ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เป็นดินแดนในฝันของใครหลายๆคน รวมทั้งตัวเราด้วยที่จดใส่ลิสประเทศ “ต้อง” ไปให้ได้สักครั้งในชีวิต ดินแดนสวิสที่ใครต่อใครพูดกันเสียงเดียวว่า เหมือนสวรรค์บนดินทั้งทีก็ต้องไปให้ได้ดื่มด่ำธรรมชาติของประเทศนี้แบบเต็มที่ไปเลย
ทริปนี้เราเดินทางไปตั้งแต่เดือนกันยายน 2019 เกือบจะครบรอบปี เราเลยขอหยิบความทรงจำมาเรียบเรียงไว้เป็นบันทึกการเดินทางที่เราเขียนยังไม่จบสักที กลับไปดูรูปอีกกี่ครั้ง ยังประทับใจในความเป็นธรรมชาติที่สมบูรณ์ไร้ที่ติของประเทศนี้ไม่หายเลย สวยขนาดไหน มาติดตามกันค่ะ
Period
Mid of September 2019
Itinerary
"SWISS DISCOVERY" EP03 Schilthorn - Gornergrat - Zermatt
"SWISS DISCOVERY" EP04 Matterhorn (5-SEENWEG) - Lausanne - Montrex - Geneva
Car Rental
การเดินทางในประเทศนี้ให้เลือกหลายหลากแบบ ครั้งนี้เราเลือกเช่ารถขับกันค่ะ เพราะเป็นทริปแบบครอบครัว และสะดวกกว่าในการขนย้ายกระเป๋า แต่มีข้อเสียคือเรื่องที่จอดรถ และบางเมืองไม่สามารถนำรถเข้าไปได้ อย่างเช่น Wengen ต้องจอดทิ้งข้ามคืนไว้ที่เมืองใกล้เคียง ค่าจอดรถก็แพงอยู่
Accommodation
ครั้งนี้เราใช้บริการที่พักทั้งแบบโรงแรม และ airbnb เหมือนเดิม
Day01 : Bangkok – Zurich
พวกเราเดินทางถึงเมือง Zurich ในตอนเช้าของวันแรก และเรามีเวลาเที่ยวที่เมืองนี้กัน 1 วันเต็มๆ ถ้ามีเวลาหนี่งวัน เราสามารถเที่ยวอะไรในเมืองซูริค – เมืองขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศสวิสเซอร์แลนด์แห่งนี้กันได้บ้าง เราลิสมาให้แล้ว
📍 Freitag Flagship Store
Opening time : Monday – Friday 10.30am – 7.00pm // Saturday 10.00am – 6.00pm // closed on Sunday
Link :
https://www.freitag.ch/en/store/freitag-flagship-store-zuerich
สถานที่ที่แรกที่เราจะแวะไปกันเหมาะกับคน “รักษ์โลก” มากๆเพราะเราจะไปเยี่ยมชม Freitag Flagship Store แบรนด์ดังสัญชาติสวิสเซอร์แลนด์กัน
Freitag เป็นแบรนด์กระเป๋าที่มีจุดยืนรักษ์โลก ผู้ก่อตั้งมีไอเดียที่จะนำวัสดุรีไซเคิลกลับมาใช้เป็น material ในการทำกระเป๋า ไม่ว่าจะเป็นผ้าใบจากรถบรรถุง ยาง หรือสายคาดนิรภัยในรถยนต์ก็ตาม ซึ่งขอบอกว่ากระเป๋าแต่ละใบจะมีเอกลักษณ์และลวดลายที่ไม่เหมือนกัน ชอบให้ดูเก่าๆเลอะๆหน่อยหรือจะใหม่ๆไร้รอยก็สามารถเลือกกันได้ เหมือนเป็นดั่งของชิ้นเดียวบนโลก แถมยังได้ช่วยกันร่วมรู้จัก recycle วัสดุด้วย
ถ้าเทียบราคากับเมืองไทยก็ถือว่าราคาถูกกว่า (แต่ไม่ได้ราคาถูกกว่าครึ่งๆนะ) ถูกกว่าในราคาที่พอจะจ่ายได้ และใครที่ชอบแบรนด์นี้อยู่แล้ว ก็ไปชอปกันได้
นอกจากจะมี store ให้เราได้เลือกชอปปิ้งซื้อสินค้ากันแล้ว ที่นี่ยังมีนิทรรศการที่จัดขึ้นด้วยบน Frietag Towerซึ่งสามารถเดินขึ้นไปรับชมวิวจากจุดบนสุดของหอคอยนี้ได้
วันที่เราไป Frietag เป็นวันเสาร์ ที่มีตลาดคล้ายๆ flea market อยู่ข้างร้านด้วย แวะไปเดินได้บรรยากาศสบายๆวันหยุดดี
📍
Mame coffee shop
Link :
https://www.facebook.com/mame.coffeeshop/
เดินเล่นมาสักพัก เราก็อยากขอแนะนำให้นั่งพักร้านกาแฟที่ดูสไตล์เอเชียอย่างญี่ปุ่นในประเทศยุโรปที่ Mame coffeshop ร้านนี้กันค่ะ
Mame coffeshop มีหนึ่งในเจ้าของเป็นคนญี่ปุ่นดีกรีบาริสต้าระดับแชมป์ทำให้ไม่แปลกใจเลยที่จะได้กลิ่นอายความเป็นเอเชียจากร้านนี้ และคำว่า MAME แปลว่า "beans" ในภาษาญี่ปุ่นด้วยละ
📍 Lindenhof
Link :
https://www.zuerich.com/en/visit/attractions/lindenhof
สวนสาธารณะที่ตั้งอยู่บนเนินเขา จุดพักผ่อนชมวิวของเมืองซูริคจากมุมสูงอีกจุดที่เราสามารถมองเห็นโค้งน้ำ Limmat และบ้านเมือง รวมทั้งโบสถ์สำคัญอย่าง Fraumunster และ Grossmunster ที่จะเป็นจุดหมายต่อไปของพวกเรา
จุดชมวิวนี้คุ้นๆกันไหม เป็นหนึ่งในฉากซีรีย์เกาหลีชื่อดังอย่าง Crash Landing on You ค่ะ
วิวของเมืองโดยรอบระหว่างเดินจากสวน lindenhof ไปยัง Grossmunster
📍
Grossmunster
Fee : 2 CHF
Opening time : Monday – Saturday 10.00am – 5.00pm or 6.00pm // Sunday เปิดให้เข้าชมหลังพิธีการ
Link :
https://www.grossmuenster.ch/de/
โบสถ์หอคอยคู่กรอมุนสเตอร์ สไตล์นีโอโกธิค ที่ตั้งอยู่ใกล้กับสะพาน münsterbrücke ภายในโบสถ์มีภาพเล่าเรื่องประวัติศาสตร์ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ด้วย
📍 Fraumunster
Opening time : 10.00am – 5.00pm or 6.00pm
Link :
https://www.zuerich.com/en/visit/attractions/fraumuenster
หากเดินข้ามสะพาน münsterbrücke มาอีกฝั่งเราก็จะเจอมหาวิหารเฟรามินสเตอร์ ที่เป็นหนึ่งในสี่โบสถ์สำคัญของเมืองซูริค โดยโบสถ์นี้อดีตเคยเป็นสำนักชีสำหรับกลุ่มสาวชนชั้นสูงจากเยอรมันอาศัยอยู่
วันนี้อากาศและแดดกำลังดี เราจะเห็นคนท้องถิ่นออกมานั่งคุยเล่นกันที่สวนสาธารณะข้างนอก รับลมเย็นๆ อากาศบริาสุทธิ์กันเยอะมาก
📍 Sprüngli
Link :
http://www.spruengli.ch/
มาประเทศสวิสเซอร์แลนด์ทั้งที ไม่พลาดที่จะลองชิมของดังขึ้นชื่ออย่าง “ชอคโกแลต” เจ้าดังที่ Sprüngli ที่มีอายุมากกว่าร้อยปีกันซักหน่อย
สาขานี้มีสองชั้นให้นั่งรับประทานขนมและอาหารในร้าน และมี shop สำหรับซื้อของฝากอยู่ข้างกันโดยเฉพาะ
📍 Zurich Opera House
Link :
https://www.opernhaus.ch/en/
ที่โรงละครแห่งนี้สามารถบรรจุผู้เขาชมได้ถึง 1,200 คน เอาไว้สำหรับจัดแสดงงานคอนเสริ์ต โอเปร่า หรือเทศกาลต่างๆ เราไม่ได้เข้าไปชมนะ รู้สึกวันนั้นจะมีงาน ได้แต่เดินผ่านโฉบๆอยู่ข้างนอก
📍 FIFA World Football Musuem
Fee: 24CHF
Link :
http://www.fifamuseum.com/
สำหรับเพื่อนๆคอฟุตบอลต้องไม่พลาดที่จะไปเยี่ยมเยียนพิพธภัณฑ์ FIFA แห่งนี้ ซึ่งรวมรวบประวัติต้นกำเนิดเรื่องราวของฟุตบอลไปจนถึงถ้วยรางวัล FIFA world cup ให้พวกเราได้ดูด้วย
หมดไปกับหนึ่งวันกิจกรรมเต็มๆกับเมือง Zurich เราเข้าพักกันที่โรงแรม Boutique Hotel NI-MO ย่านกลางเมือง ก่อนที่จะเดินทางไปอีกเมืองวันรุ่งขึ้นกัน สรุปรวมในหนึ่งวันเราก็เที่ยวเมืองซูริคได้เยอะอยู่ การเดินทางในเมืองนั้นเรามีใช้รถบ้างสำหรับสถานที่ไกลๆกัน อย่างไป Frietag และ FIFA World Football Musuem นอกนั้นเรียกว่าจอดรถทิ้งไว้ แล้วเดินเท้าเอาก็ถึงกันหมดเลยนะ อาจจะเดินเยอะหน่อย แต่ไม่เหนื่อยเลยเพราะอากาศกำลังดี เดินได้เพลินๆ
มาต่อ Day 02 :Zurich – Lucerne กันในคอมเม้นถัดไปนะคะ มีไฮไลท์ของเมือง Lucerne ที่เราตั้งตาคอยอยู่ด้วยหละ
[CR] [GoaroundwithYou] รีวิวทริป "SWISS DISCOVERY" EP01 Zurich - Lucerne
Period
Mid of September 2019
Itinerary
"SWISS DISCOVERY" EP04 Matterhorn (5-SEENWEG) - Lausanne - Montrex - Geneva
Car Rental
การเดินทางในประเทศนี้ให้เลือกหลายหลากแบบ ครั้งนี้เราเลือกเช่ารถขับกันค่ะ เพราะเป็นทริปแบบครอบครัว และสะดวกกว่าในการขนย้ายกระเป๋า แต่มีข้อเสียคือเรื่องที่จอดรถ และบางเมืองไม่สามารถนำรถเข้าไปได้ อย่างเช่น Wengen ต้องจอดทิ้งข้ามคืนไว้ที่เมืองใกล้เคียง ค่าจอดรถก็แพงอยู่
Accommodation
ครั้งนี้เราใช้บริการที่พักทั้งแบบโรงแรม และ airbnb เหมือนเดิม
Day01 : Bangkok – Zurich
พวกเราเดินทางถึงเมือง Zurich ในตอนเช้าของวันแรก และเรามีเวลาเที่ยวที่เมืองนี้กัน 1 วันเต็มๆ ถ้ามีเวลาหนี่งวัน เราสามารถเที่ยวอะไรในเมืองซูริค – เมืองขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศสวิสเซอร์แลนด์แห่งนี้กันได้บ้าง เราลิสมาให้แล้ว
📍 Freitag Flagship Store
Opening time : Monday – Friday 10.30am – 7.00pm // Saturday 10.00am – 6.00pm // closed on Sunday
Link : https://www.freitag.ch/en/store/freitag-flagship-store-zuerich
Link : https://www.facebook.com/mame.coffeeshop/
เดินเล่นมาสักพัก เราก็อยากขอแนะนำให้นั่งพักร้านกาแฟที่ดูสไตล์เอเชียอย่างญี่ปุ่นในประเทศยุโรปที่ Mame coffeshop ร้านนี้กันค่ะ
Link : https://www.zuerich.com/en/visit/attractions/lindenhof
สวนสาธารณะที่ตั้งอยู่บนเนินเขา จุดพักผ่อนชมวิวของเมืองซูริคจากมุมสูงอีกจุดที่เราสามารถมองเห็นโค้งน้ำ Limmat และบ้านเมือง รวมทั้งโบสถ์สำคัญอย่าง Fraumunster และ Grossmunster ที่จะเป็นจุดหมายต่อไปของพวกเรา
Fee : 2 CHF
Opening time : Monday – Saturday 10.00am – 5.00pm or 6.00pm // Sunday เปิดให้เข้าชมหลังพิธีการ
Link : https://www.grossmuenster.ch/de/
📍 Fraumunster
Opening time : 10.00am – 5.00pm or 6.00pm
Link : https://www.zuerich.com/en/visit/attractions/fraumuenster
หากเดินข้ามสะพาน münsterbrücke มาอีกฝั่งเราก็จะเจอมหาวิหารเฟรามินสเตอร์ ที่เป็นหนึ่งในสี่โบสถ์สำคัญของเมืองซูริค โดยโบสถ์นี้อดีตเคยเป็นสำนักชีสำหรับกลุ่มสาวชนชั้นสูงจากเยอรมันอาศัยอยู่
Link : http://www.spruengli.ch/
มาประเทศสวิสเซอร์แลนด์ทั้งที ไม่พลาดที่จะลองชิมของดังขึ้นชื่ออย่าง “ชอคโกแลต” เจ้าดังที่ Sprüngli ที่มีอายุมากกว่าร้อยปีกันซักหน่อย
Link :https://www.opernhaus.ch/en/
ที่โรงละครแห่งนี้สามารถบรรจุผู้เขาชมได้ถึง 1,200 คน เอาไว้สำหรับจัดแสดงงานคอนเสริ์ต โอเปร่า หรือเทศกาลต่างๆ เราไม่ได้เข้าไปชมนะ รู้สึกวันนั้นจะมีงาน ได้แต่เดินผ่านโฉบๆอยู่ข้างนอก
📍 FIFA World Football Musuem
Fee: 24CHF
Link : http://www.fifamuseum.com/
สำหรับเพื่อนๆคอฟุตบอลต้องไม่พลาดที่จะไปเยี่ยมเยียนพิพธภัณฑ์ FIFA แห่งนี้ ซึ่งรวมรวบประวัติต้นกำเนิดเรื่องราวของฟุตบอลไปจนถึงถ้วยรางวัล FIFA world cup ให้พวกเราได้ดูด้วย
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้