โดนนายจ้างให้ออกจากงานไม่จ่ายเงินเดือนแถมฟ้องศาลเรียกค่าเสียหาย

นายจ้างฟ้องโดยข้อหา นำเสนอรายการวัสดุในการทำงานผิดเพี้ยน(เกิดจากการหากระเบื้องมาเทียบสีให้นายจ้างดูจากสาเหตุเพื่อหาราคาที่ต่ำกว่าให้บริษัท)ในการทำงานควานหาทุกอย่างมาให้ทางนายจ้างตัดสินใจ แล้วไม่มีอำนาจในการบังคับให้ทางนายจ้างเอากระเบื้องตัวที่เราเทียบหรือไม่สุดท้ายทางนายจ้างก็ตัดสินใจเองว่าเป็นกระเบื้องตัวใหน โครงการงานก็ดำเนินไปตามคำสั่งของนายจ้าง สุดท้าย ทางเจ้าของโครงการ ไม่เอาสิ่งที่นายจ้างเลือกทำให้นายจ้างหาวิธีการทำงานโดยการให้พนักงานคนอื่นไปจัดหากระเบื้องตัวใหม่มาเปลี่ยนโดยดิฉันไม่รับทราบหรือเกี่ยวข้องกับโครงการก่อสร้างนี่แล้ว (จริงๆก็ไม่ใช่หน้าที่ตั้งแต่แรกแล้ว ) ผ่านมาเกือบ6เดือน ในวันที่เค้าไม่ต้องการดิฉันแล้ว เค้าก้เอาเหตุนี้มาฟ้องร้องว่าดิฉันนำเสนอข้อมูลผิดพลาดทำให้บริษัทเสียหาย เป็นจำนวนเงินเกือบล้านบาท ในขณะที่ดิฉันเคลียร์งานให้หมดตามประสงค์ของนายจ้างทำตามกติกาทุกอย่าง วันรุ่งขึ้นหลังจากเคลียร์งานจบหมายศาลก็มาที่บ้าน ฟ้องร้องดิฉันตามที่กล่าวมา ในขณะที่ ประเทศกำลังเผชิญโควิท19 ดิฉันต้องตกงาน เงินเดือนไม่ได้รับ ไปประกันสังคมเค้าก็ไม่จ่ายเพราะนายจ้างแจ้งว่าไล่ออก เงินเยียวยา ไม่ได้รับ ในวันที่ไล่ดิฉันออก ดิฉันยังนั่งทำงานให้จนถึง4โมงเย็นแล้วทางhrจึงเรียกลงไปแจ้งเลิกจ้าง ให้เคลียร์งานให้จบภายใน7วัน จึงจะจ่ายเงินเดือนให้โดยรอ15-30วัน ให้เซ็นเอกสารรับทราบ เน้นว่ารับทราบการเลิกจ้าง ขณะนั้นดิฉัน ยอมรับว่า ตกใจ สับสน มึนงง ในสถานะที่กำลังเผชิญมาก แต่ก็ยอมรับในเมื่อเราหมดประโยชน์กับนายจ้าง ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะทำงานในบริษัทนี้ต่อไป แต่เรื่องกลับพีคเมื่อได้รับหมายศาลฟ้องร้องจากบริษัทอีก  จากเอกสารที่เซ็นรับทราบการลาออกกลายเป็นเอกสารยอมรับความผิดแนบมาในหมายศาล โดยพยานเป็นฝ่ายจัดซื้อของบริษัท
อยากปรึกษากับท่านผู้มีประสบการณ์ว่า ในกรณีแบบนี้ ดิฉันควรดำเนินการต่อไปอย่างไร เรียกร้องเงินดิฉันคงไม่มีให้ เพราะ ตอนนี้ไม่มีงานทำ ต้องมีค่าใช้จ่ายกับแม่และลูกอีก2คน อายุ65และ14 ที่พีคคือการ รับรู้การวางแผนของนายจ้างในวันที่ไปประกันสังคม คือ ชื่อของดิฉันออกจากประกันสังคมตั้งแต่29กพ.63 ซึ่งดิฉันสอบถามกับจนท.ประกันสังคมแล้วการแจ้งพนักงานออกจากประกันสังคมต้องแจ้งล่วงหน้า 15-30วัน นั่นหมายถึงทางบริษัทแจ้งออกตั้งแต่เดือนมกราคม63 ซึ่งในเดือนมกราคม63ต้นเดือนทางนายจ้างยังใช้ให้ดิฉันไปทำพาสปอร์ตเพื่อเดินทางไปดูวัสดุเทียบเคียงให้ที่เมืองจีนอยู่เลย
กลับมาทำงานให้เร่งงานให้ อีก ดิฉันต้องไปปรึกษาและขอทนายอาสาได้มั้ยคะกรณีแบบนี่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่