กรณีรถชน ไม่จ่ายค่าสินไหมได้ไหมครับ

เพิ่งขับรถชนคนเจ็บมาครับ วัยรุ่นชายอายุ 18 อาการกระดูกขาร้าวแต่ไม่หัก ใส่เฝือก 2 เดือน ตอนนี้ถอดเฝือกแล้วครับเดินได้เกือบปกติ ไม่เคยต้องนอนโรงพยาบาล
 
คราวนี้ค่าสินไหมในตอนแรกคนเจ็บเรียก 10,000 บาท แต่แม่คนเจ็บขอรักษาให้หายดีก่อน
 รักษาไปได้ระยะ เรียกเป็น 40,000 บาท แต่ขอถอดเฝือกก่อนค่อยไปทำเรื่องที่โรงพัก
พอถอดเฝือก บอกขอเรียก 90,000 บาท เหตุผลคือการทำกิจวัตรประจำวันลำบากเลยต้องเรียกเท่านี้
(คนเจ็บไม่ได้ทำงาน ไม่มีรายได้  ไม่ได้ทำอะไรเลยเดิมทีอยู่บ้านเฉยๆ พูดตรงๆคือน้องเค้าเป็นเด็กแว้นครับ)
 
ผมทำทุกทางแล้วที่จะรับผิดชอบ ค่าซ่อมรถผมก็จ่ายไปแล้ว
 แต่ค่าสินไหมมันขึ้นไม่หยุดเลยครับ ยิ่งอาการดีขึ้นยิ่งเรียกแพงขึ้น  แรกๆดูเข้าอกเข้าใจผมทุกอย่าง หลังๆไม่ยอมท่าเดียว ทั้งคำหยาบเริ่มมาเวลาเจรจากัน ผมก็ก้มหน้ารับ  แต่แม่คนเจ็บก็ยังไม่มีท่าทีจะยอม จนผมเริ่มทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน  เลยโทรไปถามทนายที่เค้าให้ปรึกษาฟรีบอกว่า การเรียกค่าสินไหมต้องเรียกตามเหตุเหมาะสม เรียก 90,000 นี้คือค่าอะไร? ในเมื่อไม่ได้มีรายได้อยู่แล้ว ไม่ได้เสียโอกาสเสียรายได้อะไร เพราะฉะนั้นการที่ผมรับผิดชอบรถ และสำรองค่ารักษาพยาบาล ถือเป็นการเยียวยาไม่ทอดทิ้งแล้ว ค่าสินไหมที่เรียกมา 90,000 นี้มันเกินจริงไปมาก สำหรับคนที่ไม่ได้เสียประโยชน์รายได้อะไร

ผมควรไปในทิศทางไหนดีครับ ทนายบอกว่าให้ฟ้องไปเลย เพราะเรียกเว่อร์แบบนี้ยังไงศาลก็เห็นใจเรา เผลอๆยกฟ้อง 
ผมเองตอนนี้ไม่มีจะกินเหมือนกัน สำหรับคนที่พอมีกินผมก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงให้เข้าใจว่ายามคนไม่มีมันก็ไม่มีแล้วจริงๆ ตอนนี้ถ้าเรียก 10,000 นึงเหมือนเดิม ผมพร้อมจะกู้นอกระบบมาให้เลย แต่ถ้ามากกว่านั้นก็จนปัญญาแล้วจริงๆ  ถ้ากู้ 90,000 วันนี้ พรุ่งนี้เจ้าหนี้ก็มาฆ่าแล้วครับ เพราะไม่มีเงินส่งขนาดนั้น
หรือถ้าผมทำแบบที่ทนายแนะนำไปเลยดีไหม เพราะแม่คนเจ็บตอนนี้ทำตัวไม่น่าสงสารอีกต่อไปแล้ว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่