JJNY : 4in1 ติงไม่ควรจำกัดเวลาอภิปรายกู้เงิน/ณัฐชาลงพื้นที่บางขุนเทียน/เทพไทข้องใจทำง่ายให้ยาก/บินไทยอาจปลดพนง.หมื่นคน

เลขาฯเพื่อไทย ติงรัฐบาล ไม่ควรจำกัดเวลาฝ่ายค้านอภิปรายพ.ร.ก.กู้เงิน
https://www.matichon.co.th/politics/news_2194325
 

 
“เพื่อไทย” บอก อภิปราย 3 วันไม่พอ ย้ำ ไม่ควรจำกัดเวลาฝ่ายค้าน
 
เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวกรณีวิปรัฐบาลเสนอให้ใช้เวลาพิจารณา พ.ร.ก.กู้เงินทั้ง 3 ฉบับและพ่วง พ.ร.ก.ว่าด้วยการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ที่จะประชุมสภาฯ นัดแรกวันที่ 27 พฤษภาคม โดยเสนอให้ใช้เวลาเพียง 3 วันว่า พรรคพท.ไม่เห็นด้วยเนื่องจากเวลาน้อยเกินไป เหลือเวลาอภิปรายเพียงวันละ 10 ชม. เพราะรัฐบาลยังไม่ยกเลิกเคอร์ฟิว หากรัฐบาลแบ่งให้ฝ่ายค้านครึ่งหนึ่งก็จะมีเวลาเหลือแค่ 15 ชม. เวลาเพียงเท่านี้ฝ่ายค้านไม่สามารถทำหน้าที่ตรวจสอบและพิจารณาได้อย่างละเอียดรอบคอบแน่นอน ทั้งนี้ เราต้องอภิปราย พ.ร.ก.กู้เงิน 1.9 ล้านล้านบาท 3 ฉบับภายในเวลา 15 ชม. เท่ากับว่าใน 1 ชม.ต้องพิจารณาการใช้เงิน 126,000 ล้านบาท หรือ 1 นาทีต้องพิจารณาการใช้เงิน 2,100 ล้านบาท หรือ 1 วินาทีต้องพิจารณาการใช้เงิน 35 ล้านบาท ตามสามัญสำนึกของคนทั่วไปย่อมเห็นภาพได้อย่างชัดเจนว่าไม่มีทางเป็นไปได้ ดังนั้นการพิจารณาครั้งนี้จึงไม่สมควรกำหนดเวลาเพื่อบีบการตรวจสอบของฝ่ายค้าน แต่ควรเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านทำงานมากที่สุด เพราะข้อเสนอแนะต่างๆจะเป็นประโยชน์กับประชาชนและการทำงานของรัฐบาลเอง
 

 
“ณัฐชา”ลงพื้นที่บางขุนเทียนรับฟังปัญหาประชาชน
https://www.innnews.co.th/politics/news_679880/
 
นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ โฆษกพรรคก้าวไกล ลงพื้นที่ชุมชนชายทะเลบางขุนเทียน พบว่าขณะนี้พ่อค้าแม่ค้าอาหารทะเลสด รวมถึงชาวประมงประสบกับปัญหาไม่สามารถนำอาหารทะเลสดส่งร้านอาหารและจำหน่ายออกได้ ทั้งที่ธุรกิจอาหารทะเลคือรายได้หลักของชุมชนนี้ โดยชาวประมงเล่าว่าเนื่องจาก พ.ร.ก. ฉุกเฉินที่กำหนดเวลาการเดินทางหากขนส่งไม่ทันจะทำให้อาหารทะเลสดเน่าเสีย ขาดทุน ขาดรายได้ จึงต้องรอให้ลูกค้าเข้ามารับเอง เพราะไม่ต้องรับผิดชอบหากขนส่งไม่ทันตามเวลา และการขนส่งในแต่ละรอบไม่คุ้มทุน อาหารทะเลถึงมือลูกค้าไม่ทัน ไม่สดตามที่ต้องการ และนี่เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งในหลายๆอาชีพ ที่ประสบปัญหาจากการประกาศใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน
 
นายณัฐชา กล่าวว่า ทุกวันนี้ไม่มีเหตุผลอันควรใดที่จะต้องใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และการแก้ไขปัญหาต่อจากนี้ไปจะต้องไปสู่ทิศทางของการเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 และมาตรการของรัฐมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งหากปล่อยให้สถานการณ์ฉุกเฉินยืดยาวออกไปการฟื้นตัวกลับมาก็จะยากยิ่งขึ้นตามไปด้วย ถึงแม้จะมีการลดเวลาเคอร์ฟิวไป 1 ชั่วโมง และเปิดให้ห้างร้านบางประเภทกลับมาค้าขายได้มากขึ้น แต่ก็ยังมีกิจการอีกเป็นจำนวนมาก เช่น สถานบันเทิง สถานที่ออกกำลังกายบางประเภท สถานเสริมความงามบางประเภท ร้านนวดแผนไทยเป็นต้น ยังมีคนทำงานอีกนับล้านคนที่จะยังต้องขาดรายได้ต่อไป รวมถึงอีกนับล้านคนที่ยังต้องตามเรียกร้องสิทธิ์ได้รับการเยียวยาอย่างไม่รู้จุดจบ
 
ซึ่งสิ่งที่รัฐบาลทำได้ตอนนี้ คือการยุติสถานการณ์ฉุกเฉิน จึงต้องเกิดโดยเร็วที่สุด เพื่อนำบรรยากาศกลับสู่สภาวะปกติ และการฟื้นฟูสิ่งที่เสียหายมาสู่สังคมไทยอีกครั้ง แม้การระบาดระลอกใหม่อาจเกิดขึ้น แต่ด้วยศักยภาพของระบบสาธารณสุขไทยและการเตรียมความพร้อมมาเกือบ 2 เดือน ก็ย่อมสามารถรับมือต่อสถานการณ์ที่จะเข้ามาในอนาคตได้เช่นกัน
 
ทั้งนี้นายณัฐชากล่าวว่า ตนขอให้รัฐบาลทบทวนอีกครั้ง ถึงการยกเลิกการใช้อำนาจตาม พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ โดยต้องยกเลิกให้ได้ก่อนการเปิดประชุมรัฐสภาสมัยสามัญ เพราะจะต้องมีการพิจารณาร่าง พ.ร.ก.กู้เงิน 3 ฉบับ และร่าง พ.ร.บ.โอนงบประมาณรายจ่ายฯ ที่จะเป็นกฎหมายสำคัญในการเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งสมควรที่จะต้องได้รับการพิจารณาอย่างละเอียดที่สุด โดยไม่ถูกขัดจากการเคอร์ฟิวหรือมาตรการตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ใดๆทั้งสิ้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่