ต้นทาง
https://www.livescience.com/coronavirus-wuhan-lab-complicated-origins.html
แปลและเรียบเรียง
https://pantip.com/topic/39817788/comment33
นักข่าวทุกคนอยากรู้วิ่งไปทำข่าวว่า ไวรัสมันมาจากไหน .. สำนักข่าวไลฟ์ไซแอนซ์ โดย Jeanna Bryner ตีพิมพ์ส่ิงที่เขาค้นพบตามนี้
สมมุติฐานที่สรุปได้โดยวิธีคิดแบบนักข่าวมี3อย่าง
1. มาจากค้างคาว ไปติดเชื้อต่อที่สัตว์พาหะอีกตัวหนึ่งแล้วไปที่มนุษย์
2. มาจากการตัดแต่งยีนส์แล้วเกิดหลุดโดยไม่ตั้งใจไปกับมนุษย์
3. มาจากการศึกษาพฤติกรรมไวรัสที่เพาะเลี้ยงตามธรรมชาติในห้องแลปแต่มันหลุดลอดออกไป
คนจีนคิดแบบจีน มองแบบจีน คุณภาพแบบจีน จีนออกมาปฏิเสธว่าเป็นไปไม่ได้ ห้องทดลองของฉันมันมาตรฐานสูงสุด แต่นักข่าวก็คิดในใจว่า แล้วถ้ามันไปติดกับแมว ติดกับขยะ ติดกับคนที่เดินทางเข้าออกล่ะ ... อันนี้ใครๆก็เห็นแล้วว่ามันเป็นไปได้
แต่นักวิทยาศาสตร์ซื่อๆเขาพยายามคิดแบบใสๆว่า มันอาจจะติดจากค้างค้าวแล้วแพร่ระบาดในสัตว์พาหะ ต้องมีพาหะอีกตัวที่ทำให้เชื้อไวรัสมันกลายพันธุ์ แต่ไม่มีใครเดาออกว่าเป็นอะไร ไม่ว่าจะเป็นงูหรือตัวชมด แล้วไปติดคนอีกต่อก่อนที่จะไปตลาดสด นักวิทยาศาสตร์เหล่านี้เชื่อคุณภาพของแลปจีนเกินไปเหมือนๆกับที่ไม่เคยใช้ของจีน
ไวรัสที่พบในโรคโควิด19 มีความคล้ายกับไวรัสโคโรน่าในค้างคาวมงกุฎภูเขาที่มาจากมณฑลยูนนานในจีนที่ห่างจากเมืองหวูฮั่นไป 1,600 กม. โดยเหมือนกันมากกว่า 86% บรรณาธิการตั้งคำถามดังๆว่าไอ้ค้างคาวที่อยู่ห่างไปเป็นพันกิโล มันจะไปติดกับสัตว์พาหะอีกชนิดหนึ่ง แล้วไปติดกับคนแถวๆตลาดสดหวูฮั่นได้อย่างไร นอกจากนั้นในรายงานของแลนเซ็ตก็บันทึกว่าคนกว่า 14 คนใน 41 คนไม่มีความเกี่ยวข้องกับตลาดสดหวูฮั่นเลย
ด้วยเหตุผลตรงนี้นี่แหละที่ไม่ใช่เหตุผลแบบนักวิทยาศาสตร์ใสๆตัดต่อพันธุ์กรรม จึงชี้นิ้วไปที่สถาบันวิจัยไวรัสแห่งหวูฮั่นที่อยู่ห่างไปไม่กี่กิโลเมตร
สองปีก่อนมีนักการทหารสหรัฐฯไปสังเกตการณ์ที่สถาบันวิจัยไวรัสหวูฮั่น ได้ทำบันทึกเคเบิ้ลกลับมาที่รัฐบาลสหรัฐฯทันทีว่า มาตรฐานความปลอดภัยของสถาบันดังกล่าวไม่รัดกุมพอ สถาบันขาดแคลนทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพและเชี่ยวชาญ การบันทึกในโทรเลขเช่นนี้เมื่อสองปีก่อนจึงไม่ใช่การใส่ความกลั่นแกล้ง และแกเห็นแบบไหนก็แจ้งไปแบบนั้น โอกาสติดเชื้อถึงจะมีแค่ 1 ใน 1000 ในห้องแลปที่ปลอดภัยสูงสุด นั่นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้แพร่ไวรัสออกมาข้างนอกสถาบันได้
รายงานระบุว่าสถาบันวิจัยไวรัสดังกล่าว วิจัยแต่เรื่องไวรัสที่มาจากค้างคาวเป็นเรื่องหลัก วิธีการตัดแต่งพันธุกรรมไวรัส วิธีการที่ไวรัสจะติดในหนูหรือคนที่จะทำให้เป็นโรคปอดอักเสบ เป็นหัวข้อวิจัยสำคัญที่เตะตานักข่าวนักสืบสวนทั้งหมด รายงานสำคัญในเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นในปี 2015 จากสถาบันดังกล่าวร่วมกับนักวิจัยสวิสและสหรัฐฯ นักวิทยาศาสตร์ฝรั่งเศสแกก็ย้ำตั้งแต่เวลานั้นในทันทีว่า ถ้าไอ้ไวรัสนี้มันหลุดจากแลปมาเมื่อไหร่มีอันได้ยิ้มวายวอดกันแน่นอน เหมือนกับแกรู้
สิ่งที่บรรดานักวิทยาศาสตร์ยังไปไม่สุดกับการสรุปก็เพราะว่าตัวอย่างไวรัสที่ติดกันอยู่นี้ มันถูกวิเคราะห์ว่าไม่ได้เกิดขึ้นจากการตัดต่อยีนส์ แต่มาจากการกลายพันธุ์ทางธรรมชาติ
นั่นเป็นแนวข้อสรุปแบบนักวิทยาศาสตร์ใสๆ แต่สำหรับนักวิทยาศาสตร์เชิงสืบสวน แกตั้งคำถามต่อไปว่า ก็แล้วถ้าไวรัสที่กลายพันธุ์ทางธรรมชาติเหล่านั้นที่มันมีลายเซ็นต์ดีเอ็นเอแบบไม่ได้ตัดต่อทางธรรมชาติเหล่านั้นหลุดลอดออกมาทั้งแบบตั้งใจและไม่ตั้งใจล่ะ นี่คือสิ่งที่ไม่มีใครตอบได้
นอกจากนี้ยังมีแนวคิดอีกแบบว่า ไวรัสบนจานทดลองทั้งหมดที่ทางสถาบันไวรัสเขาเพาะไวรัสครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อศึกษาการติดของเอสโปรตีนไปยังขั้วรับACEในมนุษย์ หากมันกลายพันธุ์ทางธรรมชาติแต่เกิดขึ้นบนจานทดลอง อย่างนั้นจะนับว่ามาจากแล็บได้หรือไม่
สำหรับนักคิด นักการเมือง นักวิทยาศาสตร์ ที่ไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ในสาขาตัดต่อกรรมพันธุ์ยีนส์ เขาสามารถใช้สิ่งที่เขาเห็นเพิ่มเติมมาปะติดปะต่อได้ คือ การปิดกั้นการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของพรรคคอมมิวนิสต์จีน การลบข่าว การไม่ให้ความโปร่งใสในการสอบสวน การปกป้องพรรคคอมมิวนิสต์ ข่าวสารการซื้อสื่อ ซื้อนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก และกองทัพไซเบอร์อู่เหมาของจีนที่ออกมาดิ้นพล่านไปทั่ว
Live Science.com - ตีแผ่วิทยาศาสตร์เพื่อค้นหาต้นทางของไวรัส SARS-CoV-2
https://www.livescience.com/coronavirus-wuhan-lab-complicated-origins.html
แปลและเรียบเรียง
https://pantip.com/topic/39817788/comment33
นักข่าวทุกคนอยากรู้วิ่งไปทำข่าวว่า ไวรัสมันมาจากไหน .. สำนักข่าวไลฟ์ไซแอนซ์ โดย Jeanna Bryner ตีพิมพ์ส่ิงที่เขาค้นพบตามนี้
สมมุติฐานที่สรุปได้โดยวิธีคิดแบบนักข่าวมี3อย่าง
1. มาจากค้างคาว ไปติดเชื้อต่อที่สัตว์พาหะอีกตัวหนึ่งแล้วไปที่มนุษย์
2. มาจากการตัดแต่งยีนส์แล้วเกิดหลุดโดยไม่ตั้งใจไปกับมนุษย์
3. มาจากการศึกษาพฤติกรรมไวรัสที่เพาะเลี้ยงตามธรรมชาติในห้องแลปแต่มันหลุดลอดออกไป
คนจีนคิดแบบจีน มองแบบจีน คุณภาพแบบจีน จีนออกมาปฏิเสธว่าเป็นไปไม่ได้ ห้องทดลองของฉันมันมาตรฐานสูงสุด แต่นักข่าวก็คิดในใจว่า แล้วถ้ามันไปติดกับแมว ติดกับขยะ ติดกับคนที่เดินทางเข้าออกล่ะ ... อันนี้ใครๆก็เห็นแล้วว่ามันเป็นไปได้
แต่นักวิทยาศาสตร์ซื่อๆเขาพยายามคิดแบบใสๆว่า มันอาจจะติดจากค้างค้าวแล้วแพร่ระบาดในสัตว์พาหะ ต้องมีพาหะอีกตัวที่ทำให้เชื้อไวรัสมันกลายพันธุ์ แต่ไม่มีใครเดาออกว่าเป็นอะไร ไม่ว่าจะเป็นงูหรือตัวชมด แล้วไปติดคนอีกต่อก่อนที่จะไปตลาดสด นักวิทยาศาสตร์เหล่านี้เชื่อคุณภาพของแลปจีนเกินไปเหมือนๆกับที่ไม่เคยใช้ของจีน
ไวรัสที่พบในโรคโควิด19 มีความคล้ายกับไวรัสโคโรน่าในค้างคาวมงกุฎภูเขาที่มาจากมณฑลยูนนานในจีนที่ห่างจากเมืองหวูฮั่นไป 1,600 กม. โดยเหมือนกันมากกว่า 86% บรรณาธิการตั้งคำถามดังๆว่าไอ้ค้างคาวที่อยู่ห่างไปเป็นพันกิโล มันจะไปติดกับสัตว์พาหะอีกชนิดหนึ่ง แล้วไปติดกับคนแถวๆตลาดสดหวูฮั่นได้อย่างไร นอกจากนั้นในรายงานของแลนเซ็ตก็บันทึกว่าคนกว่า 14 คนใน 41 คนไม่มีความเกี่ยวข้องกับตลาดสดหวูฮั่นเลย
ด้วยเหตุผลตรงนี้นี่แหละที่ไม่ใช่เหตุผลแบบนักวิทยาศาสตร์ใสๆตัดต่อพันธุ์กรรม จึงชี้นิ้วไปที่สถาบันวิจัยไวรัสแห่งหวูฮั่นที่อยู่ห่างไปไม่กี่กิโลเมตร
สองปีก่อนมีนักการทหารสหรัฐฯไปสังเกตการณ์ที่สถาบันวิจัยไวรัสหวูฮั่น ได้ทำบันทึกเคเบิ้ลกลับมาที่รัฐบาลสหรัฐฯทันทีว่า มาตรฐานความปลอดภัยของสถาบันดังกล่าวไม่รัดกุมพอ สถาบันขาดแคลนทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพและเชี่ยวชาญ การบันทึกในโทรเลขเช่นนี้เมื่อสองปีก่อนจึงไม่ใช่การใส่ความกลั่นแกล้ง และแกเห็นแบบไหนก็แจ้งไปแบบนั้น โอกาสติดเชื้อถึงจะมีแค่ 1 ใน 1000 ในห้องแลปที่ปลอดภัยสูงสุด นั่นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้แพร่ไวรัสออกมาข้างนอกสถาบันได้
รายงานระบุว่าสถาบันวิจัยไวรัสดังกล่าว วิจัยแต่เรื่องไวรัสที่มาจากค้างคาวเป็นเรื่องหลัก วิธีการตัดแต่งพันธุกรรมไวรัส วิธีการที่ไวรัสจะติดในหนูหรือคนที่จะทำให้เป็นโรคปอดอักเสบ เป็นหัวข้อวิจัยสำคัญที่เตะตานักข่าวนักสืบสวนทั้งหมด รายงานสำคัญในเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นในปี 2015 จากสถาบันดังกล่าวร่วมกับนักวิจัยสวิสและสหรัฐฯ นักวิทยาศาสตร์ฝรั่งเศสแกก็ย้ำตั้งแต่เวลานั้นในทันทีว่า ถ้าไอ้ไวรัสนี้มันหลุดจากแลปมาเมื่อไหร่มีอันได้ยิ้มวายวอดกันแน่นอน เหมือนกับแกรู้
สิ่งที่บรรดานักวิทยาศาสตร์ยังไปไม่สุดกับการสรุปก็เพราะว่าตัวอย่างไวรัสที่ติดกันอยู่นี้ มันถูกวิเคราะห์ว่าไม่ได้เกิดขึ้นจากการตัดต่อยีนส์ แต่มาจากการกลายพันธุ์ทางธรรมชาติ
นั่นเป็นแนวข้อสรุปแบบนักวิทยาศาสตร์ใสๆ แต่สำหรับนักวิทยาศาสตร์เชิงสืบสวน แกตั้งคำถามต่อไปว่า ก็แล้วถ้าไวรัสที่กลายพันธุ์ทางธรรมชาติเหล่านั้นที่มันมีลายเซ็นต์ดีเอ็นเอแบบไม่ได้ตัดต่อทางธรรมชาติเหล่านั้นหลุดลอดออกมาทั้งแบบตั้งใจและไม่ตั้งใจล่ะ นี่คือสิ่งที่ไม่มีใครตอบได้
นอกจากนี้ยังมีแนวคิดอีกแบบว่า ไวรัสบนจานทดลองทั้งหมดที่ทางสถาบันไวรัสเขาเพาะไวรัสครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อศึกษาการติดของเอสโปรตีนไปยังขั้วรับACEในมนุษย์ หากมันกลายพันธุ์ทางธรรมชาติแต่เกิดขึ้นบนจานทดลอง อย่างนั้นจะนับว่ามาจากแล็บได้หรือไม่
สำหรับนักคิด นักการเมือง นักวิทยาศาสตร์ ที่ไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ในสาขาตัดต่อกรรมพันธุ์ยีนส์ เขาสามารถใช้สิ่งที่เขาเห็นเพิ่มเติมมาปะติดปะต่อได้ คือ การปิดกั้นการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของพรรคคอมมิวนิสต์จีน การลบข่าว การไม่ให้ความโปร่งใสในการสอบสวน การปกป้องพรรคคอมมิวนิสต์ ข่าวสารการซื้อสื่อ ซื้อนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก และกองทัพไซเบอร์อู่เหมาของจีนที่ออกมาดิ้นพล่านไปทั่ว