ประมาณ เกือบสองเดือนแล้วโดยประมาณที่ผมคิดว่า ประเทศไทยถูกโควิดเข้ามามีผลกระทบแบบชัดเจน แน่นอนมีคนป่วย มีคนเสียชีวิต และ เศรษฐกิจก็กระทบ รายได้ก็กระทบ เรื่องไม่ดีหลายๆเรื่อง กระทบ บอลไม่ได้ดู หนังไม่ได้ดู ห้างไม่ได้เดิน งานไม่ได้ทำ รายได้ไม่มี และ อื่นๆอีกที่ผมไม่อยากจะพูด
แต่ เรามามองกัน แบบแง่มุมอื่นละ ใครคิดว่ามีมุมไหนกันบ้าง สำหรับผมนั้นคิดดังนี้
1. ไม่มีประเทศไหน ในโลกนี้จะมีบุคลากรทางการแพทย์ เพียงพอสำหรับโรคระบาดขนานใหญ่ได้ ดูจากรายชื่อประเทศที่มีผุ้ติดเชื้อสูงสุดต้นๆ เช่น สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เยอรมัน อังกฤษ ส่วน อิตาลี สเปน ผมว่า เขาเศรษฐกิจแย่มาตั้งแต่สมัยจะเปลี่ยนเงินสกุลประเทศต่างๆ เป็นเงินยูโรแล้วน่ะ อิตาลี หนี้เยอะ สเปน จนพอกัน ยกเว้น บาร์เซโลน่า ( อันนี้เท่าที่ผม เหลือบๆดูนะครับ )
แต่พอมีโรคระบาด แบบ โควิด ที่มีความสามารถในการแพร่เชื้อมในระยะประชิด ถ้าเป็นหนังฝรั่งเขาเรียก พวกถนัดแบบนี้ว่า Hand to Hand combat คือเก่งระยะประชิด คือจะติดกันได้ ต้องใกล้ชิด หรือสัมผัส อย่างที่เรารู้กัน แต่ด้วยพฤติกรรม ( อันนี้ข้อถัดไป ) ของคนต่างชาติ ก็ทำให้ระบาดในวงกว้างและรวดเร็ว จน ไม่ว่าจะ เยอรมัน อังกฤษ อเมริกา ญี่ปุ่น สวีเดน ที่ไหนที่ว่า สวัสดิการภาครัฐดี ก็เอาไม่อยู่ เพราะมันเยอะเกินไป หมอและพยาบาล ทั่วโลกมีไม่พอคนป่วย ถ้ามันระบาดหนักแบบที่เห็น
2. พฤติกรรมของแต่ละท้องถิ่น ว่ากันตรงๆไม่เสียเวลา ยุโรป ฝรั่งว่างั้น ชอบจับมือ กอด โอลาฟ ไลค์ วอร์มฮัค ( ผมชอบ การ์ตูน โฟรเซ็น ขอแทรกนิดนึง ) แล้วก็ที่เหมือนประเพณี ที่สาวๆฝรั่งไม่ถือแต่สาวไทยจะถือก็คือ แก้มชนกัน หายใจรดกัน อันนี้เลยครับ โควิด เหมือนถูกออกแบบให้มาเป็นปัญหากับประเทศที่มีวัฒนะธรรมการทักทายแบบนี้ ระยะประชิด กอดติด ชิดแนบ ทำให้กว่าจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ก็สายเกินไป ผมว่ามันน่าเศร้านะ เพราะคนไทยที่ติดต่องานกับชาวต่างชาติก็ติดมาจากพฤติกรรมแบบนี้
3 ระบบคมนาคม หรือ Infrastructure ขนส่งที่เจริญของยุโรป และ อเมริกา ไปไหนมาไหนสะดวก ขึ้นรถไฟฟ้า ต่อรถไฟฟ้า รถบัส ต่อเรือ อเมริกานี่ จากเมืองนึงไปอีกเมืองนึง สบาย รถไฟฟ้ายูโรสตาร์วิ่งข้ามประเทศ และ โควิด ก็ได้ใช้บริการรถไฟฟ้านี่ละครับ แพร่สู่ยุโรปในหลายประเทศ แล้วไปต่อรถ ต่อเรือเอา ยิ่งเจริญมาก โรคระบาดก็แพร่กระจายรวดเร็ว และครอบคลุมมาก ผมมีเพื่อนร่วมงานเป็นคนฝรั่งเศส แต่ตอนนี้อยู่ไทยมาสิบกว่าปี เขาบอกว่า เดินไป สวิตเซอร์แลนด์ กับ เยอรมัน ในวันเดียวสบายๆ เหอะๆ ไฟรส์บวร์ก บาเซิ่ล และ สตาร์สบรูก ผมยังเคยคิดเลยว่า ดีจริงๆ แต่ตอนนี้คิดว่า เออ อยู่เมืองไทยไปไหนมาไหน ลำบากๆ นี่ดีจริงๆ ดีกว่าเมืองเจริญๆ ก็เวลาแบบนี้ละมั้ง
รถไฟฟ้า ใน ตปท คิดเล่นๆ คนติดโควิด 1 คน ตอนเช้าเข้าหนึ่งโบกี้ แพร่เชื้อให้คนรอบตัวสัก 6 คน แล้ว 6 คนนั้นยังไม่มีอาการ แต่ไปแพร่ในที่ทำงานได้ อีกไม่รู้เท่าไหร่ แล้ว ตอนเย็น 7 คนนี้ ขึ้นคนละโบกี้ คนละขบวน แพร่ไปอีก 7 คูณ 7 ก็ ตอนเย็นได้ 49 คน แล้ว ก็ไปทวีคูณกันในวันถัดไป และสถานที่ต่างๆ นี่คือผมมองสำหรับในยุโรปนะ ว่าทำไมมันถึงติดกันเยอะขนาดนี้ แต่นี่ก็แค่มองภาพสถุานที่แพร่แหล่งใหญ่ แต่มีอีกเยอะ ไม่ว่าจะเรือสำราญ และวิถีชีวิตคนตะวันตก
4 ผมคิดถึงว่า การใช้เงินของผม ถ้าผมใช้เงิน เพื่อใช้ชีวิต เที่ยวจนเกินตัว ไร้เงินเก็บ ตอนนี้ จะเป็นไงนะ ถ้าตกงาน ผมเคยได้เงินเดือนน้อย เคยชินกับการไม่มี และ คำขวัญคือ ไม่มี ไม่เป็นไร สำหรับของไม่จำเป็น และคงมีโชคในเรื่อง เที่ยว กิน ส่วนใหญ๋บริษัทจัดพาไป ในหลายรูปแบบ เราก็เลยไม่ต้องออกตังค์เที่ยวเอง ผมชอบแค่ ไปดูหนัง กินอาหาร ไม่ได้ติด คาราโอเกะ ไม่ได้ไปใช้เงินเอาเป็นแบบนั้น พอเงินเดือนขึ้น ก็ใช้เงินเหมือนตอนเงินเดือนน้อย คือ ไม่ได้บอกว่า ชีวิตผมดีนะครับ แต่ นาทีนี้ สำหรับคนทีเคยมีรายได้ดี แต่ใช้หมด เป็นหนี้ ถ้าผ่อนรถ ผ่อนบ้านก็แล้วไป แต่บางคน เป้นหนี้เพราะไปเที่ยว อา มีจริงน้า คนรอบตัวผม เยอะครับ ไป ดูออโรร่า ไปดู ซากูระ ไปตามรอยละครเกาหลี ยืมเขาทั้งนั้น มันก็ไม่ได้เยอะหรอก แต่ดันชอบเที่ยวผับ และอื่นๆอีกเยอะ มาถึงเวลานี้แล้ว สรุปว่า มีเงินก็เก็บไว้เหอะ ไอ้คำว่า จะเก็บไว้ให้ใครวะ หรือ มีเงินไม่รู้จักใช้ ก็ตอนนี้ละ ผมรู้แล้วว่า เออ เรารู้จักใช้เงินนี่หว่า หลงน้อยใจคนอื่นเขาด่าตั้งนาน หึหึ
5 ความไม่แน่นอน ใครจะไปคิด บอลยูโร กีฬาโอลิมปิค นี่มันสองรายการใหญ่นะ ยังเลื่อนแบบไม่คิด ลิเวอร์พุล จะได้แชมป์แค่อีกเอื้อมมือคืบเดียว ก็ยังไม่ได้ โควิด มาจากไหน กว่าเราจะรู้ ก็มีผลกระทบหนักแล้ว ดังนั้น เหมือนสองปีก่อนที่ผมเสียเพื่อนในปีเดียว 2 คน เพื่อนอายุน้อยกว่าผมด้วย ไม่เคยมีอาการอะไรเลย แต่เสียชีวิตไปด้วยอาการป่วยกระทันหัน กับป่วยหนัก เรื่องแบบนี้ ก็ทำให้คิดว่า แม้ถนนนักเขียนจะมีเรื่องคุยกันสนุก บางทีเหมือนเด็ก แต่เราก็ผู้ใหญ่แล้ว ฮึ่มๆ กระแอมดุๆหน่อยจะได้เชือว่า นี่ผุ้ใหญ่คุยอยู่ แห่ะๆ สังขารไม่เที่ยงนะครับ ชีวิตไม่แน่นอน หลายเรื่องอธิบายไม่ได้ว่า ทำไม มันต้องเป็นแบบนี้ ทำไมต้องเป็นเรา เรื่องปลงน่ะพูดง่าย ทำจริงก็ไม่แน่ว่าจะทำได้กับคำว่าปลง ทำไมน้อ เวลารถติด เห็นผู้หญิงสวยๆสาวๆ นุ่งสั้นๆ ทำกระเป๋าตังค์ตก ก้มเก็บแบบเรามั่นใจแล้วว่า จะได้เห็นวิวดีๆแน่นอน แล้ว รถเมล์ก็มาจอดบัง บังหมดเลย นี่ละครับ ความไม่แน่นอน
6. ผู้คน ดูข่าวอ่านพันทิป เห็นน่ะ ว่าคนเรายามสถานการณ์มันผิดปกติ ใครทำอะไรกันบ้าง ไม่ได้ตัดสินว่าอะไรดีไม่ดี แต่ก็เห็น แล้วก็ความคิดคนมันห้ามไม่ได้นะ คือ คนตดเราก็เหม็น เกลียดมันดันตดในลิฟท์ หนีก็ไม่ได้ ไอ้...... แต่พอไปเล่าให้ใครฟัง เขาก็ขำ เราก็ขำ จริงไหม หลายเรื่องเกิด เรียกว่า เดาได้เลยว่าต้องเกิด มันก็เกิด บางเรื่องก็ไม่คิดว่าจะมีแบบนี้ ก็มีให้เห็น ดูไว้เถอะครับ โควิด เปิดโลกให้เราในอีกแง่มุมถ้าคุณจะเลือกมองดู คนเอาเปรียบกัน หน้ากากใช้แล้วซัก เฮ้ยมันคิดได้ไม่แคร์ชีวิตคนแฮะ เจลปลอม เออ คนเราก่อนโควิดมาเป็นอย่างไร ตอนโควิดมาถึงก็แสดงตนเหมือนเดิม คือซ้ำเติมความเดือดร้อน ไม่สนละครับเวลาไหน เอาเปรียบกันได้ ไม่อายใคร
แต่ผมดูข่าวคนตาบอกขาล็อตเตอรี่ ต้องหยุดขาย แต่เขาไม่หยุดทำงาน เขาไปหาอย่างอื่นมาขาย เป็นผลไม้ดอง เออ ผมเจอคนถามว่า แล้วเขาจะดูผลไม้อย่างไรว่า ที่ขายไปดีไหม ผมไม่ได้นึกแบบคนที่ถามแฮะ ผมมองแค่ว่า คนตาบอดพิการแท้ๆ เขายังดิ้นรนอย่างสุจริต เห็นมั้ยครับ นี่ผมยังไม่เห็นข่าวคนปล้นกันแล้วบอกว่า เพราะขาดรายได้จากการแพร่ระบาดของโควิดนะ ซึ่งก็เรียกว่ายังดี เพราะคนเราจะลำบากขนาดไหน ถ้าส่วนลึกไม่เคยคิดปล้น ต่อให้ลำบาก เขาก็ไม่แม้แต่จะคิด แต่คนที่ปล้น ต่อให้ไม่มีโควิด ก็ปล้นครับ ดังนั้น คนเราต้องระวังความคิด เพราะมันคือพื้นฐานของการกระทำ แม้ว่า สถาณการณ์และสิ่งแวดล้อมจะชักนำ ชักพา แต่ก็เรื่องหลักคงเป็นความคิดในส่วนลึกของคนเรานี่เอง
7 อนาคต มองแล้วชัดเจน โควิด อย่างที่บอก ระยะประชิด ป้องกันได้ ใส่หน้ากาก รักษาระยะห่าง ก็ช่วยได้เยอะแล้ว แต่ เราจะกลับไปใช้ชีวิตเบียดเสียดกันแบบในอดีต เดินเยาวราชซื้อของไหว้เจ้าแบบ ไหลไป ไม่ได้เดินนะ โดนดันๆไปเอง ตลกดี ก็ไม่ใช่ใคร ผมนี่ละโดนมาแล้ว หรือ ขึ้นรถไฟฟ้า เบียดๆกันตอนเช้า หรือ อะไรก็แล้วแต่ที่มันแบบเดิมน่ะ จะกล้ากันไหม ผมคือพวกไม่เอาละครับ ผมคงระวังตัวมากขึ้น คนในอนาคตต่อจากนี้ ก็คงแบ่งเป็น ชุมชนคนไม่กลัว กับ กลุ่มคนระวังตัวเหมือนระแวง ก็แหม ถ้ามันมีตัวใหม่ ไวรัสแบบ ติดทางอากาศ แบบหวัดล่ะ เออ สมมติ โควิด ไปผสมกับหวัด ในตัวคนๆนึง แล้วเป็นตัวตั้งต้น เกิดไวรัสตัวใหม่ อา สร้างหนังได้เลย ...ถ้ามีไวรัสแบบนั้น ภาพที่เราเห็นกันมันจะไม่เฉพาะยุโรป อเมริกา แต่ ทั่วโลกลำบากแน่นอน อาจคิดไกลไป แต่ มันก็ไม่ได้ไกลมากนักว่ามั้ยครับ
8 โึควิด คัดสรรค์ แบบหนัง Avenger Infinity War มีตัวร้ายชื่อ ธานอส คิดเรื่องพิเรนท์ อยากให้คนในจักรวาลเหลือครึ่งนึงแบบไม่คัดสรรค์ เอาแบบสุ่มๆตายๆไป โดยการรวบรวมหินสีๆ แล้วดีดนิ้วเป๊าะเดียว ซึ่งธานอสคิดว่า คนน้อยลงครึ่งนึง จะช่วยธรรมชาติของจักรวาลได้ ปรากฎว่า ก็ไม่ได้ แต่ โควิด นี่ ผมว่าเขาก็คัดสรรค์นะ คัดสรรค์คนที่ระมัดระวังตัว กับ คนที่ไม่ระมัดระวังตัว ง่ายๆ มีสองอย่าง แม้จะไม่เต็มร้อย คือคนระวังตัวก็อาจติดได้อยู่ดี แล้วคนไม่ระวังตัวก็อาจไม่ติดก็ได้ แต่ภาพรวมแล้ว คนระวังตัวก็มีโอกาสติดน้อยกว่าคนไม่ระวังตัว มันควรเป็นแบบนั้นนะ
9 . ถ้าเราไม่ติดโควิด เราก็ตายครับ ไม่รู้วันไหนแค่นั้นเอง อย่าเครียดมากเกินไป รอดจากโควิด อาจโดนควายขวิด ก็แค่นั้นละครับ คนอยู่บ้านกักตัว เดินตกกระได เตะเก้าอี้ เจ็บหนัก กระดูกเคลื่อน เกลื้อนขึ้น และอีกมากมาย ก็ขอให้ ระวังแบบมีความสุขละกันครับ แล้วก็ปล่อยๆกับบางเรื่องบ้าง เนอะ.
เขียนแด่ ห้องถนนนักเขียน Exclusively 555
โควิด ทำให้คิดอะไรได้บ้าง
แต่ เรามามองกัน แบบแง่มุมอื่นละ ใครคิดว่ามีมุมไหนกันบ้าง สำหรับผมนั้นคิดดังนี้
1. ไม่มีประเทศไหน ในโลกนี้จะมีบุคลากรทางการแพทย์ เพียงพอสำหรับโรคระบาดขนานใหญ่ได้ ดูจากรายชื่อประเทศที่มีผุ้ติดเชื้อสูงสุดต้นๆ เช่น สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เยอรมัน อังกฤษ ส่วน อิตาลี สเปน ผมว่า เขาเศรษฐกิจแย่มาตั้งแต่สมัยจะเปลี่ยนเงินสกุลประเทศต่างๆ เป็นเงินยูโรแล้วน่ะ อิตาลี หนี้เยอะ สเปน จนพอกัน ยกเว้น บาร์เซโลน่า ( อันนี้เท่าที่ผม เหลือบๆดูนะครับ )
แต่พอมีโรคระบาด แบบ โควิด ที่มีความสามารถในการแพร่เชื้อมในระยะประชิด ถ้าเป็นหนังฝรั่งเขาเรียก พวกถนัดแบบนี้ว่า Hand to Hand combat คือเก่งระยะประชิด คือจะติดกันได้ ต้องใกล้ชิด หรือสัมผัส อย่างที่เรารู้กัน แต่ด้วยพฤติกรรม ( อันนี้ข้อถัดไป ) ของคนต่างชาติ ก็ทำให้ระบาดในวงกว้างและรวดเร็ว จน ไม่ว่าจะ เยอรมัน อังกฤษ อเมริกา ญี่ปุ่น สวีเดน ที่ไหนที่ว่า สวัสดิการภาครัฐดี ก็เอาไม่อยู่ เพราะมันเยอะเกินไป หมอและพยาบาล ทั่วโลกมีไม่พอคนป่วย ถ้ามันระบาดหนักแบบที่เห็น
2. พฤติกรรมของแต่ละท้องถิ่น ว่ากันตรงๆไม่เสียเวลา ยุโรป ฝรั่งว่างั้น ชอบจับมือ กอด โอลาฟ ไลค์ วอร์มฮัค ( ผมชอบ การ์ตูน โฟรเซ็น ขอแทรกนิดนึง ) แล้วก็ที่เหมือนประเพณี ที่สาวๆฝรั่งไม่ถือแต่สาวไทยจะถือก็คือ แก้มชนกัน หายใจรดกัน อันนี้เลยครับ โควิด เหมือนถูกออกแบบให้มาเป็นปัญหากับประเทศที่มีวัฒนะธรรมการทักทายแบบนี้ ระยะประชิด กอดติด ชิดแนบ ทำให้กว่าจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ก็สายเกินไป ผมว่ามันน่าเศร้านะ เพราะคนไทยที่ติดต่องานกับชาวต่างชาติก็ติดมาจากพฤติกรรมแบบนี้
3 ระบบคมนาคม หรือ Infrastructure ขนส่งที่เจริญของยุโรป และ อเมริกา ไปไหนมาไหนสะดวก ขึ้นรถไฟฟ้า ต่อรถไฟฟ้า รถบัส ต่อเรือ อเมริกานี่ จากเมืองนึงไปอีกเมืองนึง สบาย รถไฟฟ้ายูโรสตาร์วิ่งข้ามประเทศ และ โควิด ก็ได้ใช้บริการรถไฟฟ้านี่ละครับ แพร่สู่ยุโรปในหลายประเทศ แล้วไปต่อรถ ต่อเรือเอา ยิ่งเจริญมาก โรคระบาดก็แพร่กระจายรวดเร็ว และครอบคลุมมาก ผมมีเพื่อนร่วมงานเป็นคนฝรั่งเศส แต่ตอนนี้อยู่ไทยมาสิบกว่าปี เขาบอกว่า เดินไป สวิตเซอร์แลนด์ กับ เยอรมัน ในวันเดียวสบายๆ เหอะๆ ไฟรส์บวร์ก บาเซิ่ล และ สตาร์สบรูก ผมยังเคยคิดเลยว่า ดีจริงๆ แต่ตอนนี้คิดว่า เออ อยู่เมืองไทยไปไหนมาไหน ลำบากๆ นี่ดีจริงๆ ดีกว่าเมืองเจริญๆ ก็เวลาแบบนี้ละมั้ง
รถไฟฟ้า ใน ตปท คิดเล่นๆ คนติดโควิด 1 คน ตอนเช้าเข้าหนึ่งโบกี้ แพร่เชื้อให้คนรอบตัวสัก 6 คน แล้ว 6 คนนั้นยังไม่มีอาการ แต่ไปแพร่ในที่ทำงานได้ อีกไม่รู้เท่าไหร่ แล้ว ตอนเย็น 7 คนนี้ ขึ้นคนละโบกี้ คนละขบวน แพร่ไปอีก 7 คูณ 7 ก็ ตอนเย็นได้ 49 คน แล้ว ก็ไปทวีคูณกันในวันถัดไป และสถานที่ต่างๆ นี่คือผมมองสำหรับในยุโรปนะ ว่าทำไมมันถึงติดกันเยอะขนาดนี้ แต่นี่ก็แค่มองภาพสถุานที่แพร่แหล่งใหญ่ แต่มีอีกเยอะ ไม่ว่าจะเรือสำราญ และวิถีชีวิตคนตะวันตก
4 ผมคิดถึงว่า การใช้เงินของผม ถ้าผมใช้เงิน เพื่อใช้ชีวิต เที่ยวจนเกินตัว ไร้เงินเก็บ ตอนนี้ จะเป็นไงนะ ถ้าตกงาน ผมเคยได้เงินเดือนน้อย เคยชินกับการไม่มี และ คำขวัญคือ ไม่มี ไม่เป็นไร สำหรับของไม่จำเป็น และคงมีโชคในเรื่อง เที่ยว กิน ส่วนใหญ๋บริษัทจัดพาไป ในหลายรูปแบบ เราก็เลยไม่ต้องออกตังค์เที่ยวเอง ผมชอบแค่ ไปดูหนัง กินอาหาร ไม่ได้ติด คาราโอเกะ ไม่ได้ไปใช้เงินเอาเป็นแบบนั้น พอเงินเดือนขึ้น ก็ใช้เงินเหมือนตอนเงินเดือนน้อย คือ ไม่ได้บอกว่า ชีวิตผมดีนะครับ แต่ นาทีนี้ สำหรับคนทีเคยมีรายได้ดี แต่ใช้หมด เป็นหนี้ ถ้าผ่อนรถ ผ่อนบ้านก็แล้วไป แต่บางคน เป้นหนี้เพราะไปเที่ยว อา มีจริงน้า คนรอบตัวผม เยอะครับ ไป ดูออโรร่า ไปดู ซากูระ ไปตามรอยละครเกาหลี ยืมเขาทั้งนั้น มันก็ไม่ได้เยอะหรอก แต่ดันชอบเที่ยวผับ และอื่นๆอีกเยอะ มาถึงเวลานี้แล้ว สรุปว่า มีเงินก็เก็บไว้เหอะ ไอ้คำว่า จะเก็บไว้ให้ใครวะ หรือ มีเงินไม่รู้จักใช้ ก็ตอนนี้ละ ผมรู้แล้วว่า เออ เรารู้จักใช้เงินนี่หว่า หลงน้อยใจคนอื่นเขาด่าตั้งนาน หึหึ
5 ความไม่แน่นอน ใครจะไปคิด บอลยูโร กีฬาโอลิมปิค นี่มันสองรายการใหญ่นะ ยังเลื่อนแบบไม่คิด ลิเวอร์พุล จะได้แชมป์แค่อีกเอื้อมมือคืบเดียว ก็ยังไม่ได้ โควิด มาจากไหน กว่าเราจะรู้ ก็มีผลกระทบหนักแล้ว ดังนั้น เหมือนสองปีก่อนที่ผมเสียเพื่อนในปีเดียว 2 คน เพื่อนอายุน้อยกว่าผมด้วย ไม่เคยมีอาการอะไรเลย แต่เสียชีวิตไปด้วยอาการป่วยกระทันหัน กับป่วยหนัก เรื่องแบบนี้ ก็ทำให้คิดว่า แม้ถนนนักเขียนจะมีเรื่องคุยกันสนุก บางทีเหมือนเด็ก แต่เราก็ผู้ใหญ่แล้ว ฮึ่มๆ กระแอมดุๆหน่อยจะได้เชือว่า นี่ผุ้ใหญ่คุยอยู่ แห่ะๆ สังขารไม่เที่ยงนะครับ ชีวิตไม่แน่นอน หลายเรื่องอธิบายไม่ได้ว่า ทำไม มันต้องเป็นแบบนี้ ทำไมต้องเป็นเรา เรื่องปลงน่ะพูดง่าย ทำจริงก็ไม่แน่ว่าจะทำได้กับคำว่าปลง ทำไมน้อ เวลารถติด เห็นผู้หญิงสวยๆสาวๆ นุ่งสั้นๆ ทำกระเป๋าตังค์ตก ก้มเก็บแบบเรามั่นใจแล้วว่า จะได้เห็นวิวดีๆแน่นอน แล้ว รถเมล์ก็มาจอดบัง บังหมดเลย นี่ละครับ ความไม่แน่นอน
6. ผู้คน ดูข่าวอ่านพันทิป เห็นน่ะ ว่าคนเรายามสถานการณ์มันผิดปกติ ใครทำอะไรกันบ้าง ไม่ได้ตัดสินว่าอะไรดีไม่ดี แต่ก็เห็น แล้วก็ความคิดคนมันห้ามไม่ได้นะ คือ คนตดเราก็เหม็น เกลียดมันดันตดในลิฟท์ หนีก็ไม่ได้ ไอ้...... แต่พอไปเล่าให้ใครฟัง เขาก็ขำ เราก็ขำ จริงไหม หลายเรื่องเกิด เรียกว่า เดาได้เลยว่าต้องเกิด มันก็เกิด บางเรื่องก็ไม่คิดว่าจะมีแบบนี้ ก็มีให้เห็น ดูไว้เถอะครับ โควิด เปิดโลกให้เราในอีกแง่มุมถ้าคุณจะเลือกมองดู คนเอาเปรียบกัน หน้ากากใช้แล้วซัก เฮ้ยมันคิดได้ไม่แคร์ชีวิตคนแฮะ เจลปลอม เออ คนเราก่อนโควิดมาเป็นอย่างไร ตอนโควิดมาถึงก็แสดงตนเหมือนเดิม คือซ้ำเติมความเดือดร้อน ไม่สนละครับเวลาไหน เอาเปรียบกันได้ ไม่อายใคร
แต่ผมดูข่าวคนตาบอกขาล็อตเตอรี่ ต้องหยุดขาย แต่เขาไม่หยุดทำงาน เขาไปหาอย่างอื่นมาขาย เป็นผลไม้ดอง เออ ผมเจอคนถามว่า แล้วเขาจะดูผลไม้อย่างไรว่า ที่ขายไปดีไหม ผมไม่ได้นึกแบบคนที่ถามแฮะ ผมมองแค่ว่า คนตาบอดพิการแท้ๆ เขายังดิ้นรนอย่างสุจริต เห็นมั้ยครับ นี่ผมยังไม่เห็นข่าวคนปล้นกันแล้วบอกว่า เพราะขาดรายได้จากการแพร่ระบาดของโควิดนะ ซึ่งก็เรียกว่ายังดี เพราะคนเราจะลำบากขนาดไหน ถ้าส่วนลึกไม่เคยคิดปล้น ต่อให้ลำบาก เขาก็ไม่แม้แต่จะคิด แต่คนที่ปล้น ต่อให้ไม่มีโควิด ก็ปล้นครับ ดังนั้น คนเราต้องระวังความคิด เพราะมันคือพื้นฐานของการกระทำ แม้ว่า สถาณการณ์และสิ่งแวดล้อมจะชักนำ ชักพา แต่ก็เรื่องหลักคงเป็นความคิดในส่วนลึกของคนเรานี่เอง
7 อนาคต มองแล้วชัดเจน โควิด อย่างที่บอก ระยะประชิด ป้องกันได้ ใส่หน้ากาก รักษาระยะห่าง ก็ช่วยได้เยอะแล้ว แต่ เราจะกลับไปใช้ชีวิตเบียดเสียดกันแบบในอดีต เดินเยาวราชซื้อของไหว้เจ้าแบบ ไหลไป ไม่ได้เดินนะ โดนดันๆไปเอง ตลกดี ก็ไม่ใช่ใคร ผมนี่ละโดนมาแล้ว หรือ ขึ้นรถไฟฟ้า เบียดๆกันตอนเช้า หรือ อะไรก็แล้วแต่ที่มันแบบเดิมน่ะ จะกล้ากันไหม ผมคือพวกไม่เอาละครับ ผมคงระวังตัวมากขึ้น คนในอนาคตต่อจากนี้ ก็คงแบ่งเป็น ชุมชนคนไม่กลัว กับ กลุ่มคนระวังตัวเหมือนระแวง ก็แหม ถ้ามันมีตัวใหม่ ไวรัสแบบ ติดทางอากาศ แบบหวัดล่ะ เออ สมมติ โควิด ไปผสมกับหวัด ในตัวคนๆนึง แล้วเป็นตัวตั้งต้น เกิดไวรัสตัวใหม่ อา สร้างหนังได้เลย ...ถ้ามีไวรัสแบบนั้น ภาพที่เราเห็นกันมันจะไม่เฉพาะยุโรป อเมริกา แต่ ทั่วโลกลำบากแน่นอน อาจคิดไกลไป แต่ มันก็ไม่ได้ไกลมากนักว่ามั้ยครับ
8 โึควิด คัดสรรค์ แบบหนัง Avenger Infinity War มีตัวร้ายชื่อ ธานอส คิดเรื่องพิเรนท์ อยากให้คนในจักรวาลเหลือครึ่งนึงแบบไม่คัดสรรค์ เอาแบบสุ่มๆตายๆไป โดยการรวบรวมหินสีๆ แล้วดีดนิ้วเป๊าะเดียว ซึ่งธานอสคิดว่า คนน้อยลงครึ่งนึง จะช่วยธรรมชาติของจักรวาลได้ ปรากฎว่า ก็ไม่ได้ แต่ โควิด นี่ ผมว่าเขาก็คัดสรรค์นะ คัดสรรค์คนที่ระมัดระวังตัว กับ คนที่ไม่ระมัดระวังตัว ง่ายๆ มีสองอย่าง แม้จะไม่เต็มร้อย คือคนระวังตัวก็อาจติดได้อยู่ดี แล้วคนไม่ระวังตัวก็อาจไม่ติดก็ได้ แต่ภาพรวมแล้ว คนระวังตัวก็มีโอกาสติดน้อยกว่าคนไม่ระวังตัว มันควรเป็นแบบนั้นนะ
9 . ถ้าเราไม่ติดโควิด เราก็ตายครับ ไม่รู้วันไหนแค่นั้นเอง อย่าเครียดมากเกินไป รอดจากโควิด อาจโดนควายขวิด ก็แค่นั้นละครับ คนอยู่บ้านกักตัว เดินตกกระได เตะเก้าอี้ เจ็บหนัก กระดูกเคลื่อน เกลื้อนขึ้น และอีกมากมาย ก็ขอให้ ระวังแบบมีความสุขละกันครับ แล้วก็ปล่อยๆกับบางเรื่องบ้าง เนอะ.
เขียนแด่ ห้องถนนนักเขียน Exclusively 555