ย้อนหลังกลับไปเมื่อปี2549 ตอนนั้นจขกท.เรียนมหาวิทยาลัยอยู่ปีสอง ที่มหาวิทยาลัยจะมีรถของสภากาชาดมารับบริจาคเลือดทุกเดือน แต่จขกท.ก็ไม่เคยได้บริจาคเลือดเลย เพราะเหตุผลด้านสุขภาพ จขกท.ได้อ่านแผ่นพับเกี่ยวกับการบริจาคอวัยวะ เลยอยากบริจาคบ้าง
ในตอนนั้นการบริจาคอวัยวะยังมีคนบริจาคกันน้อยมาก อาจจะเป็นเพราะหลายๆคนมีความเชื่อที่ว่าถ้าเราบริจาคอวัยวะ ชาติหน้าเราจะเกิดมาพิการ และหลายๆคนอาจจะกลัวว่าถ้าบริจาคอวัยวะแล้วจะมีคนมาเอาอวัยวะของเราไปเมื่อไหร่ก็ได้ จึงทำให้มีคนบริจาคกันน้อยมากๆ คนที่บริจาคส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นบุคลากรทางการแพทย์ นักศึกษาแพทย์-พยาบาล ที่เข้าใจถึงความจำเป็นของการบริจาคอวัยวะ
แต่จะไปโทษคนที่ไม่บริจาคก็ไม่ได้ซะทีเดียว เพราะตอนนั้นคนส่วนใหญ่ไม่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการบริจาคอวัยวะ คนส่วนใหญ่จึงไม่ค่อยเห็นความสำคัญและประโยชน์ของการบริจาคอวัยวะ
ทุกวันนี้มีการให้ความรู้เกี่ยวกับการบริจาคอวัยวะกันมากขึ้น แต่ก็ยังมีคนบริจาคอวัยวะกันน้อยอยู่ดี 😢 ความเชื่อคงเป็นอะไรที่มันไม่ได้เปลี่ยนกันง่ายๆ
ตอนนั้นที่จขกท.บริจาคอวัยวะ จขกท.ต้องพูดเกลี้ยกล่อมกับพ่อแม่อยู่นานหลายเดือนเลย พ่อกับแม่ไม่อยากให้บริจาคอวัยวะ เพราะพ่อแม่ยังมีเชื่อแบบเดิมๆอยู่ และคงเป็นห่วงลูกมาก สุดท้ายคงรำคาญและเบื่อที่จะทะเลาะกับจขกท. เลยอนุญาตให้บริจาคอวัยวะได้ 😅
ตั้งแต่จขกท.บริจาคอวัยวะ ก็ได้ชวนเพื่อน พี่น้อง คนรอบตัวไปบริจาคอวัยวะ แต่ก็ไม่มีใครบริจาคเลยอ่ะ คงเพราะส่วนใหญ่ยังกลัว ยังมีความเชื่อที่ผิดๆ 😭😭😭😭😭
จขกท.บริจาคอวัยวะไปนานแล้ว แต่ก็เพิ่งจะได้มีโอกาสมาเขียนกระทู้ คงเพราะสถานการณ์ตอนนี้ที่สุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ จขกท.เลยอยากเอาเรื่องราวดีๆมาแบ่งปัน เผื่อใครผ่านเข้ามาอ่านกระทู้แล้วสนใจจะบริจาคอวัยวะบ้าง ถึงจะเป็นแค่คนเดียวก็ยังดี
การบริจาคอวัยวะไม่ได้เป็นเรื่องที่หน้ากลัวเหมือนอย่างที่ใครหลายๆคนเข้าใจ กว่าที่ผู้บริจาคจะบริจาคอวัยวะได้จริงๆ ก็ต่อเมื่อเราหมดลมหายใจไปแล้ว อย่างน้อยๆ ตอนที่เราตายไป อวัยวะของเราก็ยังมีประโยชน์ ยังช่วยต่อชีวิตต่อลมหายใจของคนอื่นได้อีกหลายชีวิต
สำหรับคนที่สนใจจะบริจาคอวัยวะ สามารถเข้าไปบริจาคได้ที่สภากาชาดไทย หน่วยงานของสภากาชาดไทยทั่วประเทศ หรือเข้าไปบริจาคออนไลน์ที่เว็บไซต์ของสภากาชาดไทยได้เลยค่ะ สะดวก รวดเร็ว ไม่ยุ่งยาก และไม่เสียค่าใช้จ่าย
"มาบริจาคอวัยวะกันเยอะๆๆๆๆนะคะ😘 "
ชวนกันทำความดีด้วยการบริจาคอวัยวะ