต้องพักหรือละทิ้งความฝันของตนชั่วคราว เพื่อดูแลท้องนี้ให้ดีที่สุด เลือกที่จะปลีกวิเวก ที่ที่อากาศดี สิ่งแวดล้อมดีๆ พร้อมๆ กับทำงานเพื่อเลี้ยงชีพ และเพื่อลูกที่จะเกิดมา
 
การกลับมาเจอกันอีกครั้งของเมยและเธียรนั้น เมยไม่อยากให้ลูกมาเป็นข้อผูกมัด มาเป็นเงื่อนไขของการับผิดชอบ เพื่อเหนี่ยวรั้งเขาไว้กับเธอ และไม่รู้ว่าความรักของเธียรจะเป็นแบบใด 
 
ณ ตอนนี้เธียรคงรู้ใจตัวเองขึ้นมามากแล้ว เค้ายังคงเฝ้าคิดถึง และเมยคือคนที่อยู่ในทุกช่วงชีวิตของเขามาตลอด ทำเพื่อเขามาตลอด และเค้าเริ่มเรียนรู้ความรักในรูปแบบที่เมยทำให้เขา เธียรคงไม่สงสัยในความรักของเมยแล้ว แต่เมยเองยังไม่แน่ใจในความรักของเธียรว่าจะเป็นในแบบใด จะจริงแท้และยั่งยืนหรือไม่ เพราะการกระทำก่อนหน้านั้น ที่เธียรทำกับเธอ ในตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เป็นไม้กันหมาบ้าง คำพูดกัดๆ ต่างๆ การกระทำร้ายๆ ของเขาบ้าง ทำให้ตัวเมยไม่อาจแน่ใจ และไม่อยากคาดหวังในความรักของเธียร ทั้งยังถูกตอกย้ำซ้ำๆ กับคำพูดพลเดชบ้าง คำพูดของเธียรเองบ้าง คำกล่าวที่ได้ไล่เธียรให้ออกจากชีวิตตัวเองไปนั้น คงพยายามที่จะให้เวลาแก่เธียรได้คิดว่าจริงๆ เขารักเธอหรือไม่ และในแบบใด และยังพร้อมให้เขาได้เจอคนที่ใช่กว่าเธอ

ถามว่าเมยยังรักเธียรหรือไม่ จากการกระทำของเมย ที่ไล่เธียรไปนั้น เมยเธอก็ยังเป็นเมยนั่นแหละ ที่โลกทั้งใบเป็นของเธียร คิดว่าไม่มีทางที่เมยจะไม่รักเธียร เธอยังยังมีความรัก ความหวังดี ปรารถนาดี ให้เธียรเจอในสิ่งที่เธียรต้องการเสมอ และคิดจะทำทุกอย่างให้เธียรมีความสุขในมุมมองของเธอ แต่เมื่อเธอไม่ได้รับรู้ว่าเธียรคิดอย่างไรกับเธอ ไม่ได้รับรู้ถึงความห่วงใยที่เธียรมีให้เธอ และไม่ได้เห็นการกระทำที่เธียรเองก็ทำเพื่อเธอ และไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองอย่างที่เคยผิดหวังมา เธอจึงยังคิดที่จะให้เขาได้เจอสิ่งที่ดีกว่าอยู่ดี
 
สิ่งที่เธียรควรทำ คือทำให้เมยได้รับรู้เรื่องราว ทั้งคำพูดและการกระทำ เพื่อให้เธอมั่นใจว่าเธียรเองก็รักเมยมากไม่ต่างกัน พร้อมจะเสียสละไม่ต่างกัน รักในตัวเธอจริงๆ ไม่ใช่สถานการณ์บังคับให้เป็นไป หรือเหตุผลอื่นใดที่จะต้องดูแล และผูกมัดให้แต่งงานกัน แต่เธียรเองนั้น ก็มักไม่แสดงออกในความรักและความห่วงใยที่มีต่อน้อง จึงต้องมาลุ้นกันว่าจะมีเหตุการณ์ใดหรือใคร จะให้ความกระจ่างแก่ใจเมย ในความรักที่เธียรก็มีให้เมยมากล้นอยู่เช่นกัน ให้เธอได้รับรู้ เช่นเดียวกับตอนที่คุณนายศจีแจ้งความแถลงไขแก่เธียร เพื่อให้เมยเองปลดเปลื้องความสงสัยในความรักของเธียรเช่นกัน
 
เราคงต้องรอดูกันต่อไปว่าละครจะพาเราถึงไหน เนื้อหาที่ไม่ได้อยู่ในนวนิยาย เราคงต้องคาดการณ์กันต่อไปจนถึงวันที่จันทร์อังคารที่จะถึง 
ทั้งหมดที่บรรยายเป็นเพียงความคิดเห็นและความพยายามทำความเข้าใจในตัวเมย และพยากรณ์เหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้น โดยส่วนตัวเองเท่านั้น ผิดถูกประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย โพสนี้เป็นโพสแรก และยาวมากจริงๆ ขอบคุณผู้อ่านที่อ่านมาถึงจุดนี้
 
อยากขอบคุณ ผู้แต่งนวนิยาย นาวาร้อยกวี ที่ทำให้เห็นและรับรู้กับความรักในรูปแบบนี้ ละครดีๆ จากทั้งคุณแอน และคุณแอ้ว ที่นำเสนอจากคำเขียนเป็นภาพที่กระจ่างชัด นักแสดงทั้งหมาก มิว และทุกๆ ท่านที่ร่วมในละคร จะรอรับรู้เรื่องราวท้งหมด ความงามของความรัก ที่ทั้งสองท่านต้งใจนำเสนอ
โหมดอินละครหนักมาก Haha
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่