หน้าแรก
คอมมูนิตี้
แท็ก
คลับ
เลือกห้อง
ดูเพิ่มเติม
รวมมิตร
กรุงโซล
การ์ตูน
ก้นครัว
ราชดำเนิน
หว้ากอ
ซิลิคอนวัลเลย์
สีลม
ไกลบ้าน
สวนลุมพินี
ชานเรือน
พรหมชาติ
ดิโอลด์สยาม
โต๊ะเครื่องแป้ง
สยามสแควร์
กล้อง
พันทิป
จตุจักร
ไร้สังกัด
ถนนนักเขียน
หอศิลป์
มาบุญครอง
บางขุนพรหม
ชายคา
แกลเลอรี่
เฉลิมกรุง
เฉลิมไทย
บลูแพลนเน็ต
ภูมิภาค
รัชดา
ศาลาประชาคม
ศาสนา
ศุภชลาศัย
สินธร
ห้องสมุด
กรีนโซน
บางรัก
แก็ดเจ็ต
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
#วันพืชมงคลและพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ (ประวัติความสำคัญ)
กระทู้สนทนา
พิธีกรรมทางศาสนา
วันสำคัญทางศาสนา
วันพืชมงคล
พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ
#วันพืชมงคลและพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ สำคัญอย่างไร?
(สำหรับผู้ที่ไม่อยากอ่าน สามารถดูคลิปเสียงนี้ได้ค่ะ)
1. "จรดพระนังคัลแรกนาขวัญ" มีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย
กำหนดจัดขึ้นในเดือนหกหรือเดือนพฤษภาคมของทุกปี ซึ่งเป็นระยะเหมาะสมที่จะเริ่มต้นการทำนา อันเป็นอาชีพหลักของประชาชนคนไทย แต่ไม่ได้กำหนดวันที่แน่นอนไว้เหมือนกับวันในพระราชพิธีอื่น โดยเลือกจากวันที่มี
ฤกษ์ยามที่เหมาะสมในเดือนหกนั่นเอง พระราชพิธีฯ นี้มีมาตั้งแต่ครั้งกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี ซึ่งในสมัยนั้นพระมหากษัตริย์ไม่ได้ลงมือไถนาเอง เป็นแต่เพียงเสด็จไปเป็นองค์ประธานในพระราชพิธีเท่านั้น ครั้งถึงสมัยกรุงศรีอยุธยา พระมหากษัตริย์ ไม่ได้เสด็จไปเป็นองค์ประธาน เหมือนกับสมัยกรุงสุโขทัย และจะทรงจำศีลเงียบ 3 วัน แต่จะมอบอาญาสิทธิ์ให้ เจ้าพระยาจันทกุมาร เป็นผู้แทนพระองค์ โดยทรงทำเหมือนอย่างออกอำนาจจากกษัตริย์ ซึ่งวิธีนี้ได้ใช้ตลอดมาถึงปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา
2. "จรดพระนังคัลแรกนาขวัญ" ในสมัยรัตนโกสินทร์
ได้มีการประกอบพระราชพิธีนี้มาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 แต่ผู้ทำการแรกนาเปลี่ยนเป็นเจ้าพระยาพลเทพ คู่กันกับการยืนชิงช้า แต่พอถึงรัชกาลที่ 3 ให้ถือว่าผู้ใดยืนชิงช้าผู้นั้นเป็นผู้แรกนา ในสมัยรัชกาลที่ 4 ได้ทรงโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดมีพิธีสงฆ์เพิ่มขึ้นในพระราชพิธีต่างๆ ทุกพิธี ดังนั้น พระราชพิธีพืชมงคลจึงได้เริ่มมีขึ้นแต่บัดนั้นมา โดยได้จัดรวมกับพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ และมีชื่อเรียกรวมกันว่า พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ
3. ทำไมต้องมี#พิธีแรกนาขวัญ
เพื่อจะให้เป็นตัวอย่างแก่ราษฎร ชักนำให้มีใจหมั่นในการที่จะทำนา แต่การทำนานั้นก็มักจะมีอุปสรรค
อยู่ เช่น บางปีน้ำฝนน้ำท่ามากไปน้อยไป ด้วงเพลี้ยและสัตว์ต่างๆ จะบังเกิดเป็นเหตุอันตราย จนทำนาไม่ได้ประโยชน์เต็มที่ ซึ่งพิธีนี้ก็เป็นพิธีสำคัญที่ใช้สำหรับเสี่ยงทายให้รู้ปัญหาล่วงหน้าจะได้หาทนทางแก้ไข โดยอาศัยคำอธิษฐาน มีการใช้อุปกรณ์และสัตว์อย่างพระโคเข้ามาใช้ในพิธีการเสี่ยงทายว่าปีนั้นๆ การทำนาปลูกข้าวจะอุดมสมบูรณ์ดีหรือไม่ หรือจะประสบปัญหาหรืออันตรายด้านใดบ้าง
4. พิธีกรรมที่ต้องทำมีทั้งพิธีพุทธและพิธีพราหมณ์
พิธีกรรมที่ต้องจัดขึ้น 2 พิธีรวมกัน คือ - พระราชพิธีพืชมงคล: อันเป็นพิธีสงฆ์ทางพุทธศาสนา ซึ่งจะประกอบพระราชพิธีในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ต้องอาศัยคำอธิษฐานเอาความสัตย์เป็นที่ตั้ง หรือทำการซึ่งไม่มีโทษนับว่าเป็นการสวัสดิมงคลตามซึ่งมาในพระพุทธศาสนา เป็นต้น - พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ: อันเป็นพิธีพราหมณ์ ซึ่งจะประกอบพระราชพิธี ณ มณฑลพิธีสนามหลวง ซึ่งเป็นการบูชาเซ่นสรวงตามที่มาทางไสยศาสตร์
5. องค์ประกอบสำคัญในพิธี
: พระยาแรกนาและเทพีทั้งสี่ แต่ก่อนพิธีนี้ได้หยุดไประยะหนึ่ง จากนั้นในปี พ.ศ. 2503 คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ฟื้นฟูพิธีนี้กลับมา และสมัยนั้นในหลวงรัชกาลที่ 9 พระองค์ได้ทรงปรับปรุงพิธีการบางอย่างให้เหมาะสม มาถึงองค์ประกอบสำคัญในพระราชพิธีฯ เริ่มจาก "พระยาแรกนา" ในช่วงแรกๆ ของการฟื้นฟูพิธีนี้กลับมา ผู้ที่จะมาทำหน้าที่นี้ก็คือ "อธิบดีกรมการข้าว" ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในปีนั้นๆ สำหรับ "เทพีทั้งสี่" พิจารณาคัดเลือก จากภริยาข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ต่อมาภายหลังผู้ที่จะทำหน้าที่เป็น "พระยาแรกนา" ได้แก่ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดยตำแหน่ง ส่วนผู้ที่มาทำหน้าที่เป็นเทพีคู่หาบทอง และคู่หาบเงินนั้น ได้ทำการพิจารณาคัดเลือกจากข้าราชการหญิงโสดในสังกัดกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ที่มีตำแหน่งตั้งแต่ข้าราชการพลเรือนสามัญชั้นโทขึ้นไป
6. องค์ประกอบสำคัญในพิธี : ข้าว ถั่ว งา
สำหรับธัญพืชหลักๆ ที่ต้องนำมาใช้ในพระราชพิธี ได้แก่ ข้าว มีทั้งข้าวเปลือก ข้าวเจ้า ข้าวเหนียว เผือกมันต่างๆ และเมล็ดพืชต่างๆ รวม 40 อย่าง ซึ่งพันธุ์พืชเหล่านี้ต้องสามารถนำไปปลูกและงอกได้ทั้งสิ้น สำหรับข้าวเปลือกที่จะต้องนำมาหว่านในพิธีแรกนา เป็นข้าวพันธุ์ดีที่ในหลวงโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ปลูกในโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดารโหฐาน และพระราชทานมาให้ใช้ในพระราชพิธีพืชมงคล โดยบรรจุใส่กระเช้าทองหนึ่งคู่และกระเช้าเงินหนึ่งคู่
7. องค์ประกอบสำคัญในพิธี #:พระโคเสี่ยงทาย
#พระโคกินอะไร? พระโค ในทางศาสนาพรามหณ์หมายถึง เทวดาผู้ทำหน้าที่เป็นพาหนะของพระอิศวรซึ่งเปรียบได้กับการใช้แรงงานและความเข้มแข็ง และเป็นสัตว์เลี้ยงที่พระกฤษณะและพระพลเทพดูแลซึ่งเปรียบได้กับความอุดมสมบูรณ์ ดังนั้น ในการประกอบพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ จึงได้กำหนดให้ใช้พระโคเพศผู้เข้าร่วมพระราชพิธีเสมอมาตั้งแต่รัชกาลที่ 1 เพื่อเป็นตัวแทนของความเข้มแข็งและความอุดมสมบูรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มอบหมายให้กรมปศุสัตว์เป็นหน่วยงานดำเนินการคัดเลือกโคเพื่อเป็นพระโคตามหลักเกณฑ์ กล่าวคือ จะต้องเป็นโคที่มีลักษณะดี รูปร่างสมบูรณ์ มีความสูงไม่น้อยกว่า 150 เซนติเมตร ความยาวลำตัวไม่น้อยกว่า 120 เซนติเมตร ความสมบูรณ์รอบอกไม่น้อยกว่า 180 เซนติเมตร โคทั้งคู่จะต้องมีสีเดียวกัน ผิวสวย ขนเป็นมัน กิริยามารยาทเรียบร้อย ฝึกง่ายสอนง่าย ไม่ดุร้าย เขาลักษณะโค้งสวยงามเท่ากัน ตาแจ่มใส หูไม่มีตำหนิ หางยาวสวยงามดี มีขวัญหน้า ขวัญทัดดอกไม้ซ้ายขวา และขวัญหลังถูกต้อง มีขาและกีบข้อเท้าแข็งแรง มองดูด้านข้างลำตัวจะเป็นสี่เหลี่ยม
8. การเสี่ยงทายของกิน 7 อย่าง
-ถ้าพระโคกินข้าวหรือข้าวโพด พยากรณ์ว่า ธัญญาหาร ผลาหาร จะบริบูรณ์ดี
- ถ้าพระโคกินถั่วหรืองา พยากรณ์ว่า ผลาหาร ภักษาหาร จะอุดมสมบูรณ์ดี
- ถ้าพระโคกินน้ำหรือหญ้า พยากรณ์ว่า น้ำท่าจะบริบูรณ์พอสมควร ธัญญาหาร ผลาหาร ภักษาหาร มังสาหารจะอุดมสมบูรณ์
- ถ้าพระโคกินเหล้า พยากรณ์ว่า การคมนาคมจะสะดวกขึ้น การค้าขาย กับต่างประเทศดีขึ้น ทำให้เศรษฐกิจ รุ่งเรือง
#งดจัดงานวันพืชมงคล2563
CR.ข้อมูลกรุงเทพธุรกิจ
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/879871
FB:
https://bit.ly/2VihITa
ID:yingonnaka
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
อ่านความคิดเห็นทั้งหมด
หน้า:
หน้า
จาก
บนสุด
ล่างสุด
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
#วันพืชมงคลและพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ (ประวัติความสำคัญ)
(สำหรับผู้ที่ไม่อยากอ่าน สามารถดูคลิปเสียงนี้ได้ค่ะ)
1. "จรดพระนังคัลแรกนาขวัญ" มีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย กำหนดจัดขึ้นในเดือนหกหรือเดือนพฤษภาคมของทุกปี ซึ่งเป็นระยะเหมาะสมที่จะเริ่มต้นการทำนา อันเป็นอาชีพหลักของประชาชนคนไทย แต่ไม่ได้กำหนดวันที่แน่นอนไว้เหมือนกับวันในพระราชพิธีอื่น โดยเลือกจากวันที่มี
ฤกษ์ยามที่เหมาะสมในเดือนหกนั่นเอง พระราชพิธีฯ นี้มีมาตั้งแต่ครั้งกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี ซึ่งในสมัยนั้นพระมหากษัตริย์ไม่ได้ลงมือไถนาเอง เป็นแต่เพียงเสด็จไปเป็นองค์ประธานในพระราชพิธีเท่านั้น ครั้งถึงสมัยกรุงศรีอยุธยา พระมหากษัตริย์ ไม่ได้เสด็จไปเป็นองค์ประธาน เหมือนกับสมัยกรุงสุโขทัย และจะทรงจำศีลเงียบ 3 วัน แต่จะมอบอาญาสิทธิ์ให้ เจ้าพระยาจันทกุมาร เป็นผู้แทนพระองค์ โดยทรงทำเหมือนอย่างออกอำนาจจากกษัตริย์ ซึ่งวิธีนี้ได้ใช้ตลอดมาถึงปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา
2. "จรดพระนังคัลแรกนาขวัญ" ในสมัยรัตนโกสินทร์ ได้มีการประกอบพระราชพิธีนี้มาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 แต่ผู้ทำการแรกนาเปลี่ยนเป็นเจ้าพระยาพลเทพ คู่กันกับการยืนชิงช้า แต่พอถึงรัชกาลที่ 3 ให้ถือว่าผู้ใดยืนชิงช้าผู้นั้นเป็นผู้แรกนา ในสมัยรัชกาลที่ 4 ได้ทรงโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดมีพิธีสงฆ์เพิ่มขึ้นในพระราชพิธีต่างๆ ทุกพิธี ดังนั้น พระราชพิธีพืชมงคลจึงได้เริ่มมีขึ้นแต่บัดนั้นมา โดยได้จัดรวมกับพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ และมีชื่อเรียกรวมกันว่า พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ
3. ทำไมต้องมี#พิธีแรกนาขวัญ เพื่อจะให้เป็นตัวอย่างแก่ราษฎร ชักนำให้มีใจหมั่นในการที่จะทำนา แต่การทำนานั้นก็มักจะมีอุปสรรค
อยู่ เช่น บางปีน้ำฝนน้ำท่ามากไปน้อยไป ด้วงเพลี้ยและสัตว์ต่างๆ จะบังเกิดเป็นเหตุอันตราย จนทำนาไม่ได้ประโยชน์เต็มที่ ซึ่งพิธีนี้ก็เป็นพิธีสำคัญที่ใช้สำหรับเสี่ยงทายให้รู้ปัญหาล่วงหน้าจะได้หาทนทางแก้ไข โดยอาศัยคำอธิษฐาน มีการใช้อุปกรณ์และสัตว์อย่างพระโคเข้ามาใช้ในพิธีการเสี่ยงทายว่าปีนั้นๆ การทำนาปลูกข้าวจะอุดมสมบูรณ์ดีหรือไม่ หรือจะประสบปัญหาหรืออันตรายด้านใดบ้าง
4. พิธีกรรมที่ต้องทำมีทั้งพิธีพุทธและพิธีพราหมณ์ พิธีกรรมที่ต้องจัดขึ้น 2 พิธีรวมกัน คือ - พระราชพิธีพืชมงคล: อันเป็นพิธีสงฆ์ทางพุทธศาสนา ซึ่งจะประกอบพระราชพิธีในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ต้องอาศัยคำอธิษฐานเอาความสัตย์เป็นที่ตั้ง หรือทำการซึ่งไม่มีโทษนับว่าเป็นการสวัสดิมงคลตามซึ่งมาในพระพุทธศาสนา เป็นต้น - พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ: อันเป็นพิธีพราหมณ์ ซึ่งจะประกอบพระราชพิธี ณ มณฑลพิธีสนามหลวง ซึ่งเป็นการบูชาเซ่นสรวงตามที่มาทางไสยศาสตร์
5. องค์ประกอบสำคัญในพิธี : พระยาแรกนาและเทพีทั้งสี่ แต่ก่อนพิธีนี้ได้หยุดไประยะหนึ่ง จากนั้นในปี พ.ศ. 2503 คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ฟื้นฟูพิธีนี้กลับมา และสมัยนั้นในหลวงรัชกาลที่ 9 พระองค์ได้ทรงปรับปรุงพิธีการบางอย่างให้เหมาะสม มาถึงองค์ประกอบสำคัญในพระราชพิธีฯ เริ่มจาก "พระยาแรกนา" ในช่วงแรกๆ ของการฟื้นฟูพิธีนี้กลับมา ผู้ที่จะมาทำหน้าที่นี้ก็คือ "อธิบดีกรมการข้าว" ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในปีนั้นๆ สำหรับ "เทพีทั้งสี่" พิจารณาคัดเลือก จากภริยาข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ต่อมาภายหลังผู้ที่จะทำหน้าที่เป็น "พระยาแรกนา" ได้แก่ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดยตำแหน่ง ส่วนผู้ที่มาทำหน้าที่เป็นเทพีคู่หาบทอง และคู่หาบเงินนั้น ได้ทำการพิจารณาคัดเลือกจากข้าราชการหญิงโสดในสังกัดกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ที่มีตำแหน่งตั้งแต่ข้าราชการพลเรือนสามัญชั้นโทขึ้นไป
6. องค์ประกอบสำคัญในพิธี : ข้าว ถั่ว งา สำหรับธัญพืชหลักๆ ที่ต้องนำมาใช้ในพระราชพิธี ได้แก่ ข้าว มีทั้งข้าวเปลือก ข้าวเจ้า ข้าวเหนียว เผือกมันต่างๆ และเมล็ดพืชต่างๆ รวม 40 อย่าง ซึ่งพันธุ์พืชเหล่านี้ต้องสามารถนำไปปลูกและงอกได้ทั้งสิ้น สำหรับข้าวเปลือกที่จะต้องนำมาหว่านในพิธีแรกนา เป็นข้าวพันธุ์ดีที่ในหลวงโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ปลูกในโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดารโหฐาน และพระราชทานมาให้ใช้ในพระราชพิธีพืชมงคล โดยบรรจุใส่กระเช้าทองหนึ่งคู่และกระเช้าเงินหนึ่งคู่
7. องค์ประกอบสำคัญในพิธี #:พระโคเสี่ยงทาย #พระโคกินอะไร? พระโค ในทางศาสนาพรามหณ์หมายถึง เทวดาผู้ทำหน้าที่เป็นพาหนะของพระอิศวรซึ่งเปรียบได้กับการใช้แรงงานและความเข้มแข็ง และเป็นสัตว์เลี้ยงที่พระกฤษณะและพระพลเทพดูแลซึ่งเปรียบได้กับความอุดมสมบูรณ์ ดังนั้น ในการประกอบพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ จึงได้กำหนดให้ใช้พระโคเพศผู้เข้าร่วมพระราชพิธีเสมอมาตั้งแต่รัชกาลที่ 1 เพื่อเป็นตัวแทนของความเข้มแข็งและความอุดมสมบูรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มอบหมายให้กรมปศุสัตว์เป็นหน่วยงานดำเนินการคัดเลือกโคเพื่อเป็นพระโคตามหลักเกณฑ์ กล่าวคือ จะต้องเป็นโคที่มีลักษณะดี รูปร่างสมบูรณ์ มีความสูงไม่น้อยกว่า 150 เซนติเมตร ความยาวลำตัวไม่น้อยกว่า 120 เซนติเมตร ความสมบูรณ์รอบอกไม่น้อยกว่า 180 เซนติเมตร โคทั้งคู่จะต้องมีสีเดียวกัน ผิวสวย ขนเป็นมัน กิริยามารยาทเรียบร้อย ฝึกง่ายสอนง่าย ไม่ดุร้าย เขาลักษณะโค้งสวยงามเท่ากัน ตาแจ่มใส หูไม่มีตำหนิ หางยาวสวยงามดี มีขวัญหน้า ขวัญทัดดอกไม้ซ้ายขวา และขวัญหลังถูกต้อง มีขาและกีบข้อเท้าแข็งแรง มองดูด้านข้างลำตัวจะเป็นสี่เหลี่ยม
8. การเสี่ยงทายของกิน 7 อย่าง
-ถ้าพระโคกินข้าวหรือข้าวโพด พยากรณ์ว่า ธัญญาหาร ผลาหาร จะบริบูรณ์ดี
- ถ้าพระโคกินถั่วหรืองา พยากรณ์ว่า ผลาหาร ภักษาหาร จะอุดมสมบูรณ์ดี
- ถ้าพระโคกินน้ำหรือหญ้า พยากรณ์ว่า น้ำท่าจะบริบูรณ์พอสมควร ธัญญาหาร ผลาหาร ภักษาหาร มังสาหารจะอุดมสมบูรณ์
- ถ้าพระโคกินเหล้า พยากรณ์ว่า การคมนาคมจะสะดวกขึ้น การค้าขาย กับต่างประเทศดีขึ้น ทำให้เศรษฐกิจ รุ่งเรือง
#งดจัดงานวันพืชมงคล2563
CR.ข้อมูลกรุงเทพธุรกิจ https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/879871
FB:https://bit.ly/2VihITa
ID:yingonnaka