อายุ 35ค่ะ สร้างธุรกิจขึ้นมาเอง 4-5ปี ก็ถือว่าพอไปได้
งานเข้ามาพอสมควร ลูกค้ารู้จักเยอะ เราก็อยากทำให้ดีอยู่เรื่อยๆ
เราเป็นคนเอาจริง เอาจังกับงานมาก คนรอบตัวเราก็ดีมาก
เราสร้างมันมา ด้วยความทุ่มเท ตั้งใจ มาตลอด
เราอยากทำงานที่ดีที่สุดให้ลูกค้า (ดีของเราคือ 90% ขึ้นไป)
แต่งานที่ทำ บ่อยมากที่เจอปัญหา โดนโกงบ้าง 2-3ครั้ง แต่ละก็ใหญ่อยู่
เครียดสะสม ทั้งเรื่องพนักงาน2-3คนที่ทำไม่ดีกับเรา
เราอาจคาดหวังมากไปและการคัดกรองที่ไม่ดีพอของเราเอง
เราสู้คนเดียวมาหนัก หุ้นส่วนก็มีชื่อแค่ในนาม ธุรกิจของเรา100%
เราก็สร้างเนื้อสร้างตัวแบบไม่หวือหวามาก แต่อยากกิน อยากเที่ยว
อยากซื้อ ก็ไม่ได้ติดขัดอะไร
พอเราคาดหวังสูง ความล้มเหลวในจิตใจเราก็เริ่มมีมาก
ทั้งพนักงานโกง supplierโกง ทำให้โดนลูกค้าด่า มันทุกข์มากเหลือเกิน
ในความโชคร้ายที่คิดเป็น10%ในชีวิตนี้ มันสร้างความทุกข์
จนเราป่วยเป็นโรคซึมเศร้า เล่าไปก็ยาว พีคสุดคือเคยคิดฆ่าตัวตาย
บ้าจริง ทั้งที่เงินในบัญชีก็มี ดันเอาความทุกข์10%นี้ มาถาโถมในใจ
ถามว่ารู้มั้ย ว่าเราควรปล่อยวาง .. รู้..
ถามว่ารู้มั้ย ว่าไม่ควรไปโฟกัสแค่10%ของชีวิต
ทั้งที่มีเรื่องดีๆอีกมากมายรอบตัว. ...รู้...
ไม่ว่าจะ ธรรมะ ทำสมาธิ ตั้งจิต พยายามคิดดี ....ตอนนั้นมันก็เท่านั้น
ผ่านมาสองปีกว่า เราอยากหาย รักษา ทานยา มันดีขึ้น
(เรามีปมเรื่องเงิน คือเราอยากมีเงินเก็บตอนบั้นปลายชีวิตมากๆ
กลัวลำบาก เพราะไม่มีใครดูแล จึงอยากตั้งใจมาก จนผิดหวังมันก็เป็นแบบนี้)
เมื่อดีขึ้น จนหมอให้หยุดยารักษา แต่สิ่งนึงที่มันติดตัวเรามาตอนป่วย
เรียกมันว่า"ความกลัว"จะชัดกว่า เรากลัวที่จะรับสายลูกค้า
เรากลัวการต้องรับผิดชอบการทำงาน จากที่เคยตามงานลูกน้อง
ให้ส่งงานตรงเวลา กลับเป็นเราเสียเอง ที่หลบงาน ไม่อยากทำงาน
จากคนที่มีความรับผิดชอบสูงมากๆ กลายเป็นคน รับผิดชอบศูนย์
เงินทอง อยากซื้อ อยากใช้อะไร ไม่ไตร่ตรอง ไม่ขนขวาย
ให้ชีวิตพัฒนา ใช้ชีวิตไปวันวัน ยิ่งช่วงโควิด เหมือนได้โอกาส
พักตลอดเวลา ไม่วางแผนงานอนาคต ทั้งที่ตอนมีไฟ เราเคยคิดงานตลอดเวลา
หลับตายังฝันถึงงาน ตอนนี้ เราไม่รู้จะดำเนินชีวิตยังไง
เรารู้ว่าถ้าเราปล่อยมันแบบนี้ ปีสองปีนี้มันต้องพังพินาศ เราอยากได้เราคนเดิมกลับมา
คนที่แอคทีฟ คนที่สู้ยิบตามาทั้งชีวิต
ใครมีแนวทางอะไร หรือไอเดียแปลกๆอะไร ลองช่วยไอเดียมาทีนะคะ
โปรดแนะนำ ช่วยเราด้วย เราอยากหลุดพ้น
ส่วนใครที่คิดว่าคำพูดที่พิมพ์ อาจทิ่มแทงใจเรา
โปรดอย่าพิมพ์เลยค่ะ ขอบคุณ
หมด Passion ในการดำเนินชีวิต ขอแนะนำวิธีหลุดพ้น วิธี หรือทางออก
งานเข้ามาพอสมควร ลูกค้ารู้จักเยอะ เราก็อยากทำให้ดีอยู่เรื่อยๆ
เราเป็นคนเอาจริง เอาจังกับงานมาก คนรอบตัวเราก็ดีมาก
เราสร้างมันมา ด้วยความทุ่มเท ตั้งใจ มาตลอด
เราอยากทำงานที่ดีที่สุดให้ลูกค้า (ดีของเราคือ 90% ขึ้นไป)
แต่งานที่ทำ บ่อยมากที่เจอปัญหา โดนโกงบ้าง 2-3ครั้ง แต่ละก็ใหญ่อยู่
เครียดสะสม ทั้งเรื่องพนักงาน2-3คนที่ทำไม่ดีกับเรา
เราอาจคาดหวังมากไปและการคัดกรองที่ไม่ดีพอของเราเอง
เราสู้คนเดียวมาหนัก หุ้นส่วนก็มีชื่อแค่ในนาม ธุรกิจของเรา100%
เราก็สร้างเนื้อสร้างตัวแบบไม่หวือหวามาก แต่อยากกิน อยากเที่ยว
อยากซื้อ ก็ไม่ได้ติดขัดอะไร
พอเราคาดหวังสูง ความล้มเหลวในจิตใจเราก็เริ่มมีมาก
ทั้งพนักงานโกง supplierโกง ทำให้โดนลูกค้าด่า มันทุกข์มากเหลือเกิน
ในความโชคร้ายที่คิดเป็น10%ในชีวิตนี้ มันสร้างความทุกข์
จนเราป่วยเป็นโรคซึมเศร้า เล่าไปก็ยาว พีคสุดคือเคยคิดฆ่าตัวตาย
บ้าจริง ทั้งที่เงินในบัญชีก็มี ดันเอาความทุกข์10%นี้ มาถาโถมในใจ
ถามว่ารู้มั้ย ว่าเราควรปล่อยวาง .. รู้..
ถามว่ารู้มั้ย ว่าไม่ควรไปโฟกัสแค่10%ของชีวิต
ทั้งที่มีเรื่องดีๆอีกมากมายรอบตัว. ...รู้...
ไม่ว่าจะ ธรรมะ ทำสมาธิ ตั้งจิต พยายามคิดดี ....ตอนนั้นมันก็เท่านั้น
ผ่านมาสองปีกว่า เราอยากหาย รักษา ทานยา มันดีขึ้น
(เรามีปมเรื่องเงิน คือเราอยากมีเงินเก็บตอนบั้นปลายชีวิตมากๆ
กลัวลำบาก เพราะไม่มีใครดูแล จึงอยากตั้งใจมาก จนผิดหวังมันก็เป็นแบบนี้)
เมื่อดีขึ้น จนหมอให้หยุดยารักษา แต่สิ่งนึงที่มันติดตัวเรามาตอนป่วย
เรียกมันว่า"ความกลัว"จะชัดกว่า เรากลัวที่จะรับสายลูกค้า
เรากลัวการต้องรับผิดชอบการทำงาน จากที่เคยตามงานลูกน้อง
ให้ส่งงานตรงเวลา กลับเป็นเราเสียเอง ที่หลบงาน ไม่อยากทำงาน
จากคนที่มีความรับผิดชอบสูงมากๆ กลายเป็นคน รับผิดชอบศูนย์
เงินทอง อยากซื้อ อยากใช้อะไร ไม่ไตร่ตรอง ไม่ขนขวาย
ให้ชีวิตพัฒนา ใช้ชีวิตไปวันวัน ยิ่งช่วงโควิด เหมือนได้โอกาส
พักตลอดเวลา ไม่วางแผนงานอนาคต ทั้งที่ตอนมีไฟ เราเคยคิดงานตลอดเวลา
หลับตายังฝันถึงงาน ตอนนี้ เราไม่รู้จะดำเนินชีวิตยังไง
เรารู้ว่าถ้าเราปล่อยมันแบบนี้ ปีสองปีนี้มันต้องพังพินาศ เราอยากได้เราคนเดิมกลับมา
คนที่แอคทีฟ คนที่สู้ยิบตามาทั้งชีวิต
ใครมีแนวทางอะไร หรือไอเดียแปลกๆอะไร ลองช่วยไอเดียมาทีนะคะ
โปรดแนะนำ ช่วยเราด้วย เราอยากหลุดพ้น
ส่วนใครที่คิดว่าคำพูดที่พิมพ์ อาจทิ่มแทงใจเรา
โปรดอย่าพิมพ์เลยค่ะ ขอบคุณ