เปิดเส้นทางการเดินทางตลอด 11 วันที่เกาะใต้ของประเทศนิวซีแลนด์
วันที่ 1 : Christchurch - Springfield
เริ่มต้นทริปด้วยการที่กระเป๋าของเราและของผู้โดยสารบางกลุ่มติดอยู่ที่ซิดนีย์!! (เนื่องจากไฟต์เราต้องมาเปลี่ยนเครื่องที่ซิดนีย์) เอาละไงเนี่ย advanture กันตั้งแต่เริ่มเลย หลังจากรอเป็นชั่วโมงทางสายการบินก็ให้ traveling pack เล็กๆมา ประกอบไปด้วยชุดนอนผ้ายืด ไซส์ XL ฝรั่ง ชุดคิทอาบน้ำ โลชั่น และได้แจ้งว่าเดี๋ยวกระเป๋าจะถูกจัดส่งตามมาที่เมือง Hokitika (เป็นที่ที่เราจะไปในวันที่ 2 พอดี จึงให้ที่อยู่ไปเพื่อให้ส่งกระเป๋าเสื้อผ้าตามมา)
อะ ปัญหาแรกเคลียร์ไป ออกจากสนามบินอากาศอยู่ที่ 11 องศาพร้อมลมพัดมาเล็กน้อย ทำให้คนขี้หนาวอย่างเราฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าเสื้อที่มีติดตัวอยู่ตอนนี้ก็มีแค่เสื้อหนาว บางๆคลุมได้พอเก๋ๆ แล้ว.. คืนนี้จะนอนไงฟระ และพรุ่งนี้จะไหวไหมนะ
หลังจากรับรถเรียบร้อย การเดินทางในวันแรกก็ไม่ได้ไปไหนไกล แวะพักที่ Springfield ก่อนเป็นเมืองที่ไม่ไกลจากสนามบินมาก ที่พักที่นี่เราจองจาก booking ชื่อ “Springfield Motel&lodge” จองแบบเตียง 2 ชั้นและ shared bathroom แต่ด้วยความโชคดีที่ทั้งบ้านไม่มีคน ก็เลยสบายยย
ด้านหน้าที่พัก
ห้องพักแบบเตียง 2 ชั้น
นอนนิวซีแลนด์คืนแรกก็ประทับใจเลย ฟ้าเปิดมากๆ เห็น milky way ที่ชัดมากใหญ่มากกถือว่าเป็นวันแรกที่ปิดเกมส์อย่างสวยงาม แต่ความเศร้าคือไม่มีรูปเพราะพยายามให้มือถือถ่ายแล้ว ออกมามืดมาก (ความเศร้าของคนไม่เล่นกล้อง

)
วันที่ 2 : Springfield - Castle hill - Arthur's pass visitor centre - Pancake rock - Hokitika
- “The Famous Sheffield Pie Shop” เริ่มต้นวันด้วยการกิน พายเจ้านี้น่าจะมีคนรีวิวค่อนข้างเยอะแล้วเหมือนกัน อร่อยจริง เราสั่งพายเนื้อกับพายไก่มา
- "Castle hill" ที่นี่เป็นสถานที่ที่มีกลุ่มหินปูนรูปทรงแปลกๆ วางเรียงราย รวมทั้งยังเป็นสถานที่ที่เคยมีการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Narnia
เช้านั้นหนาวประมาณ 8-10 ไม่มีแดดทั้งวัน และลมแรงมาก ทางเราก็เลยจำเป็นต้องใส่เสื้อทุกตัวเท่าที่มี..... รวมทั้งชุดนอนย้วยไซต์ XL ที่เค้าให้มาด้วย
คือแค่เสื้อนอนนี่ก็ยาวคลุมเข่าละจร้าาาา เลยไม่ได้ถ่ายรูปมากมายเพราะสภาพไม่พร้อมจริงๆ
- "Arthur's pass visitor centre " จากตรงนี้จอดรถแล้วสามารถเดินไปที่ "Arthur's Pass Chapel"
- แวะที่ "Devils Punchbowl Waterfall" โดยขับรถไปจอดที่ลานจอดรถของน้ำตกซึ่งอยู่ห่างจากจุดแรกประมาณ 2 นาที และเดินเข้าไปที่ตัวน้ำตกประมาณ 45 นาที
ดูน้ำตกไปสักพัก ฝนเริ่มตกลงมา เลยเริ่มเดินกลับไปที่รถ จากนั้นก็ออกรถ และผ่านจุด "Otira Viaduct Lookout" ก็เลยขอแว๊บถ่ายรูปนิดนึงท่ามกลางหมอกที่หนามากจนมองแทบไม่เห็นอะไร ภาพก็เลยออกมาอารมณ์เทาๆหน่อย
- จากนั้นก็ขับขึ้นเหนือยาวไปที่ "Pancake rocks" ซึ่งเป็นผาที่ถูกลมกัดเซาะ จนเห็นเป็นชั้นที่ทับซ้อนกันของหิน ดูเหมือนแผ่นแพนเค้กมาเรียงๆกัน ทางไปก็จะไต่หน้าผาหน่อย ระทึกเป็นช่วงๆ แต่เค้ามีป้ายบอกทางและความเร็วจำกัดชัดเจนมาก ถ้าขับในเลนส์เราก็ไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งพอไปถึงแล้วฝนตกหนักขึ้นจ้ร้าาา และหนาวมาก บวกกับเราไม่มีร่ม และชุดไม่พร้อม ทำได้แค่เพียงรีบเดินเข้าไปถ่ายรูป ดื่มด่ำกับความอลังการท่ามกลางสายฝน แล้ววิ่งกลับมาที่รถ ยังแอบเสียดายเลย เพราะขับมาตั้งไกลและลักษณะผาสวยจริงๆ 😭
- จากนั้นเราก็ตีรถกลับลงมาจบที่ Hokitika โดยคืนนี้เราพักกันที่ “
Drifting Sands Beachfront Accommodation” เป็นบ้านริมทะเล แบบ shared bathroom แต่มีอาหารเช้าให้ด้วย (homemade Jams อร่อยมว๊ากก )พอเข้าที่พักไปเราก็เจอกับกระเป๋าเดินทางของเราตรงประตูทันที เฮ้ออ รอดแล้วตู
วันที่ 3 : Hokitika - Hokitika Gorge - Kiwi centre - Lake Matheson - Fox glacier
เช้าวันใหม่กับฟ้าที่ใสมาก เย้!! ก่อนออกเดินทางเราได้ออกมาเดินเล่นที่ Hokitika beach เป็น Black sand beach อยู่ด้านหน้าที่พักเลย
- "Hokitika Gorge" ที่นี่จะเป็นทางเดินรอบๆแม่น้ำที่เป็นสีเทอร์ควอยซ์
- จากนั้นเราบังเอิญผ่าน "West Coast Wildlife Centre" ที่ Franz josef เห็นว่ามีนกกีวี่อยู่ก็เลยตัดสินใจลองเข้าไปดู มาถึง Newzealand อย่างน้อยก็ต้องให้เห็นนกกีวี่สักหน่อยย
ต้องขอเกริ่นนิดนึงว่านกกีวี่เป็นสัตว์ประจำชาติของนิวซีแลนด์ เป็นนกที่บินไม่ได้และออกหากินเวลากลางคืน เพราะฉะนั้นตอนที่เราไปดูนกกีวี่ ก็เลยต้องดูในห้องที่ปิดไฟมืดเปิดแค่ไฟอินฟราเรดและห้ามใช้แฟลชถ่ายภาพ เลยอดเก็บภาพอีกแล้วจ้า แต่เราซื้อโมลเดลเสมือนจริงเก็บไว้เป็นที่ระลึก น่ารักดี
ถ้าใครมีเวลาละผ่านมาแถวๆนี้ก็ลองแวะกันดู มี Cafe เล็กๆด้านในไว้นั่งชิลได้ด้วย จัดhokey pokey ซะหน่อย แผล็บบๆ
- "Lake Matheson" เป็นทะเลสาบที่น้ำนิ่งมาก บางทีถึงขั้นสามารถสะท้อนภาพภูเขาได้เลย แต่ด้วยความหิว เราใจเย็นไม่พอที่จะรอให้น้ำนิ่งขนาดนั้น ภาพเลยได้ออกมาแบบนี้ 55 ธรรมชาติสุดๆ เดินชิวๆไปเลยจร้าาาาา
- สำหรับคืนนี้เราพักที่ “
Fox Glacier TOP 10 Holiday Park” ตอนแรกเราจองเป็นห้อง studio มีห้องนอนและห้องน้ำ แต่พอไปถึงเค้า upgrade ให้เป็น Cabin ที่มีห้องครัวด้วย คืนนี้เลยได้ทำอาหารกินสบายไปเลย ถูกและดีมีจริง (คงดวงดีด้วยแหละ ขอบคุณ Top10 มา ณ ที่นี้

)
ขอจบ Part 2 เพียงเท่านี้ เดี๋ยวจะมาบอกเล่าต่อนะคะ
ติดตามกันด้วยนะค้าาา ถือว่าเป็นการเที่ยวออนไลน์ไปในตัวเนอะ
[CR] รีวิวการตามล่าหาน้องอุ๋ง! 11 วันที่ New Zealand Part 2
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้