เจ้าของกระทู้ตั้งใจจะแชร์ประสบการณ์และแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่น ในฤดูใบไม้ผลิที่สุดแสนจะโรแมนติก เพียงแต่ว่าเราไม่ได้ไปเป็นคู่แต่เราไปเป็นหมู่คณะ คณะที่ว่านี้ไม่ใช่คนอื่นไกลแต่คือ พี่สาว แม่สามี และคุณสามีของเจ้าของกระทู้เอง ว๊าว ว๊าว ว๊าว
ด้วยความที่ไปเที่ยวต่างประเทศ และเป็นการเดินทางด้วยตัวเองอีก และคราวนี้ไม่ได้ไปกันสองคนจึงทำให้มีความกังวลเป็นพิเศษ กลัวว่าครอบครัวจะลำบาก การเดินทางด้วยรถสาธารณะ การเดินเท้าวันละสิบกิโลเมตรอย่างต่ำ ไหนจะอาหารการกินที่ไม่คุ้นปากคุณแม่ พี่สาวไม่ทานเนื้อ คุณแม่ไม่ทานของดิบ และวิธีการเลือกที่พักที่ต้องจำกัดงบประมาณ T_T …. แค่คิดก็ยิ่งกังวลกันไปใหญ่แล้วว โชคดีที่มี"หมีทราเวล"เนรมิตรทุกสิ่งให้ได้ อย่างไม่ผิดหวัง….
…..ย้อนหลังไปเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2019 เราวางแผนจะไปดูซากูระสักครั้งในชีวิต และแน่นอนเหตุผลที่ตัดสินใจเลือกไปโตเกียวก็เพราะว่าตั๋วเครื่องบินลงนาริตะนั้นประหยัดสุดนั่นเอง เพราะช่วงที่ไปแน่นอนว่า High season ก็ทำใจอยู่แล้วว่าต้องเจอกับนักท่องเที่ยวมหาศาลแน่นอน
"หมีทราเวล"แนะนำว่า สิ่งแรกในการวางแผนเดินทางคือ List สถานที่ที่อยากไปแล้ววางแผนคร่าวๆกับเวลาที่เป็นไปได้ก่อน มีหลายๆที่น่าสนใจมากมาย แต่นื่องด้วยเลาที่จำกัด เราจึงมีแผนที่จะอยู่ในเมืองเป็นส่วนใหญ่เพื่อเที่ยวชมซากุระให้จุใจกันไปข้างนึง แผนของเราก็เลยออกมาหลวมๆแบบนี้
…. ซึ่งกว่าจะได้แผนคร่าวๆออกมาได้นี่ไม่ง่ายเลยจริงๆ รักพี่เสียดายน้อง นั่นก็อยากไปนี่ก็อยากดู ฮ่าๆๆ แต่ก็ต้องคิดถึงผู้ร่วมเดินทางเป็นหลัก ถ้าจัดหนักจัดต็มเที่ยวแบบหามรุ่งหามค่ำ อาจจะไม่ดีกับคุณแม่วัย 60 กว่าแน่นอน ดังนั้น ขอแบบพอเหมาะพอควรก็แล้วกัน พอคิดถึงคุณแม่สิ่งที่คิดไม่ตกอีกเรื่องที่สำคัญก็คือเรื่องที่พัก เพราะจากปกติที่เดินทางเที่ยวด้วยตัวเอง จะกินนอนที่ไหนยังไงก็ได้เน้นประหยัดไว้ก่อน นอนโฮสเทลถือเป็นเรื่องปกติ แต่ต้องไม่ใช่กับครั้งนี้แน่นอน เพราะไม่อย่างนั้น คงต้องโดนบ่นไปอีกหลายปีแน่แท้… เมื่อรู้อย่างนี้ "หมีทราเวล" ก็จัดที่พัก ได้ถูกใจเจ๊จริงๆ เป็นอพาร์ทเม้นขนาด 60ตารางเมตร 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น พร้อมห้องครัว อุปกรณ์ครบครัน ที่สำคัญ ใกล้สถานีรถไฟสถานี Yahiro station แค่ประมาณ 400 เมตร (ราคาต่อคืนประมาณ 4000 บาท แต่พอหาร 4 ออกมาหัวละพัน ก็ถือว่าคุ้มละ เผลอๆถูกกว่านอนโรงแรม แถมดีกว่าเพราะเรามีห้องครัวให้ทำอาหารเองได้) อย่างนี้ก็ถูกใจกับสามชิกที่กินอยากแบบกรุ๊บเราที่สุด คิดถูกที่ขนเอาเครื่องปรุงกับน้ำจิ้มซีฟู้ดมาจากไทย
ห้องนั่งเล่น และโต๊ะกินข้าว
ห้องนอนใหญ่
ห้องนอนเล็ก
ห้องครัว
ห้องน้ำ
สำหรับเรื่องการเดินทางเราใช้รถสาธารณะ รถไฟใต้ดินเป็นหลัก ไม่ค่อยน่ากังวลนักเพราะเรามีแผนที่อยู่ในมือนั่นก็คือ Google map นั่นเอง ฮ่าๆ แต่มีสิ่งนึงที่ต้องเตรียมตัวไปก็คือจองตั๋วรถบัสล่วงหน้าเพื่อเดินทางไป Kawaguchiko เพื่อชมภูเขาไฟฟูจิ เพราะหากไม่จองล่วงหน้ามีโอกาสที่ไม่ได้เดินทางรถบัสรอบแรกสูงมาก เพราะฟูจิเป็นสถานที่ฮอทฮิทของนักเดินทางทั่วโลก เราเลือกที่จะไปชมภูเขาไฟฟูจิเป็นที่แรกก็เพราะเราดูพยากรอากาศก่อนเดินทางสองอาทิตย์ หลายๆสำนักบอกตรงกันว่าวันนี้อากาศแจ่มใสที่สุด ดังนั้นไม่รอช้า หมีทราเลวก็จองตั๋ว online ให้เราทันที และก็ไม่ผิดหวังจริงๆ วิวสวยท้องฟ้าแจ่มใส…ถูกใจเจ๊อีกแล้ว
[CR] ประสบการณ์เดินทาง Tokyo-Fuji ชมซากุระ กับ"หมีทราเวล"
เจ้าของกระทู้ตั้งใจจะแชร์ประสบการณ์และแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่น ในฤดูใบไม้ผลิที่สุดแสนจะโรแมนติก เพียงแต่ว่าเราไม่ได้ไปเป็นคู่แต่เราไปเป็นหมู่คณะ คณะที่ว่านี้ไม่ใช่คนอื่นไกลแต่คือ พี่สาว แม่สามี และคุณสามีของเจ้าของกระทู้เอง ว๊าว ว๊าว ว๊าว
ด้วยความที่ไปเที่ยวต่างประเทศ และเป็นการเดินทางด้วยตัวเองอีก และคราวนี้ไม่ได้ไปกันสองคนจึงทำให้มีความกังวลเป็นพิเศษ กลัวว่าครอบครัวจะลำบาก การเดินทางด้วยรถสาธารณะ การเดินเท้าวันละสิบกิโลเมตรอย่างต่ำ ไหนจะอาหารการกินที่ไม่คุ้นปากคุณแม่ พี่สาวไม่ทานเนื้อ คุณแม่ไม่ทานของดิบ และวิธีการเลือกที่พักที่ต้องจำกัดงบประมาณ T_T …. แค่คิดก็ยิ่งกังวลกันไปใหญ่แล้วว โชคดีที่มี"หมีทราเวล"เนรมิตรทุกสิ่งให้ได้ อย่างไม่ผิดหวัง….
…..ย้อนหลังไปเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2019 เราวางแผนจะไปดูซากูระสักครั้งในชีวิต และแน่นอนเหตุผลที่ตัดสินใจเลือกไปโตเกียวก็เพราะว่าตั๋วเครื่องบินลงนาริตะนั้นประหยัดสุดนั่นเอง เพราะช่วงที่ไปแน่นอนว่า High season ก็ทำใจอยู่แล้วว่าต้องเจอกับนักท่องเที่ยวมหาศาลแน่นอน
"หมีทราเวล"แนะนำว่า สิ่งแรกในการวางแผนเดินทางคือ List สถานที่ที่อยากไปแล้ววางแผนคร่าวๆกับเวลาที่เป็นไปได้ก่อน มีหลายๆที่น่าสนใจมากมาย แต่นื่องด้วยเลาที่จำกัด เราจึงมีแผนที่จะอยู่ในเมืองเป็นส่วนใหญ่เพื่อเที่ยวชมซากุระให้จุใจกันไปข้างนึง แผนของเราก็เลยออกมาหลวมๆแบบนี้
…. ซึ่งกว่าจะได้แผนคร่าวๆออกมาได้นี่ไม่ง่ายเลยจริงๆ รักพี่เสียดายน้อง นั่นก็อยากไปนี่ก็อยากดู ฮ่าๆๆ แต่ก็ต้องคิดถึงผู้ร่วมเดินทางเป็นหลัก ถ้าจัดหนักจัดต็มเที่ยวแบบหามรุ่งหามค่ำ อาจจะไม่ดีกับคุณแม่วัย 60 กว่าแน่นอน ดังนั้น ขอแบบพอเหมาะพอควรก็แล้วกัน พอคิดถึงคุณแม่สิ่งที่คิดไม่ตกอีกเรื่องที่สำคัญก็คือเรื่องที่พัก เพราะจากปกติที่เดินทางเที่ยวด้วยตัวเอง จะกินนอนที่ไหนยังไงก็ได้เน้นประหยัดไว้ก่อน นอนโฮสเทลถือเป็นเรื่องปกติ แต่ต้องไม่ใช่กับครั้งนี้แน่นอน เพราะไม่อย่างนั้น คงต้องโดนบ่นไปอีกหลายปีแน่แท้… เมื่อรู้อย่างนี้ "หมีทราเวล" ก็จัดที่พัก ได้ถูกใจเจ๊จริงๆ เป็นอพาร์ทเม้นขนาด 60ตารางเมตร 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น พร้อมห้องครัว อุปกรณ์ครบครัน ที่สำคัญ ใกล้สถานีรถไฟสถานี Yahiro station แค่ประมาณ 400 เมตร (ราคาต่อคืนประมาณ 4000 บาท แต่พอหาร 4 ออกมาหัวละพัน ก็ถือว่าคุ้มละ เผลอๆถูกกว่านอนโรงแรม แถมดีกว่าเพราะเรามีห้องครัวให้ทำอาหารเองได้) อย่างนี้ก็ถูกใจกับสามชิกที่กินอยากแบบกรุ๊บเราที่สุด คิดถูกที่ขนเอาเครื่องปรุงกับน้ำจิ้มซีฟู้ดมาจากไทย
ห้องนั่งเล่น และโต๊ะกินข้าว
ห้องนอนใหญ่
ห้องนอนเล็ก
ห้องครัว
ห้องน้ำ
สำหรับเรื่องการเดินทางเราใช้รถสาธารณะ รถไฟใต้ดินเป็นหลัก ไม่ค่อยน่ากังวลนักเพราะเรามีแผนที่อยู่ในมือนั่นก็คือ Google map นั่นเอง ฮ่าๆ แต่มีสิ่งนึงที่ต้องเตรียมตัวไปก็คือจองตั๋วรถบัสล่วงหน้าเพื่อเดินทางไป Kawaguchiko เพื่อชมภูเขาไฟฟูจิ เพราะหากไม่จองล่วงหน้ามีโอกาสที่ไม่ได้เดินทางรถบัสรอบแรกสูงมาก เพราะฟูจิเป็นสถานที่ฮอทฮิทของนักเดินทางทั่วโลก เราเลือกที่จะไปชมภูเขาไฟฟูจิเป็นที่แรกก็เพราะเราดูพยากรอากาศก่อนเดินทางสองอาทิตย์ หลายๆสำนักบอกตรงกันว่าวันนี้อากาศแจ่มใสที่สุด ดังนั้นไม่รอช้า หมีทราเลวก็จองตั๋ว online ให้เราทันที และก็ไม่ผิดหวังจริงๆ วิวสวยท้องฟ้าแจ่มใส…ถูกใจเจ๊อีกแล้ว
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้