กายธรรม (จิต)

กายมี ๓ ชั้น 
คติธรรมทางพระพุทธศาสนากล่าวไว้ว่า 
ในอัตภาพร่างกายของคนและสัตว์ที่เกิดขึ้นในโลกนี้ มีกายซ้อนกันอยู่ ๓ ชั้น 
คือ กายธรรม(จิต) ๑, กายทิพย์(นามกาย) ๑, กายเนื้อ(รูปกาย) ๑

กายธรรม (จิต) ๑
เป็นกายชั้นในสุดของมนุษย์และสัตว์ทั้งหลายที่มีอยู่เป็นอยู่ 
และดำรงไว้ซึ่ง ความรู้ ของตนเองตลอดทุกกาลสมัย 
โดยมิได้เกิดจากเหตุปัจจัยทำให้มีให้เป็นเลย แลเห็นด้วยตาเนื้อไม่ได้
ความรู้ของคน ก็รู้อย่างคน,
ความรู้ของสัตว์ ก็รู้อย่างสัตว์,
 ความรู้ของพระพรหม ก็รู้อย่างพระพรหม 
ต่างกันเป็นพวกๆ ไป
มีปรากฏในอัคคัญสูตรว่า
 “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คำว่า
 กายธรรมก็ดี,กายพรหมก็ดี ล้วนแล้วแต่เป็นชื่อของตถาคตทั้งสิ้น”
 ไม่เคยเกิดไม่เคยดับตายหายสูญไปไหนเลย

กายธรรม นี้เมื่อได้เข้ามาอยู่ในโลก คือ
 เป็นคนหรือเป็นสัตว์ก็ดี ก็เป็นประธานของสังขารธรรมทั้งหลาย
 และมีคุณภาพปราดเปรียวว่องไวในการเคลื่อนตัวไปรับรู้อารมณ์ได้อย่างรวดเร็วที่สุด
 ไม่มีวัตถุทึบอย่างใดขวางกั้นไว้ได้เลย
 และอยู่เหนือการเกิดการตายของสังขารธรรมอย่างสิ้นเชิง นั่นก็คือ กายธรรมเป็นอมตธรรม.

กายทิพย์ ๑
กายทิพย์ หรือ นามกาย หรือ นามรูป หรือ ทิพยกาย หรือ โอปปาติกะ หรือ อทิสสมานกาย

 มองไม่เห็นด้วยตาเนื้อ เป็นกายละเอียดที่ห่อหุ้มกายธรรมไว้

กายทิพย์ เป็นกายที่เกิดจากจิตยึดถือความนึกคิดถึงอารมณ์ไว้ ดังนั้น 
จึงสามารถเคลื่อนไหวออกจากความรู้สึกนึกคิดเรื่องหนึ่งไปยังอีกเรื่องหนึ่ง
 ได้อย่างปราดเปรียวเหมือนกายธรรม และเปลี่ยนคุณภาพเป็นผ่องใสบ้าง,
เศร้าหมองบ้างตามความคิดปรุงแต่งให้เป็นไป 
ไม่ได้ดับตายหายสูญไปไหน ตลอดเวลาที่เวียนว่ายอยู่ในสังสารจักร

แต่ถ้าปฏิบัติมรรคมีองค์ ๘ จนแยกเรื่องที่นึกคิดออกไปได้อย่างสิ้นเชิง
 จนบรรลุอรหัตตผลแล้ว กายทิพย์จึงแตกตายสนิท ดังนั้น
 เมื่อรูปกายเนื้อแตกตาย ก็จะไม่มีกายทิพย์ จุติ-ปฏิสนธิ ต่อไปอีกเลย.

กายเนื้อ ๑
กายเนื้อ หรือ รูปกาย เป็นกายหยาบ ประกอบด้วยธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ 
เกิดจากบิดา-มารดา เติบโตด้วยข้าวสุก ขนมสด มีทวาร ๕
 แห่งสำหรับรับรู้อารมณ์ภายนอก คือ ทางตา หู จมูก ลิ้น และกายสัมผัส 
มีอายุยืนเพียงชาติเดียว สั้นบ้าง,ยาวบ้าง แต่ไม่เกิน ๑๐๐ ปีเป็นส่วนใหญ่ แล้วก็ตาย
กายเนื้อ สามารถแลเห็นได้ด้วยตา เป็นกายชั้นนอก ที่สุดของคนและสัตว์ทั้งหลาย.

สรุป :
ในอัตภาพร่างกายของทั้งมนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย
 มีจิตหรือกายธรรมเป็นประธาน 
ซ้อนอยู่ภายในกายทิพย์ และกายทิพย์ก็ซ้อนอยู่ภายในกายเนื้อ รวมเป็น ๓ ชั้นด้วยกัน
 กายทั้ง ๓ ชั้นนี้ มีความเป็นอยู่เกี่ยวเนื่องและเป็นเหตุเป็นผลซึ่งกันและกันตลอดเวลา.

หมายเหตุ :
คำว่า เกิด-ตาย หมายถึง การเกิดและการตายของรูปกายเนื้อเท่านั้น

คำว่า จุติ-ปฏิสนธิ หมายถึง
 การเคลื่อนออก และการหยั่งลงเกิดของกายทิพย์ 
ซึ่งเป็นการอุบัติขึ้นทางจิตโดยเฉพาะ กายทิพย์ไม่ได้เกิด-ตายตามกายเนื้อไปด้วย.
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่