กลุ่มคิง เพาเวอร์ตอบจดหมาย "บิ๊กตู่" ยันจ่ายเงินเดือนพนักงาน 12,000 คนเต็ม/ไม่มีเลิกจ้าง ทุ่มพันล้านช่วยเหลือสังคม เสนอ 7 ทางออกท่องเที่ยว
เผยแพร่: 2 พ.ค. 2563 15:53 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
MGR Online - กลุ่มคิงเพาเวอร์ได้ใจพนักงานยันจ่ายเงินเดือน 1.2 หมื่นคนเต็มแม้ท่องเที่ยวฟุบ-สาขาถูกปิดหมด ยันไม่มีนโยบายเลิกจ้าง พร้อมทุ่มโครงการเพื่อสังคมอีกนับพันล้าน พร้อมเสนอ 7 ข้อ เพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวไทย
วันนี้ (2 พ.ค.) กลุ่มคิง เพาเวอร์ ยักษ์ใหญ่ด้านสินค้าปลอดภาษีของไทย และถือเป็นบริษัทไทยที่ชื่อเสียงในระดับโลก เผยแพร่เนื้อหาเพื่อตอบจดหมาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกรณีที่ก่อนหน้านี้ในเดือนเมษายน 2563 ออกแถลงการณ์ว่า ได้ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศไทย 20 ท่าน เพื่อร่วมกันช่วยเหลือประเทศ และร่วมเป็นทีมประเทศไทยท่ามกลางวิกฤตที่เกิดจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัส สายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19
ทั้งนี้กลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ ของครอบครัวศรีวัฒนประภา ซึ่งนายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนะประภา ซีอีโอของกลุ่มได้รับการจัดอันดับอยู่ในลำดับที่ 6 ของมหาเศรษฐีไทยจากการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บส์ ระบุใจจดหมายตอบนายกรัฐมนตรีว่า เพื่อรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 บริษัทมีมาตรการสำหรับพนักงานด้วยการจ่ายเงินเดือนพนักงานจำนวน 12,000 คน เต็มจำนวนตั้งแต่เดือนมกราคม 2563 และไม่มีนโยบายเลิกจ้างงาน แม้ว่าสาขาทั้งหมดของกลุ่มบริษัทฯ จะถูกปิดทำการตามนโยบายความปลอดภัยของรัฐก็ตาม
นอกจากนี้ยังมีนโยบาย การแจกหน้ากากอนามัย และมาตรการคัดกรองโรคให้กับพนักงานอย่างเคร่งครัด มีการขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์เพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่พนักงาน นอกจากนี้ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคมเป็นต้นมายังมีนโยบายทำงานที่บ้าน (Work From Home) เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อจากการเดินทางอีกด้วย
กางโครงการเพื่อสังคมปี 63-65 ทุ่มนับพันล้าน
กลุ่มคิงเพาเวอร์ยังเปิดเผยถึงงบประมาณในโครงการเพื่อสังคมที่จะมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องในปีงบประมาณ 2563-2565 รวมมูลค่ามากกว่า 1400 ล้านบาท ประกอบไปด้วยโครงการด้านเยาวชน, ด้านสาธารณสุข, พัฒนาสังคมในด้านชุมชนและเศรษฐกิจชุมชน, เพื่อสนับสนุนทางการแพทย์ และโครงการเพื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวประเทศไทย ทั้งนี้สามโครงการหลังถือเป็นโครงการใหม่ ที่ใช้เงินประมาณ 719.5 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน กลุ่มคิงเพาเวอร์ยังมีข้อเสนอด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวไทยที่หยุดชะงักจากวิกฤตโควิด-19 จำนวน 7 ข้อดังนี้
1.ตั้งกองทุนเพื่อธุรกิจการท่องเที่ยว
2.จัดเตรียมประกันภัย Covid-19 สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศไทย
3.การจัดคลัสเตอร์ กลุ่มจังหวัดเพื่อการท่องเที่ยว
4.การพัฒนาระบบ E-Visa on Arrival การตรวจคนเข้าเมืองและการบริหารจัดการสลอตการบิน
5.การพัฒนาองค์ความรู้การท่องเที่ยวแนวใหม่ที่สอดคล้องกับวิถีใหม่ (New Normal)
6.การพัฒนาซูเปอร์ แอปพลิเคชัน สำหรับการท่องเที่ยวภายในประเทศไทย และสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศ
7.แก้ไขปัญหาเรื่องความไม่เพียงพอของมัคคุเทศก์สำหรับนักท่องเที่ยวบางสัญชาติ
https://mgronline.com/onlinesection/detail/9630000046056
ลุงตู่ตั้งอัศวินร่วมแก้ไขปัญหาคราวนี้ไม่ผิดหวังเลยค่ะ
ทุกคนเต็มใจทำงานอย่างที่น่าปลื้มใจแทนรัฐบาลและประชาชน
อัศวินมองไปในอนาคตสมเป็นอัศวินทางเศรษฐกิจ
แบบนี้ประเทศไทยชนะโควิด19 อย่างเดียวไม่พอ
ประเทศไทยจะแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจได้โดยเร็วเช่นกัน
ลุงตู่สมเป็นทหารที่ใช้กลยุทธเผด็จศึกเฉียบขาดค่ะ
รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง....👍👌👍👌👍👌👍
ยอดเยี่ยมค่ะ....👍💕👍💕👍💕👍💕👍💕👍💕
🕊🕊🕊มาลาริน/อัศวินโต๊ะกลมของลุงตู่มาอีกแล้วค่ะ...กลุ่มคิง เพาเวอร์ตอบจดหมาย"บิ๊กตู่" ยันจ่ายเงินเดือนพนักงาน 12,000 คน
เผยแพร่: 2 พ.ค. 2563 15:53 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
MGR Online - กลุ่มคิงเพาเวอร์ได้ใจพนักงานยันจ่ายเงินเดือน 1.2 หมื่นคนเต็มแม้ท่องเที่ยวฟุบ-สาขาถูกปิดหมด ยันไม่มีนโยบายเลิกจ้าง พร้อมทุ่มโครงการเพื่อสังคมอีกนับพันล้าน พร้อมเสนอ 7 ข้อ เพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวไทย
วันนี้ (2 พ.ค.) กลุ่มคิง เพาเวอร์ ยักษ์ใหญ่ด้านสินค้าปลอดภาษีของไทย และถือเป็นบริษัทไทยที่ชื่อเสียงในระดับโลก เผยแพร่เนื้อหาเพื่อตอบจดหมาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกรณีที่ก่อนหน้านี้ในเดือนเมษายน 2563 ออกแถลงการณ์ว่า ได้ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศไทย 20 ท่าน เพื่อร่วมกันช่วยเหลือประเทศ และร่วมเป็นทีมประเทศไทยท่ามกลางวิกฤตที่เกิดจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัส สายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19
ทั้งนี้กลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ ของครอบครัวศรีวัฒนประภา ซึ่งนายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนะประภา ซีอีโอของกลุ่มได้รับการจัดอันดับอยู่ในลำดับที่ 6 ของมหาเศรษฐีไทยจากการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บส์ ระบุใจจดหมายตอบนายกรัฐมนตรีว่า เพื่อรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 บริษัทมีมาตรการสำหรับพนักงานด้วยการจ่ายเงินเดือนพนักงานจำนวน 12,000 คน เต็มจำนวนตั้งแต่เดือนมกราคม 2563 และไม่มีนโยบายเลิกจ้างงาน แม้ว่าสาขาทั้งหมดของกลุ่มบริษัทฯ จะถูกปิดทำการตามนโยบายความปลอดภัยของรัฐก็ตาม
นอกจากนี้ยังมีนโยบาย การแจกหน้ากากอนามัย และมาตรการคัดกรองโรคให้กับพนักงานอย่างเคร่งครัด มีการขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์เพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่พนักงาน นอกจากนี้ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคมเป็นต้นมายังมีนโยบายทำงานที่บ้าน (Work From Home) เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อจากการเดินทางอีกด้วย
กางโครงการเพื่อสังคมปี 63-65 ทุ่มนับพันล้าน
กลุ่มคิงเพาเวอร์ยังเปิดเผยถึงงบประมาณในโครงการเพื่อสังคมที่จะมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องในปีงบประมาณ 2563-2565 รวมมูลค่ามากกว่า 1400 ล้านบาท ประกอบไปด้วยโครงการด้านเยาวชน, ด้านสาธารณสุข, พัฒนาสังคมในด้านชุมชนและเศรษฐกิจชุมชน, เพื่อสนับสนุนทางการแพทย์ และโครงการเพื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวประเทศไทย ทั้งนี้สามโครงการหลังถือเป็นโครงการใหม่ ที่ใช้เงินประมาณ 719.5 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน กลุ่มคิงเพาเวอร์ยังมีข้อเสนอด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวไทยที่หยุดชะงักจากวิกฤตโควิด-19 จำนวน 7 ข้อดังนี้
1.ตั้งกองทุนเพื่อธุรกิจการท่องเที่ยว
2.จัดเตรียมประกันภัย Covid-19 สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศไทย
3.การจัดคลัสเตอร์ กลุ่มจังหวัดเพื่อการท่องเที่ยว
4.การพัฒนาระบบ E-Visa on Arrival การตรวจคนเข้าเมืองและการบริหารจัดการสลอตการบิน
5.การพัฒนาองค์ความรู้การท่องเที่ยวแนวใหม่ที่สอดคล้องกับวิถีใหม่ (New Normal)
6.การพัฒนาซูเปอร์ แอปพลิเคชัน สำหรับการท่องเที่ยวภายในประเทศไทย และสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศ
7.แก้ไขปัญหาเรื่องความไม่เพียงพอของมัคคุเทศก์สำหรับนักท่องเที่ยวบางสัญชาติ
https://mgronline.com/onlinesection/detail/9630000046056
ลุงตู่ตั้งอัศวินร่วมแก้ไขปัญหาคราวนี้ไม่ผิดหวังเลยค่ะ
ทุกคนเต็มใจทำงานอย่างที่น่าปลื้มใจแทนรัฐบาลและประชาชน
อัศวินมองไปในอนาคตสมเป็นอัศวินทางเศรษฐกิจ
แบบนี้ประเทศไทยชนะโควิด19 อย่างเดียวไม่พอ
ประเทศไทยจะแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจได้โดยเร็วเช่นกัน
ลุงตู่สมเป็นทหารที่ใช้กลยุทธเผด็จศึกเฉียบขาดค่ะ
รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง....👍👌👍👌👍👌👍
ยอดเยี่ยมค่ะ....👍💕👍💕👍💕👍💕👍💕👍💕