Part 2 ต่อจาก
https://pantip.com/topic/39475737
มีปัญหาคุกกรุ่นมาให้ไม่สบายใจอีกแล้วคะ
เรื่องมีอยู่ว่า พ่อแฟนเป็นคนขี้ติมาก ชอบพูดอะไรไม่เข้าท่า เวลาดูทีวี ก็จะพากย์ คอยหาแต่ข้อเสีย อย่างเช่น ดูคนนี้สิสิวอย่างใหญ่
ดูข่าวแทนที่จะมองปัญหาเนื้อเรื่อง แต่ไปโฟกัสรูปร่างหน้าตาคนในข่าว บอกว่าผู้หญิงคนนี้มีปัญหากับจมูกน่าดู
ดูคนนี้สิอ้วน น่าเกลียด
ติว่าเราตัวไม่เล็ก แต่ทำไมทำอะไรซะหยุมหยิม และอีกสารพัด
ซีเรียสเรื่องการแต่งตัว ติฉินลูกเมีย
ต้องแต่งตัวเนี๊ยบ แฟนเราเอาเสื้อเข้ากางเกง ก็บอกเอาออกเถอะลูก แฟนเราเอาเสื้อลายขวางไปใส่ ก็บอกหนูไปซื้อมาใส่ตอนไหนลายแบบนี้ น่าเกลียด
ที่ผ่านมาเราก็พยายามหูทวนลมไป แต่เราเป็นสายชอบฟัง podcasts ไม่ค่อยชอบนินทาคนอื่นเท่าไหร่ ไม่ชอบอ่านดราม่า แต่ก็มีบ้างตามประสามนุษย์
รักโลภโกรธหลง วันๆจะโฟสแค่งาน ชีวิต พัฒนาตัวเอง พอเจอแบบนี้เข้ามันเหมือนเจอคนแง่ - ในแบบที่ podcasts พูดเป็นตัวอย่างบ่อยๆเลย
จนเข้าเรื่อง
วันก่อนเรานั่งทำงานเล่นคอมไป จนถึงเวลาแพ็คของส่งลูกค้า ซึ่งเป็นตำแหน่งที่พ่อแฟนนั่งอยู่ก่อนหน้า เราเลยขอเค้าว่าขอแพ็คของก่อน
เท้าเราไปสัมผัสกับอะไรบางอย่างที่ทำให้ไม่สบายเท้า ซึ่งเยอะมากๆ จนเราตกใจเบาๆ เพราะแม่แฟนเค้าเป็นคนสะอาดมาก ถูบ้านตลอด
เราเลยเผลอปากพูดว่า เฮ่ยไรอะ ด้วยความตกใจและประหลาดใจ เพราะปกติไม่มี ก็ยังคงสงสัยอยู่ สุดท้ายเลยก้มลงไปเอามือลูบพื้นขึ้นมาดู
มันเป็นเศษหนังขาวๆ สรุปเลยคือ มันคือเศษหนังขาคนเวลาแกะออกมาคะ ซึ่งพ่อแฟนเป็นคนแกะนั่นเอง เพราะเค้ามีปัญหาแผลเชื้อราใหญ่อยู่แถวตาตุ่ม
เราก็แบบใจเลยเต้นตุ่บๆละ ไม่ค่อยสบายใจ แต่ก็ยืนนิ่งๆไป พอผ่านไป เราเลยเดินไปบอกแม่แฟนหลังบ้าน แต่แม่แฟนเป็นคนอวยพ่อมากๆ พอเราบอก เค้าก็พูดเหมือนขำๆว่าเดี๋ยวเค้าบอกให้ แต่เรารู้สึกไม่ดีแปลกๆ เราเลยครุ่นคิดหาจังหวะพูด ก็ถามเค้าว่าเมื่อกี๊เค้าได้แกะเท้ารึป่าว เค้าก็บอกว่าน่าจะใช่ แล้วก็อธิบายว่ามันคันเลยต้องพยายามแกะออก แล้วก็เงียบ แอบเห็นท่าทีกระดิกขา
เราก็เลยพูดด้วยความซอฟสุดๆของเราแล้ว ประมาณว่า ป๊าก็ลองหาอะไรมารองๆหน่อย
แล้วก็เงียบกันไป เค้าก็เหมือนคิดในใจละถามออกมาว่า แล้วจัดการเก็บกวาดรึยัง ในใจเรานี่พุ่งเลย แล้วเราก็ส่ายหัว เค้าก็ลุกละพูดว่า อ่าวทำไมไม่จัดการให้เรียบร้อย เวลาเราเจออะไรแบบนี้ทำเลย จะมารออะไร ทำนองนั้น ใจเราพุ่งไปอีก เลยพูดไปว่า อ่าวป๊ามันไม่ใช่แบบนั้นสิ ป๊าทำ ป๊าก็ต้องจัดการ ซึ่งแฟนเราก็พูดทำนองความหมายเดียวกันพร้อมๆเรา ละเค้าก็ขึ้น ละพูดกลับมาว่า ทำให้พ่อไม่ได้หรอ
เค้าก็ไปโวยวายๆหาที่โกยขยะ ละมากวาดๆ พอแฟนเราเดินผ่าน เค้าก็ยื่นให้แฟนเราจัดการ
ซึ่งเค้าทำแบบนี้กันมาตลอด และในใจเราตอบว่า มันโคตรไม่ใช่เลย พอพ่อไป แฟนก็มาต่อว่าเรา ว่าเราอะรู้ตั้งแต่แรกแล้วที่อุทานว่ามันคือไร เราก็โหย ถ้ารู้จะเอามือไปปาดขึ้นมาไหมอะ ของสกปรก แล้วก็คุยกันยาวเหยียด เรา แฟนเรา และแม่แฟน
คือในใจเราไม่ได้มองว่าเราไม่สามารถทำให้ได้ เราโตมากับการรับผิดชอบตัวเอง
แต่บ้านแฟนเหมือนชอบคุยกันซอฟๆ มีไรไม่ยอมพูดกันตรงๆ แล้วก็เก็บกันไว้ข้างใน
แม่ก็ชอบทำให้พ่อทุกอย่าง
เวลาแม่ทำกับข้าว พ่อก็ไม่ช่วย กินเสร็จไม่ล้างจานด้วย แถมตอนนี้ตัวเค้าเองก็ไม่ได้ทำงานมาร่วมปี แต่มันไม่ได้สำคัญไร
เราแค่มองว่า ตัดอารมณ์ออกไป ดูแค่เนื้อเรื่อง สิ่งนี้ใครทำ แล้วทำให้ส่วนรวมเกิดการกระทบไหม แล้วกระทบยังไง ขนาดไหน ใครบ้าง
แต่เค้าดูไม่มีความรับผิดชอบ ในมุมมองเราคือ ถ้าเราคัน เราคงเกา แต่ก็อาจหาไรมารองไว้ให้มันไม่ต้องมาคอยแก้ทีหลัง
สรุปวันนี้เราไปยืนแพ็คของก็ยังมีเศษเหลืออยู่เลย ขนาดกวาด ถูกันไป 2 รอบแล้ว ซึ่งเราไม่ชอบอะไรแบบนี้มากๆ เราเป็นคนแบบว่า ไม่รู้ไม่เป็นไร
แต่ถ้ารู้แล้วยังทำ แล้วมีโอกาสเกิดความเสียหาย เราจะซีเรียสสุดๆ นี่ x ความไม่รับผิดชอบ แถมมาโทษคนอื่น เข้าไป
สุดท้ายแฟนกับแม่แฟนก็มานั่งต่อว่าเรา ว่าเราไม่ควร อันนี้คุยด้วยเหตุและผล เรายอมรับ ถ้ามันจะทำให้เค้าเข้าใจว่า เค้าไม่ควรทำแบบนี้ เรายอมเป็นหมา เผื่อเค้าจะคิดได้ เพราะไม่ใช่มีแค่เราที่ไม่ ok แม่แฟนเรา กับแฟนเราก็บ่นมาตลอด ในหลายๆเรื่อง แต่พอเราพูดพวกเค้าดันมารุมต่อว่าเรา
ตอนสมัยทำงาน ก็ใช้แฟนเรารีดเสื้อผ้าให้ แม่แฟนเคยรีดให้ไม่เรียบ ก็ไปติแม่ ทำงานกันทั้งคู่ กลับบ้านพร้อมกัน แต่โมโหแม่ที่ทำกับข้าวช้า ซึ่งเราเคยกินข้าวผัดฝีมือเค้าครั้งเดียว
แต่เวลาซื้ออะไรมากินกัน แม่แฟนทำ ต้องมีคำให้ติตลอด เค็มไป ไม่อร่อย ไม่ชอบ ไม่หวาน เยอะมากกกกกก
เพราะมันไม่ใช่แค่กับเรื่องนี้ มีครั้งนึงไปเที่ยวทะเลกัน
พ่อแฟนสูบบุหรี่แล้วทิ้งก้นบุหรี่ลงทะเลหน้าตาเฉย เพราะหน้าบ้านติดหาด แฟนเราเห็นแฟนเราว่าอย่าทิ้งแบบนั้นดิ จบไปรอบแรก
แล้วเค้าก็ยังทำอีก ... พอมีข่าวช่วงที่เข็มฉีดยาติดทะเลชายฝั่งเค้าก็นั่งวิจารณ์ว่าไอ่พวกนี้มันทุเรศ .....
ทุกคนนึกภาพออกไหมความย้อนแยง ติเอามันส์ ติเอาไรก็ไม่รู้ ถ้าติแล้วลงมือด้วยว่าไปอย่าง
มันเหมือนกับเราก็รู้ทุกอย่าง แต่เราก็ยังทำ และยังมีอีกหลายการกระทำมากๆๆที่เรารู้สึกว่าแบบ หืมมไรอะ แต่ก็พยายามจะไม่ใส่ใจ จนเจอเคสนี้
แล้วเค้าก็เอาไปพูดกับลูกเค้าว่าเราไม่เกรงใจเลยเนอะ
ตอนเจอหน้ากันแรกๆ ก็มาบอกว่าอายคนอื่นเค้าที่มีเราเป็นแฟน งงมาก อายทำไม งานการเราก็เอา
ทุกวันนี้แม่กับแฟนไปทำงาน เรานั่งทำงานน่าคอม เค้ามาเปิดทีวี เราก็ต้องมานั่งฟังเค้าวิจาร บางทีก็รู้สึกอึดอัด จะย้ายไปอยู่ข้างนอก แฟนเราก็ไม่ยอม
แล้วนิทานแบบนี้เรามองเห็นอนาคต ยังไงก็จบแบบเดิม อคติกันไปเรื่อยๆ
อยากระบาย + อยากลองถามความคิดเห็นหลายๆท่านว่ารู้สึกยังไงบ้างกับเรื่องนี้ เราดูไม่มีมารยาทมากไหม ที่ตัดสินใจพูดและทำออกไปแบบนั้น
ปัญหาน่าปวดหัวของคนอยู่ร่วมชายคาเดียวกัน
มีปัญหาคุกกรุ่นมาให้ไม่สบายใจอีกแล้วคะ
เรื่องมีอยู่ว่า พ่อแฟนเป็นคนขี้ติมาก ชอบพูดอะไรไม่เข้าท่า เวลาดูทีวี ก็จะพากย์ คอยหาแต่ข้อเสีย อย่างเช่น ดูคนนี้สิสิวอย่างใหญ่
ดูข่าวแทนที่จะมองปัญหาเนื้อเรื่อง แต่ไปโฟกัสรูปร่างหน้าตาคนในข่าว บอกว่าผู้หญิงคนนี้มีปัญหากับจมูกน่าดู
ดูคนนี้สิอ้วน น่าเกลียด
ติว่าเราตัวไม่เล็ก แต่ทำไมทำอะไรซะหยุมหยิม และอีกสารพัด
ซีเรียสเรื่องการแต่งตัว ติฉินลูกเมีย
ต้องแต่งตัวเนี๊ยบ แฟนเราเอาเสื้อเข้ากางเกง ก็บอกเอาออกเถอะลูก แฟนเราเอาเสื้อลายขวางไปใส่ ก็บอกหนูไปซื้อมาใส่ตอนไหนลายแบบนี้ น่าเกลียด
ที่ผ่านมาเราก็พยายามหูทวนลมไป แต่เราเป็นสายชอบฟัง podcasts ไม่ค่อยชอบนินทาคนอื่นเท่าไหร่ ไม่ชอบอ่านดราม่า แต่ก็มีบ้างตามประสามนุษย์
รักโลภโกรธหลง วันๆจะโฟสแค่งาน ชีวิต พัฒนาตัวเอง พอเจอแบบนี้เข้ามันเหมือนเจอคนแง่ - ในแบบที่ podcasts พูดเป็นตัวอย่างบ่อยๆเลย
จนเข้าเรื่อง
วันก่อนเรานั่งทำงานเล่นคอมไป จนถึงเวลาแพ็คของส่งลูกค้า ซึ่งเป็นตำแหน่งที่พ่อแฟนนั่งอยู่ก่อนหน้า เราเลยขอเค้าว่าขอแพ็คของก่อน
เท้าเราไปสัมผัสกับอะไรบางอย่างที่ทำให้ไม่สบายเท้า ซึ่งเยอะมากๆ จนเราตกใจเบาๆ เพราะแม่แฟนเค้าเป็นคนสะอาดมาก ถูบ้านตลอด
เราเลยเผลอปากพูดว่า เฮ่ยไรอะ ด้วยความตกใจและประหลาดใจ เพราะปกติไม่มี ก็ยังคงสงสัยอยู่ สุดท้ายเลยก้มลงไปเอามือลูบพื้นขึ้นมาดู
มันเป็นเศษหนังขาวๆ สรุปเลยคือ มันคือเศษหนังขาคนเวลาแกะออกมาคะ ซึ่งพ่อแฟนเป็นคนแกะนั่นเอง เพราะเค้ามีปัญหาแผลเชื้อราใหญ่อยู่แถวตาตุ่ม
เราก็แบบใจเลยเต้นตุ่บๆละ ไม่ค่อยสบายใจ แต่ก็ยืนนิ่งๆไป พอผ่านไป เราเลยเดินไปบอกแม่แฟนหลังบ้าน แต่แม่แฟนเป็นคนอวยพ่อมากๆ พอเราบอก เค้าก็พูดเหมือนขำๆว่าเดี๋ยวเค้าบอกให้ แต่เรารู้สึกไม่ดีแปลกๆ เราเลยครุ่นคิดหาจังหวะพูด ก็ถามเค้าว่าเมื่อกี๊เค้าได้แกะเท้ารึป่าว เค้าก็บอกว่าน่าจะใช่ แล้วก็อธิบายว่ามันคันเลยต้องพยายามแกะออก แล้วก็เงียบ แอบเห็นท่าทีกระดิกขา
เราก็เลยพูดด้วยความซอฟสุดๆของเราแล้ว ประมาณว่า ป๊าก็ลองหาอะไรมารองๆหน่อย
แล้วก็เงียบกันไป เค้าก็เหมือนคิดในใจละถามออกมาว่า แล้วจัดการเก็บกวาดรึยัง ในใจเรานี่พุ่งเลย แล้วเราก็ส่ายหัว เค้าก็ลุกละพูดว่า อ่าวทำไมไม่จัดการให้เรียบร้อย เวลาเราเจออะไรแบบนี้ทำเลย จะมารออะไร ทำนองนั้น ใจเราพุ่งไปอีก เลยพูดไปว่า อ่าวป๊ามันไม่ใช่แบบนั้นสิ ป๊าทำ ป๊าก็ต้องจัดการ ซึ่งแฟนเราก็พูดทำนองความหมายเดียวกันพร้อมๆเรา ละเค้าก็ขึ้น ละพูดกลับมาว่า ทำให้พ่อไม่ได้หรอ
เค้าก็ไปโวยวายๆหาที่โกยขยะ ละมากวาดๆ พอแฟนเราเดินผ่าน เค้าก็ยื่นให้แฟนเราจัดการ
ซึ่งเค้าทำแบบนี้กันมาตลอด และในใจเราตอบว่า มันโคตรไม่ใช่เลย พอพ่อไป แฟนก็มาต่อว่าเรา ว่าเราอะรู้ตั้งแต่แรกแล้วที่อุทานว่ามันคือไร เราก็โหย ถ้ารู้จะเอามือไปปาดขึ้นมาไหมอะ ของสกปรก แล้วก็คุยกันยาวเหยียด เรา แฟนเรา และแม่แฟน
คือในใจเราไม่ได้มองว่าเราไม่สามารถทำให้ได้ เราโตมากับการรับผิดชอบตัวเอง
แต่บ้านแฟนเหมือนชอบคุยกันซอฟๆ มีไรไม่ยอมพูดกันตรงๆ แล้วก็เก็บกันไว้ข้างใน
แม่ก็ชอบทำให้พ่อทุกอย่าง
เวลาแม่ทำกับข้าว พ่อก็ไม่ช่วย กินเสร็จไม่ล้างจานด้วย แถมตอนนี้ตัวเค้าเองก็ไม่ได้ทำงานมาร่วมปี แต่มันไม่ได้สำคัญไร
เราแค่มองว่า ตัดอารมณ์ออกไป ดูแค่เนื้อเรื่อง สิ่งนี้ใครทำ แล้วทำให้ส่วนรวมเกิดการกระทบไหม แล้วกระทบยังไง ขนาดไหน ใครบ้าง
แต่เค้าดูไม่มีความรับผิดชอบ ในมุมมองเราคือ ถ้าเราคัน เราคงเกา แต่ก็อาจหาไรมารองไว้ให้มันไม่ต้องมาคอยแก้ทีหลัง
สรุปวันนี้เราไปยืนแพ็คของก็ยังมีเศษเหลืออยู่เลย ขนาดกวาด ถูกันไป 2 รอบแล้ว ซึ่งเราไม่ชอบอะไรแบบนี้มากๆ เราเป็นคนแบบว่า ไม่รู้ไม่เป็นไร
แต่ถ้ารู้แล้วยังทำ แล้วมีโอกาสเกิดความเสียหาย เราจะซีเรียสสุดๆ นี่ x ความไม่รับผิดชอบ แถมมาโทษคนอื่น เข้าไป
สุดท้ายแฟนกับแม่แฟนก็มานั่งต่อว่าเรา ว่าเราไม่ควร อันนี้คุยด้วยเหตุและผล เรายอมรับ ถ้ามันจะทำให้เค้าเข้าใจว่า เค้าไม่ควรทำแบบนี้ เรายอมเป็นหมา เผื่อเค้าจะคิดได้ เพราะไม่ใช่มีแค่เราที่ไม่ ok แม่แฟนเรา กับแฟนเราก็บ่นมาตลอด ในหลายๆเรื่อง แต่พอเราพูดพวกเค้าดันมารุมต่อว่าเรา
ตอนสมัยทำงาน ก็ใช้แฟนเรารีดเสื้อผ้าให้ แม่แฟนเคยรีดให้ไม่เรียบ ก็ไปติแม่ ทำงานกันทั้งคู่ กลับบ้านพร้อมกัน แต่โมโหแม่ที่ทำกับข้าวช้า ซึ่งเราเคยกินข้าวผัดฝีมือเค้าครั้งเดียว
แต่เวลาซื้ออะไรมากินกัน แม่แฟนทำ ต้องมีคำให้ติตลอด เค็มไป ไม่อร่อย ไม่ชอบ ไม่หวาน เยอะมากกกกกก
เพราะมันไม่ใช่แค่กับเรื่องนี้ มีครั้งนึงไปเที่ยวทะเลกัน
พ่อแฟนสูบบุหรี่แล้วทิ้งก้นบุหรี่ลงทะเลหน้าตาเฉย เพราะหน้าบ้านติดหาด แฟนเราเห็นแฟนเราว่าอย่าทิ้งแบบนั้นดิ จบไปรอบแรก
แล้วเค้าก็ยังทำอีก ... พอมีข่าวช่วงที่เข็มฉีดยาติดทะเลชายฝั่งเค้าก็นั่งวิจารณ์ว่าไอ่พวกนี้มันทุเรศ .....
ทุกคนนึกภาพออกไหมความย้อนแยง ติเอามันส์ ติเอาไรก็ไม่รู้ ถ้าติแล้วลงมือด้วยว่าไปอย่าง
มันเหมือนกับเราก็รู้ทุกอย่าง แต่เราก็ยังทำ และยังมีอีกหลายการกระทำมากๆๆที่เรารู้สึกว่าแบบ หืมมไรอะ แต่ก็พยายามจะไม่ใส่ใจ จนเจอเคสนี้
แล้วเค้าก็เอาไปพูดกับลูกเค้าว่าเราไม่เกรงใจเลยเนอะ
ตอนเจอหน้ากันแรกๆ ก็มาบอกว่าอายคนอื่นเค้าที่มีเราเป็นแฟน งงมาก อายทำไม งานการเราก็เอา
ทุกวันนี้แม่กับแฟนไปทำงาน เรานั่งทำงานน่าคอม เค้ามาเปิดทีวี เราก็ต้องมานั่งฟังเค้าวิจาร บางทีก็รู้สึกอึดอัด จะย้ายไปอยู่ข้างนอก แฟนเราก็ไม่ยอม
แล้วนิทานแบบนี้เรามองเห็นอนาคต ยังไงก็จบแบบเดิม อคติกันไปเรื่อยๆ
อยากระบาย + อยากลองถามความคิดเห็นหลายๆท่านว่ารู้สึกยังไงบ้างกับเรื่องนี้ เราดูไม่มีมารยาทมากไหม ที่ตัดสินใจพูดและทำออกไปแบบนั้น