●● ธปท.ย้ำคิดดอกเบี้ย 'วิธีใหม่' มีผลแล้ว... สร้างความเป็นธรรม-ลด ‘หนี้เสีย’ ●●
เมื่อวันที่ 8 พ.ค. นางธัญญนิตย์ นิยมการ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน 2 ธนาคารแห่งประเทศไทย
(ธปท.) เปิดเผยว่า ...
ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.63 ที่ผ่านมา สถาบันการเงินได้เริ่มคิดดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้แบบใหม่ ซึ่งคิดบนฐานของเงินต้น
ของค่างวดที่ผิดนัดชำระจริง จากเดิมคิดดอกเบี้ยจากเงินต้นคงค้างทั้งหมด
โดยการปรับปรุงวิธีคิดดอกเบี้ยดังกล่าวจะสร้างความเป็นธรรมและช่วยลดภาระให้ประชาชน รวมทั้งลดโอกาสที่
ลูกหนี้จะไม่สามารถชำระหนี้คืนได้
“แนวทางใหม่นี้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติที่ดีที่ต่างประเทศใช้กัน ทั้งนี้ ประชาชนจะได้รับสิทธิจากการปรับปรุง
ในครั้งนี้โดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องไปขอแก้ไขสัญญา
ขณะที่การปรับปรุงครั้งนี้นอกจากจะทำให้เป็นธรรมมากขึ้นและช่วยลดภาระจ่ายของประชาชนแล้ว จะทำให้
ประชาชนเชื่อมั่นมากขึ้นด้วยว่าระบบการธนาคารของไทยมีแนวปฏิบัติที่โปร่งใส ตรงไปตรงมา ซึ่งหมายความว่า
การดำเนินธุรกิจของสถาบันการเงินจะมั่นคงขึ้นในระยะยาว” นางธัญญนิตย์กล่าว
นางธัญญนิตย์ อธิบายว่า เดิมการคิดดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้จะคิดบนฐานของ ‘เงินต้นคงค้างทั้งหมด’
เช่น สมมติว่าเรากู้ซื้อบ้าน 20 ปี ผ่อนจ่าย 240 งวด โดยช่วง 2 ปีแรก เราผ่อนชำระดีมาโดยตลอด แต่งวดที่ 25
มีปัญหาผ่อนชำระไม่ได้ สถาบันการเงินจะคิดดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้บนฐานของเงินต้นคงค้างทั้งหมด หรือคิด
ดอกเบี้ยเงินต้นตั้งแต่ในค่างวดที่ 25 ถึงงวดที่ 240
ส่วนการคำนวณที่ปรับปรุงใหม่จะให้คิดบนฐานของ ‘เงินต้นในค่างวดที่มีการผิดนัดชำระจริงง’ เท่านั้น โดยจะ
ไม่รวมเงินต้นในค่างวดตามสัญญาในอนาคตที่ยังมาไม่ถึง คือ การคิดดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้แบบใหม่จะคิด
บนฐานของเงินต้นในงวดที่ 25 เท่านั้น โดยจะไม่รวมเงินต้นในงวดที่ 26 ถึงงวดที่ 240
“หลักคิดสำคัญในเรื่องนี้ คือ การกำหนดดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้ต้องคำนึงถึงความเสียหายจริงที่เกิดขึ้นกับเจ้าหนี้
(credit risk) และความสามารถในการจ่ายของลูกหนี้ไปด้วยกัน ถ้าสูงเกินไปอาจเป็นต้นตอที่ทำให้ลูกหนี้ผิดนัด
ชำระหนี้ได้ (affordability risk)”นางธัญญนิตย์กล่าว
นางธัญญนิตย์ ยังระบุว่า สถานการณ์ปัจจุบันที่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ทำให้รายได้ของประชาชน
จำนวนมากลดลง จึงมีประชาชนจำนวนไม่น้อยที่อาจจะจ่ายค่างวดล่าช้าหรือไม่สามารถจ่ายได้ในช่วงนี้
ดังนั้น การคิดดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้แบบใหม่จะช่วยให้คนไทยมีโอกาสผิดนัดชำระหนี้โดยรวมลดลง
สำหรับการผิดนัดชำระหนี้ที่เกิดขึ้นก่อนวันที่ 1 พ.ค.2563 นางธัญญนิตย์ กล่าวว่า สถาบันการเงินสามารถนำ
หลักการคำนวณดอกเบี้ยผิดนัดแบบใหม่มาใช้ประกอบการพิจารณายกเว้นหรือผ่อนปรนดอกเบี้ยปรับผิดนัด
ชำระหนี้ให้แก่ลูกหนี้ได้ตามสมควร
หากประชาชนมีข้อสงสัยหรือไม่ได้รับความเป็นธรรม สามารถร้องเรียนได้ที่ ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน
ของแบงก์ชาติ โทร.1213
Cr. :
https://www.isranews.org/article/isranews-short-news/88521-bot_rate.html 
●● ธปท.ย้ำคิดดอกเบี้ย 'วิธีใหม่' มีผลแล้ว... สร้างความเป็นธรรม-ลด ‘หนี้เสีย’ ●●
เมื่อวันที่ 8 พ.ค. นางธัญญนิตย์ นิยมการ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน 2 ธนาคารแห่งประเทศไทย
(ธปท.) เปิดเผยว่า ...
ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.63 ที่ผ่านมา สถาบันการเงินได้เริ่มคิดดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้แบบใหม่ ซึ่งคิดบนฐานของเงินต้น
ของค่างวดที่ผิดนัดชำระจริง จากเดิมคิดดอกเบี้ยจากเงินต้นคงค้างทั้งหมด
โดยการปรับปรุงวิธีคิดดอกเบี้ยดังกล่าวจะสร้างความเป็นธรรมและช่วยลดภาระให้ประชาชน รวมทั้งลดโอกาสที่
ลูกหนี้จะไม่สามารถชำระหนี้คืนได้
“แนวทางใหม่นี้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติที่ดีที่ต่างประเทศใช้กัน ทั้งนี้ ประชาชนจะได้รับสิทธิจากการปรับปรุง
ในครั้งนี้โดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องไปขอแก้ไขสัญญา
ขณะที่การปรับปรุงครั้งนี้นอกจากจะทำให้เป็นธรรมมากขึ้นและช่วยลดภาระจ่ายของประชาชนแล้ว จะทำให้
ประชาชนเชื่อมั่นมากขึ้นด้วยว่าระบบการธนาคารของไทยมีแนวปฏิบัติที่โปร่งใส ตรงไปตรงมา ซึ่งหมายความว่า
การดำเนินธุรกิจของสถาบันการเงินจะมั่นคงขึ้นในระยะยาว” นางธัญญนิตย์กล่าว
นางธัญญนิตย์ อธิบายว่า เดิมการคิดดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้จะคิดบนฐานของ ‘เงินต้นคงค้างทั้งหมด’
เช่น สมมติว่าเรากู้ซื้อบ้าน 20 ปี ผ่อนจ่าย 240 งวด โดยช่วง 2 ปีแรก เราผ่อนชำระดีมาโดยตลอด แต่งวดที่ 25
มีปัญหาผ่อนชำระไม่ได้ สถาบันการเงินจะคิดดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้บนฐานของเงินต้นคงค้างทั้งหมด หรือคิด
ดอกเบี้ยเงินต้นตั้งแต่ในค่างวดที่ 25 ถึงงวดที่ 240
ส่วนการคำนวณที่ปรับปรุงใหม่จะให้คิดบนฐานของ ‘เงินต้นในค่างวดที่มีการผิดนัดชำระจริงง’ เท่านั้น โดยจะ
ไม่รวมเงินต้นในค่างวดตามสัญญาในอนาคตที่ยังมาไม่ถึง คือ การคิดดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้แบบใหม่จะคิด
บนฐานของเงินต้นในงวดที่ 25 เท่านั้น โดยจะไม่รวมเงินต้นในงวดที่ 26 ถึงงวดที่ 240
“หลักคิดสำคัญในเรื่องนี้ คือ การกำหนดดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้ต้องคำนึงถึงความเสียหายจริงที่เกิดขึ้นกับเจ้าหนี้
(credit risk) และความสามารถในการจ่ายของลูกหนี้ไปด้วยกัน ถ้าสูงเกินไปอาจเป็นต้นตอที่ทำให้ลูกหนี้ผิดนัด
ชำระหนี้ได้ (affordability risk)”นางธัญญนิตย์กล่าว
นางธัญญนิตย์ ยังระบุว่า สถานการณ์ปัจจุบันที่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ทำให้รายได้ของประชาชน
จำนวนมากลดลง จึงมีประชาชนจำนวนไม่น้อยที่อาจจะจ่ายค่างวดล่าช้าหรือไม่สามารถจ่ายได้ในช่วงนี้
ดังนั้น การคิดดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้แบบใหม่จะช่วยให้คนไทยมีโอกาสผิดนัดชำระหนี้โดยรวมลดลง
สำหรับการผิดนัดชำระหนี้ที่เกิดขึ้นก่อนวันที่ 1 พ.ค.2563 นางธัญญนิตย์ กล่าวว่า สถาบันการเงินสามารถนำ
หลักการคำนวณดอกเบี้ยผิดนัดแบบใหม่มาใช้ประกอบการพิจารณายกเว้นหรือผ่อนปรนดอกเบี้ยปรับผิดนัด
ชำระหนี้ให้แก่ลูกหนี้ได้ตามสมควร
หากประชาชนมีข้อสงสัยหรือไม่ได้รับความเป็นธรรม สามารถร้องเรียนได้ที่ ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน
ของแบงก์ชาติ โทร.1213
Cr. : https://www.isranews.org/article/isranews-short-news/88521-bot_rate.html