ทั้งร้อนและแล้งไปทำไม .. น่าน เชียงกลาง ไปช่วงมีค. มันก็เริ่มร้อนและแล้งแล้วนะ ทุ่งนาเขียวๆก็ไม่มี ดอกไม้สวยๆก็คงไม่เห็น เป็นคำถามที่ป้าถามเพื่อนๆที่อยากให้ป้าจัดทริปพาไปเที่ยวในค่ำคืนหนึ่งเมื่อได้คุยกันทางไลน์ ซึ่งตอนนั้นสถานการณ์โควิดยังไม่มีรุนแรง ยังพอเดินทางได้ ยังไม่มีแจ้งว่าไปจากอ่างทองแล้วไปจังหวัดน่านต้องกลับมากักตัว 14 วัน ซึ่งหลังจากป้ากะเพื่อนกลับมาไม่นานก็เข้าสู่ภาวะออกไปไหนข้ามจว.ยากล่ะ
แต่เพื่อนบอกว่าที่บอกมานะรู้แล้วและเคยไปช่วงหน้าฝน หน้าหนาว แต่หน้าร้อนยังไม่เคยไป สรุปอยากไปให้ครบมันทุกฤดูเลย อ้าว .. มันมีเสนออย่างเต็มใจไปร้อน ป้าจัดให้ค่ะ พร้อมนึกในใจ ตรูไหม้แน่ ๕๕๕
ทริปนี้เพื่อนที่ไปนี่วัยเก๋าทั้งนั้น มีเด็กไปกะย่าอีก 3 คน เป็นทริปที่บอกว่า ไปแบบชิล เน้นแวะกระจายรายได้สู่ชุมชนที่มาวางขายรายทาง (เห็นป่าววัยเก๋าเค้าคิดกันแบบนี้นะคะเด็กๆ ) และอยากไปเที่ยวเชียงกลางด้วย เลยได้แพลนมาง่ายๆสำหรับทริป 2 วัน 1 คืน แบบนี้ค่ะ
วันแรก - เช้าที่ดอยเสมอดาว -พระธาตุเขาน้อย - วัดภูมินทร์ - ซุ้มลีลาวดี - วัดศรีมงคล(วัดก๋ง) - กาแฟไทลื้อ - ถนนคนเดินปัว
วันสอง - เชียงกลาง - พระธาตุจอมกิติ - โบราณสถานวิหารไทลื้อ สะพานสายรุ้ง
เมื่อโปรแกรมทริปโอเค วันเวลาที่กำหนดโอเค .. ไปดูกันค่ะว่า น่านนะสิ จะร้อน และ แล้ง ยังไงบ้างเพราะช่วงเวลานี้ป้าไม่เคยไปน่านเลยซักครั้ง
เราออกเดินทางจากอ่างทองโดยรถตู้เวลาสี่ทุ่ม ก็ถึงน่านที่ดอยเสมอดาวประมาณตีสี่ ก้าวลงจากรถแบบไม่งัวเงียเพราะว่าได้นอนอิ่มทั้งคืนเพราะป้าหลับง่าย ขออย่าหนาวเกินไปเท่านั้น แต่สัมผัสแรกคือกลิ่นควันไฟ กะหมอกควันที่ถ้ามีอากาศเย็นมาด้วยก็คิดว่ามาหน้าหนาว แต่ก็ไม่ร้อนนัก ล้างหน้าแปรงฟันเตรียมตัวถ่ายรูปกันสิค่ะ ..
ที่อช.เช้านั้นเงียบมากเพราะไม่มีคนขึ้นมาเลยในตอนแรกให้นึกดีใจว่า ดอยเสมอดาวเช้านี้มีแต่กลุ่มเรากลุ่มเดียวแน่นอน แต่พอซักหกโมงเช้ามีรถกะบะน่าจะเป็นของชุมชนพานักท่องเที่ยวขึ้นมาชมพระอาทิตย์ขึ้น 5-6 คัน
จุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่ดอยเสมอดาว
จุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่ดอยเสมอดาว
ลงมาจากดอยเสมอดาวแวะกินมื้อเช้ากันก่อนไปต่อ แต่หลายร้านยังไม่เปิด อาจเพราะไม่ใช่ช่วงท่องเที่ยวด้วยและข่าวเรื่อไวรัสกระหน่ำเข้าซ้ำเติมอีก เงียบกันไปทั้งเมือง ก็เลยหาไรกินกันหิวไปก่อนด้วยข้าวมันไก่ แต่ป้าไปเดินหากาแฟกินใกล้ๆค่ะ
เดินทางต่อไปที่พระธาตุเขาน้อยค่ะ ซึ่งอยู่ในเขตตัวเมืองน่าน โดยวัดตั้งอยู่บนยอดดอยเขาน้อย ซึ่งอยู่ด้าน ตะวันตกของตัวเมืองน่าน สร้างในสมัยเจ้าปู่แข็ง เมื่อปี พ.ศ. 2030 องค์พระธาตุเป็นเจดีย์ก่อ อิฐถือปูนทั้งองค์ เป็นศิลปะพม่าผสมล้านนา
ภายในบรรจุพระเกศาธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ เป็นปูชนียสถานที่สำคัญ และเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของ จ.น่าน สันนิษฐานว่ามีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับพระธาตุแช่แห้ง ตั้งอยู่บนดอยเบาน้อย สูงจากระดับน้ำทะเล ประมาณ 240 ม. หน้าวัดมีทางขึ้นเป็นบันไดนาค 303 ขั้น
เมื่อมองจากวัดพระธาตุเขาน้อย สามารถเห็นทิวทัศน์โดยรอบของตัวเมืองน่าน ซึ่งบริเวณลานชมทิวทัศน์ ประดิษฐานพระพุทธมหา อุดมมงคลนันทบุรีศรีน่าน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางประทานพร บนฐานดอกบัวสูง 9 เมตร บนยอดพระเกศาทำจากทองคำหนัก 27 บาท สร้างขึ้นเนื่องในมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ฯ ทรงเจริญ พระชนมพรรษา 6 รอบ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2542
ลงจากรถที่ลานจอดใกล้ๆ วัดภูมินทร์ เมื่อสิบโมงกว่าๆ ลมร้อน และแดดเปรี้ยงต้อนรับพวกเราวัยเก๋ากันแรงมาก สำหรับวัดภูมินทร์คงไม่ต้องมีอะไรกล่าวมากเพราะมาหลายรอบมากๆจนปู่กีะย่าอาจกระซิบบอกกันว่า อิป้าผมจุกพาเพื่อนมาเที่ยวที่วัดเราอีกแล้ว
ซุ้มลีลาวดี ในวันที่ไร้การแย่งชิงการถ่ายรูป มีแต่แผงเสี่ยงดวงแร่ะที่พอจะคึกคัก
วัดช้างค้ำ คือจุดที่ป้าเกษพาเพื่อนๆเดินข้ามถนนจากซุ้มลีลาวดีเข้าไปกราบพระ
มีคนถามป้าขึ้นมาว่า อยากไปวัดที่สวยๆคล้ายที่วัดร่องขุ่น เชียงราย ป้าก็นึกอยู่ตั้งนานว่าที่น่านมีวัดแบบนั้นด้วยเหรอ ถึงขึ้นเข้ากูเกิ้ล จึงรู้ว่าที่เพื่อนพูดถึงนั้นคือ ศาลหลักเมืองน่าน ที่อยู่ไม่ไกลบนถนนเส้นเดียวกันนี้
มื้อกลางวันตัวใครตัวมันอาหารจานเดียวที่ร้านเฮือนออม หลังออกมาจากศาลหลักเมืองกันค่ะ ป้าขอขนมจีนน้ำเงี้ยว
[CR] ปัว เชียงกลาง น่าน by ป้าเกษ สูงวัยลุยไปทั่ว
แต่เพื่อนบอกว่าที่บอกมานะรู้แล้วและเคยไปช่วงหน้าฝน หน้าหนาว แต่หน้าร้อนยังไม่เคยไป สรุปอยากไปให้ครบมันทุกฤดูเลย อ้าว .. มันมีเสนออย่างเต็มใจไปร้อน ป้าจัดให้ค่ะ พร้อมนึกในใจ ตรูไหม้แน่ ๕๕๕
ทริปนี้เพื่อนที่ไปนี่วัยเก๋าทั้งนั้น มีเด็กไปกะย่าอีก 3 คน เป็นทริปที่บอกว่า ไปแบบชิล เน้นแวะกระจายรายได้สู่ชุมชนที่มาวางขายรายทาง (เห็นป่าววัยเก๋าเค้าคิดกันแบบนี้นะคะเด็กๆ ) และอยากไปเที่ยวเชียงกลางด้วย เลยได้แพลนมาง่ายๆสำหรับทริป 2 วัน 1 คืน แบบนี้ค่ะ
วันแรก - เช้าที่ดอยเสมอดาว -พระธาตุเขาน้อย - วัดภูมินทร์ - ซุ้มลีลาวดี - วัดศรีมงคล(วัดก๋ง) - กาแฟไทลื้อ - ถนนคนเดินปัว
วันสอง - เชียงกลาง - พระธาตุจอมกิติ - โบราณสถานวิหารไทลื้อ สะพานสายรุ้ง
เมื่อโปรแกรมทริปโอเค วันเวลาที่กำหนดโอเค .. ไปดูกันค่ะว่า น่านนะสิ จะร้อน และ แล้ง ยังไงบ้างเพราะช่วงเวลานี้ป้าไม่เคยไปน่านเลยซักครั้ง
เราออกเดินทางจากอ่างทองโดยรถตู้เวลาสี่ทุ่ม ก็ถึงน่านที่ดอยเสมอดาวประมาณตีสี่ ก้าวลงจากรถแบบไม่งัวเงียเพราะว่าได้นอนอิ่มทั้งคืนเพราะป้าหลับง่าย ขออย่าหนาวเกินไปเท่านั้น แต่สัมผัสแรกคือกลิ่นควันไฟ กะหมอกควันที่ถ้ามีอากาศเย็นมาด้วยก็คิดว่ามาหน้าหนาว แต่ก็ไม่ร้อนนัก ล้างหน้าแปรงฟันเตรียมตัวถ่ายรูปกันสิค่ะ ..
ที่อช.เช้านั้นเงียบมากเพราะไม่มีคนขึ้นมาเลยในตอนแรกให้นึกดีใจว่า ดอยเสมอดาวเช้านี้มีแต่กลุ่มเรากลุ่มเดียวแน่นอน แต่พอซักหกโมงเช้ามีรถกะบะน่าจะเป็นของชุมชนพานักท่องเที่ยวขึ้นมาชมพระอาทิตย์ขึ้น 5-6 คัน
จุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่ดอยเสมอดาว
จุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่ดอยเสมอดาว
ลงมาจากดอยเสมอดาวแวะกินมื้อเช้ากันก่อนไปต่อ แต่หลายร้านยังไม่เปิด อาจเพราะไม่ใช่ช่วงท่องเที่ยวด้วยและข่าวเรื่อไวรัสกระหน่ำเข้าซ้ำเติมอีก เงียบกันไปทั้งเมือง ก็เลยหาไรกินกันหิวไปก่อนด้วยข้าวมันไก่ แต่ป้าไปเดินหากาแฟกินใกล้ๆค่ะ
เดินทางต่อไปที่พระธาตุเขาน้อยค่ะ ซึ่งอยู่ในเขตตัวเมืองน่าน โดยวัดตั้งอยู่บนยอดดอยเขาน้อย ซึ่งอยู่ด้าน ตะวันตกของตัวเมืองน่าน สร้างในสมัยเจ้าปู่แข็ง เมื่อปี พ.ศ. 2030 องค์พระธาตุเป็นเจดีย์ก่อ อิฐถือปูนทั้งองค์ เป็นศิลปะพม่าผสมล้านนา
ภายในบรรจุพระเกศาธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ เป็นปูชนียสถานที่สำคัญ และเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของ จ.น่าน สันนิษฐานว่ามีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับพระธาตุแช่แห้ง ตั้งอยู่บนดอยเบาน้อย สูงจากระดับน้ำทะเล ประมาณ 240 ม. หน้าวัดมีทางขึ้นเป็นบันไดนาค 303 ขั้น
เมื่อมองจากวัดพระธาตุเขาน้อย สามารถเห็นทิวทัศน์โดยรอบของตัวเมืองน่าน ซึ่งบริเวณลานชมทิวทัศน์ ประดิษฐานพระพุทธมหา อุดมมงคลนันทบุรีศรีน่าน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางประทานพร บนฐานดอกบัวสูง 9 เมตร บนยอดพระเกศาทำจากทองคำหนัก 27 บาท สร้างขึ้นเนื่องในมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ฯ ทรงเจริญ พระชนมพรรษา 6 รอบ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2542
ลงจากรถที่ลานจอดใกล้ๆ วัดภูมินทร์ เมื่อสิบโมงกว่าๆ ลมร้อน และแดดเปรี้ยงต้อนรับพวกเราวัยเก๋ากันแรงมาก สำหรับวัดภูมินทร์คงไม่ต้องมีอะไรกล่าวมากเพราะมาหลายรอบมากๆจนปู่กีะย่าอาจกระซิบบอกกันว่า อิป้าผมจุกพาเพื่อนมาเที่ยวที่วัดเราอีกแล้ว
ซุ้มลีลาวดี ในวันที่ไร้การแย่งชิงการถ่ายรูป มีแต่แผงเสี่ยงดวงแร่ะที่พอจะคึกคัก
วัดช้างค้ำ คือจุดที่ป้าเกษพาเพื่อนๆเดินข้ามถนนจากซุ้มลีลาวดีเข้าไปกราบพระ
มีคนถามป้าขึ้นมาว่า อยากไปวัดที่สวยๆคล้ายที่วัดร่องขุ่น เชียงราย ป้าก็นึกอยู่ตั้งนานว่าที่น่านมีวัดแบบนั้นด้วยเหรอ ถึงขึ้นเข้ากูเกิ้ล จึงรู้ว่าที่เพื่อนพูดถึงนั้นคือ ศาลหลักเมืองน่าน ที่อยู่ไม่ไกลบนถนนเส้นเดียวกันนี้
มื้อกลางวันตัวใครตัวมันอาหารจานเดียวที่ร้านเฮือนออม หลังออกมาจากศาลหลักเมืองกันค่ะ ป้าขอขนมจีนน้ำเงี้ยว
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้