กระทู้ก่อนหน้านี้ เราได้พูดถึง ทริปโดยรวมของเรา "
เที่ยวอเมริกาใต้ (ชิลี เปรู โบลิเวีย) 27 วัน ด้วยงบ 80,000 บาท" และได้แจกแจงค่าใช้จ่ายหลัก ๆ
เช่น ค่าเดินทางทั้งหมด ค่าทัวร์ และค่าที่พัก
วันนี้เราจะลงรายละเอียดของการเที่ยวในประเทศชิลีของเรา โดยแบ่งออกเป็น
1. ครึ่งวันแรก จากสนามบิน ที่พัก และที่แลกเงิน
2. one day trip ที่ Valparaiso และ Viña del Mar
3. ในหนึ่งวันไปไหนได้บ้างในตัวเมือง ของ Santiago de Chile
4. แนะวิธีการทำ วีซ่าโบลิเวีย
ดูเป็นวีดีโอได้ที่นี่ค่ะ
ไป ชิลี เที่ยว Santiago ดู Moai เดิน Valparaiso แวะจิบ Pisco sour ทำวีซ่า Bolivia [ENG SUB]
1. ครึ่งวันแรก จากสนามบิน ที่พัก และที่แลกเงิน
ทริปนี้เราอยู่ Santiago 2 ครั้ง เพราะเราซื้อตั๋วเที่ยวบินหลักที่นี่ โดยครั้งแรกอยู่ 3 วัน 3 คืน และ ตอนก่อนกลับอีก 2 วัน 1 คืน เราจองเผื่อๆ ไว้กลัวมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเด็ยวกระทบขาบินหลัก และวางแผนจะทำวีซ่าโบลิเวียที่นี่
Santiago ถือเป็นเมืองที่เจริญและใหญ่มากๆ บ้านเมืองค่อนข้างสะอาด มีโซนสะอาดมาก และก็โซนไม่ค่อยสะอาดเท่าไร ให้ความรู้สึกโดยรวมเหมือน Melbourne ค่าครองชีพก็พอๆ กัน คือแพงกว่าไทย ผู้คนพลุกพล่าน แต่ไม่แออัด เราอ่านมาว่าที่นี่ค่อนข้างน่ากลัว เพราะโจรเยอะ ตามสไตล์เมืองใหญ่ เราเลยระวังเป็นพิเศษ ไม่ได้พกกล้องไปไหนด้วยใช้แต่โทรศัพท์ จากประสบการณ์ของเรา เราไม่โดนขโมยของนะ แต่มีคนเห็นเราวางโทรศัพท์ไว้ตอนเรากำลังเอ็นจอยกับการกิน เค้าก็เข้ามาเตือนให้เราเก็บโทรศัพท์ให้ระวังโจร สำหรับเราคนที่นี่ ค่อนข้าง เฟรนลี่ เค้าเห็นเราเงอะงะ เค้าก็เข้ามาถามว่าหาอะไรอยู่ (ตอนนั้นอยู่ย่านมหาลัยเลยคิดว่าเค้าน่าจะเฟรนลี่จริงๆ) ยิ้มแย้มไม่ได้ดูว่าเราแปลกหรือเป็นนักท่องเที่ยว

จากสนามบิน เราเลือกใช้แท็กซี่ เพราะพอดีเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน (จริงๆคือความสะเพร่าของเรา) ว่าเราวางแผนไว้วันที่ 21 พค จะไปทำวีซ่าโบลิเวีย แต่เพิ่งเช็คก่อนบินไปว่า วันที่ 21 พค ของทุกปี เป็นวันหยุดราชการของประเทศชิลี หรือคือวัน Battle of iquique สถานที่ราชการปิดหมด เราก็เลยคิดว่าต้องรีบไปทำวีซ่าตั้งแต่วันแรกเลยพอไปถึงปุบ ก็คือวันที่ 20 ตอนบ่ายแล้วนั่งแท็กซี่ไปให้ทันเพื่อไปยื่นเอกสารทิ้งไว้แล้วรอรับวันถัดไป เพราะอ่านมาว่า ต้องใช้เวลาประมาณ 1 วันในการทำ โดยเรามีเวลาแค่ 3 วันที่นี่ และเสียไป 1 วันกับวันหยุดราชการ และนั่นก็คือเหตุผลที่เราเลือกใช้แท็กซี่ในราคา 150000 peso หรือ 560 บาท แต่ก็เหมือนเสียไปเปล่า ๆ เพราะว่า เค้าไม่ให้ยื่นตอนเย็นต้องมาตอนเช้าอีกที วันที่ 22 บายยยยยยยยยยย
ตอนแรกเราวางแผนใช้รถบัส Centro Puerto รถบัสสีฟ้า เพื่อไป Los Heroes ซึ่งเป็นเสมือนหมอชิตสามารถต่อรถไฟฟ้าหรือรถอื่นๆ เพื่อไปที่พักได้ (ซึ่งเราใช้ตอนรอบขากลับ เดินเอาจากที่พัก ถูกและดี) หรือ จะใช้ Turbus สีขาวหรือเขียวก็ได้ เค้ามีที่ให้วางกระเป๋าใบใหญ่ได้ จากสนามบินถึงตัวเมืองใช้เวลา 45 นาที ให้ใช้ทางออกสนามบินหมายเลข 5 มันจะมีเลนตรงกลาง คนละ 1900 peso (70บาท) หรือ 3400 peso ทั้งไปและกลับ คำศัพท์ที่ต้องใช้ "Hola! Dos Boletos, por favor" แปลว่า "Hi! two tickets, please" หรือใช้มือก็ได้ ห้าๆๆ แต่เราจำประโยคนี้ไว้ใช้ให้ดูน่ารัก ๆ เหมือนเราศึกษาภาษาเค้ามา
เรานั่งเข้ามาในเมืองแล้วก็เข้าที่พักหลังจากไปอ้อมที่สถานฑูตโบลิเวียมา เราจองที่พักผ่าน Airbnb ห้องสำหรับ 2 คนมีห้องน้ำ มีครัวเล็ก ๆ คืนละ 1100 บาทกลางใจเมือง ใกล้รถไฟฟ้า เดินในเมืองได้ ตอนแรกเราจะพักแถว Central Market แต่เพื่อนที่เป็นคนชิลี 2 คนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าอันตราย ไม่ให้ไปพัก

อันนี้คือที่ที่เราปักหมุดมีที่ที่ควรไปดู (สีเขียว) กับร้านอาหาร (รูปดาว) และ (หัวใจ) คือที่พักของเรา ในระยะนี้คือเดินได้หมด
เราเลือกที่จะไปกินมื้อเย็นที่ Domino ไปลอง completo เห็นคนไปชิลีต้องไปกิน ก็เลยไปลองหน่อย เราสั่ง Viennese
BRAZILIAN กึคือมีชีสกับอโวคาโด และ ITALIAN ที่มีอโวคาโด มะเขือเทศ มายองเนส อันละประมาณ 2000 peso หรือ 75 บาท อร่อยดีค่ะ รสชาติเหมือนกินฮอทดอกที่ใส่ผักได้ไม่อั้นของปั้มเจ็ทที่ไทย (ปั้มที่ตอนนี้ไม่มีแล้ว ดูแก่ไปเลย) แล้วอย่าลืมให้ทิปเค้าด้วยนะคะ ที่ชิลีเค้าให้บวก 10% ทิป ค่ะ บางที่ก็คำนวณมาให้เลย
เราเอาเงิน USD มาแลกค่ะ เพราะเราอยู่นิวซีแลนด์มันไม่มีร้านเรทเงินดีเหมือนซุปเปอร์ริชบ้านเรา ที่แลกอยู่แถวร้าน Domino เลยค่ะ ตรงถนน Agustinas มีที่แลกราคาดีเยอะเลยค่ะ ไล่ดูตามป้ายเลย แถวนั้นร้านเยอะมาก และคนเยอะด้วย ระวังด้วยนะคะ
เสร็จแล้วเราก็เข้าที่พักค่ะ หมดวันแรกไปแบบ งง ๆ ไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
2. one day trip ที่ Valparaiso และ Viña del Mar
Valparaiso
เป็นเมืองที่มีสีสันมาก มีสตรีทอาร์ตให้ดูทุกซอกทุกมุม อันนี้แนะนำว่าควรไป โดยเฉพาะช่วงบ่ายไปถึงพระอาทิตย์ตกค่ะ เพราะสวยมาก
หาในแผนที่ว่า Cerro Concepción และ Cerro Alegro ก็คือ เดินรอบ ๆตรงนั้นได้เลยค่ะ ตามทางทั้งหมดมีสีสันฉูดฉาด
ปีนเนินหน่อย ๆ แล้วมองย้อนไปก็จะเห็นทะเลด้วยค่ะ สวย มาก ๆ เลือกไปช่วงเย็น
ตึกราบ้านช่องสีสันสวยงาม
ขนาดรถยังทาสีเลย
สีพาสเทลก็มี
วิธีการไป Valparaiso จาก Santiago คือ นั่งรถไฟใต้ดินเส้น SAN PABLO เพื่อไปลงสถานี PAJARITOS ควรหลีกเลี่ยงช่วงเวลาที่คนเค้าไปทำงานนะคะ เหมือนที่ไทยแหละค่ะเพราะคนเยอะมากและค่าตั๋วแพงกว่า ตั๋วรถไฟซื้อที่ช่องได้เลย เราจะได้บัตร bip! มา ซื้อแค่บัตรเดียวสามารถใช้ด้วยกันสองคนได้ ก็คือแตะบัตรสองรอบสำหรับสองคนค่ะ ราคาประมาณ 600-700 pesos ต่อเที่ยว.... Pajaritos เป็นสถานีที่สองก่อนสุดท้าย พอลงก็มีป้ายบอกทางไป bus terminal มีบัสสองเจ้าให้เลือก คือ Tur Bus และ Pullman Bus เราเลือก Turbus ราคาประมาณคนละ 152 บาท ต่อรอบ ใช้เวลา 2 ชั่วโมง หลังจากนั้น จะนั่งรถเมล์ หรือเดินครึ่งชั่วโมง หรือนั่งรถไฟ ไป Valparaiso ก็ได้
เราเลือกนั่งรถไฟ แต่ว่าไป Viña del Mar ก่อน แล้วนั่งย้อนกลับมาอีกทีและเลยไปลงที่สถานีรถไฟ Puerto ซึ่งใกล้ ย่าน Cerro Concepción เขตที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก (UNESCO World Heritage) หรือก็คือภาพด้านบน ส่วนขากลับ เราเดินครึ่งชั่วโมงกลับไปที่ท่ารถบัส ถึงแม้ว่าจะเดินกลับตอนกลางคืนรู้สึกเหมือนอันตรายแต่ไม่อันตราย มีคนเดินเป็นระยะ ๆ มีสวน มีร้านค้าข้างทาง ระหว่างเดินแวะซื้อ ซูโรส เดินกินมีความสุข
จากสถานีรถไฟ Puerto ไปยัง ย่าน Cerro Concepción นั้นเราจะผ่านจตุรัส
Plaza Sotomayor ซึ่งเป็นเรื่องบังเอิญมากๆ เพราะที่เราบอกมาข้างต้นว่า วันนี้เป็นวันหยุดราชการเพราะเป็นวันสำคัญที่ชื่อว่า Battle of Iquique แล้วที่นี่เองก็มีอนุสาวรีย์ Momumento a Los Heroes de Iquique ที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงทหารที่เสียชีวิตในสงครามครั้งนั้น
เราก็เลยได้เห็นทหารทุกหมู่เหล่ามาเดินขบวน
ตรงข้ามอนุสาวรีย์มีตึกเหมือนหลุดมาจากหนังของ Wes Anderson
Viña del Mar
อันนี้เป็นความไร้สาระของเรา เราออกนอกเส้นทางไปยัง Viña del Mar ที่จริงที่นี่ดังเพราะมีชายหาดที่สวย แต่เราเลือกที่จะไปเพราะไปดูโมอายยืนตากแดดอยู่หนึ่งตัว อยากไปเห็นของจริง ก็เลยนั่งรถไฟไป และก็ย้อนกลับไป Valparaiso
ระหว่างรอรถไฟ
จากสถานี เดินขึ้นไปก็จะเจอโบสถ์
จบ อีก หนึ่งวันค่ะ
3. ในหนึ่งวันไปไหนได้บ้างในตัวเมือง ของ Santiago de Chile

เริ่มจากด้านบนของใจกลางเมือง Mercado Central Santiago de Chile คือตลาดใหญ่ของ Santiago มีทั้งร้านอาหาร และที่ขายของสด

มีร้านขายปูอลาสก้าด้วยย

ไปแถวนั้นต้องแวะไปกิน Empanada เจ้าดัง Emporio Zunino คนเยอะตลอด ต้องยืนกิน เป็นร้านเก่าแก่ เราตาม vlogger ซักคนในยูทูปไปกิน
พิซซ่าอะเล็กนิดเดียว แต่ empanada กินละอิ่ม เราสั่ง empanada มา 2 ชิ้น ไส้ชีส กับไส้อะไรไม่รู้จำไม่ได้ อร่อยมากค่ะ ที่ร้านนี้แหละ ที่มีคนเตือนเราว่าอย่าวางโทรศัพท์ ตอนเรากำลังยัด empanada เข้าปาก

เดินลงทางใต้มาเส้น BANDERA ใครชอบของมือสอง ไปดูได้เลยค่ะ มีเป็นสิบร้าน ไม่ได้ถ่ายรูปมา เพราะฝนตก และยุ่งกับการเข้าไปดูทุกร้านค่ะ เพราะชอบของมือสองมากกกกกก.......ก แฟชั่นหน้าหนาว เสื้อขน ๆ มีเยอะมากค่าาาา
เลี้ยวไปทางซ้ายก็จะเจอ Plaza de Armas ชอบมุมนี้มาก เป็นตึกเก่ากับตึกใหม่
ไม่ได้อ่านว่าคือใคร รอผู้รู้มาบอก
ถ่ายกับป้ายชื่อเมืองซักหน่อยยยยย

ดูเป็นวีดีโอได้ที่นี่ค่ะ
ไป ชิลี เที่ยว Santiago ดู Moai เดิน Valparaiso แวะจิบ Pisco sour ทำวีซ่า Bolivia [ENG SUB]
Ep 1: ไป Chile เที่ยว Santiago ดู Moai ในเมือง แวะถ่าย street Art ที่ Valparaiso จิบ Pisco Sour และการทำวีซ่า Bolivia
เช่น ค่าเดินทางทั้งหมด ค่าทัวร์ และค่าที่พัก
วันนี้เราจะลงรายละเอียดของการเที่ยวในประเทศชิลีของเรา โดยแบ่งออกเป็น
1. ครึ่งวันแรก จากสนามบิน ที่พัก และที่แลกเงิน
2. one day trip ที่ Valparaiso และ Viña del Mar
3. ในหนึ่งวันไปไหนได้บ้างในตัวเมือง ของ Santiago de Chile
4. แนะวิธีการทำ วีซ่าโบลิเวีย
ดูเป็นวีดีโอได้ที่นี่ค่ะ
ไป ชิลี เที่ยว Santiago ดู Moai เดิน Valparaiso แวะจิบ Pisco sour ทำวีซ่า Bolivia [ENG SUB]
1. ครึ่งวันแรก จากสนามบิน ที่พัก และที่แลกเงิน
ทริปนี้เราอยู่ Santiago 2 ครั้ง เพราะเราซื้อตั๋วเที่ยวบินหลักที่นี่ โดยครั้งแรกอยู่ 3 วัน 3 คืน และ ตอนก่อนกลับอีก 2 วัน 1 คืน เราจองเผื่อๆ ไว้กลัวมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเด็ยวกระทบขาบินหลัก และวางแผนจะทำวีซ่าโบลิเวียที่นี่
Santiago ถือเป็นเมืองที่เจริญและใหญ่มากๆ บ้านเมืองค่อนข้างสะอาด มีโซนสะอาดมาก และก็โซนไม่ค่อยสะอาดเท่าไร ให้ความรู้สึกโดยรวมเหมือน Melbourne ค่าครองชีพก็พอๆ กัน คือแพงกว่าไทย ผู้คนพลุกพล่าน แต่ไม่แออัด เราอ่านมาว่าที่นี่ค่อนข้างน่ากลัว เพราะโจรเยอะ ตามสไตล์เมืองใหญ่ เราเลยระวังเป็นพิเศษ ไม่ได้พกกล้องไปไหนด้วยใช้แต่โทรศัพท์ จากประสบการณ์ของเรา เราไม่โดนขโมยของนะ แต่มีคนเห็นเราวางโทรศัพท์ไว้ตอนเรากำลังเอ็นจอยกับการกิน เค้าก็เข้ามาเตือนให้เราเก็บโทรศัพท์ให้ระวังโจร สำหรับเราคนที่นี่ ค่อนข้าง เฟรนลี่ เค้าเห็นเราเงอะงะ เค้าก็เข้ามาถามว่าหาอะไรอยู่ (ตอนนั้นอยู่ย่านมหาลัยเลยคิดว่าเค้าน่าจะเฟรนลี่จริงๆ) ยิ้มแย้มไม่ได้ดูว่าเราแปลกหรือเป็นนักท่องเที่ยว
จากสนามบิน เราเลือกใช้แท็กซี่ เพราะพอดีเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน (จริงๆคือความสะเพร่าของเรา) ว่าเราวางแผนไว้วันที่ 21 พค จะไปทำวีซ่าโบลิเวีย แต่เพิ่งเช็คก่อนบินไปว่า วันที่ 21 พค ของทุกปี เป็นวันหยุดราชการของประเทศชิลี หรือคือวัน Battle of iquique สถานที่ราชการปิดหมด เราก็เลยคิดว่าต้องรีบไปทำวีซ่าตั้งแต่วันแรกเลยพอไปถึงปุบ ก็คือวันที่ 20 ตอนบ่ายแล้วนั่งแท็กซี่ไปให้ทันเพื่อไปยื่นเอกสารทิ้งไว้แล้วรอรับวันถัดไป เพราะอ่านมาว่า ต้องใช้เวลาประมาณ 1 วันในการทำ โดยเรามีเวลาแค่ 3 วันที่นี่ และเสียไป 1 วันกับวันหยุดราชการ และนั่นก็คือเหตุผลที่เราเลือกใช้แท็กซี่ในราคา 150000 peso หรือ 560 บาท แต่ก็เหมือนเสียไปเปล่า ๆ เพราะว่า เค้าไม่ให้ยื่นตอนเย็นต้องมาตอนเช้าอีกที วันที่ 22 บายยยยยยยยยยย
ตอนแรกเราวางแผนใช้รถบัส Centro Puerto รถบัสสีฟ้า เพื่อไป Los Heroes ซึ่งเป็นเสมือนหมอชิตสามารถต่อรถไฟฟ้าหรือรถอื่นๆ เพื่อไปที่พักได้ (ซึ่งเราใช้ตอนรอบขากลับ เดินเอาจากที่พัก ถูกและดี) หรือ จะใช้ Turbus สีขาวหรือเขียวก็ได้ เค้ามีที่ให้วางกระเป๋าใบใหญ่ได้ จากสนามบินถึงตัวเมืองใช้เวลา 45 นาที ให้ใช้ทางออกสนามบินหมายเลข 5 มันจะมีเลนตรงกลาง คนละ 1900 peso (70บาท) หรือ 3400 peso ทั้งไปและกลับ คำศัพท์ที่ต้องใช้ "Hola! Dos Boletos, por favor" แปลว่า "Hi! two tickets, please" หรือใช้มือก็ได้ ห้าๆๆ แต่เราจำประโยคนี้ไว้ใช้ให้ดูน่ารัก ๆ เหมือนเราศึกษาภาษาเค้ามา
เรานั่งเข้ามาในเมืองแล้วก็เข้าที่พักหลังจากไปอ้อมที่สถานฑูตโบลิเวียมา เราจองที่พักผ่าน Airbnb ห้องสำหรับ 2 คนมีห้องน้ำ มีครัวเล็ก ๆ คืนละ 1100 บาทกลางใจเมือง ใกล้รถไฟฟ้า เดินในเมืองได้ ตอนแรกเราจะพักแถว Central Market แต่เพื่อนที่เป็นคนชิลี 2 คนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าอันตราย ไม่ให้ไปพัก
อันนี้คือที่ที่เราปักหมุดมีที่ที่ควรไปดู (สีเขียว) กับร้านอาหาร (รูปดาว) และ (หัวใจ) คือที่พักของเรา ในระยะนี้คือเดินได้หมด
เราเลือกที่จะไปกินมื้อเย็นที่ Domino ไปลอง completo เห็นคนไปชิลีต้องไปกิน ก็เลยไปลองหน่อย เราสั่ง Viennese
BRAZILIAN กึคือมีชีสกับอโวคาโด และ ITALIAN ที่มีอโวคาโด มะเขือเทศ มายองเนส อันละประมาณ 2000 peso หรือ 75 บาท อร่อยดีค่ะ รสชาติเหมือนกินฮอทดอกที่ใส่ผักได้ไม่อั้นของปั้มเจ็ทที่ไทย (ปั้มที่ตอนนี้ไม่มีแล้ว ดูแก่ไปเลย) แล้วอย่าลืมให้ทิปเค้าด้วยนะคะ ที่ชิลีเค้าให้บวก 10% ทิป ค่ะ บางที่ก็คำนวณมาให้เลย
เราเอาเงิน USD มาแลกค่ะ เพราะเราอยู่นิวซีแลนด์มันไม่มีร้านเรทเงินดีเหมือนซุปเปอร์ริชบ้านเรา ที่แลกอยู่แถวร้าน Domino เลยค่ะ ตรงถนน Agustinas มีที่แลกราคาดีเยอะเลยค่ะ ไล่ดูตามป้ายเลย แถวนั้นร้านเยอะมาก และคนเยอะด้วย ระวังด้วยนะคะ
เสร็จแล้วเราก็เข้าที่พักค่ะ หมดวันแรกไปแบบ งง ๆ ไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
2. one day trip ที่ Valparaiso และ Viña del Mar
Valparaiso
เป็นเมืองที่มีสีสันมาก มีสตรีทอาร์ตให้ดูทุกซอกทุกมุม อันนี้แนะนำว่าควรไป โดยเฉพาะช่วงบ่ายไปถึงพระอาทิตย์ตกค่ะ เพราะสวยมาก
หาในแผนที่ว่า Cerro Concepción และ Cerro Alegro ก็คือ เดินรอบ ๆตรงนั้นได้เลยค่ะ ตามทางทั้งหมดมีสีสันฉูดฉาด
ปีนเนินหน่อย ๆ แล้วมองย้อนไปก็จะเห็นทะเลด้วยค่ะ สวย มาก ๆ เลือกไปช่วงเย็น
ตึกราบ้านช่องสีสันสวยงาม
ขนาดรถยังทาสีเลย
สีพาสเทลก็มี
วิธีการไป Valparaiso จาก Santiago คือ นั่งรถไฟใต้ดินเส้น SAN PABLO เพื่อไปลงสถานี PAJARITOS ควรหลีกเลี่ยงช่วงเวลาที่คนเค้าไปทำงานนะคะ เหมือนที่ไทยแหละค่ะเพราะคนเยอะมากและค่าตั๋วแพงกว่า ตั๋วรถไฟซื้อที่ช่องได้เลย เราจะได้บัตร bip! มา ซื้อแค่บัตรเดียวสามารถใช้ด้วยกันสองคนได้ ก็คือแตะบัตรสองรอบสำหรับสองคนค่ะ ราคาประมาณ 600-700 pesos ต่อเที่ยว.... Pajaritos เป็นสถานีที่สองก่อนสุดท้าย พอลงก็มีป้ายบอกทางไป bus terminal มีบัสสองเจ้าให้เลือก คือ Tur Bus และ Pullman Bus เราเลือก Turbus ราคาประมาณคนละ 152 บาท ต่อรอบ ใช้เวลา 2 ชั่วโมง หลังจากนั้น จะนั่งรถเมล์ หรือเดินครึ่งชั่วโมง หรือนั่งรถไฟ ไป Valparaiso ก็ได้
เราเลือกนั่งรถไฟ แต่ว่าไป Viña del Mar ก่อน แล้วนั่งย้อนกลับมาอีกทีและเลยไปลงที่สถานีรถไฟ Puerto ซึ่งใกล้ ย่าน Cerro Concepción เขตที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก (UNESCO World Heritage) หรือก็คือภาพด้านบน ส่วนขากลับ เราเดินครึ่งชั่วโมงกลับไปที่ท่ารถบัส ถึงแม้ว่าจะเดินกลับตอนกลางคืนรู้สึกเหมือนอันตรายแต่ไม่อันตราย มีคนเดินเป็นระยะ ๆ มีสวน มีร้านค้าข้างทาง ระหว่างเดินแวะซื้อ ซูโรส เดินกินมีความสุข
จากสถานีรถไฟ Puerto ไปยัง ย่าน Cerro Concepción นั้นเราจะผ่านจตุรัส Plaza Sotomayor ซึ่งเป็นเรื่องบังเอิญมากๆ เพราะที่เราบอกมาข้างต้นว่า วันนี้เป็นวันหยุดราชการเพราะเป็นวันสำคัญที่ชื่อว่า Battle of Iquique แล้วที่นี่เองก็มีอนุสาวรีย์ Momumento a Los Heroes de Iquique ที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงทหารที่เสียชีวิตในสงครามครั้งนั้น
เราก็เลยได้เห็นทหารทุกหมู่เหล่ามาเดินขบวน
ตรงข้ามอนุสาวรีย์มีตึกเหมือนหลุดมาจากหนังของ Wes Anderson
Viña del Mar
อันนี้เป็นความไร้สาระของเรา เราออกนอกเส้นทางไปยัง Viña del Mar ที่จริงที่นี่ดังเพราะมีชายหาดที่สวย แต่เราเลือกที่จะไปเพราะไปดูโมอายยืนตากแดดอยู่หนึ่งตัว อยากไปเห็นของจริง ก็เลยนั่งรถไฟไป และก็ย้อนกลับไป Valparaiso
ระหว่างรอรถไฟ
จากสถานี เดินขึ้นไปก็จะเจอโบสถ์
จบ อีก หนึ่งวันค่ะ
3. ในหนึ่งวันไปไหนได้บ้างในตัวเมือง ของ Santiago de Chile
เริ่มจากด้านบนของใจกลางเมือง Mercado Central Santiago de Chile คือตลาดใหญ่ของ Santiago มีทั้งร้านอาหาร และที่ขายของสด
มีร้านขายปูอลาสก้าด้วยย
ไปแถวนั้นต้องแวะไปกิน Empanada เจ้าดัง Emporio Zunino คนเยอะตลอด ต้องยืนกิน เป็นร้านเก่าแก่ เราตาม vlogger ซักคนในยูทูปไปกิน
พิซซ่าอะเล็กนิดเดียว แต่ empanada กินละอิ่ม เราสั่ง empanada มา 2 ชิ้น ไส้ชีส กับไส้อะไรไม่รู้จำไม่ได้ อร่อยมากค่ะ ที่ร้านนี้แหละ ที่มีคนเตือนเราว่าอย่าวางโทรศัพท์ ตอนเรากำลังยัด empanada เข้าปาก
เดินลงทางใต้มาเส้น BANDERA ใครชอบของมือสอง ไปดูได้เลยค่ะ มีเป็นสิบร้าน ไม่ได้ถ่ายรูปมา เพราะฝนตก และยุ่งกับการเข้าไปดูทุกร้านค่ะ เพราะชอบของมือสองมากกกกกก.......ก แฟชั่นหน้าหนาว เสื้อขน ๆ มีเยอะมากค่าาาา
เลี้ยวไปทางซ้ายก็จะเจอ Plaza de Armas ชอบมุมนี้มาก เป็นตึกเก่ากับตึกใหม่
ไม่ได้อ่านว่าคือใคร รอผู้รู้มาบอก
ถ่ายกับป้ายชื่อเมืองซักหน่อยยยยย
ดูเป็นวีดีโอได้ที่นี่ค่ะ
ไป ชิลี เที่ยว Santiago ดู Moai เดิน Valparaiso แวะจิบ Pisco sour ทำวีซ่า Bolivia [ENG SUB]