สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
จากที่เล่ามา จขกท. อายุไม่น่าเกิน 30 เส้นทางการทำงานยังอีกไกล มีโอกาสเติบโตได้มากถ้าทำงานในบริษัท BIG4
เชียร์ให้ไปเรียนต่อต่างประเทศ ซึ่งการเป็นคนไทย จบ ป.ตรี จากมหาวิทยาลัยไทยที่มีชื่อเสียง
การจบ ป.โท ประเทศอังกฤษจะช่วยเสริม profile การทำงานในประเทศไทยได้มาก
และยังสามารถเป็นตัวเลือกเพื่อไปทำงานประจำในต่างประเทศ
ที่สำคัญ ต้องวิเคราะห์อย่างแน่ใจว่า ป.โท นี้ สามารถช่วยให้ จขกท. เข้าทำงานและเติบโตในบริษัทได้
เงินเดือน 61k เป็นเงินเดือนที่สูงสำหรับคนจบป.ตรี ซึ่งจะเพิ่มสูงกว่านี้ได้ไม่มากเท่าไหร่ด้วยวุฒิที่มีอยู่
และมีโอกาสสูงที่จะถูกคัดออกในอนาตคเพราะเงินเดือนสูงขึ้นตามอายุงาน โดยเฉพาะช่วงอายุ 45++
และให้คนรุ่นใหม่ ไฟแรง มีความสามารถ พร้อมที่จะเรียนรู้ มาทำแทนในฐานเงินเดือนที่ต่ำกว่า
ซึ่งง จขกท. ก็เคยเป็นพนักงานคนรุ่นใหม่แบบนี้มาก่อน
การพัฒนาตนเองด้านวุฒิการศึกษาเป็นส่วนสำคัญในการไต่บันได corporate ladder
ไม่เช่นนั้นแล้วคนรุ่นใหม่จะตามทันและก้าวข้ามคนรุ่นเก่าไป
เชื่อว่าจขกท.คงเคยเห็นเรื่องนี้เกิดขึ้นในที่ทำงานปัจจุบัน ซึ่งเป็นปกติของ MNC ยิ่งเป็น BIG4 แล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้
ไม่ต้องมองเพื่อนคนอื่น ต้นทุนและความพึงพอใจของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
ถ้า จขกท. เห็นความสำคัญของความก้าวหน้าในอาชีพ ที่สามารถทำไปพร้อมกับความฝัน ให้ลงมือทำ ไม่ลังเล
มันไม่ใช่แค่ใช้เงินก้อนนี้เพื่อเรียนต่อแล้วจะคุ้มค่าไหม การเรียนป.โท ตปท. ยังเป็นส่วนที่ช่วนยืนยันอนาคตการทำงานที่มั่นคง
ความฝันกับความเป็นจริงรวมกันได้ ด้วยการคิดใช้จ่ายให้มีผลคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป
เชียร์ให้ไปเรียนต่อต่างประเทศ ซึ่งการเป็นคนไทย จบ ป.ตรี จากมหาวิทยาลัยไทยที่มีชื่อเสียง
การจบ ป.โท ประเทศอังกฤษจะช่วยเสริม profile การทำงานในประเทศไทยได้มาก
และยังสามารถเป็นตัวเลือกเพื่อไปทำงานประจำในต่างประเทศ
ที่สำคัญ ต้องวิเคราะห์อย่างแน่ใจว่า ป.โท นี้ สามารถช่วยให้ จขกท. เข้าทำงานและเติบโตในบริษัทได้
เงินเดือน 61k เป็นเงินเดือนที่สูงสำหรับคนจบป.ตรี ซึ่งจะเพิ่มสูงกว่านี้ได้ไม่มากเท่าไหร่ด้วยวุฒิที่มีอยู่
และมีโอกาสสูงที่จะถูกคัดออกในอนาตคเพราะเงินเดือนสูงขึ้นตามอายุงาน โดยเฉพาะช่วงอายุ 45++
และให้คนรุ่นใหม่ ไฟแรง มีความสามารถ พร้อมที่จะเรียนรู้ มาทำแทนในฐานเงินเดือนที่ต่ำกว่า
ซึ่งง จขกท. ก็เคยเป็นพนักงานคนรุ่นใหม่แบบนี้มาก่อน
การพัฒนาตนเองด้านวุฒิการศึกษาเป็นส่วนสำคัญในการไต่บันได corporate ladder
ไม่เช่นนั้นแล้วคนรุ่นใหม่จะตามทันและก้าวข้ามคนรุ่นเก่าไป
เชื่อว่าจขกท.คงเคยเห็นเรื่องนี้เกิดขึ้นในที่ทำงานปัจจุบัน ซึ่งเป็นปกติของ MNC ยิ่งเป็น BIG4 แล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้
ไม่ต้องมองเพื่อนคนอื่น ต้นทุนและความพึงพอใจของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
ถ้า จขกท. เห็นความสำคัญของความก้าวหน้าในอาชีพ ที่สามารถทำไปพร้อมกับความฝัน ให้ลงมือทำ ไม่ลังเล
มันไม่ใช่แค่ใช้เงินก้อนนี้เพื่อเรียนต่อแล้วจะคุ้มค่าไหม การเรียนป.โท ตปท. ยังเป็นส่วนที่ช่วนยืนยันอนาคตการทำงานที่มั่นคง
ความฝันกับความเป็นจริงรวมกันได้ ด้วยการคิดใช้จ่ายให้มีผลคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป
แสดงความคิดเห็น
ควรล้มเลิกความฝันในการเอาเงินเก็บไปเรียนโทที่ต่างประเทศ แล้วเอามาใช้ตอนนี้ไหมคะ?
ต้องเกริ่นก่อนว่าเรามาจากครอบครัวที่ฐานะปานกลาง การไปเรียนต่างประเทศที่อังกฤษนี้จะเป็นการใช้เงินเก็บของเราเกือบทั้งหมดตลอดการทำงาน6ปีที่ผ่านมาค่ะ
สมัยเด็กเราค่อนข้างมีผลการเรียนดี เราได้เข้าเรียนในมหาวิยาลัยที่มีชื่อเสียง และได้เข้าทำงานที่บริษัทชื่อดังแห่งหนึ่งค่ะ แต่เราก็อยู่ในฐานะกลางๆมาตลอด ตั้งแต่ตอนสมัยมหาลัยจนถึงช่วงการทำงานคือไม่ได้โดดเด่น แต่ก็ไม่ถึงกับแย่ ไปได้เรื่อยๆตามขั้นตามตอนของมัน การไปเรียนโทนี้อาจจะช่วยให้เรื่องการงานดีขึ้นบ้าง แต่คงไม่ถึงกับก้าวกระโดดค่ะ
ตอนเริ่มทำงานเมื่อ6ปีก่อนเราได้เงินเดือนเริ่มต้น22k ปัจจุบันได้61kค่ะ เราคิดว่าเราค่อนข้างใช้ชีวิตอย่างประหยัดเมื่อเทียบกับเพื่อนๆรุ่นราวคราวเดียวกันที่มีฐานเงินเดือนใกล้เคียงกัน โดยมีแรงใจเป็นเป้าหมายสำหรับการไปเรียนต่อ เราไม่ได้ออกรถเป็นของตนเอง ไม่มีคอนโด และยังคงใช้บริการขนส่งสาธารณะค่ะ ทรัพย์สินที่เรามีคือเงินเก็บจำนวนหนึ่ง ซึ่งประมาณ70-80%เป็นเงินที่ตั้งใจจะนำไปใช้เรียนต่อในครั้งนี้
แต่ช่วงนี้พอว่างก็เริ่มมีเวลาหันไปมองที่เพื่อนฝูง ทุกคนล้วนมีรถขับ หรือมีคอนโดเพื่อให้ใช้ชีวิตได้สะดวกขึ้น หรือบางคนอาจจะเลือกใช้ชีวิตที่ดูรีแล๊กซ์กว่าเรา เช่นการไปเที่ยวต่างประเทศแบบหรูหรา หรือการใช้ของแบรนด์เนมต่างๆเพื่อให้มีภาพลักษณ์ที่ดูดี เราจึงเริ่มมีความลังเลใจค่ะ
เรามองว่ารายได้ของเราและเพื่อนๆรอบตัวเราอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างใกล้เคียงกัน (ไม่นับพวกที่มีสมบัติเป็นมรดกตกทอดจากทางบ้านนะคะ😂) แต่เลือกใช้เงินในแบบต่างกันเฉยๆ การเลือกเก็บเงินเพื่อไปเรียนของเรานี้ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่คุ้มค่าไหมคะ
เพราะบางทีเราก็นึกอยากจะออกรถเพื่อพาคุณแม่ไปซื้อของไปเที่ยวเองบ้างเวลาที่คุณพ่อไม่อยู่ หรือบางทีเราก็อยากมีคอนโดเพื่อลดระยะเวลาในการเดินทางจากบ้านไปทำงาน บางทีเห็นเพื่อนๆใช้ของดีๆเราก็อยากมีใช้บ้าง ทุกครั้งที่มองเงินในบัญชีก็แอบมีความคิดว่าก็ทำสิ อยากได้อะไรก็ซื้อ เงินที่เก็บไว้ก็มี ทำไมไม่ใช้ แต่ก็มีเรื่องเรียนโทนี่มาค้ำคอไว้ตลอดเลยค่ะ
เราจึงอยากสอบถามความเห็นของเพื่อนๆทุกคนค่ะ ว่าถ้าเป็นทุกคนจะเลือกตัดสินใจแบบไหน
- ทำตามความฝันที่พยายามมาตลอด แต่ก็ไม่รู้สุดท้ายจะส่งผลดีมากน้อยแค่ไหนในอนาคต หรือ
- ก็เอาเงินมาใช้ตอนนี้เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต ทำตามใจตัวเองบ้าง เพราะปัจจุบันงานก็ยังคงไปได้เรื่อยๆ ไม่ได้มีปัญหาอะไร
หรือตัดสินใจแบบอื่นๆ รบกวนขอความเห็นจากทุกคนด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ