หรือเป็นไปได้หรือไม่ ว่าจริงๆแล้ว
มนุษย์ก็เคยเจริญเท่านี้ หรือมากกว่านี้ หลายแสน หลายล้านปีก่อน
แต่มีภัยธรรมชาติ ทำลายไปจนหมด จนไม่เหลือหลักฐานความเจริญนั้นไว้ อาจจะกลับตาลปัตร แผ่นดินโลก ซากเหล่านั้นไปอยู่ก้นบึงมหาสมุทร ทำให้เราไม่เห็น หรือกลายเป็นฝุ่นไปแล้ว
ทำให้คนต้องมานับหนึ่งใหม่
แล้วคิดหรือไม่ว่าเทคโนโลยีที่พัฒนาตอนนี้ ใกล้ตัน พัฒนาไปมากกว่านี้ไมไ่ด้แล้ว
อะไรที่คิดว่าพัฒนาไปไกลกว่านี้ไม่ได้แล้ว หรืออะไรที่พัฒนาต่อไปได้เรื่อยๆ
เช่น การสำรวจอวกาศ อาจจะได้แค่นี้ เพราะยังไงก็ไม่มีพลังงาน หรือ เทคโนโลยีอะไรที่ทำให้เราเคลื่อนที่ ไปดาวดวงนู้น ดวงนี้ได้ในเวลาอันสั้น หรือเร็วเท่ากับแสง
หรือ ความเป็นอมตะของมนุษย์ จะทำได้หรือไม่
หรืออาจจะพัฒนาจนคนไม่ตายจากการแก่เลยก็ได้ (แต่อาจตายจากอุบัติเหตุ หรือ โดนฆ่า)
อาจจะทำให้การโคลนนิ่งถูกกฏหมายเลี้ยงไว้จนโต อยู่ในตู้ พอถึงเวลา ก็เปลี่ยนสมองเอาของตัวจริงไปใส่ร่างใหม่ (หากตอนนั้นเทคโนโลยีผ่าตัดเปลี่ยนสมองทำได้แล้ว) หรือ อาจจะตัดแต่งพันธุกรรม ไม่ให้เซลส์เสื่อม จนคนคงสภาพเดิมไว้ ...
คุณคิดว่า เป็นเรื่องบังเอิญ โชคชะตาดี หรือว่าอะไร ที่เราเกิดมาทันในยุคที่เทคโนโลยีได้พัฒนาแบบก้าวกระโดด
มนุษย์ก็เคยเจริญเท่านี้ หรือมากกว่านี้ หลายแสน หลายล้านปีก่อน
แต่มีภัยธรรมชาติ ทำลายไปจนหมด จนไม่เหลือหลักฐานความเจริญนั้นไว้ อาจจะกลับตาลปัตร แผ่นดินโลก ซากเหล่านั้นไปอยู่ก้นบึงมหาสมุทร ทำให้เราไม่เห็น หรือกลายเป็นฝุ่นไปแล้ว
ทำให้คนต้องมานับหนึ่งใหม่
แล้วคิดหรือไม่ว่าเทคโนโลยีที่พัฒนาตอนนี้ ใกล้ตัน พัฒนาไปมากกว่านี้ไมไ่ด้แล้ว
อะไรที่คิดว่าพัฒนาไปไกลกว่านี้ไม่ได้แล้ว หรืออะไรที่พัฒนาต่อไปได้เรื่อยๆ
เช่น การสำรวจอวกาศ อาจจะได้แค่นี้ เพราะยังไงก็ไม่มีพลังงาน หรือ เทคโนโลยีอะไรที่ทำให้เราเคลื่อนที่ ไปดาวดวงนู้น ดวงนี้ได้ในเวลาอันสั้น หรือเร็วเท่ากับแสง
หรือ ความเป็นอมตะของมนุษย์ จะทำได้หรือไม่
หรืออาจจะพัฒนาจนคนไม่ตายจากการแก่เลยก็ได้ (แต่อาจตายจากอุบัติเหตุ หรือ โดนฆ่า)
อาจจะทำให้การโคลนนิ่งถูกกฏหมายเลี้ยงไว้จนโต อยู่ในตู้ พอถึงเวลา ก็เปลี่ยนสมองเอาของตัวจริงไปใส่ร่างใหม่ (หากตอนนั้นเทคโนโลยีผ่าตัดเปลี่ยนสมองทำได้แล้ว) หรือ อาจจะตัดแต่งพันธุกรรม ไม่ให้เซลส์เสื่อม จนคนคงสภาพเดิมไว้ ...