หวัดดีฮะทุกท่าน กลับมาพบกับริววี รีวิวที่จะมาเขย่ากระเป๋าสตางค์กันอีกแล้ว เนื่องจากตอนนี้ HUAWEI บ้านเราได้เปิด Pre-order สมาร์ตโฟนเรือธงซีรีส์ล่าสุดกันเป็นที่เรียบร้อย ทั้ง HUAWEI P40 และ P40 Pro พร้อมกับโปรฯ โดนๆ ในฐานะที่เราได้ HUAWEI P40 Pro มาลูบๆ คลำๆ สัมผัสหลับนอนกันแบบ 24 ชั่วโมง ก็ขอทำหน้าที่ป้ายยาต่อ ซึ่งบอกได้คำเดียวว่ามันเป็นเรือธงที่สุดแห่งความครบเครื่อง
ก่อนจะป้ายยา มั่นใจว่าต้องมีคำถามจากทางบ้านถึงความแตกต่างของสองพี่น้อง HUAWEI P40 และ P40 Pro ก็เลยขอทำข้อมูลเทียบมาให้ดูกันฮะ หลักๆ ก็เป็นเรื่องดีไซน์ ขนาด ความละเอียดหน้าจอ รีเฟรชเรต กล้องและแบตเตอรี่ ส่วนไส้ในเป็นชิปเช็ตเรือธง Kirin 990 5G เหมือนกันทั้งสองรุ่น รักชอบแบบไหนจัดได้ตามที่ต้องการ
Design
ขอเริ่มกันที่สีตัวเครื่อง ทั้ง HUAWEI P40 และ P40 Pro มีสีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ Silver Frost, Blush Gold และสี Deep Blue Sea ตัวที่รีวิว ซึ่งทั้งสามสีเค้าบอกว่าได้แรงบันดาลใจมาจากผลึกของน้ำแข็ง มองๆ ไปแล้วเออ มันดูมีความคูลในหัวใจ O_o
อุปกรณ์ในกล่อง นอกจากตัวเครื่องก็จะมี หูฟัง USB-C, สาย USB-C, หัวปลั๊ก SuperCharge จ่ายไฟสูงสุด 40W, เข็มจิ้มซิม และเคส TPU ใส 1 ชิ้น บวกคะแนนให้เพิ่มเพราะไม่ต้องไปหาซื้อเคสแยก
เปิดเครื่อง ต้องบอกว่าสีของหน้าจอสด สวยดีมาก เนียนละเอียดตา โดยหน้าจอ HUAWEI P40 Pro เป็นแบบ Flex OLED 6.58 นิ้วแบบไร้ขอบ ความละเอียด 16.7 ล้านสี 441 DPI ระดับ 2K อัตราส่วน 19.8:9
จุดสังเกตหนึ่งที่ทำให้พี่น้อง P40 และ P40 Pro ต่างกันก็คือ ขอบมุม โดย HUAWEI P40 Pro จะออกแบบขอบให้จอมีความโค้งมนลงทั้งสี่ด้าน การจับถือกระชับพอดีกับมือ ถึงรูปทรงจะเป็นแนวยาวแต่ใช้งานมือเดียวก็ไม่มีปัญหา ไม่ลื่น มุมซ้ายบนเป็นตำแหน่งกล้องหน้าคู่ 32MP ไว้ถ่ายเซลฟี่และปลดล็อกหน้าจอด้วยการสแกนใบหน้า
เซนเซอร์สแกนนิ้วเป็นแบบ In-Depth Screen ฝังอยู่ในจอ อยู่ในตำแหน่งที่ใช้มือข้างเดียวถือแล้วสแกนด้วยได้พอดี เซนเซอร์สแกนนิ้วทำงานไวมาก
ฝาหลังวัสดุเป็นกระจก มีความเงางามเป็นสีเดียวทั้งตัวเครื่อง แต่ไล่เฉดสีเมื่อต้องแสง ให้ความรู้สึกน้อยแต่มากที่แท้จริง ฮ่า ด้านบนเป็นตำแหน่งศูนย์รวมทวยเทพ Leica 4 ตัว ซึ่งมีความนูนจากตัวเครื่องเล็กน้อย
ด้านขวาเป็นปุ่มปรับเสียง และปุ่ม Power
ด้านบนเป็นตำแหน่งไมโครโฟน ขอบมุมโค้งคล้ายกับรูปทรงของสายน้ำไหล
ด้านล่างเป็น USB-C , ลำโพงใต้หน้าจอ และถาดใส่ซิมการ์ด รองรับการใช้งาน eSIM และเทคโนโลยี 5G
Specifications
• 72.6 x 158.2 x 8.95 มม.
• หน้าจอ Flex OLED ขนาด 6.58 นิ้ว
• ความละเอียด 2640 x 1200 พิกเซล (อัตราส่วน 19.8:9)
• Refresh Rate 90 hz
• สแกนนิ้วใต้หน้าจอ
• กล้องหน้าคู่ 32 MP Selfie Camera (f/2.2 aperture) + Depth Camera
• บันทึกวิดีโอ 4K (3840 x 2160 pixels) 60fps
• กล้องหลัง Quad Lens
- 50 MP Ultra Vision Camera (Wide Angle, f/1.9 aperture, OIS)
- 40 MP Cine Camera (Ultra-Wide Angle, f/1.8 aperture)
- 12 MP SuperSensing Telephoto Camera (f/3.4 aperture, OIS)
- 3D Depth Sensing Camera
• ซูม Optical 5x
• ระบบกันสั่น OIS + AIS
• HUAWEI Kirin 990 5G Octa-core
• GPU Mali-G76
• 8 GB RAM + 256 GB ROM
• รองรับ Nano Memory Card
•EMUI 10.1 บนพื้นฐาน Android 10
• รองรับ Wi-Fi 6+ Ready
• Battery 4200 mAh
• HUAWEI SuperCharge (Max 40 W)
• Wireless HUAWEI SuperCharge (Max 27 W)
• IP68 ลึกสุด 1.5 เมตร นานสูงสุด 30 นาที เฉพาะน้ำเปล่า
[BR] รีวิว HUAWEI P40 Pro การมาของเรือธง ที่สุดแห่งความครบเครื่อง
ก่อนจะป้ายยา มั่นใจว่าต้องมีคำถามจากทางบ้านถึงความแตกต่างของสองพี่น้อง HUAWEI P40 และ P40 Pro ก็เลยขอทำข้อมูลเทียบมาให้ดูกันฮะ หลักๆ ก็เป็นเรื่องดีไซน์ ขนาด ความละเอียดหน้าจอ รีเฟรชเรต กล้องและแบตเตอรี่ ส่วนไส้ในเป็นชิปเช็ตเรือธง Kirin 990 5G เหมือนกันทั้งสองรุ่น รักชอบแบบไหนจัดได้ตามที่ต้องการ
Design
ขอเริ่มกันที่สีตัวเครื่อง ทั้ง HUAWEI P40 และ P40 Pro มีสีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ Silver Frost, Blush Gold และสี Deep Blue Sea ตัวที่รีวิว ซึ่งทั้งสามสีเค้าบอกว่าได้แรงบันดาลใจมาจากผลึกของน้ำแข็ง มองๆ ไปแล้วเออ มันดูมีความคูลในหัวใจ O_o
อุปกรณ์ในกล่อง นอกจากตัวเครื่องก็จะมี หูฟัง USB-C, สาย USB-C, หัวปลั๊ก SuperCharge จ่ายไฟสูงสุด 40W, เข็มจิ้มซิม และเคส TPU ใส 1 ชิ้น บวกคะแนนให้เพิ่มเพราะไม่ต้องไปหาซื้อเคสแยก
เปิดเครื่อง ต้องบอกว่าสีของหน้าจอสด สวยดีมาก เนียนละเอียดตา โดยหน้าจอ HUAWEI P40 Pro เป็นแบบ Flex OLED 6.58 นิ้วแบบไร้ขอบ ความละเอียด 16.7 ล้านสี 441 DPI ระดับ 2K อัตราส่วน 19.8:9
จุดสังเกตหนึ่งที่ทำให้พี่น้อง P40 และ P40 Pro ต่างกันก็คือ ขอบมุม โดย HUAWEI P40 Pro จะออกแบบขอบให้จอมีความโค้งมนลงทั้งสี่ด้าน การจับถือกระชับพอดีกับมือ ถึงรูปทรงจะเป็นแนวยาวแต่ใช้งานมือเดียวก็ไม่มีปัญหา ไม่ลื่น มุมซ้ายบนเป็นตำแหน่งกล้องหน้าคู่ 32MP ไว้ถ่ายเซลฟี่และปลดล็อกหน้าจอด้วยการสแกนใบหน้า
เซนเซอร์สแกนนิ้วเป็นแบบ In-Depth Screen ฝังอยู่ในจอ อยู่ในตำแหน่งที่ใช้มือข้างเดียวถือแล้วสแกนด้วยได้พอดี เซนเซอร์สแกนนิ้วทำงานไวมาก
ฝาหลังวัสดุเป็นกระจก มีความเงางามเป็นสีเดียวทั้งตัวเครื่อง แต่ไล่เฉดสีเมื่อต้องแสง ให้ความรู้สึกน้อยแต่มากที่แท้จริง ฮ่า ด้านบนเป็นตำแหน่งศูนย์รวมทวยเทพ Leica 4 ตัว ซึ่งมีความนูนจากตัวเครื่องเล็กน้อย
ด้านขวาเป็นปุ่มปรับเสียง และปุ่ม Power
ด้านบนเป็นตำแหน่งไมโครโฟน ขอบมุมโค้งคล้ายกับรูปทรงของสายน้ำไหล
ด้านล่างเป็น USB-C , ลำโพงใต้หน้าจอ และถาดใส่ซิมการ์ด รองรับการใช้งาน eSIM และเทคโนโลยี 5G
Specifications
• 72.6 x 158.2 x 8.95 มม.
• หน้าจอ Flex OLED ขนาด 6.58 นิ้ว
• ความละเอียด 2640 x 1200 พิกเซล (อัตราส่วน 19.8:9)
• Refresh Rate 90 hz
• สแกนนิ้วใต้หน้าจอ
• กล้องหน้าคู่ 32 MP Selfie Camera (f/2.2 aperture) + Depth Camera
• บันทึกวิดีโอ 4K (3840 x 2160 pixels) 60fps
• กล้องหลัง Quad Lens
- 50 MP Ultra Vision Camera (Wide Angle, f/1.9 aperture, OIS)
- 40 MP Cine Camera (Ultra-Wide Angle, f/1.8 aperture)
- 12 MP SuperSensing Telephoto Camera (f/3.4 aperture, OIS)
- 3D Depth Sensing Camera
• ซูม Optical 5x
• ระบบกันสั่น OIS + AIS
• HUAWEI Kirin 990 5G Octa-core
• GPU Mali-G76
• 8 GB RAM + 256 GB ROM
• รองรับ Nano Memory Card
•EMUI 10.1 บนพื้นฐาน Android 10
• รองรับ Wi-Fi 6+ Ready
• Battery 4200 mAh
• HUAWEI SuperCharge (Max 40 W)
• Wireless HUAWEI SuperCharge (Max 27 W)
• IP68 ลึกสุด 1.5 เมตร นานสูงสุด 30 นาที เฉพาะน้ำเปล่า
BR - Business Review : กระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิวจากผู้สนับสนุน