วันก่อนจัดหนังสือ เห็นกองนี้เข้า
แว่บแรกที่รู้สึกคือ ขำตัวเอง ... ว่ามี how to ประเภทนี้ ขนาดนี้เชียวหรือ
เขียนโดยผู้หญิงหลายเชื้อชาติทั้ง ไทย จีน ฝรั่ง
ว้าว ... มารีวิวสักหน่อยดีกว่า ว่าเบื้องหลังที่น่าสนใจของหนังสือพวกนี้ ไม่ได้อยู่แค่ที่ “ทำยังไงให้ผู้ชายรัก” แน่ ๆ แต่มันอยู่ภายใต้แนวคิดที่ว่า
เราเองไม่จำเป็นต้องตั้งหน้าตั้งตาคอยแต่การต้องไปเอาใจใคร แต่ควรพิจารณาว่า จะพัฒนาปรับปรุงตัวเองอย่างไร ให้เรามีความสุข มีความพอใจในตัวเอง จะวางใจเราอย่างไรให้เบิกบาน ถึงรู้ทันก็รู้จักปล่อยวางบ้าง เปิดใจยอมรับข้อบกพร่องของเราบ้าง กล้าปฏิเสธบ้าง กล้าโต้ตอบเอาคืนบ้างอย่างเหมาะสม และพัฒนาวางแผนชีวิตตัวเองให้ได้
เมื่อนั้น เมื่อเรามีความสุข ความภูมิใจ ความพอใจในตัวเองของเราทอแสงออกมา มันก็ดึงดูดให้คนมาชอบเราได้เอง
หรือถึงไม่ชอบก็ไม่เป็นไร อย่างน้อย เรามีความสุข อิ่มเต็มในตัวเรา จะอยู่คนเดียว หรืออยู่กับคนอื่น มันก็มีความสุขอยู่ดี
คำว่า “ร้าย” ในความหมายของดิฉัน ไม่ได้มีความหมายในเชิงลบไปเสียทุกอย่าง มันกินความไปถึง การกล้าโต้ตอบบ้าง การกล้ายืนหยัดปฏิเสธสิ่งที่ไม่ถูกต้องบ้าง และการยืนกรานที่จะเลือกในสิ่งที่ถูกต้องเหมาะสม
มาดูเล่มแรกกันนะคะ
สุภาษิตสอนหญิง ประพันธ์โดย
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงใช้พระนามแฝงว่า “อัญชัญ”
สุนทรภู่
แม้จะเป็นหนังสือที่ประพันธ์โดยผู้ชาย และอาจมีบางคนที่อ่านไม่จบจนครบถ้วน เพ่งจ้องแต่ไปที่บทที่ว่าด้วย เรื่องให้ต้องเอาใจผู้ชาย แต่จริง ๆ แล้ว สุภาษิตสอนหญิงบางบทบางตอนนี่ feminist มาก ๆ นะคะ
สุภาษิตของ “อัญชัญ” ได้เน้นย้ำไปถึงเนื้อหาที่ว่า อันคุณค่าของผู้หญิงไม่ได้อยู่แค่ที่รูปร่างหน้าตาอย่างเดียว แต่ผู้หญิงควรจะเรียนรู้สรรพวิทยาการต่าง ๆ ด้วย ที่บอกว่า Smart is the new sexy นี่ก็ไม่ใช่เป็น concept ที่ใหม่อะไร
ร.6 ท่านทรงประพันธ์ไว้ตั้งแต่เมื่อร้อยกว่าปีก่อนโน้นแล้ว
“อันสตรีที่งามด้วยความรู้
เป็นที่ชูโฉมเฉิดเลิศเฉลา
แต่อย่าเพียงเรียนเล่นพอเป็นเรา
ต้องเรียนเอารู้ดีจึงมีคุณ”
ส่วนท่านสุนทรภู่เอง ก็ไม่ได้แค่จะมาบอกกล่าวให้สตรีมัวแต่เอาอกเอาใจสามี แต่ท่านชี้ให้เห็นถึง “ความคิด” ของผู้ชาย (อย่างน้อยก็ในสมัยนั้น) พร้อมกับบอกเป็นนัย ๆ เลยว่า “ต้องรู้ให้ทันนะพวกเธอ”
ตัดมาตอนหนึ่งคือ สุนทรภู่ท่านโยนคำถามไว้ว่า
แม้นชายใด ใจประสงค์ มาหลงรัก
ให้รู้จัก เชิงชาย ที่หมายมั่น
อันความรัก ของชาย นี้หลายชั้น
เขาว่ารัก รักนั้น ประการใด
Keyword ในบทกลอนตอนนึ้คือคำว่า “รู้จัก”
ประโยคทองของซุนวู นักพิชัยยุทธจีน คือ
คำที่ว่า “รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง”
ประโยคนี้ ใช้ได้ไม่แต่เฉพาะการศึกเท่านั้น เรื่องอื่น ๆ ในชีวิต รวมถึงเรื่องของความสัมพันธ์ เราสามารถใช้คำว่า “รู้เขารู้เรา” มาประเมินจุดแข็ง จุดอ่อนของตัวเรา เพื่อดูว่า ตอนไหนควรเรียกร้อง ตอนไหนควรยอม เรื่องไหนยอมได้ เรื่องไหนยอมไม่ได้ และเรื่องไหนต้องรุกฆาต
หนังสือเรื่อง Why Men Love Bitches ของ Sherry Argov หรือที่รู้จักในภาษาไทยว่า “ผู้หญิงร้าย ผู้ชายรัก”
มี concept หลักเลยคือ อยากให้ผู้ชายรัก ผู้หญิงต้องรู้จัก “ร้าย” ซะบ้าง
คำว่าร้ายในบริบทนี้ ไม่ได้หมายความถึง การร้ายรั้น หรือ การเอาแต่ใจแบบโง่ ๆ แต่เป็นการร้ายแบบรู้เขา รู้เรา
รู้เขา คือ รู้ว่า เขาทำแบบนี้เพราะอะไร หรือ เพื่ออะไร
รู้เรา คือ รู้คุณค่าของตัวเองดีพอที่จะไม่ยอมเป็นของตายของใครทั้งนั้น
ขีดเส้นใต้คำว่า “รู้จักคุณค่าของตัวเอง” ไว้หนา ๆ นะคะ
ดิฉันคิดว่าคำนี้สำคัญมาก คนเราพอไม่รู้สึกว่าตัวเองมีค่า ก็มีแนวโน้มที่จะเป็นซึมเศร้าได้ง่ายค่ะ
คำโปรยจี๊ด ๆ ของเล่มคือ การบอกว่า
From doormat to dream girl จากพรมเช็ดเท้ากลายเป็นสาวในฝัน
(ฝรั่งมักเปรียบเทียบคนที่ยอมให้ใคร ๆ เหยียบย่ำว่าทำตัวเป็นพรมเช็ดเท้า)
เล่มนี้ น่าสนใจตรงที่ว่า มันปลุกให้ผู้หญิงลุกขึ้นมาตระหนักถึงคุณค่าของตัวเอง ด้วยการเขียนแบบมีอารมณ์ขัน เขียนเรียบ ๆ ง่าย ๆ สำนวนเธอ
สรุปย่อ ๆ ง่าย ๆ เลยว่า เธอแนะนำให้ผู้หญิง
1. เห็นค่าตัวเองแล้วผู้ชายจะเห็นค่า
2. ไม่ต้องรีบมี sex เล่นตัว เสียบ้าง
3. ยืนหยัดเป็นตัวของตัวเอง รู้จักพูดความต้องการของตัวเองออกไป
4. อย่าปล่อยให้ผู้ชายเห็นเป็นของตาย พูดจริงทำจริง ถ้าเขาหายหัว คุณก็ทำตัวให้เกินเอื้อมที่เขาจะคว้าได้
วรรคทองในเล่มที่ดิฉันชอบมากคือ ประโยคที่ Marlo Thomas พูด และคุณ เชอรี่ อาร์โกฟ เอาใส่ในเล่ม
นั่นคือ ประโยคที่ว่า
“One of the thing about equality is not that you be treated equally to a man, but that you treat yourself equally to the way you treat a man.”
สิ่งสำคัญเกี่ยวกับความเท่าเทียมระหว่างหญิงกับชาย ไม่ได้อยู่ที่คุณทำตัวให้เหมือนผู้ชาย เค้าทำอะไรได้ คุณก็ทำได้ ไม่ใช่แบบนั้น แต่มันอยู่ที่คุณปฏิบัติต่อตัวเองเหมือนที่ปฏิบัติต่อเค้า
คือ ไม่จำเป็นต้องทูนหัว ทูนเกล้า ยกเทิดผู้ชายไว้เหนือตัวเอง
เล่มต่อมาก็คือภาค 2 ของ Why Men Love Bitches ค่ะ แต่พอดีเล่มสอง เราไม่มีฉบับภาษาอังกฤษ มีฉบับของคุณกาละแมร์
เล่มนี้ ก็เข้มข้นกว่าเดิมนิดนึง ตรงที่ว่า หลังจากเป็นแฟนกันแล้ว ถ้าคุณอยากลงหลักปักฐานกับผู้ชายน่ะ ควรต้องทำอย่างไร
ส่วนที่น่าสนใจสำหรับเราในเล่มนี้คือ ประเด็นที่เล่มนี้จะพูดถึงเรื่องการรู้จักพึ่งพาตัวเองของผู้หญิง ว่าหากคุณเป็นตัวของตัวเองอย่างชาญฉลาด จัดสรรเงินในชีวิตอย่างชาญฉลาด และไม่แสดงความ “หน้าเงิน” “บ้าแบรนด์” ออกมา จะทำให้คุณสามารถ “ตีหัวผู้ชายลากเข้าถ้ำ” เอ้ย... ทำให้เขารู้สึกสะดวกใจ และไว้ใจที่จะใช้ชีวิตกับคุณได้มากกว่า
เราชอบประเด็นนี้มากค่ะ
คำแปลซี้ด ๆ หลายคำในนี้ ที่พอจะยกตัวอย่างมาพอสังเขปคือ
“ผู้ชายชื่นชมผู้หญิงที่ทำให้ชีวิตตัวเองดีขึ้นด้วยตัวของเธอเอง แต่ผู้ชายกลัวผู้หญิงที่พยายามไต่บันไดดาวด้วยเงินของพวกเขา” เจ็บไหมล่ะคะ ?
เรารักทัศนคติของคนเขียนหนังสือพวกนี้ ที่สอนให้ผู้หญิงรู้จักรักตัวเอง พึ่งพาตัวเอง ให้เวลาตัวเอง เห็นคุณค่าตัวเอง ไม่ต้องเฝ้ารอ พร้อมที่จะปรับตัวแต่ไม่ใช่การศิโรราบยอมไปเสียทั้งหมด
ส่วนเล่มที่เราว่า brilliant มาก ๆ เขียนสนุก มีประโยชน์ practical ทัศนคติดี คือ เล่มที่เขียนโดยคนไทยนี่แหละค่ะ คุณทิพถวิล (สินธุเสน) ชาตาคม
เล่มนี้ดีมาก เหนือกว่าหนังสือฝรั่งบางเล่มที่อ่านอีก
คุณทิพถวิล เธอโปรยปกหลังไว้ว่า
“ดิฉันอาจหาญเขียนเรื่องนี้ เพราะมั่นใจว่าตัวเองต้องมีอะไรดี ถึงได้อยู่ยั้งยืนยงกับผู้ชายรูปร่างหน้าตาหล่อเหลา ความรู้ดี มีกะตังค์มาได้กว่า 30 ปี ทั้งที่เขาคนนั้นทำงานอยู่ในวงล้อมของนางฟ้าที่ผลัดเปลี่ยนเวียนกันเข้ามาให้ยลโฉมไม่เว้นแต่ละวัน และที่สำคัญเขาไม่ได้อยู่อย่างซังกะตาย หรืออยู่แค่ตัว แต่หัวใจไปอาบอบนวด ซึ่งพิสูจน์ได้จากการที่พอเลิกงานปุ๊บก็ตรงดิ่งกลับบ้านทันที”
เล่มนี้ สนุกมากนะคะ อมรินทร์พริ้นติ้งพิมพ์ ใครจะจัดก็เรียนเชิญ
เล่มต่อมา ผู้หญิงอัศจรรย์ของพี่โจ มณฑานี ตันติสุข
เล่มนี้ ก็ดีงามสำหรับการเป็นผู้หญิงที่มีความสุข เพราะพูดถึงการวางแผนชีวิตของผู้หญิง การรู้จักตัวเอง การอยู่โดยไม่ต้องเฝ้ารอคอยว่าจะมีผู้ชายเข้ามาหรือไม่ การวางแผนการเงินของผู้หญิง กระทั่งเรื่อง sex และการถึงจุดสุดยอดของผู้หญิง
เขียนได้ดีงาม รายละเอียดดี ส่งเสริมให้คุณทำความเข้าใจกับความคิด สติปัญญา ร่างกายและจิตใจของคุณในทุกแง่มุม
อีกเล่มคือ คู่มือเป็นนางร้ายให้คนรัก
ก็เป็นหนังสือที่พูดคุยเกี่ยวกับแง่มุมต่าง ๆ ในการใช้ชีวิตของผู้หญิงได้ดี
มีคำถามบางอย่างที่ชวนขบคิด เช่น ควรรับเงินจากผู้ชายดีหรือไม่ ในโอกาสไหน
พูดถึงการเรื่องการแต่งตัว การไปทำความรู้จักกับเพื่อนของผู้ชายของคุณ
สอนกระทั่งเทคนิคการร้องไห้
บางหัวข้อก็ขำๆ ดีค่ะ
ส่วนสนุกของการอ่านหนังสือคือ คุณไม่จำเป็นต้องเชื่อหรือทำตามทุกอย่างที่หนังสือแนะนำก็ได้ค่ะ
แต่การอ่านจะเปิดโลกทัศน์และได้แลกเปลี่ยนมุมมองของคนเขียนซึ่งอาจจะอยู่ต่างสังคม เชื้อชาติ ศาสนากับเรา
แล้วเราจะได้รู้ว่า "คนอื่นเค้าคิดกันอย่างไรบ้าง"
Enjoy the read ค่ะ
[CR] รีวิวหนังสือผู้หญิง ผู้หญิง รวมถึงเล่ม“ผู้หญิงร้าย ผู้ชายรัก” จริงเหรอคะ ?
แว่บแรกที่รู้สึกคือ ขำตัวเอง ... ว่ามี how to ประเภทนี้ ขนาดนี้เชียวหรือ
เขียนโดยผู้หญิงหลายเชื้อชาติทั้ง ไทย จีน ฝรั่ง
ว้าว ... มารีวิวสักหน่อยดีกว่า ว่าเบื้องหลังที่น่าสนใจของหนังสือพวกนี้ ไม่ได้อยู่แค่ที่ “ทำยังไงให้ผู้ชายรัก” แน่ ๆ แต่มันอยู่ภายใต้แนวคิดที่ว่า
เราเองไม่จำเป็นต้องตั้งหน้าตั้งตาคอยแต่การต้องไปเอาใจใคร แต่ควรพิจารณาว่า จะพัฒนาปรับปรุงตัวเองอย่างไร ให้เรามีความสุข มีความพอใจในตัวเอง จะวางใจเราอย่างไรให้เบิกบาน ถึงรู้ทันก็รู้จักปล่อยวางบ้าง เปิดใจยอมรับข้อบกพร่องของเราบ้าง กล้าปฏิเสธบ้าง กล้าโต้ตอบเอาคืนบ้างอย่างเหมาะสม และพัฒนาวางแผนชีวิตตัวเองให้ได้
เมื่อนั้น เมื่อเรามีความสุข ความภูมิใจ ความพอใจในตัวเองของเราทอแสงออกมา มันก็ดึงดูดให้คนมาชอบเราได้เอง
หรือถึงไม่ชอบก็ไม่เป็นไร อย่างน้อย เรามีความสุข อิ่มเต็มในตัวเรา จะอยู่คนเดียว หรืออยู่กับคนอื่น มันก็มีความสุขอยู่ดี
คำว่า “ร้าย” ในความหมายของดิฉัน ไม่ได้มีความหมายในเชิงลบไปเสียทุกอย่าง มันกินความไปถึง การกล้าโต้ตอบบ้าง การกล้ายืนหยัดปฏิเสธสิ่งที่ไม่ถูกต้องบ้าง และการยืนกรานที่จะเลือกในสิ่งที่ถูกต้องเหมาะสม
มาดูเล่มแรกกันนะคะ
สุภาษิตสอนหญิง ประพันธ์โดย
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงใช้พระนามแฝงว่า “อัญชัญ”
สุนทรภู่
แม้จะเป็นหนังสือที่ประพันธ์โดยผู้ชาย และอาจมีบางคนที่อ่านไม่จบจนครบถ้วน เพ่งจ้องแต่ไปที่บทที่ว่าด้วย เรื่องให้ต้องเอาใจผู้ชาย แต่จริง ๆ แล้ว สุภาษิตสอนหญิงบางบทบางตอนนี่ feminist มาก ๆ นะคะ
สุภาษิตของ “อัญชัญ” ได้เน้นย้ำไปถึงเนื้อหาที่ว่า อันคุณค่าของผู้หญิงไม่ได้อยู่แค่ที่รูปร่างหน้าตาอย่างเดียว แต่ผู้หญิงควรจะเรียนรู้สรรพวิทยาการต่าง ๆ ด้วย ที่บอกว่า Smart is the new sexy นี่ก็ไม่ใช่เป็น concept ที่ใหม่อะไร
ร.6 ท่านทรงประพันธ์ไว้ตั้งแต่เมื่อร้อยกว่าปีก่อนโน้นแล้ว
“อันสตรีที่งามด้วยความรู้
เป็นที่ชูโฉมเฉิดเลิศเฉลา
แต่อย่าเพียงเรียนเล่นพอเป็นเรา
ต้องเรียนเอารู้ดีจึงมีคุณ”
ส่วนท่านสุนทรภู่เอง ก็ไม่ได้แค่จะมาบอกกล่าวให้สตรีมัวแต่เอาอกเอาใจสามี แต่ท่านชี้ให้เห็นถึง “ความคิด” ของผู้ชาย (อย่างน้อยก็ในสมัยนั้น) พร้อมกับบอกเป็นนัย ๆ เลยว่า “ต้องรู้ให้ทันนะพวกเธอ”
ตัดมาตอนหนึ่งคือ สุนทรภู่ท่านโยนคำถามไว้ว่า
แม้นชายใด ใจประสงค์ มาหลงรัก
ให้รู้จัก เชิงชาย ที่หมายมั่น
อันความรัก ของชาย นี้หลายชั้น
เขาว่ารัก รักนั้น ประการใด
Keyword ในบทกลอนตอนนึ้คือคำว่า “รู้จัก”
ประโยคทองของซุนวู นักพิชัยยุทธจีน คือ
คำที่ว่า “รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง”
ประโยคนี้ ใช้ได้ไม่แต่เฉพาะการศึกเท่านั้น เรื่องอื่น ๆ ในชีวิต รวมถึงเรื่องของความสัมพันธ์ เราสามารถใช้คำว่า “รู้เขารู้เรา” มาประเมินจุดแข็ง จุดอ่อนของตัวเรา เพื่อดูว่า ตอนไหนควรเรียกร้อง ตอนไหนควรยอม เรื่องไหนยอมได้ เรื่องไหนยอมไม่ได้ และเรื่องไหนต้องรุกฆาต
หนังสือเรื่อง Why Men Love Bitches ของ Sherry Argov หรือที่รู้จักในภาษาไทยว่า “ผู้หญิงร้าย ผู้ชายรัก”
มี concept หลักเลยคือ อยากให้ผู้ชายรัก ผู้หญิงต้องรู้จัก “ร้าย” ซะบ้าง
คำว่าร้ายในบริบทนี้ ไม่ได้หมายความถึง การร้ายรั้น หรือ การเอาแต่ใจแบบโง่ ๆ แต่เป็นการร้ายแบบรู้เขา รู้เรา
รู้เขา คือ รู้ว่า เขาทำแบบนี้เพราะอะไร หรือ เพื่ออะไร
รู้เรา คือ รู้คุณค่าของตัวเองดีพอที่จะไม่ยอมเป็นของตายของใครทั้งนั้น
ขีดเส้นใต้คำว่า “รู้จักคุณค่าของตัวเอง” ไว้หนา ๆ นะคะ
ดิฉันคิดว่าคำนี้สำคัญมาก คนเราพอไม่รู้สึกว่าตัวเองมีค่า ก็มีแนวโน้มที่จะเป็นซึมเศร้าได้ง่ายค่ะ
คำโปรยจี๊ด ๆ ของเล่มคือ การบอกว่า
From doormat to dream girl จากพรมเช็ดเท้ากลายเป็นสาวในฝัน
(ฝรั่งมักเปรียบเทียบคนที่ยอมให้ใคร ๆ เหยียบย่ำว่าทำตัวเป็นพรมเช็ดเท้า)
เล่มนี้ น่าสนใจตรงที่ว่า มันปลุกให้ผู้หญิงลุกขึ้นมาตระหนักถึงคุณค่าของตัวเอง ด้วยการเขียนแบบมีอารมณ์ขัน เขียนเรียบ ๆ ง่าย ๆ สำนวนเธอ
สรุปย่อ ๆ ง่าย ๆ เลยว่า เธอแนะนำให้ผู้หญิง
1. เห็นค่าตัวเองแล้วผู้ชายจะเห็นค่า
2. ไม่ต้องรีบมี sex เล่นตัว เสียบ้าง
3. ยืนหยัดเป็นตัวของตัวเอง รู้จักพูดความต้องการของตัวเองออกไป
4. อย่าปล่อยให้ผู้ชายเห็นเป็นของตาย พูดจริงทำจริง ถ้าเขาหายหัว คุณก็ทำตัวให้เกินเอื้อมที่เขาจะคว้าได้
วรรคทองในเล่มที่ดิฉันชอบมากคือ ประโยคที่ Marlo Thomas พูด และคุณ เชอรี่ อาร์โกฟ เอาใส่ในเล่ม
นั่นคือ ประโยคที่ว่า
“One of the thing about equality is not that you be treated equally to a man, but that you treat yourself equally to the way you treat a man.”
สิ่งสำคัญเกี่ยวกับความเท่าเทียมระหว่างหญิงกับชาย ไม่ได้อยู่ที่คุณทำตัวให้เหมือนผู้ชาย เค้าทำอะไรได้ คุณก็ทำได้ ไม่ใช่แบบนั้น แต่มันอยู่ที่คุณปฏิบัติต่อตัวเองเหมือนที่ปฏิบัติต่อเค้า
คือ ไม่จำเป็นต้องทูนหัว ทูนเกล้า ยกเทิดผู้ชายไว้เหนือตัวเอง
เล่มต่อมาก็คือภาค 2 ของ Why Men Love Bitches ค่ะ แต่พอดีเล่มสอง เราไม่มีฉบับภาษาอังกฤษ มีฉบับของคุณกาละแมร์
เล่มนี้ ก็เข้มข้นกว่าเดิมนิดนึง ตรงที่ว่า หลังจากเป็นแฟนกันแล้ว ถ้าคุณอยากลงหลักปักฐานกับผู้ชายน่ะ ควรต้องทำอย่างไร
ส่วนที่น่าสนใจสำหรับเราในเล่มนี้คือ ประเด็นที่เล่มนี้จะพูดถึงเรื่องการรู้จักพึ่งพาตัวเองของผู้หญิง ว่าหากคุณเป็นตัวของตัวเองอย่างชาญฉลาด จัดสรรเงินในชีวิตอย่างชาญฉลาด และไม่แสดงความ “หน้าเงิน” “บ้าแบรนด์” ออกมา จะทำให้คุณสามารถ “ตีหัวผู้ชายลากเข้าถ้ำ” เอ้ย... ทำให้เขารู้สึกสะดวกใจ และไว้ใจที่จะใช้ชีวิตกับคุณได้มากกว่า
เราชอบประเด็นนี้มากค่ะ
คำแปลซี้ด ๆ หลายคำในนี้ ที่พอจะยกตัวอย่างมาพอสังเขปคือ
“ผู้ชายชื่นชมผู้หญิงที่ทำให้ชีวิตตัวเองดีขึ้นด้วยตัวของเธอเอง แต่ผู้ชายกลัวผู้หญิงที่พยายามไต่บันไดดาวด้วยเงินของพวกเขา” เจ็บไหมล่ะคะ ?
เรารักทัศนคติของคนเขียนหนังสือพวกนี้ ที่สอนให้ผู้หญิงรู้จักรักตัวเอง พึ่งพาตัวเอง ให้เวลาตัวเอง เห็นคุณค่าตัวเอง ไม่ต้องเฝ้ารอ พร้อมที่จะปรับตัวแต่ไม่ใช่การศิโรราบยอมไปเสียทั้งหมด
ส่วนเล่มที่เราว่า brilliant มาก ๆ เขียนสนุก มีประโยชน์ practical ทัศนคติดี คือ เล่มที่เขียนโดยคนไทยนี่แหละค่ะ คุณทิพถวิล (สินธุเสน) ชาตาคม
เล่มนี้ดีมาก เหนือกว่าหนังสือฝรั่งบางเล่มที่อ่านอีก
คุณทิพถวิล เธอโปรยปกหลังไว้ว่า
“ดิฉันอาจหาญเขียนเรื่องนี้ เพราะมั่นใจว่าตัวเองต้องมีอะไรดี ถึงได้อยู่ยั้งยืนยงกับผู้ชายรูปร่างหน้าตาหล่อเหลา ความรู้ดี มีกะตังค์มาได้กว่า 30 ปี ทั้งที่เขาคนนั้นทำงานอยู่ในวงล้อมของนางฟ้าที่ผลัดเปลี่ยนเวียนกันเข้ามาให้ยลโฉมไม่เว้นแต่ละวัน และที่สำคัญเขาไม่ได้อยู่อย่างซังกะตาย หรืออยู่แค่ตัว แต่หัวใจไปอาบอบนวด ซึ่งพิสูจน์ได้จากการที่พอเลิกงานปุ๊บก็ตรงดิ่งกลับบ้านทันที”
เล่มนี้ สนุกมากนะคะ อมรินทร์พริ้นติ้งพิมพ์ ใครจะจัดก็เรียนเชิญ
เล่มต่อมา ผู้หญิงอัศจรรย์ของพี่โจ มณฑานี ตันติสุข
เล่มนี้ ก็ดีงามสำหรับการเป็นผู้หญิงที่มีความสุข เพราะพูดถึงการวางแผนชีวิตของผู้หญิง การรู้จักตัวเอง การอยู่โดยไม่ต้องเฝ้ารอคอยว่าจะมีผู้ชายเข้ามาหรือไม่ การวางแผนการเงินของผู้หญิง กระทั่งเรื่อง sex และการถึงจุดสุดยอดของผู้หญิง
เขียนได้ดีงาม รายละเอียดดี ส่งเสริมให้คุณทำความเข้าใจกับความคิด สติปัญญา ร่างกายและจิตใจของคุณในทุกแง่มุม
อีกเล่มคือ คู่มือเป็นนางร้ายให้คนรัก
ก็เป็นหนังสือที่พูดคุยเกี่ยวกับแง่มุมต่าง ๆ ในการใช้ชีวิตของผู้หญิงได้ดี
มีคำถามบางอย่างที่ชวนขบคิด เช่น ควรรับเงินจากผู้ชายดีหรือไม่ ในโอกาสไหน
พูดถึงการเรื่องการแต่งตัว การไปทำความรู้จักกับเพื่อนของผู้ชายของคุณ
สอนกระทั่งเทคนิคการร้องไห้
บางหัวข้อก็ขำๆ ดีค่ะ
ส่วนสนุกของการอ่านหนังสือคือ คุณไม่จำเป็นต้องเชื่อหรือทำตามทุกอย่างที่หนังสือแนะนำก็ได้ค่ะ
แต่การอ่านจะเปิดโลกทัศน์และได้แลกเปลี่ยนมุมมองของคนเขียนซึ่งอาจจะอยู่ต่างสังคม เชื้อชาติ ศาสนากับเรา
แล้วเราจะได้รู้ว่า "คนอื่นเค้าคิดกันอย่างไรบ้าง"
Enjoy the read ค่ะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้