[CR] รีวิวจัดอันดับน้ำยาล้างจาน 5 ยี่ห้อ ที่ใช้ดี แถมไม่กัดมือ

ไหนใครเป็นคนแพ้ง่ายยกมือขึ้น ว่าแล้วก็ขอบ่นหน่อย วิถีชีวิตคนแพ้ง่ายนี่ลำบากจริงๆนะคะ เอะอะอะไรก็แพ้ไปหมด จริงๆชีวิตเรามีปัญหามาตั้งแต่หน้าแล้ว เพราะเป็นคนหน้าแพ้ง่าย ใช้ครีมอะไรทั่วไปไม่ได้ ต้องเป็นครีมที่เหมาะกับคนแพ้ง่ายจริงๆ เท่านั้น ซึ่งก็หาที่ถูกกับหน้าได้ยากมาก แถมราคาก็แพงเหลือหลาย แต่ก็ต้องกัดฟันซื้อ ไม่งั้นหน้าไม่เด้ง 555

แต่นอกจากเรื่องหน้ากับครีมแล้ว เราก็เจอกับอีกปัญหาหนึ่ง หลังจากที่แต่งงานย้ายมาอยู่คอนโดเดียวกันกับคุณฝาละมี ทำหน้าที่เป็นศรีภรรยาแม่บ้านเต็มตัว ซักผ้ากวาดพื้นทำอาหารล้างจานอะไรก็ว่าไป แต่ประเด็นมันอยู่ตรงการล้างจานนี่แหละ  เพราะล้างจานทีไรมือชั้นแหกทุกทีเลยค่ะ พังแบบมือแห้งเล็บลอกเลย ทรมานมาก สรุปไปสรุปมาได้ว่าแพ้น้ำยาล้างจานค่ะ ตอนแรกก็คิดว่าแพ้ยี่ห้อเดียว แต่เปลี่ยนไปยี่ห้ออื่นก้ยังแพ้ เลยสรุปได้ว่าน่าจะแพ้น้ำยาล้างจานทั่วไปทุกยี่ห้อเลย เซ็งมาก แต่จะไม่ล้างจานก็ไม่ได้เพราะคุณฝาเขาไม่ล้างหรอก ช่วงแรกเลยแก้ปัญหาด้วยการใส่ถุงมือล้างจานเลยค่ะ หลีกเลี่ยงการแตะต้องน้ำยาล้างจานไปเลย แต่ว่าพอใส่ถุงมือล้างจานแล้วมันไม่ถนัดเลยค่ะ จับจานแล้วก็รู้สึกเหมือนจะหลุดมือ เกือบทำจานแตกไปหลายรอบล่ะ บอกเลยว่าจะไม่ทนแล้ว!!! เลยตัดสินใจว่าเปลี่ยนมาหาน้ำยาล้างจานแบบที่อ่อนโยนใช้แล้วไม่แพ้เหมาะกับคนแพ้ง่ายๆ อย่างเราแบบนี้ดีกว่า แต่ว่ามันจะมีน้ำยาล้างจานแบบนั้นจริงๆ เหรอ? เปิดเน็ตศึกษาข้อมูลเลยค่ะ เพื่อตามหาน้ำยาล้างจานที่ใช้ แต่กว่าจะเลือกสรรอะไรที่ไม่แพ้มาให้ตัวเองใช้ได้ ก็เลือกจนตาลายเพราะหายากหาเย็นจริงๆ ชีวิตคนแพ้ง่ายไม่อีซี่เลยจริงๆพี่จ๋า

แต่ปจบ.นี้เราก็ได้เจอกับน้ำยาล้างจานที่ตัวเองใช้แล้วไม่แพ้ละนะ ล้างได้แบบชิลๆไม่กลัวมือแหก ก็เลยอยากจะมารีวิวน้ำยาล้างจานที่ตัวเองใช้อยู่หน่อย เผื่อจะเป็นประโยชน์ให้กับทุกคนที่ขี้แพ้เหมือนกัน จะได้ไม่ต้องมามือแหกเหมือนชั้น

          ตัวแรกคือ “Seventh Generation Dish Liquid Clementine Zest & Lemongrass” เราเลือกซื้อขวดนี้มาด้วยเหตุผลหลักๆคือเขาระบุส่วนผสมทุกอย่างชัดเจนมาก อย่างปกติพวกน้ำยาทั่วไปเขาจะบอกส่วนผสมคร่าวๆ นิดๆหน่อยๆ แต่ของ Seventh Generation เนี่ยบอกแบบไม่มีกั๊กว่ามีอะไรผสมบ้าง คนที่แพ้ง่ายอย่างเราก็สามารถเช็คส่วนผสมได้ง่ายมาก ซึ่งจากที่เราเช็คมาน้ำยาล้างจานขวดนี้คลีนมากจริงๆผลิตจากพืชถึง97% ไม่มีน้ำหอมและสีสังเคราะห์ กลิ่นเขาจะเป็นกลิ่นน้ำมันหอมระเหยจากธรรมชาติเลย จะหอมแบบอ่อนๆ ไม่ฉุน เรียกว่าเป็นน้ำยาล้างจานสายเขียวก็ว่าได้

          ●  น้ำยาล้างจานเป็นเจล ใสไม่มีสี มีกลิ่นอ่อนๆของส้ม 
          ●  ขยี้แล้วมีฟอง(หลังขวดบอกว่าเป็นสารที่ทำให้เกิดฟองที่ผลิตจากธรรมชาติ)
          ●  ขวดเป็นขวดใหญ่ทรงแบนๆ และฝาเป็นแบบเปิดปิดธรรมดาค่ะ เปิดยากนิดนึง แต่ก็จับถนัดมือนะ

          การใช้งาน - ด้วยความที่ไม่มีสารเคมีแรงๆเลย ดูผิวเผินดูเหมือนจะดูอ่อนๆ ไม่น่าจะล้างเกลี้ยง แต่ใช้แล้วก็ล้างสะอาดดีเลยค่ะ ฟองละเอียด เหมือนน้ำยาล้างจานปกติทั่วไปเลย แต่ดีกว่าที่ใช้แล้วมือไม่แพ้ไม่ลอกค่ะ
          ส่วนที่ไม่ชอบ - ขวดเป็นฝาเปิดปิดธรรมดา ไม่ใช่หัวปั้ม คือรู้สึกว่าขวดปั้มมันมันใช้ง่ายกว่า พอเป็นฝาเปิดปิดแล้วเวลาเทกะปริมาณไม่ค่อยถูก 
          ราคา 109 บาท หาซื้อง่ายมากเพราะมีขายตามห้างทั่วไปเลย ขวดนี้เราซื้อมาจากท็อปส์ซูเปอร์มาร์เก็ตค่ะ

          ตัวที่สอง “Pril Dish Wash Sensitive” น้ำยาล้างจานตัวดังที่ขึ้นชื่อมากๆเรื่องทำความสะอาดคราบมันได้อย่างหมดจด จนถึงกับเคลมมาเลยว่าใช้แค่หยดเดียวก็ล้างจานได้เกลี้ยงแล้ว ซึ่งเราเคยใช้สูตรปกติของเขาแล้วชอบมากๆ แต่เพราะว่าดันแพ้มือแหก เลยต้องย้ายมาซื้อเป็นสูตรSensitiveแทน ซึ่งสูตรนี้อ่อนโยนต่อผิวมือของเราๆมาก เพราะเขามีส่วนผสมของวิตามินอีและว่านหางจระเข้ที่ทำให้มือชุ่มชื้นไม่แห้ง แล้วยังเป็น pH hautneutral อีกด้วย ตรงนี้เราก็ไม่รู้หรอกว่าทำไม แต่ถ้าเข้าใจไม่ผิด คิดว่ามันไม่ทำลายสมดุลผิวนะ อ่านๆดูสรรพคุณแล้วนึกว่าเป็นเจลล้างมือมากกว่าน้ำยาล้างจานอีก

          ●  น้ำยาล้างจานเป็นเจลสีขาวขุ่นๆเหลวๆ กลิ่นว่านหางจระเข้มากๆ ละมุนจมูก 
          ●  ขยี้แล้วมีฟองเยอะมาก มีสารสร้างฟองนะคะ แต่เราไม่แพ้ค่ะ ใช้ได้ปกติ 
          ●  ขวดเป็นทรงโค้ง สีใสเห็นเนื้อข้างใน ฝาเป็นแบบฝาจุกพลาสติก บีบใช้ง่าย

          การใช้งาน - อ่อนโยนต่อมือมากจริงๆ ล้างแล้วรู้สึกว่ามือชุ่มชื้นขึ้นมาก มือไม่ลอกเลย เหมือนมันบำรุงจริงๆแหละ 555  เรื่องทำความสะอาดก็ทำได้ดีในระดับหนึ่ง แต่รู้สึกว่าคราบหนักๆล้างไม่ค่อยออกเท่าไร ต้องบีบมาเยอะหน่อยถึงจะล้างได้ 
          ส่วนที่ไม่ชอบ - พอมาเป็นสูตรSensitiveแล้วรู้สึกว่ามันทำความสะอาดได้ไม่ดีเท่ากับสูตรปกติ ล้างไม่เกลี้ยงเท่าไร ดีอยู่อย่างคือช่วยทำให้มือชุ่มชื้น นี่แอบคิดนะว่าเขาน่าจะทำเจลล้างมือขายน่าจะเริ่ดเลย
          ราคา 235 บาท ราคาแรงอยู่นะ รู้สึกว่าจะมีขายแค่ที่ท็อปส์ซูเปอร์มาร์เก็ตที่เดียวค่ะ ที่อื่นไม่มี หายากมาก บางสาขาก็ไม่เห็นมี 

          ตัวที่สาม “Pipper Standard Dish Washing Liquid Natural Citrus” เราซื้อมาเพราะเขาขึ้นชื่อเรื่องความคลีนค่ะ อารมณ์ว่าเป็นแนวแบบใช้ได้ทั้งครอบครัว ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ใช้ได้หมด และอีกอย่างคือมันเป็นหัวปั้ม ซึ่งเราชอบใช้แบบหัวปั้มอยู่แล้วเพราะมันสะดวกดี ตัวนี้เขาบอกว่าไม่มีสารที่ทำให้เกิดภูมิแพ้ ผ่านการทดสอบการระคายเคืองมาเรียบร้อย เคลมมาเลยว่าช่วยถนอมมือ ล้างจานแล้วไม่ทำให้มือแห้งแน่นอน แล้วมีจุดเด่นอีกอย่างตรงที่ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ มีเอนไซม์จากสัปปะรดช่วยขจัดคราบมันความสกปรกต่างๆ ค่ะ สายเขียวเหมือนกันแหละว่าง่ายๆ

          ●  น้ำยาล้างจานเป็นเจลเหลวใสแจ๋ว กลิ่นเขาจะเป็นกลิ่นซิตรัสค่ะ ออกแนวเปรี้ยวๆหมักๆบอกไม่ถูก 
          ●  ขยี้กับน้ำแล้วมีฟองเยอะ
          ●  ขวดเป็นทรงสี่เหลี่ยมที่ใหญ่มากๆ พลาสสติกสีเขียวหนาๆ แล้วหัวฝาเป็นหัวปั้มที่กดใช้ได้เลย ไม่เลอะเทอะ

          การใช้งาน - ด้วยความที่ฟองเยอะ เลยทำความสะอาดดีเลย ล้างพวกคราบต่างๆออกได้เกลี้ยง ใช้แล้วมือไม่ลอกค่ะ เราไม่แพ้ แต่เรารู้สึกว่ามือมันตึงๆหน่อย ไม่ชุ่มชื้นเลย เหมือนพึ่งล้างมือกับสบู่ก้อนมา
          ส่วนที่ไม่ชอบ - ก็ตามที่บอกไปเลย ล้างแล้วรู้สึกว่ามือมันตึงๆไปหน่อย และกลิ่นที่ค่อนข้างแปลกสำหรับเรา มันไม่ได้หอมแต่ก็ไม่เหม็น
          ราคา 215 บาท ราคาแรงเหมือนกัน แต่ขวดใหญ่นะ ขวดนี้มีขายแค่ที่ท็อปส์ซูเปอร์มาร์เก็ตกับวัตสันค่ะ ที่อื่นไม่เจอ ใครรู้แหล่งบอกด้วย 

          ตัวที่สี่ “Organic Choice Dishwashing Liquid” จริงๆเป็นขวดแรกๆที่นี่ซื้อมาใช้เลยช่วงที่รู้ว่าตัวเองแพ้น้ำยาล้างจาน เพราะขวดนี้เป็นน้ำยาล้างจานออร์แกนิคตามชื่อเลย สายเขียวอีกแล้ว อะไรที่ออร์แกนิคนี่ก็ว่าดีหมด 555 ขวดนี้การันตีว่าไม่กัดมือ ไม่ทำให้มือแห้งคันหรือแพ้ และไม่มี SLS SLES ค่ะ ส่วนผสมก็ใช้ผักผลไม้จากธรรมชาติเลย ล้างแล้วไม่มีสารตกค้าง คลีนสุดๆ

          ●  น้ำยาล้างจานเป็นเจลไม่มีสี เหลวๆ กลิ่นจะเป็นกลิ่นก่ำกึ่งระหว่างตระไคร้กับชาเขียวตามสูตรเขาเลย
          ●  มีฟองกลางๆไม่มาก
          ●  ขวดทรงใหญ่ สีเขียวเข้ม ฝาเป็นแบบฝาจุกไว้ให้บีบน้ำยาล้างจานออกมา

          การใช้งาน - ลื่นมาก แบบลื่นจริงๆ ชุ่มชื้นแบบไม่กลัวมือลอก เกือบชอบล่ะถ้าไม่ติดว่าล้างไม่สะอาดเลยค่ะ 555 คือถ้าคราบเล็กๆน้อยๆล้างได้ แต่มากกว่านั้นจะไม่ค่อยเกลี้ยง ต้องถูหลายรอบ ฟีลแบบอ่อนโยนมากๆเลยล้างไม่เกลี้ยง
          ส่วนที่ไม่ชอบ - ที่ไม่ชอบคือล้างจานไม่ค่อยสะอาด แต่นอกนั้นก็ดีนะ ชอบมาก ออร์แกนิคขวดสวยให้น้ำยาเยอะ ติดแค่ตรงนี้จริงๆ
          ราคา 255 บาท หายากกกมากกกก เราไปเจอที่พารากอนที่เดียวอ่ะ ไม่รู้ที่อื่นมีไหม

          ตัวที่ห้า “CoCoClean” ขวดนี้คนรีวิวเยอะมากว่าเป็นน้ำยาล้างจานถนอมมือ อ่อนโยนไม่ทำให้ระคายเคืองมือ นี่ก็เลยซื้อมาเลย ขวดนี้เป็นน้ำยาล้างจานที่มีสารสกัดของมะพร้าว แต่กลิ่นเป็นกลิ่นเลม่อน งงม่ะ 555 ไม่มีสารเคมีแรงๆที่ทำให้ระคายเคือง ขจัดคราบมันโดยไม่มีสารตกค้าง ล้างได้ทั้งจานทั่วไปยันขวดนมเด็ก และมีส่วนผสมของกลีเซอรีนที่เป็นเหมือนมอยเจอร์ไรเซอร์ให้ความชุ่มชื้นกับมือด้วย แถมเขายังบอกด้วยว่าใช้น้ำยาล้างจานแทนสบู่ล้างมือยังได้เลย เออเริ่ดนะ

          ●  น้ำยาล้างจานเป็นเนื้อเจลเหลวไร้สี กลิ่นเป็นกลิ่นมะนาวชัดเจน 
          ●  โดนน้ำแล้วมีฟองเยอะมาก หนามาเลย
          ●  ขวดเป็นพลาสติกธรรมดาที่หุ้มทับด้วยตัวยี่ห้ออีกที เป็นหัวปั้มกดใช้ง่าย

          การใช้งาน - คล้ายๆOrganic Choice ตรงที่ลื่นมากเหมือนกัน ลื่นปรี๊ดๆ ส่วนในเรื่องการทำความสะอาดนี่ผ่านนะ ล้างจานได้สะอาด พวกคราบอะไรก็ไปหมด มือไม่ลอก แต่รู้สึกว่ามันมีความลื่นตกค้างติดมือ แบบที่ล้างมือกับน้ำแล้วก็ยังรู้สึกลื่นอยู่
          ส่วนที่ไม่ชอบ - ความลื่นๆของเขาค่ะ 555 มันเหมือนเราใช้เจลล้างหน้าที่ล้างออกแล้วมันจะยังรู้สึกลื่นๆอยู่ แล้วเราจะรู้สึกว่ามันล้างไม่เกลี้ยงนะสิ ถึงแม้ว่าจะล้างน้ำไปหลายรอบก็ตามที
          ราคา 110 บาท ขวดนี้น่าจะมีแค่ในออนไลน์นะคะ เราสั่งมาจากช็อปปี้

ในแง่ที่ว่าใช้แล้วไม่แพ้แน่ๆ มือไม่ลอก ส่วนตัวเราค่อนข้างพอใจกับน้ำยาล้างจานทุกขวดนะ บางยี่ห้อก็ยังทำให้มือนุ่มชุ่มชื้นขึ้นด้วย แต่ถ้าถามว่าชอบขวดไหนมากที่สุดก็คงเป็น Seventh Generation เพราะเป็นยี่ห้อที่บอกส่วนผสมของตัวเองชัดเจนหมด เช็คดูรายละเอียดได้หมด รู้สึกว่าเขาซื่อสัตย์กับผู้บริโภคดี แล้วอีกอย่างล้างสะอาดด้วย เพราะน้ำยาล้างจานอ่อนโยนส่วนใหญ่จะมีปัญหาคล้ายกันคือล้างไม่ค่อยสะอาด 555 ส่วน Pril Dish มาเป็นอันดับสอง เพราะนอกจากการล้างจานแล้ว ยังมีส่วนผสมบำรุงมือไม่ให้แห้งตึงอีกด้วย และ Pipper กับ Organic Choice ให้เท่าๆ กัน เพราะรู้สึกว่าคุณภาพโดยรวมเท่ากัน แต่ลำเอียงไปทาง Organic Choice มากกว่านิดหนึ่งเพราะมือชุ่มชื้นกว่า และท้ายสุดคือ CoCo Clean ซึ่งจริงๆเขาก็ดีนะคะ แต่เราแค่ไม่ชอบสัมผัสลื่นๆ ของเขาเฉย ๆ 

จะเห็นว่าแต่ละยี่ห้อก็ยังมีข้อดีข้อเสียยิบย่อยต่างกันไปอีก ก็อยู่ที่ว่าตัวเราเองจะชอบแบบไหนมากที่สุด หวังว่ารีวิวของเราจะเป็นประโยชน์ชาวแพ้ง่ายทุกคนนะคะ เผื่อเก็บไว้เป็นแนวทางในการเลือกซื้อน้ำยาล้างจาน เราจะเอาตัวรอดจากการล้างจานไปด้วยกันนะ 555